มู่จื่อหมิงทำท่ากระซิบกระซาบ ครั้งแรกที่เซี่ยฉิงกงได้ฟังเรื่องนี้มาจากหมั่นโถว ในตอนนั้นเธอเองก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ยิ่งยามนี้ มู่จื่อหมิงเป็นคนพูดออกจากปากเอง ก็ยิ่งมีความหมายมากขึ้น
“กลายเป็นว่า คุณป้าหึงแม่ของหนู อะไรกันเนี่ย ?”
“ใช่แล้ว ฉันรู้จัก เซวี่ยเอ๋อ แม่ของหนูตอนที่เรายังเด็ก เราโตมาด้วยกัน ทั้งเราก็เป็นเพื่อนต่างเพศย่อมต้องดึงดูดซึ่งกันและกัน แม่ของหนูสวยมาก ฉันก็ต้องชอบเธอเป็นธรรมดาใช่มั้ย ? ทว่าพวกเราขาดการติดต่อกันไปนับสิบปี กระทั่งแม่ของหนูแต่งงานไปกับพ่อของหนู ส่วนฉันก็มีเฉินฮ่าวตอนที่ฉันอายุยี่สิบแปดปี … นี่ ฉันก็ไม่รู้ว่าเหวินจิ้งเอาอะไรไปหึงแม่ของหนู ?”
หลังจากที่มู่จื่อหมิงพูดจบ เขาก็ส่ายศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ ดูเหมือนว่าเขาอยากจะหัวเราะ หากแต่ก็ไม่กล้าที่จะหัวเราะ
แม้ว่าเซี่ยฉิงกงจะได้พบกับมู่จื่อหมิงเพียงสองครั้ง หากแต่เธอก็รู้สึกได้ว่ามู่จื่อหมิงเอ็นดูเธอมาก อาจเป็นเพราะมารดาผู้ให้กำเนิดเธอนั่นเอง
ทั้งสามคนกำลังคุยกันอย่างสนุกสนานในรถ มู่จื่อหมิงพูดแต่เรื่องตลกขบขันตลอดเวลา จนเซี่ยฉิงกงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ นัยน์ตาที่ชุ่มฉ่ำของเซียฉิงกงยิบหยีจนเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว
อาจเป็นเพราะเซี่ยฉิงกงตื่นเช้าเกินไป ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นเธอก็เอนกายลงซบไหล่มู่เฉินฮ่าว แล้วก็ผล็อยหลับไป
มู่เฉินฮ่าวตกตะลึงไปเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้เป็นหมูหรือไงกันนะ ? หลับตาปุ๊บก็หลับสนิทปั๊บ ?
ชั่วโมงครึ่งต่อมา ทั้งหมดก็มาถึงคฤหาสน์ตระกูลเซี่ย
เซี่ยฉิงกงยังคงหลับสนิท มู่เฉินฮ่าวมีกลิ่นกายที่ดีมาก ทำให้เธอผ่อนคลาย และสบายใจมาก
เซี่ยเจิ้งหัว และเจินเมี่ยวหยูกำลังรออยู่ที่หน้าประตูพร้อมด้วยบรรดาบริวารและคนรับใช้
เซี่ยเจิ้งหัวรู้สึกผิดต่อเซี่ยฉิงกงมาโดยตลอด ดังนั้นเมื่อลูกสาวคนโตกลับบ้าน เขาย่อมต้องไว้หน้าเธอพอสมควรเขาสั่งให้ทุกคนในครอบครัวออกมายืนรอรับคุณหนูใหญ่กลับบ้านที่หน้าประตู
หัวใจของเจินเมี่ยวหยูย่อมไม่มีความสุขอย่างแน่นอน ทว่าเธอไม่มีทางเลือก เธอเป็นแม่เลี้ยงของเซี่ยฉิงกง ทั้งยังเป็นนายหญิงของตระกูลเซี่ยอีกด้วย
นับตั้งแต่งานเลี้ยงวันเกิดครั้งล่าสุดของเซี่ยเจิ้งหัว ความเกลียดชังของเจินเมี่ยวหยูที่มีต่อเซี่ยฉิงกงก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
เซี่ยชิงฉวนลูกสาวแท้ ๆ ของเธอเปลี่ยนไปอย่างมากนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ในคืนนั้น เซี่ยชิงฉวนกลายเป็นคนป่าเถื่อน เอาแต่ใจตัวเองมากขึ้น เธอไม่เคยก้าวออกจากบ้านอีกเลย เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในบ้าน ทั้งไม่กล้ายุ่งเกี่ยวกับพี่สาวของเธออีก
เจินเมี่ยวหยูรู้สึกเป็นทุกข์มาก หากแต่เธอก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรได้ …
รถแล่นมาถึงประตูบ้านสกุลเซี่ยแล้ว หมั่นโถวต้องปลุกเซี่ยฉิงกงเพราะเจ้าบ้าน และนายหญิงของตระกูลเซี่ยมารอกันอยู่ที่ประตูแล้ว และทั้งสองก็เป็นผู้อาวุโส
ในห้องของเซี่ยชิงฉวน สิ่งของต่าง ๆ ถูกโยนระเกะระกะ มีคนรับใช้คนหนึ่งยืนรอรับใช้เธออยู่ในห้อง เจินเมี่ยวหยูกลัวว่าเซี่ยชิงฉวนจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย ดังนั้นจึงสั่งให้คนจับตาดูเธอตลอด 24 ชั่วโมง
เซี่ยชิงฉวนนอนขดตัวอยู่บนเตียง สีหน้าของเธอบึ้งตึง เธอพยายามข่มตาหลับ ข่าวงานวันเกิดมีคนเอาไปซุบซิบนินทาอยู่เป็นระยะเวลานาน บางคนก็มาถามไถ่เธอถึงที่บ้าน จนเธอไม่อยากได้ยินเสียงผู้คนอีกเลย
วันนี้เธอได้ยินเสียงผู้คนพูดคุยกันอยู่ด้านล่างไม่ไกลนัก ราวกับว่ามีคนมากมายมาพบปะพูดคุยกันที่นี่อีกครั้ง
“ใครมาที่บ้านของเรา ข้างนอกนั่นดูมีชีวิตชีวามากเลย ?”
เซี่ยชิงฉวนเอ่ยถามอย่างอ่อนแรง
“ไม่ … ไม่มีใครมาหรอกคุณหนูรอง คุณเข้าใจผิดไปเองน่ะ”
คนรับใช้ก้มหน้าก้มตาไม่กล้าบอกความจริงว่าคุณหนูใหญ่กับนายน้อยมู่มา
เซี่ยชิงฉวนลุกขึ้นจากเตียงอย่างหมดสภาพ ใบหน้าซีดเซียวของเธอบิดเบี้ยวเล็กน้อย เธอตบหน้าคนรับใช้คนนั้น
“แกกล้าโกหกฉันหรือ ? แกคิดว่าฉันหูหนวกหรือไง ?”
“คุณหนูรอง… คนที่มาก็คือนายน้อยมู่กับคุณหนูใหญ่ พวกเขากลับมาเยี่ยมที่นี่ … “
ใบหน้าของเซี่ยชิงฉวนเปลี่ยนไปอย่างมาก
“หญิงสารเลวคนนั้นยังกล้ามาที่นี่อีกงั้นหรือ ?”
เซี่ยชิงฉวนหยิบมีดปอกผลไม้บนโต๊ะขึ้นมา จากนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องนั่งเล่น
“เซี่ยฉิงกง นังสารเลว แกทำให้ฉันต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ฉันจะฆ่าแก ทำไมแกยังหน้าด้านกลับมาที่บ้านสกุลเซี่ยอีก !”
***จบตอน ทำไมแกยังหน้าด้านกลับมาที่บ้านสกุลเซี่ยอีก !***