แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 42 ความปรารถนาที่รุ่มร้อน

“ก็ได้ คุณหันกลับไปก่อน ฉันจะถอดเอง แต่คุณห้ามแอบมองนะ”

 

เซี่ยฉิงกงกัดฟันพูด พยายามประนีประนอม

 

ก็แค่ทายา เธอก็เพียงยื่นแขนออกมาจากผ้านวม และมู่เฉินฮ่าวก็ทายาให้เท่านั้น

 

“ไม่”

 

มู่เฉินฮ่าวปฏิเสธอย่างเด็ดขาด

 

เซี่ยฉิงกงโกรธใบหน้าเล็ก ๆ ที่สวยงามแดงก่ำด้วยความโกรธ หากแต่ส่วนหนึ่งก็มาจากความเขินอาย

 

“มู่เฉินฮ่าว..ทำไมคุณถึงไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ก็เขียนไว้อย่างชัดเจนในข้อตกลงหลังการแต่งงานของเราแล้วไม่ใช่เหรอว่า คุณไม่สามารถบังคับฉันได้ !”

 

“สัญญาหลังการสมรส คุณแค่บอกว่าไม่สามารถบังคับให้คุณมีความสัมพันธ์ด้วยไม่ใช่เหรอ ? ไม่ได้บอกว่าห้ามไม่ให้ผมมองคุณด้วยสักหน่อย ?”

 

“คุณนี่มัน..” ดูเหมือนเซี่ยฉิงกงจะสำลัก

 

หลังจากดิ้นรนอยู่พักหนึ่ง เธอก็กัดฟันซุกตัวลงใต้ผ้านวม  และเริ่มถอดเสื้อผ้าของเธอใต้ผ้านวม

 

มู่เฉินฮ่าวนั่งลงจ้องมองเซี่ยฉิงกงอย่างสนอกสนใจด้วยสายตาที่เย็นชาและแหลมคมของเขา เซี่ยฉิงกงรู้สึกอึดอัด เขินอายจนหูของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดง

 

หลังจากนั้นไม่นาน เซี่ยฉิงกงก็โผล่ศีรษะเล็ก ๆ ออกมาจากผ้านวม เธอยื่นแขนที่มีบาดแผลซึ่งพันผ้าก๊อซไว้ออกมาจากผ้านวม

 

“นี่ จะทายาก็ทาสิ”

 

ทำไมเธอต้องมาโดนข่มเหงแบบนี้ ? ทำไมเธอต้องมาเจอกับไอ้ปีศาจร้ายจอมลามกคนนี้ด้วย ?

 

มู่เฉินฮ่าวมองท่าทางที่แลดูจะเจ็บปวดเล็ก ๆ ของเซี่ยฉิงกง มุมปากของเขาพลันยกโค้งโดยไม่รู้ตัว เขาเดินเข้าไปห้องน้ำ รองน้ำใส่ภาชนะ แล้วหยิบผ้าขนหนูออกมาช่วยเซี่ยฉิงกงทำความสะอาดบาดแผลก่อน จากนั้นจึงทายาให้

 

ทันทีที่ทายาชนิดใหม่นี้ เซี่ยฉิงกงก็รู้สึกเจ็บปวดมาก หากแต่เธอก็พยายามกัดฟันทนทั้งน้ำตา ขณะที่มู่ฉินฮ่าวดูจะมีความสุขเล็กน้อย ทว่าเขาก็ยังไม่ปล่อยเธอไปง่าย ๆ

 

“ก็สมควรแล้วนี่ ตอนนี้คุณคงเข้าใจแล้วสินะว่าเจ็บขนาดนี้ นั่นก็เป็นเพราะคุณเองที่ไม่ใส่ใจสิ่งที่หมอซูบอกใช่ไหมล่ะ ?”

 

ยังคงมีหยาดน้ำตาเอ่อล้นในดวงตาเซี่ยฉิงกง เธอมองมู่เฉินฮ่าวด้วยสายตาว่างเปล่า

 

“คุณนี่ช่างเย็นชาจริง ๆ ฉันคิดว่าคุณตั้งใจทำให้ฉันเจ็บมากกว่า ! เอายาแก้ปวดมาให้ฉันด้วย ฉันเจ็บมากเลย”

 

“ยังไม่รู้ตัวอีกหรือ ทำตัวเองทั้งนั้น ถ้าคุณไม่ทำให้แผลเปียกน้ำก็ไม่ต้องทายานี่”

 

แม้ว่ายาใหม่ที่มู่เฉินฮ่าวมอบให้เซี่ยฉิงกงจะสร้างความเจ็บปวดมากในตอนแรก หากแต่ความรู้สึกเย็น ๆ ก็ค่อย ๆ แพร่กระจายออกมา และความรู้สึกเจ็บปวดก็หายไปอย่างช้า ๆ

 

เซี่ยฉิงกงยังคงห่อตัวอยู่ในผ้านวม ส่วนมู่เฉินฮ่าวก็ผละไปนั่งบนโซฟา เขาหันไปจดจ่อกับโน้ตบุ๊คจัดการกิจการของบริษัท

 

“นี่.. มู่เฉินฮ่าว ท่าทางคุณแลดูมีความเชี่ยวชาญในการทายา คุณเคยทายาให้คนอื่นมาก่อนหรือเปล่า ?”

 

เซี่ยฉิงกงมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของมู่เฉินฮ่าว ภายใต้แสงไฟนวลนั้น มู่เฉินฮ่าวแลดูจริงจัง อีกทั้งหล่อเหลามาก

 

“ก็บ่อยอยู่นะ แต่ไม่ใช่ทาให้คนอื่น แต่เป็นตัวผมเอง”

 

มู่เฉินฮ่าวไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอโน้ตบุ๊คเลย

 

“ทำไมคุณถึงได้รับบาดเจ็บบ่อย ๆ ล่ะ คุณเป็นลูกชายคนโตของตระกูลมู่ไม่ใช่เหรอ ? คุณควรได้แต่งตัวดี ๆ อยู่อย่างสบาย ๆ มาตั้งแต่เด็กนี่นา คุณจะบาดเจ็บบ่อย ๆ ได้อย่างไร ?”

 

มู่เฉินฮ่าวไม่ตอบ ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองเซี่ยฉิงกงด้วยซ้ำ นิ้วเรียวยาวของเขาเอาแต่เคาะแป้นพิมพ์บนโน้ตบุ๊คด้วยสีหน้าจริงจัง

 

เซี่ยฉิงกงคิดเพียงว่ามู่เฉินฮ่าวคงจะงานยุ่ง เธอจึงไม่ได้ซักถามอะไรเขาอีก เธอหยิบการ์ตูนตลกที่อยู่ข้างเตียงขึ้นมาอ่านต่อ เพียงไม่นานก็ง่วงแล้วเธอก็ผล็อยหลับไป

 

หลังจากที่มู่เฉินฮ่าวจัดการเรื่องของบริษัทเสร็จแล้ว เขาก็เงยหน้าขึ้นมอง จึงพบว่าเซี่ยฉิงกงหลับไปแล้ว

 

เธอนอนอยู่บนเตียงด้านหนึ่ง มือของเธอที่เคยกำผ้านวมแน่นยามนี้คลายออกแล้ว เผยร่างของเธอให้เห็นรำไรภายใต้ผ้านวม

 

มู่เฉินฮ่าวมองใบหน้าที่สวยงาม หากแต่นอนเซาเหมือนแมว แล้วกวาดตามองไปถึงเรือนร่างที่ละเอียดอ่อนงดงามนั้นด้วยแล้ว เขาก็รู้สึกร้อนเร่าขึ้นมาโดยไม่คาดคิด …

 

***จบตอน ความปรารถนาที่รุ่มร้อน***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset