แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 23 ผู้หญิงของฉัน ใครกล้าแตะต้อง ?

สกุลมู่ ? สองอันธพาลตัวน้อยต้องเคยได้ยินชื่อเสียงเกี่ยวกับสกุลมู่เป็นแน่ ไม่ว่าพวกเขาจะโง่งมแค่ไหนก็ตามที !

 

ในนครเซี่ยงไฮ้แห่งนี้ มีใครบ้างไม่รู้จักสกุลมู่ ? สกุลมู่ผู้ควบคุมทั้งการเมือง และเศรษฐกิจของเมืองแห่งนี้อยู่ในกำมือ !

 

แล้วผู้หญิงสวยที่อยู่ตรงหน้าพวกนาย ก็คือคุณหนูใหญ่ของตระกูลเซี่ยที่กำลังจะแต่งงานกับมู่เฉินฮ่าวบุตรชายคนโตของตระกูลมู่ด้วย

 

ทั้งสองเริ่มหันสบตากันอย่างหวาดกลัว พวกเขาหันไปมองเฉินเหวินกัง อย่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ? เพราะไม่ว่าใครก็ไม่กล้าทำให้ตระกูลมู่ขัดเคืองหรอก !

 

เฉินเหวินกังจุดบุหรี่ เอ่ยออกมาอย่างสงบ

 

“เซี่ยฉิงกง คุณหนูใหญ่ตระกูลเซี่ย ฉันเองก็ได้ยินมาว่า เธอกำลังจะโชคดีอีกไม่ช้าก็จะได้เป็นสะใภ้ตระกูลมู่ แต่หากมีข่าวใหญ่ขึ้นมาว่า… ก่อนที่คุณหนูใหญ่ของตระกูลเซี่ยจะแต่งงานเข้าบ้านสกุลมู่ เธอคบชู้กับชายอื่นล่ะ ถึงเวลานั้น ฉันก็ไม่รู้ว่าตระกูลมู่จะยังคงต้องการเธอเป็นลูกสะใภ้หรือเปล่านะ …?”

 

หลังจากที่ทั้งสองเข้าใจคำพูดของเฉินเหวินกัง ชายร่างผอมก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า

 

“บะ บะ บอสกัง ละ ละ แล้วที่ คะ คะคุณสัญญาว่าจะให้เรา 100,000 หยวน คะ คะ คุณช่วยเพิ่ม หะ หะ ให้อีกหน่อยได้ไหม ? หละ หละ หลังจากจบเรื่อง ระ ระ เราสองคนพี่น้อง คะ คะ คงไม่กล้าอยู่ในเมืองนี้แล้ว…”

 

“เอาล่ะ ฉันจะเพิ่มเงินให้อีก 50,000 หยวน มากกว่านี้ไม่ได้ ช่วงนี้การเงินฉันเองก็ไม่คล่อง !”

 

บริษัทกำลังจะล้มละลาย จะไม่ให้ฉันเงินขาดมือได้ยังไง ?

 

ชายอ้วน-ผอมมีกำลังใจขึ้นทันที เมื่อคิดถึงเงินก้อนใหญ่ พวกเขาเดินเข้าไปหาเซี่ยฉิงกง เซี่ยฉิงกงหลับตาลง และเริ่มคิดถึงแผนการใหม่ที่จะตอบโต้พวกเขา

 

คิดสิ !

 

คิดสิ !

 

จะปล่อยให้ไอ้จิ๊กโก๋สองคนนี้ทำลายฉันจนย่อยยับไม่ได้ !

 

มือของชายอ้วนค่อย ๆ ยื่นไปสัมผัสใบหน้าที่เรียบเนียนของเซี่ยฉิงกง

 

 

ขณะที่มือของชายอ้วนกำลังไล่ต่ำลงไปเรื่อย ๆ ประตูโกดังก็เปิดออกอีกครั้ง

 

ไม่ ไม่ใช่เปิดธรรมดา ๆ คราวนี้โดนถีบอย่างแรงมากกว่า !

 

เซี่ยฉิงกงหันหน้าไปมองก็เห็นว่าเป็น..มู่เฉินฮ่าว

 

ในที่สุด มู่เฉินฮ่าวก็มาจนได้ เซี่ยฉิงกงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แม้ว่า มู่เฉินฮ่าวจะไม่ใช่คนดีเด่อะไรนักในสายตาของเธอ แต่ก็ยังดีกว่าไอ้แก่เฉินเหวินกังมากนัก !

 

ทันทีที่เฉินเหวินกังเห็นมู่เฉินฮ่าว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป

 

มู่เฉินฮ่าวไม่ได้รีบก้าวเข้าประตูมา ยังคงยืนกอดอกพิงกรอบประตูอย่างสุดเท่ห์

 

“ผู้หญิงของฉัน ใครกล้าแตะต้อง ?”

 

เฉินเหวินกังมือสั่น เขาดีดบุหรี่ในมือทิ้ง จากนั้นก็ดึงมีดปอกผลไม้ออกจากเอวแล้วก้าวไปยืนข้างกายเซี่ยฉิงกงอย่างรวดเร็ว เขาใช้มีดปอกผลไม้จี้คอของเธอไว้

 

“ก็ผู้หญิงของคุณมาทำให้ครอบครัวผมพัง ผมก็แค่อยากให้เธอชดใช้ให้สาสมกันก็เท่านั้น”

 

“เฉินเหวินกังคุณเพิ่งสูญเสียภรรยา และลูก รวมถึงบริษัทของคุณด้วย มาตอนนี้คุณยังอยากจะเข้าไปใช้ชีวิตที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งนั่งจิบน้ำชาในคุกงั้นหรือ ?”

 

มู่เฉินฮ่าวยังคงก้มศีรษะลง หมุนแหวนหัวมังกรบนนิ้วชี้ของเขาเล่นอย่างใจเย็น

 

เฉินเหวินกังยิ้ม “ตอนนี้เซี่ยฉิงกงอยู่ในมือผมแล้ว คุณมีคุณสมบัติอะไรที่จะมาเจรจากับผม หรือคุณคิดว่าคุณจะลงมือได้ไวกว่ามีดของผม ?”

 

“งั้นก็ลองดูว่ามีดของนายหรือฉันที่เร็วกว่ากัน ?”

 

ทันทีที่สิ้นเสียงของมู่เฉินฮ่าว ลูกบอลเหล็กขนาดเล็กมากก็ถูกยิงออกมาจากแหวนหัวมังกรบนนิ้วชี้ของเขา มันพุ่งตรงเข้าหาเป้าหมายนั่นก็คือมือข้างที่ถือมีดไว้ของเฉินเหวินกัง

 

เฉินเหวินกังรู้สึกเจ็บแปลบที่ข้อมือ พลันมีดที่เขาถืออยู่ในมือก็ร่วงตกลงบนพื้นทันที

 

มู่เฉินฮ่าวเห็นว่าได้โอกาสเหมาะแล้ว เขาพุ่งไปข้างหน้า จากนั้นก็เตะท้องอันใหญ่โตของเฉินเหวินกัง

 

เฉินเหวินกังล้มลงกระแทกเข้ากับพื้นคอนกรีตเสียงดังสนั่น ซึ่งย่อมแสดงให้เห็นว่าลูกเตะของมู่เฉินฮ่าวนั้นหนักหน่วงแค่ไหน ?

 

หลังจากถูกเตะ เฉินเหวินกังก็ไม่ลุกขึ้นอีกเลย เขานอนอยู่บนพื้นร้องครวญครางไม่หยุด

 

***จบตอน ผู้หญิงของฉัน ใครกล้าแตะต้อง ?***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset