โจมตีเต็มกำลัง!ชัยชนะอยู่แค่เอื้อมแล้ว!
องค์ชายสามตะโกนและเดิมพันไปพร้อมกับรัชทายาทและเจ้าเมืองที่รอดชีวิต
แกร๊ก!แกร๊ก!
รอยแตกขยายขึ้นลมหายใจของพวกเขาถี่ขึ้น
หากช่วยจักรพรรดิอสูรได้เมื่อใดชัยชนะจะเป็นของพวกเขาเมื่อนั้น!
สีหน้าองค์ชายหนึ่งและองค์หญิงสองไม่สู้ดี
พวกเจ้าทุกคนกลับมา!
แต่เมื่อเดิมพันทุกสิ่งไว้กับความหวังสุดท้ายและได้เห็นม่านพลังที่กำลังจะแตกสลาย พวกเขาจะฟังคำนี้หรือ?
ไม่ต้องพูดต่อพวกมันตัดสินใจแล้ว องค์หญิงหกส่ายหน้า
องค์หายหนึ่งและองค์หญิงสองถอนหายใจยาวและรีบมุ่งหน้าไปยังแท่นบูชาพร้อมกับซือหยูและองค์หญิงหก
ทันทีที่ทั้งสี่ออกไปเมฆอสูรปลดปล่อยพลังอันรุนแรงออกมาทั่วทั้งนอกเมืองหลวง มันกลายเป็นพลังปิดตายเมืองหลวง
ในหมู่เมฆนั้นมีคลื่นพลังเทพอันน่ากลัวเกือบร้อยคลื่นเปล่งแสงทั่วทุกมุมโลก
ผู้ที่นำทัพมาคือเทพอสูรสูงสองพันศอกสูงกว่าเทพอสูรทั่วไปมากกว่าสองเท่า!
สีของร่างไม่ใช่แดงแต่เป็นดำมีเงาสีแดงแซมเพียงเล็กน้อย ยันต์แปลก ๆ มากมายปิดบังผิดเอาไว้ เพิ่มความดุร้ายของมันยิ่งไปอีก
เขาคือแม่ทัพศาลอสูรศิษย์เพียงคนเดียวของจักรพรรดิอสูรคนปัจจุบัน…เทพอสูรหกวิถี!
กระบี่ยาวในมือทำจากไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำมันมีชุ่มไปด้วยโลหิต
ยักษ์ทะเลขมพ่ายแพ้แล้ว!
เมื่อสัมผัสได้ถึงศาลอสูรองค์ชายสามชักสีหน้า ศาลอสูรมาแล้วจริง ๆ!
แต่มันก็สายไปแล้วที่จะรีบไปแท่นบูชา!
ทำลายม่านพลังเอาท่านพ่อออกมา!
องค์ชายสามตะโกนอย่างดุดันทั้งทัพศาลอสูรแตกตื่น พวกมันรีบเข้ามาปิดล้อมม่านพลังราวกับคนบ้า
แกร๊ก!
เพล้ง!
ม่านพลังแตกสลายในเวลาสุดท้าย
ทัพกบฏโถมเข้าไปพร้อมกัน!
มเหสีหยุนเซี่ยและกลุ่มเทพถูกปิดล้อมโดยทัพกบฏในเสี้ยวนาที
นอกจากมเหสีหยุนเซี่ยเทพทุกคนถูกสังหารในทันที
เทพศาลอสูรมาถึงและเข้าใกล้ทัพกบฏ องค์ชายสามและเทพมากกว่าสามสิบคนจับมเหสีหยุนเซี่ยเป็นตัวประกันทันทีองค์ชายสามตะโกน
ถอยไป!ถ้าไม่เช่นนั้นมเหสีหยุนเซี่ยไม่รอดแน่!
แม่ทัพจ้องพวกเขาด้วยดวงตาสีแดงก่ำเขาสั่งการอย่างเย็นชา
ได้เวลามื้อค่ำแล้ว
โฮก!
เสียงคำรามกู่ร้องอย่าป่าเถื่อนเหล่าเทพอสูรกระหายเลือดกรูเข้ามาดั่งสัตว์ป่าหิวโหยที่ไม่ได้กินอาหารมานาน
มเหสีหยุนเซี่ยที่ถูกจับตัวเอาไว้ตาเป็นประกายนางกลายเป็นตำรา!
นั่นไม่ใช่มเหสีหยุนเซี่ย!
อะไรกัน?
ทุกคนอ้าปากค้างสิ่งที่พวกเขากำลังปิดล้อมอยู่นั้นไม่ใช่มเหสีหยุนเซี่ยเลย! ถ้าอย่างนั้นนางอยู่ที่ไหน?
แต่นี่ก็ไม่ใช่เวลาจะคิดถึงนาง
องค์ชายสามและเหล่ารัชทายาทโค้งคำนับให้ห้องลับพร้อมกัน
ด้วยความนับถือพวกข้าขอต้อนรับท่านพ่อออกมาจากการปิดประตูฝึกตน!
เสียงดังฟังชัดสะท้อนทั่วสวรรค์
ห้องลับที่ปิดผนึกมาหลายร้อยปีเปิดขึ้นช้าๆ
เหล่ารัชทายาทมิอาจปิดบังความยินดีบนใบหน้าสุดท้ายพวกเขาก็เป็นผู้ชนะ!
จักรพรรดิอสูรกลับมาแล้ว!
ตราบเท่าที่จักรพรรดิอสูรตื่นขึ้นมาผลย่อมชัดเจน
องค์ชายสามแอบดีใจองค์ชายหนึ่งออกไปแล้ว ในบรรดารัชทายาทที่เหลือ เขามีพลังสูงสุด หากองค์ชายหนึ่งไม่กลับมา เขาจะกลายเป็นจักรพรรดิอสูรคนต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย ประตูบานยักษ์เปิดออกแต่ห้องลับมีแต่ความเงียบ ไม่มีสัญญาณชีพจากด้านในเลย
เหล่ารัชทายาทเงยหน้ามองเมื่อได้เห็นห้องลับ พวกเขาเบิกตากว้าง
ห้องลับว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดอยู่เลยนอกจากชั้นฝุ่นหนาที่สะสมมาหลายร้อยปี!
จักรพรรดิอสูรไม่ได้อยู่ในห้องลับ!
ท่านพ่อปิดประตูฝึกตนในหลายร้อยปีที่ผ่านมาแล้วท่านพ่ออยู่ไหน? ท่านพ่ออยู่ไหน?
เหล่ารัชทายาทไม่เชื่อสายตาตัวเอง
พวกเขาเชื่อมั่นว่าบิดาหายไปในเงามืดเพราะการฝึกฝนจึงไม่รู้เรื่องโลกภายนอกที่เกิดขึ้นกับลูก ๆ
แต่ห้องลับที่ว่างเปล่าไม่ต่างจากสายฟ้าซัดเข้าสู่สมองของรัชทายาท
พวกเขาเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเปิดห้องลับแห่งนี้มุ่งความหวังทั้งหมดกับจักรพรรดิอสูรที่ควรจะอยู่ข้างในห้องลับ
แต่กลับไม่มีดวงวิญญาณแม้สักดวงในห้องลับเลย!
โฮก!
เสียงคำรามนับไม่ถ้วนสั่นคลอนไปทั้งสวรรค์จากทัพศาลอสูรเทพอสูรแดงพุ่งลงมาดั่งตั๊กแตน
โลหิตเทพกระจัดกระจายไปทั่วท้องนภาเต็มไปด้วยน้ำตาเลือด เหล่าเทพตายไปทีละคน
ไม่ว่าจะเทพสามสิบคนหรือรัชทายาทก็มิอาจหนีอกไปได้พวกเขากลายเป็นอาหารในปากเทพอสูรแดง พวกเขาถูกกลืนกินทั้งเป็น
…
ที่แท่นบูชา…
เมื่อทั้งสี่มาถึงมันก็เป็นเวลาเดียวกับที่ศาลอสูรปรากฏตัวในเมืองหลวง
พวกเขามองศาลอสูรที่มาทั้งกองทัพ
พวกมันสิ้นหวังแล้ว
ซือหยูพูดอย่างไร้อารมณ์ องค์หญิงสองยังคงมีหวัง
ไม่หรอกถ้าหากพวกนั้นเปิดห้องลับได้…
จักรพรรดิอสูรไม่เคยปิดประตูฝึกตนเปิดห้องลับไปก็ไม่มีประโยชน์
ซือหยูส่ายหน้า
ห้องลับนั่นอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้
อะไรนะ?ไม่เพียงองค์หญิงสอง องค์ชายหนึ่งและองค์หญิงหกก็อ้าปากค้างเช่นกัน
ท่านพ่ออยู่ในห้องลับนั่นทั้งโลกอสูรรู้ดี! และเพราะเรื่องนั้น หญิงชั่วหยุนเซี่ยเลยได้ครองอำนาจในโลกอสูร!
พวกเขามิอาจเชื่อความจริง
เพราะถ้าหากจักรพรรดิอสูรไม่อยู่แล้วเขาจะไปที่ไหน? ทำไมถึงได้แต่มองดูรัชทายาทตกเป็นเครื่องเซ่นสังเวยยักษ์ทะเลขมโดยไม่ทำอะไรเลย?
ไม่ใช่ตอนที่ข้าฝ่าวิบัติเทพในวันก่อน ข้าตระหนักได้ว่าจักรพรรดิอสูรไม่เคยปิดประตูฝึกตนเลย เขาอยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเจ้า
ซือหยูกล่าวด้วยความใจเย็น
ทั้งสามตัวแข็งทื่อ
ท่านพ่ออยู่ไหน?เมื่อไหร่เราจะได้เจอท่านพ่อ?
ทั้งสามจ้องซือหยูด้วยความตกตะลึง
เนตรม่วงของปี้หวังชิงขยับไม่หยุดนางมองไปยังความลับของโลกตามคำพูดของซือหยู
แต่ผลที่ได้ทำให้ปี้หวังชิงหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว
จักรพรรดิอสูรมิได้อยู่ในห้องลับจริงๆ!
แต่แม้จะมีเหงื่อผุดมาเต็มหน้าผากนางก็มิอาจบอกได้ว่าจักรพรรดิอสูรอยู่ที่ใดกันแน่
จักรพรรดิอสูร…ข้าก็พามาที่นี่แล้วไม่ใช่รึไง?
ซือหยูเผยความจริงสายตามองไปยังทิศทางของทะเลขม ยักษ์สูงล้านศอกยืนอยู่ที่นั่นยืนอยู่ระหว่างท้องนภาและผืนดิน
ยักษ์ทะเลขม!
องค์หญิงสองหายใจเข้าลึก
เจ้าหมายความว่า…ยักษ์ทะเลขม…คือพ่อของพวกข้ารึ?
ซือหยูพยักหน้า
ไม่ผิดแน่!ยักษ์ทะเลขมคือพ่อที่พวกเจ้าตามหาอย่างยากลำบากนั่นแหละ!
หา!
ปี้หวังชิงนำมือปิดตาในทันทีดวงตานางเจ็บแปลบ ใบหน้าตกตะลึงและปวดร้าว
ที่นางตกใจก็คือเมื่อคิดตามซือหยูนางก็ได้สรุปความจริงจนสำเร็จ เป็นความจริงที่ไม่น่าเชื่อ
ร่างจริงของยักษ์ทะเลขมแท้จริงก็คือจักรพรรดิอสูรที่หายตัวไปหลายร้อยปี!
นางไม่เคยรู้เบาะแสของเรื่องนี้แม้แต่ครั้งเดียวบทสรุปที่ได้ทั้งหมดมาจากปัญญาของซือหยู
ปี้หวังชิงหนาวสั่นไปทั้งตัวความกลัวที่นางไม่เคยรู้จักหลั่งไหลเข้ามาดั่งน้ำหลาก
ในที่สุดนางที่อยู่ข้างๆ ซือหยูก็เข้าใจแล้วว่าเขาน่าสะพรึงกลัวเพียงใด
สติปัญญาของเขาเพียงอย่างเดียว…เหนือกว่าวิถีเทพของนางและอาจารย์ไปไกล!
แปะ!แปะ!
เสียงปรบมือดังมาจากแท่นบูชากลิ่นโชยเลือดตามมาไม่ห่าง
สติปัญญาน่ากลัวนักที่รับรู้ได้เช่นกันผู้สืบทอดเทียนจี่จื้อทำข้าตกใจซะแล้ว!
ปั่กปั่ก…
เสียงฝีเท้าอันสง่างามเข้าใกล้สตรีสวมชุดสง่างามปรากฏตัว
ด้านหลังนางคือทเพตำราเทพอสูรแดง และเมฆาอสูร ใต้เท้าของทั้งสี่มีโลหิตของเทพอสูรอยู่
ทั้งสี่ยึดแท่นบูชากลับมาเจ้าเมืองที่คุ้มกันแท่นบูชาตายหมดแล้ว
พวกเขาเสียโอกาสที่จะหนีจากโลกอสูรไปแล้ว!