The Divine Nine Dragon Cauldron – ตอนที่ 1283 – การหายตัวไปของจักรพรรดิอสูร

   โจมตีเต็มกำลัง!ชัยชนะอยู่แค่เอื้อมแล้ว! 

  องค์ชายสามตะโกนและเดิมพันไปพร้อมกับรัชทายาทและเจ้าเมืองที่รอดชีวิต

  แกร๊ก!แกร๊ก!

  รอยแตกขยายขึ้นลมหายใจของพวกเขาถี่ขึ้น

  หากช่วยจักรพรรดิอสูรได้เมื่อใดชัยชนะจะเป็นของพวกเขาเมื่อนั้น!

  สีหน้าองค์ชายหนึ่งและองค์หญิงสองไม่สู้ดี

   พวกเจ้าทุกคนกลับมา! 

  แต่เมื่อเดิมพันทุกสิ่งไว้กับความหวังสุดท้ายและได้เห็นม่านพลังที่กำลังจะแตกสลาย พวกเขาจะฟังคำนี้หรือ?

   ไม่ต้องพูดต่อพวกมันตัดสินใจแล้ว    องค์หญิงหกส่ายหน้า

  องค์หายหนึ่งและองค์หญิงสองถอนหายใจยาวและรีบมุ่งหน้าไปยังแท่นบูชาพร้อมกับซือหยูและองค์หญิงหก

  ทันทีที่ทั้งสี่ออกไปเมฆอสูรปลดปล่อยพลังอันรุนแรงออกมาทั่วทั้งนอกเมืองหลวง มันกลายเป็นพลังปิดตายเมืองหลวง

  ในหมู่เมฆนั้นมีคลื่นพลังเทพอันน่ากลัวเกือบร้อยคลื่นเปล่งแสงทั่วทุกมุมโลก

  ผู้ที่นำทัพมาคือเทพอสูรสูงสองพันศอกสูงกว่าเทพอสูรทั่วไปมากกว่าสองเท่า!

  สีของร่างไม่ใช่แดงแต่เป็นดำมีเงาสีแดงแซมเพียงเล็กน้อย ยันต์แปลก ๆ มากมายปิดบังผิดเอาไว้ เพิ่มความดุร้ายของมันยิ่งไปอีก

  เขาคือแม่ทัพศาลอสูรศิษย์เพียงคนเดียวของจักรพรรดิอสูรคนปัจจุบัน…เทพอสูรหกวิถี!

  กระบี่ยาวในมือทำจากไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำมันมีชุ่มไปด้วยโลหิต

  ยักษ์ทะเลขมพ่ายแพ้แล้ว!

  เมื่อสัมผัสได้ถึงศาลอสูรองค์ชายสามชักสีหน้า ศาลอสูรมาแล้วจริง ๆ!

  แต่มันก็สายไปแล้วที่จะรีบไปแท่นบูชา!

   ทำลายม่านพลังเอาท่านพ่อออกมา! 

  องค์ชายสามตะโกนอย่างดุดันทั้งทัพศาลอสูรแตกตื่น พวกมันรีบเข้ามาปิดล้อมม่านพลังราวกับคนบ้า

  แกร๊ก!

  เพล้ง!

  ม่านพลังแตกสลายในเวลาสุดท้าย

  ทัพกบฏโถมเข้าไปพร้อมกัน!

  มเหสีหยุนเซี่ยและกลุ่มเทพถูกปิดล้อมโดยทัพกบฏในเสี้ยวนาที

  นอกจากมเหสีหยุนเซี่ยเทพทุกคนถูกสังหารในทันที

  เทพศาลอสูรมาถึงและเข้าใกล้ทัพกบฏ  องค์ชายสามและเทพมากกว่าสามสิบคนจับมเหสีหยุนเซี่ยเป็นตัวประกันทันทีองค์ชายสามตะโกน

   ถอยไป!ถ้าไม่เช่นนั้นมเหสีหยุนเซี่ยไม่รอดแน่! 

  แม่ทัพจ้องพวกเขาด้วยดวงตาสีแดงก่ำเขาสั่งการอย่างเย็นชา

   ได้เวลามื้อค่ำแล้ว 

  โฮก!

  เสียงคำรามกู่ร้องอย่าป่าเถื่อนเหล่าเทพอสูรกระหายเลือดกรูเข้ามาดั่งสัตว์ป่าหิวโหยที่ไม่ได้กินอาหารมานาน

  มเหสีหยุนเซี่ยที่ถูกจับตัวเอาไว้ตาเป็นประกายนางกลายเป็นตำรา!

  นั่นไม่ใช่มเหสีหยุนเซี่ย!

   อะไรกัน? 

  ทุกคนอ้าปากค้างสิ่งที่พวกเขากำลังปิดล้อมอยู่นั้นไม่ใช่มเหสีหยุนเซี่ยเลย!   ถ้าอย่างนั้นนางอยู่ที่ไหน?

  แต่นี่ก็ไม่ใช่เวลาจะคิดถึงนาง

  องค์ชายสามและเหล่ารัชทายาทโค้งคำนับให้ห้องลับพร้อมกัน

   ด้วยความนับถือพวกข้าขอต้อนรับท่านพ่อออกมาจากการปิดประตูฝึกตน! 

  เสียงดังฟังชัดสะท้อนทั่วสวรรค์

  ห้องลับที่ปิดผนึกมาหลายร้อยปีเปิดขึ้นช้าๆ

  เหล่ารัชทายาทมิอาจปิดบังความยินดีบนใบหน้าสุดท้ายพวกเขาก็เป็นผู้ชนะ!

  จักรพรรดิอสูรกลับมาแล้ว!

  ตราบเท่าที่จักรพรรดิอสูรตื่นขึ้นมาผลย่อมชัดเจน

  องค์ชายสามแอบดีใจองค์ชายหนึ่งออกไปแล้ว ในบรรดารัชทายาทที่เหลือ เขามีพลังสูงสุด หากองค์ชายหนึ่งไม่กลับมา เขาจะกลายเป็นจักรพรรดิอสูรคนต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย  ประตูบานยักษ์เปิดออกแต่ห้องลับมีแต่ความเงียบ ไม่มีสัญญาณชีพจากด้านในเลย

  เหล่ารัชทายาทเงยหน้ามองเมื่อได้เห็นห้องลับ พวกเขาเบิกตากว้าง

  ห้องลับว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดอยู่เลยนอกจากชั้นฝุ่นหนาที่สะสมมาหลายร้อยปี!

  จักรพรรดิอสูรไม่ได้อยู่ในห้องลับ!

   ท่านพ่อปิดประตูฝึกตนในหลายร้อยปีที่ผ่านมาแล้วท่านพ่ออยู่ไหน? ท่านพ่ออยู่ไหน? 

  เหล่ารัชทายาทไม่เชื่อสายตาตัวเอง

  พวกเขาเชื่อมั่นว่าบิดาหายไปในเงามืดเพราะการฝึกฝนจึงไม่รู้เรื่องโลกภายนอกที่เกิดขึ้นกับลูก ๆ

  แต่ห้องลับที่ว่างเปล่าไม่ต่างจากสายฟ้าซัดเข้าสู่สมองของรัชทายาท

  พวกเขาเดิมพันทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเปิดห้องลับแห่งนี้มุ่งความหวังทั้งหมดกับจักรพรรดิอสูรที่ควรจะอยู่ข้างในห้องลับ

  แต่กลับไม่มีดวงวิญญาณแม้สักดวงในห้องลับเลย!

  โฮก!

  เสียงคำรามนับไม่ถ้วนสั่นคลอนไปทั้งสวรรค์จากทัพศาลอสูรเทพอสูรแดงพุ่งลงมาดั่งตั๊กแตน

  โลหิตเทพกระจัดกระจายไปทั่วท้องนภาเต็มไปด้วยน้ำตาเลือด เหล่าเทพตายไปทีละคน

  ไม่ว่าจะเทพสามสิบคนหรือรัชทายาทก็มิอาจหนีอกไปได้พวกเขากลายเป็นอาหารในปากเทพอสูรแดง พวกเขาถูกกลืนกินทั้งเป็น

  …

  ที่แท่นบูชา…

  เมื่อทั้งสี่มาถึงมันก็เป็นเวลาเดียวกับที่ศาลอสูรปรากฏตัวในเมืองหลวง

  พวกเขามองศาลอสูรที่มาทั้งกองทัพ

   พวกมันสิ้นหวังแล้ว 

  ซือหยูพูดอย่างไร้อารมณ์  องค์หญิงสองยังคงมีหวัง

   ไม่หรอกถ้าหากพวกนั้นเปิดห้องลับได้… 

   จักรพรรดิอสูรไม่เคยปิดประตูฝึกตนเปิดห้องลับไปก็ไม่มีประโยชน์ 

  ซือหยูส่ายหน้า

   ห้องลับนั่นอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้ 

  อะไรนะ?ไม่เพียงองค์หญิงสอง องค์ชายหนึ่งและองค์หญิงหกก็อ้าปากค้างเช่นกัน

   ท่านพ่ออยู่ในห้องลับนั่นทั้งโลกอสูรรู้ดี! และเพราะเรื่องนั้น หญิงชั่วหยุนเซี่ยเลยได้ครองอำนาจในโลกอสูร! 

  พวกเขามิอาจเชื่อความจริง

  เพราะถ้าหากจักรพรรดิอสูรไม่อยู่แล้วเขาจะไปที่ไหน? ทำไมถึงได้แต่มองดูรัชทายาทตกเป็นเครื่องเซ่นสังเวยยักษ์ทะเลขมโดยไม่ทำอะไรเลย?

   ไม่ใช่ตอนที่ข้าฝ่าวิบัติเทพในวันก่อน ข้าตระหนักได้ว่าจักรพรรดิอสูรไม่เคยปิดประตูฝึกตนเลย เขาอยู่ต่อหน้าต่อตาพวกเจ้า 

  ซือหยูกล่าวด้วยความใจเย็น

  ทั้งสามตัวแข็งทื่อ

   ท่านพ่ออยู่ไหน?เมื่อไหร่เราจะได้เจอท่านพ่อ? 

  ทั้งสามจ้องซือหยูด้วยความตกตะลึง

  เนตรม่วงของปี้หวังชิงขยับไม่หยุดนางมองไปยังความลับของโลกตามคำพูดของซือหยู

  แต่ผลที่ได้ทำให้ปี้หวังชิงหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว

  จักรพรรดิอสูรมิได้อยู่ในห้องลับจริงๆ!

  แต่แม้จะมีเหงื่อผุดมาเต็มหน้าผากนางก็มิอาจบอกได้ว่าจักรพรรดิอสูรอยู่ที่ใดกันแน่

   จักรพรรดิอสูร…ข้าก็พามาที่นี่แล้วไม่ใช่รึไง? 

  ซือหยูเผยความจริงสายตามองไปยังทิศทางของทะเลขม  ยักษ์สูงล้านศอกยืนอยู่ที่นั่นยืนอยู่ระหว่างท้องนภาและผืนดิน

  ยักษ์ทะเลขม!

  องค์หญิงสองหายใจเข้าลึก

   เจ้าหมายความว่า…ยักษ์ทะเลขม…คือพ่อของพวกข้ารึ? 

  ซือหยูพยักหน้า

   ไม่ผิดแน่!ยักษ์ทะเลขมคือพ่อที่พวกเจ้าตามหาอย่างยากลำบากนั่นแหละ! 

  หา!

  ปี้หวังชิงนำมือปิดตาในทันทีดวงตานางเจ็บแปลบ ใบหน้าตกตะลึงและปวดร้าว

  ที่นางตกใจก็คือเมื่อคิดตามซือหยูนางก็ได้สรุปความจริงจนสำเร็จ เป็นความจริงที่ไม่น่าเชื่อ

  ร่างจริงของยักษ์ทะเลขมแท้จริงก็คือจักรพรรดิอสูรที่หายตัวไปหลายร้อยปี!

  นางไม่เคยรู้เบาะแสของเรื่องนี้แม้แต่ครั้งเดียวบทสรุปที่ได้ทั้งหมดมาจากปัญญาของซือหยู

  ปี้หวังชิงหนาวสั่นไปทั้งตัวความกลัวที่นางไม่เคยรู้จักหลั่งไหลเข้ามาดั่งน้ำหลาก

  ในที่สุดนางที่อยู่ข้างๆ ซือหยูก็เข้าใจแล้วว่าเขาน่าสะพรึงกลัวเพียงใด

  สติปัญญาของเขาเพียงอย่างเดียว…เหนือกว่าวิถีเทพของนางและอาจารย์ไปไกล!

  แปะ!แปะ!

  เสียงปรบมือดังมาจากแท่นบูชากลิ่นโชยเลือดตามมาไม่ห่าง

   สติปัญญาน่ากลัวนักที่รับรู้ได้เช่นกันผู้สืบทอดเทียนจี่จื้อทำข้าตกใจซะแล้ว! 

  ปั่กปั่ก…

  เสียงฝีเท้าอันสง่างามเข้าใกล้สตรีสวมชุดสง่างามปรากฏตัว

  ด้านหลังนางคือทเพตำราเทพอสูรแดง และเมฆาอสูร  ใต้เท้าของทั้งสี่มีโลหิตของเทพอสูรอยู่

  ทั้งสี่ยึดแท่นบูชากลับมาเจ้าเมืองที่คุ้มกันแท่นบูชาตายหมดแล้ว

  พวกเขาเสียโอกาสที่จะหนีจากโลกอสูรไปแล้ว!

 

The Divine Nine Dragon Cauldron

The Divine Nine Dragon Cauldron

นิยาย The Divine Nine Dragon Cauldron
Status: Ongoing Author:
หนึ่งประสงค์ทำลายสุริยันจันทราและหมู่ดารา ดัชนีเดียวเข่นฆ่าราชันย์สวรรค์ เพียงปริปากทั้งสวรรค์แลสิบภพพลันวินาศ เด็กยากจนเดินทางออกจากหุบเขาห่างไกลพร้อมกับมังกรนพเก้าและหม้อวิเศษที่ควบคุมกาลเวลาและพื้นที่กว้างใหญ่ เขาใฝ่หาเส้นทางแห่งพระเจ้าเพื่อท้าทายจักรวาลอันไม่มีสิ้นสุดและต่อสู้กับยุคสมัยในตำนาน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset