แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 88 แตงที่กระด้างนั้นไม่หวาน

ในเวลานี้ มู่จื่อหมิง และฉีป๋อหยวนกำลังเล่นหมากล้อมอยู่ในห้องหนังสือ พวกเขากำลังแข่งกันกินหมากอย่างเมามันส์ และต่างก็สนใจแต่กระดานตรงหน้าพวกเขาเท่านั้น กระทั่งคนรับใช้เข้ามารายงานว่า

 

“นายท่าน มีคนมารอพบอยู่ที่ห้องรับแขก เธอบอกว่า เธอคือ คุณหนูเซี่ยฉิงกง”

 

มือของมู่จื่อหมิงที่กำลังถือตัวหมากสั่น เขาอึ้งไปเล็กน้อย ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงได้มาที่นี่ ?

 

ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา มู่จื่อหมิงพยายามติดตามสืบหาจนพบว่าลูกสาวคนโตของตระกูลเซี่ยอยู่ที่ไหน ? นอกจากนี้เขายังแอบเห็นเซี่ยฉิงกงทำงานในร้านกาแฟตอนค่ำ ทว่าตระกูลเซี่ยกลับไม่เคยทำเช่นนั้นเลย ดังนั้นเวลานี้ มู่จื่อหมิงจึงอาศัยประโยชน์จากวิกฤติธุรกิจของตระกูลเซี่ย บังคับให้ตระกูลเซี่ยตามหาตัวเธอเหมือนไฟรนก้น

 

มู่จื่อหมิงไม่ต้องการเห็นลูกสาวของคนที่เขารัก และห่วงใยมากที่สุดต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก

 

“อืม เราไปกันเถอะ”

 

มู่จื่อหมิงพยักหน้า จากนั้นก็หันไปมองฉีป๋อหยวนพลางกล่าวขอโทษ

 

“ป๋อหยวน ฉันขอโทษที่เล่นเกมนี้ไม่จบ ลูกสะใภ้ของฉันมาที่นี่”

 

ฉีป๋อหยวนเป็นคนที่รู้จักยืดหยุ่น เขามีบุคลิกคล้ายกับมู่จื่อหมิง หากแต่เมื่อเห็นว่าลูกสาวตนเองชอบมู่เฉินฮ่าวมาก เขาจึงพูดออกไปสองสามคำในงานเลี้ยงตอนเย็น

 

และเขาก็เป็นคนที่ใจกว้างมากด้วย เขารู้ว่าแตงที่กระด้างนั้นไม่หวาน (การเสพสมโดยที่อีกฝ่ายนอนแข็งทื่อย่อมไม่สนุก) ดังนั้นเรื่องทางอารมณ์ย่อมไม่สามารถบังคับกันได้

 

ที่ผ่านมามู่เฉินฮ่าวไม่เคยใส่ใจแยแสลูกสาวของเขาเลย หากแต่ลูกสาวของเขาก็ยังรักมู่เฉินฮ่าวไม่เลิก ฉีป๋อหยวนจึงทำได้เพียงถอนหายใจด้วยความเศร้าที่ลูกสาวของเขาไม่อาจสมหวังในรัก หากแต่เรื่องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเขา และมู่จื่อหมิงที่ผูกพันกันในฐานะเพื่อนเก่ามานานหลายปี

 

“ไม่เป็นไร ฉันจะไปกับนายด้วย ฉันกลัวว่าภรรยาของฉันจะไม่สบายใจไปด้วยอีกคน เธอยิ่งอยากได้ลูกชายของนายเป็นลูกเขยอยู่”

 

ณ สวนด้านหลังบ้านหลังเก่าสกุลมู่

 

ผู้หญิงสองคนกำลังนอนอยู่บนเก้าอี้เอนสบาย ๆ พร้อมมาส์กหน้าราคาแพงลิ่ว นอกจากนี้ยังมีหมอนวดสองคนช่วยนวดผ่อนคลายร่างกายให้พวกเธอด้วย

 

ซิงเหวินจิ้ง และจางหยูหลานไม่ได้เจอกันนานมาก ดังนั้นเมื่อพวกเธอได้อยู่ด้วยกัน ย่อมเป็นธรรมดาที่จะต้องมีเรื่องพูดคุยกันไม่จบ และบทสนทนานี้ก็เป็นหัวข้อเกี่ยวกับลูกชายและลูกสาวของพวกเธอ

 

“เหวินจิ้ง เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ ๆ ถึงได้มีสัญญาการแต่งงานกับตระกูลเซี่ยได้ ? เหยียนเอ๋อของฉันชอบเฉินฮ่าวมาหลายปีแล้ว คุณก็รู้ อย่าปล่อยให้เฉินฮ่าวทิ้งเหยียนเอ๋อของฉันล่ะ เพื่อความเป็นเพื่อนของเราอย่าให้เกิดเรื่องแบบนั้นนะ”

 

“หยูหลาน เธอไม่เชื่อฉันเหรอ ฉันก็รักเหยียนเอ๋อไม่ได้น้อยไปกว่าเธอเลย ตั้งแต่เรายังสาว ๆ ฉันก็ขอเป็นแม่บุญธรรมของเหยียนเอ๋อแล้ว สัญญาการแต่งงานของตระกูลเซี่ย เกิดจากสามีของฉัน เขาเคยให้สัญญากับคนรักของเขาตอนที่เขายังหนุ่ม นี่พอฉันรู้เข้าฉันก็โกรธมากนะ ไม่ต้องกังวลตราบใดที่ฉันยังอยู่ ฉันไม่มีวันปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นได้เป็นลูกสะใภ้ของฉันแน่”

 

ครั้นได้ยินเช่นนั้น จางหยูหลานก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

 

“วันนี้เด็กสองคนอยู่ในห้องเดียวกัน ฉันไม่รู้ว่า จะเป็นยังไง …”

 

“ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจริง ๆ ก็ดีสิ … อย่างไรเสียเฉินฮ่าวของฉันก็ต้องรับผิดชอบ …”

 

“ฮิ ฮิ ฮิ ฮิ”

 

ขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอย่างมีความสุข คนรับใช้ก็เข้ามา

 

“คุณผู้หญิง คุณหนูตระกูลเซี่ย เซี่ยฉิงกงมาที่นี่”

 

ครั้นซิงเหวินจิ้งได้ยินชื่อเซี่ยฉิงกง เธอก็ลุกขึ้นนั่งทันที เธอดึงมาสก์ออกจากหน้า พลางขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

“ทำไมเธอถึงมาที่นี่ได้ ?”

 

จางหยูหลานเองก็ลุกขึ้นนั่งเช่นกัน เมื่อได้ยินคนรับใช้รายงาน เธอก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ราวกับว่าเซี่ยฉิงกงเป็นคู่ปรับความรักของเธอไปด้วย

 

“สถานการณ์เป็นยังไง ? ผู้หญิงเลวคนนี้คิดจะทำอะไร ?”

 

ซิงเหวินจิ้ง, จางหยูหลาน, มู่จื่อหมิง และฉีป๋อหยวน ต่างก็มาถึงห้องรับแขกภายในเวลาไล่เลี่ยกัน

 

เซี่ยฉิงกงนั่งอยู่บนโซฟาไม้มะฮอกกานีหรูหรา พลางดื่มชาที่คนรับใช้ชงให้ทีท่าของเธอเต็มไปด้วยความสง่างาม โดยมีอาเจิ้งและหมั่นโถวยืนขนาบสองข้าง

 

“คุณลุง คุณป้า เฉินฮ่าวอยู่ไหนคะ ? ฉันมาพาเขากลับบ้าน”

 

***จบตอน แตงที่กระด้างนั้นไม่หวาน***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset