แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 30 อย่าดื้ออีกนะ

เซี่ยฉิงกงสงบใจลง เธอรู้สึกตัวว่าเธอกลายเป็นคนไร้เหตุผลทุกคราที่พบกับมู่เฉินฮ่าว

 

เมื่อนึกได้เช่นนี้แล้ว เธอก็ต้องกัดฟันทน เธอหันกลับไปมองมู่เฉินฮ่าวที่ดูเหมือนต้องการจะเอาชนะเธออยู่ตลอดเวลา ยามนี้เธอกำลังคิดหาข้ออ้างที่จะถอดเสื้อชั้นนอกของมู่เฉินฮ่าวเอามาพันรอบเอวของเธอ

 

ตอนนี้การสวมใส่แค่เสื้อตัวเดียวแบบนี้ไม่สะดวกนัก แต่ชุดที่เธอสวมมาในตอนเช้าก็ถูกกรรไกรตัดจนขาดหมดแล้ว ไม่มีทางที่จะกลับไปสวมชุดนั้นได้อีก

 

ในขณะที่กำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอไม่คาดคิดว่า จู่ ๆ มู่เฉินฮ่าวจะถอดเสื้อนอกของเขาออก จากนั้นก็นั่งยอง ๆ ผูกเสื้อไว้รอบเอวของเซี่ยฉิงกงพร้อมกับพูดว่า

 

“ไปกันเถอะ อย่าดื้ออีกนะ วันนี้คุณทำให้ผมเสียงานเสียการทั้งวันแล้ว ผมจะพาคุณไปที่ ๆ หนึ่ง”

 

“ฉันอยากกลับบ้าน ฉันจะไม่ไป” ฉิงกงพูดเสียงแข็ง

 

มู่เฉินฮ่าวโอบเอวของเธอไว้หลวม ๆ พลางเอ่ยปากกระซิบข้างหูของเธอ

 

“คุณไม่สงสัยหรอกหรือว่า ทำไมเฉินเหวินกังถึงสามารถหาตำแหน่งของคุณได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังสามารถลักพาตัวคุณได้โดยใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ?”

 

เซี่ยฉิงกงตกตะลึงไปชั่วขณะ สมองของเธอเหมือนโดนช็อต ลมหายใจของชายหนุ่มที่พ่นเบา ๆ ใส่หูของเธอ ทำให้เธอรู้สึกจั๊กจี้

 

ชายหนุ่มพูดต่อว่า “และทำไมเขาถึงกล้าโต้ตอบคุณด้วยวิธีที่ไร้ยางอายเช่นนี้ ?”

 

สองประโยคนี้ทำให้เซี่ยฉิงกงล้มเลิกความคิดที่จะกลับตระกูลเซี่ย เธอเลือกที่จะตามมู่เฉินฮ่าวแทน

 

เพราะสิ่งที่มู่เฉินฮ่าวพูดเมื่อครู่นั้นน่าสนใจเสียเหลือเกิน หลังจากที่มู่เฉินฮ่าวกล่าวจบ เซี่ยฉิงกงก็เริ่มสงสัยขึ้นมาตะหงิด ๆ เช่นกัน

 

เฉินเหวินกังรู้ได้อย่างไรว่าเธอกำลังจะไปบ้านสกุลมู่ ?

 

เขารู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่ไหนเวลานั้น ?

 

นั่นมันบนทางด่วน หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น รถจะต้องวิ่งเรื่อย ๆ ไม่หยุดไปตลอดทาง แสดงว่าตั้งแต่เซี่ยฉิงกงออกจากประตูบ้านตระกูลเซี่ย เขาก็คอยติดตาม และหาโอกาสลงมือตลอดเวลา

 

เซี่ยฉิงกงปล่อยให้มู่เฉินฮ่าวอุ้มไปขึ้นรถอีกครั้ง

 

มู่เฉินฮ่าวพบว่า ดูเหมือนเขาจะชอบความรู้สึกที่ได้อุ้มเธอ โดยเฉพาะร่างเล็ก ๆ ของเธอนั้นเบาจนเขาอุ้มได้สบาย ๆ

 

หลังจากโยนเธอเข้าไปในรถแล้ว มู่เฉินฮ่าวก็ตามเข้าไปนั่งในรถ อาเจิ้งสตาร์ทรถ และขับออกจากโรงพยาบาลอย่างช้า ๆ

 

ซิงเหวินจิ้งยังไม่ออกจากโรงพยาบาล เธอยังคงงงงวยกับสิ่งที่เธอเห็นกับตาเมื่อครู่  ซิงเหวินจิ้งไม่เข้าใจเลยว่า แท้จริงแล้วลูกชายของเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ?

 

เซี่ยฉิงกง และมู่เฉินฮ่าวนั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถ เซี่ยฉิงกงยังโกรธนิด ๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการคุยกับมู่เฉินฮ่าว หากแต่เธอก็อดใจไม่ถามไม่ได้อีกต่อไป

 

“เฉินเหวินกังรู้ได้อย่างไรว่าฉันกำลังทำอะไร ? อยู่ที่ไหน ? นอกจากจะมีผีพรายในตระกูลเซี่ยคอยส่งข่าว ฉันคิดว่าต้องมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับแม่เลี้ยงของฉัน”

 

เซี่ยฉิงกงเริ่มคิดหาเหตุผลอย่างจริงจังผนวกกับการคาดเดาเล็กน้อย

 

“ใช่ ผมเองก็คิดว่า เรื่องทั้งหมดต้องเกี่ยวข้องกับเธอ”

 

มู่เฉินฮ่าวพยักหน้าความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของเซี่ยฉิงกงนั้นสมเหตุสมผลดีมาก ทำให้มู่เฉินฮ่าวชื่นชมเธอขึ้นมาเล็กน้อย

 

ความแข็งแกร่งของเครือข่ายข่าวกรองของสกุลมู่นั้นเหนือจินตนาการของคนทั่วไป ภายใน 5 นาทีหลังจากฉิงกงถูกลักพาตัว เครือข่ายข่าวกรองของสกุลมู่ก็พบตำแหน่งที่แน่นอนของโกดังใต้ดินเฉินเหวินกัง

 

สามชั่วโมงหลังจากที่เขาเข้าไปช่วยเซี่ยฉิงกงออกจากโกดังใต้ดินเก่า เครือข่ายข่าวกรองของตระกูลมู่ก็ได้รายงานความจริงทั้งหมดกับมู่เฉินฮ่าว

 

ถ้าจะพูดให้ถูกต้องก็คือ เครือข่ายข่าวกรองนี้ไม่ได้เป็นของตระกูลมู่ หากแต่เป็นของมู่เฉินฮ่าวเอง พวกเขารับฟังก็เฉพาะคำสั่งของมู่เฉินฮ่าวเท่านั้น

 

“อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ตอนที่คุณมาช่วยฉัน มีบางอย่างถูกยิงออกมาจากแหวนบนนิ้วของคุณ”

 

ครั้นเห็นท่าทางพึงพอใจของมู่เฉินฮ่าว เซี่ยฉิงกงกลับไม่สนใจเขา หากแต่กลับมองไปที่นิ้วของเขาแทน

 

แหวนหัวมังกรยังอยู่บนนิ้วของเขา..

 

***จบตอน อย่าดื้ออีกนะ***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset