แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก – ตอนที่ 121 เซี่ยชิงฉวนถูกถีบ

เซี่ยฉิงกงยังคงอิงไหล่มู่เฉินฮ่าวหลับใหลอย่างเป็นสุข ที่เธองวยเงียตื่นขึ้นมาก็เพราะหมั่นโถวปลุก

 

“เมื่อกี้คุณนอนน้ำลายยืด”

 

มู่เฉินฮ่าวพูดติดตลก ทำให้เซี่ยฉิงกงตาสว่าง เธอหันไปมองเขา จึงพบว่าเธอถูกหลอก

 

เธอใช้ส้นรองเท้าส้นสูงเหยียบมู่เฉินฮ่าวอย่างแรง โต้กลับอย่างไม่ลดราวาศอก

 

“คุณนั่นแหละที่นอนน้ำลายยืด !”

 

“เอาล่ะ ลงจากรถกันเถอะ พ่อของหนูและคนอื่น ๆ รอเราอยู่แล้ว”

 

มู่จื่อหมิงก้าวลงจากรถ จากนั้นก็หันกลับมามองคู่ตุนาหงันทั้งสองคน จึงได้เห็นท่าทีของลูกสะใภ้ที่ไม่รู้จะร้องไห้ หรือหัวเราะดี

 

ครั้นทั้งสามคนลงจากรถเรียบร้อย เซี่ยเจิ้งหัวก็ทักทายขึ้นทันที

 

“มู่จื่อหมิง ไม่เจอกันนานเลยนะ”

 

“อืม เหล่าเซี่ย ไม่นึกเลยว่าเจอกันอีกครั้ง เราจะกลายเป็นดองกันได้”

 

มู่จื่อหมิง และเซี่ยเจิ้งหัวไม่ได้พบเจอกันนานกว่าสิบปี เพราะในช่วงเวลานั้นพวกเขาต่างก็ไม่ชอบหน้ากัน

 

มู่จื่อหมิงไม่ชอบใจ เพราะเขารู้สึกว่าเซี่ยเจิ้งหัวไม่คู่ควรกับน่าหลานเซวี่ย ส่วนเซี่ยเจิ้งหัวก็รู้สึกอิจฉาที่มู่จื่อหมิงและน่าหลานเซวี่ยสนิทสนมกันมาตั้งแต่ยังเด็ก

 

นอกจากนี้ภายหลังจากที่น่าหลานเซวี่ยให้กำเนิดเซี่ยฉิงกง  เซี่ยฉิงกงก็ถูกลักพาตัวไป ณ ตอนนั้นที่โรงพยาบาลไม่มีกล้องวงจรปิด น่าหลานเซวี่ยโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก เป็นเหตุให้สุขภาพของเธอย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ หลังจากที่เธอเสียชีวิต มู่จื่อหมิงก็รู้สึกเสียใจ นับแต่นั้นมาเขาก็ไม่ยอมมีปฏิสัมพันธ์กับตระกูลเซี่ยอีกเลย

 

ครั้งนี้เป็นเพราะธุรกิจของตระกูลเซี่ยเกิดวิกฤติ ทั้งที่แท้จริง แล้วตระกูลเซี่ยมีคู่ค้ามากมาย ทว่ากลับไม่มีใครเต็มใจที่จะช่วยเหลือ เซี่ยเจิ้งหัวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพยายามเข้าพบมู่จื่อหมิง

 

ด้านมู่จื่อหมิงก็มีเงื่อนไข คือ ทั้งสองครอบครัวต้องดองกัน และผู้ที่จะต้องเข้าพิธีวิวาห์ก็จะต้องเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเซี่ย ! ลูกสาวของน่าหลานเซวี่ย

 

แท้จริงแล้ว หลังจากที่น่าหลานเซวี่ยเสียชีวิตในปีนั้น เซี่ยเจิ้งหัวก็พยายามตามหาเซี่ยฉิงกงอยู่ระยะหนึ่ง ทว่าท้ายสุดเขาก็ไม่สามารถต้านทานลมปากที่คอยเป่าหูจากคู่เรียงเคียงหมอนเช่นเจินเมี่ยวหยูได้ ด้วยเหตุนี้หลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เหตุการณ์ในครั้งนั้น นัยน์ตาของเขาจึงมืดบอด เขาล้มเลิกความคิดที่จะตามหาเซี่ยฉิงกงกลับคืนมา …

 

“คุณพ่อ คุณน้า”

 

เซี่ยฉิงกงเรียกออกมาเสียงดัง แม้ว่าเจินเมี่ยวหยูจะมีความไม่พอใจอยู่ในใจ หากแต่ก็ไม่ใช่เวลาที่จะต่อต้าน

 

เจินเมี่ยวหยูทำได้เพียงยิ้ม เธอยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ตอบสนองใด ๆ หลังจากงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของเซี่ยเจิ้งหัวแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสแสร้งทำตัวเป็นเป็นภรรยาที่แสนดี และแม่ที่แสนดีอีกต่อไป

 

“เข้าไปนั่งคุยกันในบ้านดีกว่า”

 

ครั้นเซี่ยเจิ้งหัวได้ยินเสียงเซี่ยฉิงกงเอ่ยเรียก ใบหน้าของเขาก็พลันอบอุ่นขึ้น เขามองมู่เฉินฮ่าวกุมมือเซี่ยฉิงกงไม่ยอมปล่อย ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เขาก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น

 

แต่จะอย่างไรก็ตาม เขาก็ยังรู้สึกผิดต่อเซี่ยฉิงกงลูกสาวคนโตของเขาอยู่ดี

 

ทั้งหมดพากันเดินเข้าไปในบ้าน เมื่อต่างก็นั่งกันเรียบร้อยแล้ว มู่จื่อหมิงก็พูดขึ้นว่า

 

“เหล่าเซี่ย วันนี้ผมมาที่นี่ก็เพื่อหารือกับคุณเกี่ยวกับเรื่องหมั้นหมายของเด็กทั้งสองคนนี้ ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเด็กทั้งสองก็เรียกได้ว่าราบรื่นมาก วันที่ 17 เดือนนี้เป็นวันดีแต่หากคุณมีวันอื่นอีกก็ว่ามาพวกเราจะได้เลือกกัน … “

 

มู่จื่อหมิงยังไม่ทันจะได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น เขาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่อยู่ในชุดนอน เสื้อผ้ายับย่น ผมเผ้ายุ่งเหยิงในมือถือมีดวิ่งออกมา พร้อมกับตะโกนว่า

 

“เซี่ยฉิงกงออกไปจากที่นี่ เดี๋ยวนี้นะ ! ทำไมแกยังมีหน้ามาที่นี่อีก ทั้งที่แกทำกับฉันขนาดนั้น ทำไม ?”

 

เซี่ยชิงฉวนพุ่งตัวเข้าหาเซี่ยฉิงกงพร้อมมีด เธอหมายจะกรีดใบหน้าของเซี่ยฉิงกง

 

เซี่ยฉิงกงสะดุ้ง เธอรีบหลับตาโดยไม่รู้ตัว

 

ทว่าก่อนที่คมมีดจะกรีดลงบนใบหน้าของเซี่ยฉิงกง หมั่นโถวก็ถีบเข้าที่บริเวณท้องน้อยของเซี่ยชิงฉวน และด้วยลูกถีบนี้ เซี่ยชิงฉวนถึงกับลอยละลิ่วออกไปครึ่งเมตร เธอยกมือขึ้นกุมท้องด้วยความเจ็บปวด

 

“ชิงฉวน !”

 

เจินเมี่ยวหยูกรีดร้องลั่น สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที เธอรีบลุกจากที่นั่งของตน

 

***จบตอน เซี่ยชิงฉวนถูกถีบ***

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก

แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก
Status: Ongoing
โดย เรื่อง แต่งก่อนค่อยอ้อนรัก บ้างส่วนของนิยาย ณ ผับคราวน์คลับ ที่ยิ่งดึกก็ยิ่งมีชีวิตชีวา ภายในห้องส่วนตัวห้องหนึ่งที่ตกแต่งด้วยแสงสลัว และมืดทึม “โจวตัน ไอ้หัวหมูนั่นอยากร่วมมือกับฉันด้วยเรอะ ! เฮอะ เขาคงเขมือบเงินทองมากไปจนไม่ดูฐานะของตัวเองเลย ถ้าไม่ใช่เพื่อกำราบความหยิ่งยโสของตระกูลเซี่ย ฉันไม่ทางเซ็นสัญญากับไอ้หมูนั่นแน่ ?” “ตูม !” มือเล็กกดโทรศัพท์บนโต๊ะ เพื่อปิดเสียงที่บันทึกไว้ นิ้วเรียวยาวขาวละเอียดวาวอย่างคนสุขภาพผิวดี “บอสโจว คุณได้ยินแล้วใช่ไหม ?” เจ้าของมือยิ้ม ใบหน้าของโจวตันที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเปลี่ยนเป็นสีตับหมูซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากแม้จะอยู่ภายใต้แสงริบหรี่ “อ้อ..และนี่” เซี่ยฉิงกงจูบสัญญานั่นแล้วพับครึ่ง ก่อนจะซุกไว้บริเวณบั้นเอวภายใต้เสื้อของเธอ เครื่องแบบบริกรของผับคราวน์คลับนี่ออกจะเปิดเผยมาก จนเซี่ยฉิงกงต้องดึงขอบเสื้อบนหน้าอกของเธอขึ้นอย่างแรง แต่ก่อนที่เธอจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็รู้สึกว่าไหล่ของเธอถูกดึงขึ้น “นี่เธอ ช่วยส่งไวน์นี้ไปที่ห้อง 8069 ด้วย” ผู้จัดการเจ้ากี้เจ้าการยกแขนของเซี่ยฉิงกงแล้วยัดถาดใส่มือเธอ เซี่ยฉิงกงยักไหล่ ในเมื่อปลอมตัวเป็นบริกรก็ต้องมีจรรยาบรรณในวิชาชีพจนกว่าจะหมดหน้าที่ อย่างไรเสียที่สุดฉันก็ได้สัญญามาแล้ว เอาเป็นว่าฉันยินดีที่จะส่งไวน์ให้ก็แล้วกัน “8096 หรือ 8069 ?” เซี่ยฉิงกงคลำทางเดินไปพร้อมกับถาดที่ใส่ไวน์แดง ขณะเดียวกันก็มองผู้คนในห้องส่วนตัวเหล่านั้นอย่างระแวดระวัง เธอโทรไปที่แผนกต้อนรับ แต่สายไม่ว่างเลย เธอจึงไม่รู้ว่าห้องไหนแน่ และนั่นทำให้เซี่ยฉิงกงต้องค่อย ๆ คลำหาไปเรื่อย ๆ “ช่างมันเถอะ เลือกเอาสักห้องก็แล้วกัน !” ต่อให้เปิดประตูเข้าไปแล้วผิด ก็แค่ออกมาเท่านั้นเอง ! เมื่อนึกได้เช่นนี้ เซี่ยฉิงกงก็เคาะประตู 8069 เธอไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวใด ๆ จึงค่อย ๆ แง้มประตูเปิดออก “อา !” แล้วเซี่ยฉิงกงก็ต้องผงะกับฉากในห้อง “ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย… “ แม้ว่าแสงไฟจะไม่สว่างไสวเท่าใดนัก ทว่าเซี่ยฉิงกงก็พอจะมองเห็นว่า ชายคนหนึ่งในห้องกำลังกดร่างของผู้หญิงที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยอยู่บนโซฟา ทันทีที่เห็นประตูเปิดออก ทั้งสองคนในห้องก็มองไปที่ประตู เซี่ยฉิงกงยังคงสามารถมองเห็นผมยาวยุ่งเหยิงของสาวงามคนนั้น ทั้งยังใบหน้าที่ดูเหมือนจะเมามายเล็กน้อย นอกจากนี้เสื้อผ้าที่แหวกลึกของเธอยังเปิดรับสายลมฤดูใบไม้ผลิมากจนน่าละอาย “หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ !” เซี่ยฉิงกงกำลังจะปิดประตู รีบเผ่นจากไป ทว่าชายในห้องกลับห้ามเธอไว้ มู่เฉินฮ่าวปลดมือหญิงสาวที่กำลังคล้องคอของเขาไว้ เขาเหลือบตาไปมองเซี่ยฉิงกงด้วยท่าทีที่อันตราย “ไม่คาดคิดว่าจะมีพวกมาด้วย” มู่เฉินฮ่าวลุกขึ้นนั่งตัวตรง สายตาที่เขามองเซี่ยฉิงกงเต็มไปด้วยความเย็นชา “คุณผู้ชายคะ คุณเข้าใจผิด ฉันไม่รู้จักเธอเลย” เซี่ยฉิงกงรู้ดีว่าคนที่มาผับคราวน์คลับแห่งนี้ล้วนเป็นพวกเศรษฐี หรือมีอำนาจพอควร ดังนั้นเธอจึงไม่ควรสร้างปัญหาใด ๆ ที่นี่ หลังจากได้สัญญา และเสิร์ฟไวน์เรียบร้อยแล้ว เธอก็จะออกไปจากที่นี่ทันที “นั่นเธอถ่ายรูปไว้ใช่ไหม เอามานี่” เซี่ยฉิงกงเพิ่งสังเกตเห็นว่า เธอยังคงถือมือถือที่เพิ่งโทรหาแผนกต้อนรับเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง … แย่แล้ว ! เขาคงคิดว่า เธอกำลังถ่ายภาพลามกที่พวกเขามีอะไรกันเพื่อใช้แบล็คเมล์ ดังนั้นเขาจึงมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น ! คนอะไรหน้าด้านชะมัด ? นี่คงลักกินขโมยกินล่ะสิท่าถึงกลัวโดนถ่ายรูป ? หน้าตาก็หล่อเหลาดี แต่กลับกินไม่เลือกเหมือนหมา ฉิงกงคิดกับตัวเอง “คุณผู้ชาย ฉันคิดว่าคุณคงเข้าใจผิด ฉันไม่ได้ถ่ายรูปคุณ” ในใจของเซี่ยฉิงกงรู้สึกขยะแขยง ทว่าเธอก็พยายามพูดอย่างใจเย็น เพราะมีรูปโป๊ของภรรยาโจวตันกับชายอื่นอยู่ในโทรศัพท์มือถือของเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่อาจโชว์ให้เขาดูได้ มู่เฉินฮ่าวยิ่งมั่นใจว่า ผู้หญิงทั้งสองคนเป็นพวกเดียวกัน “ใครส่งเธอมา ?” น้ำเสียงของมู่เฉินฮ่าวเย็นชา ทำให้เซี่ยฉิงกงอึดอัดมาก นี่หมายความว่าไง ? แสดงว่าต่อให้เธอกระโดดลงล้างตัวที่แม่น้ำฮวงโหก็ไม่สะอาดล่ะสินะ ? (สำนวนแปลว่า แก้ตัวอย่างไรก็ฟังไม่ขึ้น) “ฉันมาเอง” เซี่ยฉิงกงเผลอตอบไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็เหลือบไปมองหญิงสาวบนโซฟาที่กำลังมองจ้องมาด้วยสายตาแปลก ๆ เธอรีบเปลี่ยนคำพูดว่า “คุณผู้ชาย คุณเห็นมั้ย ? ฉันเป็นแค่บริกรตัวเล็ก ๆ ฉันต้องรีบนำไวน์ไปเสิร์ฟห้องที่เขาสั่งไว้ !” “เลิกพูดไร้สาระ ส่งโทรศัพท์ของเธอมา” มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจคำร้องขอความเมตตาของเธอ เขากวาดตามองเธอจากหัวจรดเท้าก่อนจะพูดต่อ เซี่ยฉิงกงพูดไม่ออกไปชั่วขณะ คน ๆ นี้ คือโจโฉกลับชาติมาเกิดหรือไง ? ท่าทางเขาแลดูน่าสงสัยมาก ถ้าจะระแวงกันถึงขนาดนี้ จะมาเที่ยวผับนี่ทำไม ? “ฉัน…” “ยังไม่ไสหัวไปอีก !” “ฉันจะไปแล้ว จะไปแล้ว … ” เซี่ยฉิงกงพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับทันทีที่เธอได้ยินประโยคนี้ “ไม่ใช่เธอ” มู่เฉินฮ่าวขัดจังหวะเซี่ยฉิงกงทันที เขาเบี่ยงหน้าเล็กน้อยแววตาของเขาเย็นชาอีกทั้งน่ากลัว ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาดึงขอบเสื้อเกาะอกของเธอขึ้นมาให้เข้าที่เข้าทาง ความขาวเนียนราวหิมะทำให้เซี่ยฉิงกงตาแทบค้าง “คุณชายมู่… ” ผู้หญิงคนนั้นครางชื่อเขาเบา ๆ ด้วยความเสียใจ หากแต่เธอกลัวสายตาที่เย็นชาของมู่เฉินฮ่าวมากกว่า เธอจึงไม่กล้าขัดขืนคำสั่งเขา ก่อนที่เธอจะจากไป เธอยังกวาดตามองเซี่ยฉิงกงอย่างอาฆาตมาดร้าย เซี่ยฉิงกงสับสน เธอหันไปมองมู่เฉินฮ่าวด้วยความประหลาดใจ เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย ? “ฉันเป็นแค่พนักงานเสิร์ฟเท่านั้น !” เซี่ยฉิงกงพยายามใจกล้ากล่าวย้ำอีกครั้ง มู่เฉินฮ่าวเยาะเย้ย “บริกรที่ผับคราวน์ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงเสิร์ฟน้ำเท่านั้นนี่” ครั้นได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เซี่ยฉิงกงก็เข้าใจได้ทันที เธอหยิบถาดขึ้นมาด้วยความโกรธ หวังจะรีบออกไปจากห้อง ทว่าเธอก้าวออกไปได้เพียงก้าวเดียว มู่เฉินฮ่าวก็กระชากตัวเธอกลับมาอย่างแรง ไวน์แดงในถาดพลัดตกลงบนพื้นและแตกกระจาย จบกัน ฉันทำไวน์ตกแตก ไวน์นี่มีมูลค่าหลายแสนเสียด้วย ? “คุณบ้าไปแล้ว !” เซี่ยฉิงกงโกรธมาก มู่เฉินฮ่าวไม่สนใจกับความโกรธของเธอเลย เขากดร่างเซี่ยฉิงกงลงบนโซฟา ครั้นถูกกดตัวอย่างแรง เซี่ยฉิงกงก็เดือดจัด เธอยกมือขึ้นผลักอกมู่เฉินฮ่าวออก “นี่ไม่ใช่ความต้องการของเธอหรอกเหรอ ในเมื่อมาเสนอตัวถึงหน้าประตูก็อย่าโทษว่าฉันหยาบคาย” “ความต้องการของฉันงั้นรึ ? นี่คุณสมองพิการหรือเปล่า..หา..?” เซี่ยฉิงกงดิ้นรนขัดขืน ทว่ากลับถูกกดตัวไว้อย่างแน่นหนา มู่เฉินฮ่าวยกมือของเธอขึ้นเหนือศีรษะ “ปล่อยฉันนะ คนไร้ยางอาย !”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset