นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 90

 

(ฉลองยอดอ่าน 200,000 View ยอมกระอักเลือดแถมให้อีกตอนครับอิอิ)

 

–การพบหน้ากันครั้งนี้มีเรื่องประหลาดหลายอย่างเกิดขึ้น

แต่ตอนนี้มันก็ได้ผ่านพ้นไปแล้วล่ะ

 

จนท้ายที่สุดคุณเอย์เซนก็ไม่กลับมา  

คู่ของเธอนั้นก็ยังคงกินอาหารต่อไปด้วยหน้าบึ้ง

 

คู่ของลิเลียจัง หลังจากที่กินอาหารได้ไม่นานเขาก็ลุกจากเก้าอี้และเดินออกไป

ส่วนคุณคิยาโนโตะกับชายคางคกคนนั้นหลังกินอาหารเสร็จก็เดินออกไปพร้อมกัน

 

จริงๆแล้วผมอยากจะตามไปเพื่อถามนายคางคกคนนั้นว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้

 แต่น่าเสียดาย เพราะท่านทวดมีเรื่องจะคุยด้วย

ผมกับคุณซิลเวียเลยยังลุกออกจากที่นั่งไม่ได้

 

ดูเหมือนว่าตอนที่ทักทายไปก่อนหน้านี้

ท่านทวดค่อนข้างจะประทับใจผมอยู่พอสมควรเลยล่ะ

 

นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมกับคุณซิลเวียยังไม่ได้ออกไปไหน

ทั้งๆที่คนอื่นกินอาหารเสร็จและออกไปกันหมดแล้ว

 

และแน่นอนว่าผมกับคุณซิลเวีย 

ได้ตัดสินใจกันว่าจะยังไม่กลับไปที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ของคุณซิลเวีย

แต่จะไปที่บ้านของคุณคิยาโนโตะก่อน

 

ตอนแรกคุณแม่ของคุณซิลเวียจะไปด้วย แต่สุดท้ายคุณซิลเวียก็ได้เกลี้ยกล่อมเธอไปว่า

[หนูอยากขอลองไปคุยพร้อมกันกับเรียวด้วยกันสองคนดูก่อนน่ะ]

 

หลังจากนั้นพวกเราก็มาอยู่ที่หน้าบ้านของคุณคิยาโนโตะ

เป็นบ้านสีขาวหลังเล็ก เทียบกับบ้านคุณพ่อคุณแม่ของคุณซิลเวียแล้ว

คงจะเล็กกว่าประมาณ 5 เท่าได้

 

“บ้านหลังนี้สินะครับ?”

 

“อา….เธอแยกกับพ่อแม่มาอาศัยอยู่ที่นี่ตามลำพังน่ะนะ นี่ คิยาโนโตะ นี่ฉันเอง ซิลเวีย”

 

คุณซิลเวียเคาะประตูบ้าน ท่าทางของเธอดูหงุดหงิดมากกว่าปกติ

ก็นะ มันก็ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะใจเย็นอยู่ได้ซักหน่อยนี่นา

 

“ค่าา รอก่อนน้าซิลเวีย~ เดี๋ยวจะเปิดให้เดี๋ยวนี้แหละ”

 

หลังจากผ่านไปได้ซักพักประตูก็ค่อยๆเปิดออก

จากนั้นคุณซิลเวียก็รีบเดินเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว

 

“ขอโทษที่มาหาดึกดื่นแบบนี้นะ พอดีมีเรื่องอยากคุยด้วย–“

 

คุณซิลเวียที่กำลังจะพูดต่อจู่ๆก็หยุดเดิน

ผมคิดว่ามันมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นรึเปล่า ผมเลยเดินตามเข้าไปในบ้าน

และทันทีที่ผมเดินเข้าไปในบ้าน จู่ๆก็มีคนเข้ามากอดผมจากทางด้านหลัง

 

“–เรียว!”

 

“อะ….เอ๊ะ คุณคาร์ล่า!?”

 

ตกใจหมดเลย

 

คนที่จู่ๆก็พุ่งเข้ามากอดผมนั้นเป็นคนที่ผมคุ้นหน้าเป็นอย่างดี

คนนั้นก็คือคุณคาร์ลา นักผจญภัยแรงค์ S ปาร์ตี้โรเซนครูเซอร์จากเมืองคาสซานดร้านั่นเอง

 

คุณคาร์ล่า ผู้หญิงที่มีผมสีแดงประบ่า หน้าตาดี ดวงตากลมโตสดใส

ใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงขาสั้นที่โชว์ให้เห็นถึงต้นขาเรียวยาวสวยของเธออย่างเต็มที่

 

ทะ ทำไมคุณคาร์ล่าถึงมาอยู่ที่นี่ได้กันล่ะ!?

ในขณะที่ผมกำลังสับสนอยู่นั่นเอง ผมก็ได้ยินอีกเสียงนึงที่คุ้นเคย

 

“เดี๋ยวเถอะๆ คาร์ล่าจัง ทำแบบนี้ท่านเรียวตกใจหมดเลยเห็นมั้ย”

 

“คุณซึกิคาเงะก็ด้วย!? ทำไมทั้งสองคนถึงมาอยู่ที่นี่….”

 

สิ่งที่น่าตกใจคือ แม้แต่สาวหูจิ้งจอกแห่งโรเซนครูเซอร์ คุณซึกิคาเงะก็มาด้วย

 

ไม่เหมือนกับคุณคาร์ล่า คุณซึกิคาเงะเป็นอมนุษย์สวมกิโมโนดั้งเดิมของบ้านเกิดเธอ

เธอตัวเล็กและหน้าเด็ก แต่เธออายุเยอะกว่าผมมาก

 

“คิยาโนโตะ นี่มันหมายความว่ายังไงกันน่ะ?”

 

“อย่าทำหน้าตาน่ากลัวขนาดนั้นสิซิลเวีย เดี๋ยวเล่าให้ฟังระหว่างดื่มชานะ เพราะงั้นมาทางนี้สิ”

 

คุณซิลเวียยังคงสับสนงุนงง  

แต่ก่อนอื่นก็เอาเป็นว่าเดินตามคุณคิยาโนโตะไปเพื่อฟังเรื่องราวดูก่อนดีกว่า

 

เรามาห้องที่เหมือนจะเป็นห้องนั่งเล่นและห้องอาหาร

มีโต๊ะและเก้าอี้สำหรับ 6 คนอยู่กลางห้อง แล้วก็ที่สำหรับใช้น้ำที่ต่อน้ำขึ้นมาจากใต้ดิน

ถึงแม้ห้องจะดูไม่รกมาก แต่ถ้าเทียบกับบ้านของคุณซิลเวียแล้วก็ถือว่าแคบล่ะนะ

 

 

ตอนที่เห็นจากข้างนอกก็คิดไว้ว่าคงเป็นบ้านสำหรับคนที่อยู่คนเดียว

แต่ที่นี่มันกลับดูใหญ่กว่าบ้านชั้นเดียวที่ผมเคยอยู่ซะอีกนะเนี่ย

 

ที่นั่งอยู่บนโต๊ะตอนนี้ฝั่งผมมี ผม คุณซิลเวีย คุณคาร์ล่า  

ส่วนฝั่งตรงข้ามมี คุณซึกิคาเงะ คุณคิยาโนโตะกับนายคางคก

แต่จริงๆแล้วนายคางคกก็นั่งที่เก้าอี้ตัวนั้นตั้งแต่แรกแล้วแหละนะ

 

ในตอนที่เขาเห็นผมกับคุณซิลเวียเดินเข้ามาในห้อง

เขาก็รีบฟุบหน้าหนีด้วยความตกใจกลัวเลยทีเดียว

 

คุณซิลเวียเองก็ไม่แม้แต่จะชายตามองนายคางคกคนนั้นแม้แต่นิด

เธอมองไปเพียงแค่คุณคิยาโนโตะเท่านั้น

ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจชายคางคกคนนั้นเลยซักนิดเดียว

 

“คิยาโนโตะ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย? ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่กับพวกคาร์ล่าได้ล่ะ?”

 

“เรื่องนั้นเดี๋ยวพวกเราจะอธิบายให้ฟังเองค่า”

 

คิดว่าจะไม่มีเรื่องให้ตกใจอีกแล้วนะ….แต่ผมกับคุณซิลเวียยังตกใจได้อีก

คนที่เดินเข้ามาในห้องด้วยเสียงที่แผ่วเบานั้นก็ยังเป็นคนรู้จักของเราอยู่ดี

 

“เมย์ฟา….ซึสึเองก็ด้วย!? ทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละ?”

 

“เหมียว! แม้แต่เรียวก็ยังตกใจเลยล่ะสิท่า?”

 

“ซึสึจังช่วยเงียบก่อนได้มั้ย ตอนนี้เรากำลังอธิบายอยู่น่ะน้า”

 

“เมี้ยวๆ ขอโทษนะเมี้ยว เมย์ฟาจัง!”

 

คนแรกคือสาวหูกระต่ายเมย์ฟา  

ส่วนอีกคนที่พูดเมี้ยวตอนจบประโยคคือซึสึนั่นเอง

 

ทั้งสองคนเป็นสมาชิกขององค์กรอาชญากรรมที่มีชื่อว่า[กิลด์แห่งความมืด]

แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันจนเมย์ฟากับซึสึได้กลายมาเป็นคนรู้จักกัน (กับเรียวนะ)

ตอนนี้ทั้งคู่เป็นนักผจญภัยของเมืองคาสซานดร้าและทำงานอยู่ในกิลด์แห่งความมืดด้วย

 

แต่ตอนนี้ที่ห้องไม่มีเก้าอี้ให้พวกเธอสองคนแล้ว เพราะว่าห้องนี้มีเก้าอี้แค่ 6 ตัว

 

ผมคิดว่าเธอคงจะยืนอธิบายทั้งๆอย่างนั้นซะอีก

แต่กลับกลายเป็นว่าเมย์ฟาเดินเข้ามาข้างหลังผม

แล้วเธอก็โอบแขนรอบตัวเพื่อกอดผมแทน

 

ท่าแบบนี้ทำให้หน้าอกของเมย์ฟาแนบชิดกับหลังหัวของผมเลย

 

คุณซิลเวียที่นั่งอยู่ข้างๆจ้องมาที่เมย์ฟา  

แต่เมย์ฟาก็ทำเป็นไม่สนใจและเริ่มเปิดปากพูด

 

“จะเริ่มอธิบายจากตรงไหนดีน้า….เอ่อ…ใช่แล้ว คิยาโนโตะที่อยู่ตรงนั้นน่ะเป็นหนึ่งในสมาชิกกิลด์แห่งความมืดล่ะ”

 

“อะไรนะ!?”

 

“อื้อ ช่ายแล้วล่ะ~”

 

คุณซิลเวียหันไปหาคุณคิยาโนโตะด้วยตาที่เบิกกว้าง

 

“คิยาโนโตะเนี่ยนะเป็นสมาชิกกิลด์แห่งความมืด…..!?”

 

“ใช่แล้วล่ะ งั้นซิลเวียกับท่านเรียวน่ะ รู้จักองค์กรลอบสังหารที่มีชื่อว่าหัตถ์แห่งพระเจ้ารึเปล่า?”

(ขอไม่ใช้คำว่าหัตถ์เทวะนะครับ เดี๋ยวได้เตะฟุตบอล5555555)

 

คุณซิลเวียพยักหน้าให้กับคำถามนั้น

 

“รู้สิ พวกนั้นคือพวกที่ลอบสังหารพระสันตะปาปาแห่งออสโตวา เมื่อ 5 ปีก่อนใช่มั้ยล่ะ? พวกที่เป็นนักฆ่า แต่ดันจงใจรับผิดกับอาชญากรรมที่ตัวเองก่อไว้สินะ แต่ว่าเรื่องนั้นมันทำไมล่ะ?”

 

“ดูเหมือนว่าในหมู่บ้านนี้จะมีใครบางคนส่งคำร้องในการลอบสังหารไปที่หัตถ์แห่งพระเจ้าน่ะนะ”

 

“ห๊ะ!?”

 

คุณซิลเวียกลอกตาไปมา เมย์ฟาก็ยักไหล่

 

“เอ่อ ก็ถ้าจะให้พูดก็คือ….ที่จริงแล้ว หัตถ์แห่งพรเจ้าน่ะเป็นองค์เคยเป็นส่วนหนึ่งของกิลด์แห่งความมืดของเราน่ะนะ เป็นองค์กรที่แยกตัวออกไปประมาณ 100 ปีก่อนเนื่องจากแนวคิดที่ไม่ตรงกันน่ะนะ”

 

“แนวคิดที่ไม่ตรงกัน?”

 

“อื้อ ถ้าจะให้ยกตัวอย่างล่ะก็ ถ้าเป็นการลอบสังหารของกิลด์แห่งความมืดจะมีกฎว่าห้ามยุ่งกับทรัพย์สินของเป้าหมายที่ตายไปแล้วน่ะนะ แต่ถ้าเป็น หัตถ์แห่งพระเจ้าก็ทำได้น่ะ พวกเขาจะพูดประมาณว่า[นี่เป็นพรจากหัตถ์แห่งพระเจ้า]ประมาณนี้น่ะนะ”

 

พอพูดแบบนั้นเสร็จเมย์ฟาก็ทำหน้าขมขื่น

สำหรับเมย์ฟาที่ปกติจะยิ้มอ่อนๆอยู่เสมอแล้ว 

ใบหน้าที่เธอแสดงให้เห็นในตอนนี้ถือว่าหาได้ยากมากๆเลยล่ะ

 

ดูเหมือนว่าหัตถ์แห่งพระเจ้านั่นจะเป็นคู่ต่อสู้ที่ต่อกรได้ยากล่ะสินะ

 

“ก็อย่างที่ว่าไปแหละนะ สำหรับพวกเราแล้ว หัตถ์แห่งพระเจ้าน่ะเป็นองค์กรที่เราต้องการจะกำจัดล่ะ เพราะงั้นกิลด์แห่งความมืดจึงมี สายลับที่ตรวจสอบข้อมูลความเคลื่อนไหวของหัตถ์พระเจ้าน่ะ…..แล้วทีนี้ข้อมูลที่ว่านั่นก็พบที่หมู่บ้านนี้ไงล่ะ”

 

“เมื่อกี้ก็บอกไว้สินะว่า[มีใครบางคนในหมู่บ้านนี้ส่งคำขอลอบสังหารไปยังหัตถ์แห่งพระเจ้า]น่ะ”

 

“ใช่แล้วล่ะ แล้วในตอนที่ได้รับข้อมูลการลอบสังหารมาและกำลังคิดหาวิธีขัดขวางการลอบสังหารอยู่ ท่านเรียวกับซิลเวียจังก็กำลังเดินทางมาที่หมู่บ้านนี้พอดีนี่? เพราะงั้น เพื่อที่จะมาปกป้องท่านเรียวก็เลยมาที่หมู่บ้านนี้พร้อมกับพวกคาร์ล่าจังไงล่ะ”

(คำขอลอบสังหารมาในช่วงรับมรดกพอดีกับที่เรียวกับซิลเวียเดินทางมาที่หมู่บ้าน)

 

“เป็นงั้นเองเหรอ…..แต่ว่าทำไมถึงพาแม้กระทั่งพวกคุณคาร์ล่ามาด้วยล่ะ?”

 

“ถ้าจะปกป้องท่านเรียวแล้วล่ะก็ มีคนเยอะๆก็น่าจะดีกว่าน่ะ แล้วก็นะถ้าเป็นพวกคาร์ล่าจังแล้วล่ะก็ พวกเธอก็คงจะไม่ปฏิเสธแน่นอนอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ”

 

“แล้ว รู้รึยังล่ะว่าใครเป็นคนส่งคำขอในการลอบสังหารน่ะ?”

 

“ขอโทษนะ เรื่องนั้นยังไม่รู้เลยล่ะ เราก็ลองส่งลูกน้องของเราให้ลองไปสืบดูแล้วล่ะ แต่พวกนั้นก็ยังไม่โผล่หางออกมาเลยน่ะนะ….”

 

พอพูดแบบนั้นเสร็จเมย์ฟาก็ยื่นหน้าเอาแก้มมาถูกับแก้มผม

แก้มนุ้มนุ่ม รู้สึกดีจังแฮะ

 

“เรื่องนั้น….ไม่จริงน่า….!”

 

คุณซิลเวียที่นั่งอยู่ข้างผมเปล่งเสียงออกมาด้วยความช็อก

 

“จะบอกว่า มีคนส่งคำขอให้หัตถ์แห่งพระเจ้าเพราะอยากได้มรดกงั้นเหรอ? เรื่องบ้าๆแบบนั้น….!”

 

“อืม…เราก็พอจะได้ยินมาจากคิยาโนโตะแล้วล่ะนะ มรดกในครั้งนี้น่ะ มีซากโบราณสถานของไฮเอลฟ์อยู่ด้วยใช่มั้ยล่ะ? ถ้างั้น เราก็ไม่แปลกใจหรอกที่จะมีคนที่อยากได้มันมาครอง ถึงแม้ว่าจะต้องฆ่าอีกฝ่ายก็ตามน่ะ”

 

“แต่ว่า เรื่องแบบนั้นน่ะ มันไม่น่าจะ….”

 

ถึงแม้จะเป็นคุณซิลเวียแต่เจอแบบนี้ไปก็รู้สึกช็อกเหมือนกันสินะ

 

ผมหันไปเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

 

“คุณซิลเวีย บางทีแล้วคนร้ายอาจไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องด้วยกันเอง แต่อาจจะเป็นคู่หมั้นของพวกเธอก็ได้นะ พวกเมย์ฟาที่เป็นคนนอกยังเข้ามาที่นี่ได้เลย เพราะฉะนั้นคนอื่นๆก็คงเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ?”

 

“อะ อา…นั่นสินะ….ขอบคุณนะเรียว”

 

ผมพยายามทำให้คุณซิลเวียยิ้มได้ แต่ดูเหมือนว่าความช็อกจะยังไม่หายไป

ผมจึงหันไปหาเมย์ฟาเพื่อที่จะเปลี่ยนเรื่อง

 

“สรุปก็คือ เมย์ฟากับคนอื่นๆมาที่นี่เพื่อที่จะขัดขวางการลอบสังหารของหัตถ์แห่งพระเจ้างั้นสินะ”

 

“นั่นก็มีส่วนอยู่ล่ะน้า…..แต่ถ้าให้เรียงลำดับความสำคัญแล้ว ที่มาเป็นอันดับหนึ่งคือการคุ้มกันท่านเรียว รองลงมาคือการขัดขวางการลอบสังหารน่ะนะ”

 

“งั้นเหรอ….ถ้างั้น เหตุผลที่หมอนั่นมาที่นี่คืออะไรล่ะ?”

 

“อ๋อ นั่นน่ะเหรอ? เนื่องจากว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้คิยาโนโตะเป็นหนึ่งในทายาทที่จะได้รับมรดกน่ะนะ กิลด์แห่งความมืดก็เลยให้ผู้ชายมาเพื่อใช้ในการเข้าร่วมรับมรดกน่ะ ส่วนพวกเราเองก็ใช้ข้ออ้างว่า เราคือนักผจญภัยที่คิยาโนโตะจ้างมาคุ้มกันน่ะนะ”

 

พอพูดแบบนั้นแล้ว เมย์ฟาก็ยิ่งถูแก้มไปมามากกว่าเดิมอีก

ผิวเนียนนุ่มจริงๆเลยน้า ยัยนี่น่ะ

 

 

“แล้วก็นะ ถ้าจะคุ้มกันท่านเรียวล่ะก็–เราจำเป็นจะต้องลักพาตัวท่านเรียวไปจากที่นี่และเอาไปขังไว้ในฐานลับของกิลด์แห่งความมืดซักหนึ่งเดือนน่ะนะ เพราะงั้นขอความร่วมมือหน่อยได้มั้ยคะ?”

 

“มันก็ต้องไม่ได้อยู่แล้วน่ะสิ”

 

“ชิ ว่าแล้วเชียวไม่ได้สิน้า”

 

เมย์ฟายิ้มติดตลก แต่น้ำเสียงนี่ไม่ตลกเลยซักนิด

 

คุณซิลเวียกับคุณคาร์ล่าที่นั่งอยู่ข้างๆก็ทำหน้าบึ้งกัน

คุณคาร์ล่าก็ดูเหมือนจะวางมือไว้บนดาบที่คาดอยู่ตรงเอวด้วยแฮะ

 

“เรื่องที่พวกเมย์ฟามาที่นี่ก็พอจะเข้าใจแล้วล่ะ แต่ขอถามอะไรอีกหน่อยได้รึเปล่า?”

 

“อะไรเหรอ?”

 

“คุณคิยาโนโตะน่ะจะทำอะไรหลังจากนี้ล่ะ? จะแต่งงานกับหมอนั่นทั้งอย่างนั้นและรับมรดกด้วยรึเปล่า?”

 

“อ๊ะ แต่เดิมแล้วเรื่องมรดกนั่นน่ะ สำหรับฉันน่ะจะยังไงก็ช่างมันอยู่แล้วล่ะนะ~”

 

ก่อนที่เมย์ฟาจะทันได้ตอบ คุณคิยาโนโตะก็ตอบคำถามนั้นก่อน

คุณคิยาโนโตะพูดต่อพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า

 

“ฉันว่าจะถอนตัวในการรับมรดกในวันประชุมมรดกอยู่แล้วล่ะน้า เพราะงั้นวางใจได้ เนอะ?”

 

“เอ๊ะ งั้นเหรอครับ?”

 

“สำหรับฉันแล้วเรื่องมรดกน่ะจะยังไงก็ช่าง….แต่ว่าถ้าฉันเป็นคนที่ไม่ได้พาคู่หมั้นมาด้วยและไม่ได้ร่วมรับมรดกอยู่คนเดียวล่ะก็ มันรู้สึกเหมือนว่าฉันเป็นคนแพ้เลยใช่มั้ยล่า? เพราะงั้นในตอนที่ฉันกำลังสงสัยว่าจะทำยังไงดีอยู่นั่นเอง ท่านเมย์ฟาก็ได้มีข้อเสนอมาให้พอดีล่ะ♡”

 

“เอ่อ….แบบนั้นมันจะดีจริงๆเหรอครับ? ถ้าทำแบบนั้นคุณก็จะไม่ได้อะไรเลยน่ะสิครับ….”

 

พอได้ยินคำพูดของผมคุณคิยาโนโตะก็หันไปมองที่ชายคางคก

ถึงเธอจะยิ้มอยู่แต่สายตาของเธอเหมือนกับงูที่มองกบเลย

 

“ฮุฮุ เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาหรอกนะ♡ ที่จริงแล้วน่ะนะท่านเมย์ฟาบอกว่า ถ้าแผนการครั้งนี้สำเร็จล่ะก็ จะให้เขามาเป็นหมาน้อยส่วนตัวของฉัน 1 สัปดาห์เลยล่ะนะ♡”

 

มะ หมาน้อยส่วนตัว….!?

 

ฟังดูน่าสนุกดียังไงก็ไม่รู้แฮะ

แอบอิจฉานายคางคกนั่นนิดๆนะเนี่ย

 

“เนอะ? หลังจากการรับมรดกแสนวุ่นวายนี้จบลงและได้กลับไปที่กิลด์แห่งความมืดแล้วล่ะก็ จะเล่นด้วยเยอะๆเลยล่ะนะ♡ ทำอะไรดีนะ ใช้ยาชูกำลังและบังคับให้ช่วยตัวเองต่อหน้าทุกคนเลยดีมั้ยน้า?”

 

ขอกลับคำพูด! ไม่น่าสนุกเลยซักนิด!

 

ในตอนที่คุณคิยาโนโตะกำลังพูดออกมาอย่างมีความสุข

คุณคาร์ลาอุทานขึ้นมาว่า[เอ๋….] ออกมา

คุณซึกิคาเงะเองก็ยักไหล่พูดขึ้นมาว่า[คนหนุ่มสาวสมัยนี้เนี่ยหัวรุนแรงกันจังเลยน้อ]

 

แต่นายคางคกคนนั้นกลับ–

 

“ครับ อันนั้นน่ะผมเพิ่งทำไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเอง เพราะงั้นครั้งนี้ผมขออะไรที่มันแตกต่างไปจากเดิมด้วยเถอะครับ!”

 

“ระ เหรอ…”

 

เฮ้ย คนที่ตื่นเต้นกับเรื่องแบบนี้มีแค่นายคนเดียวแหละเฟ้ย!

คำตอบที่ดูร่าเริงแบบนั้น ทำให้คุณคิยาโนโตะถึงกับแอบถอยไปหน่อยๆเลยนะนั่น!

 

“อืม….อะแฮ่ม! อ๊ะ ขอโทษน้าซิลเวีย~ ที่พูดกับอดีตสามีของซิลเวียแบบนี้….รู้สึกไม่ดีรึเปล่า?”

 

คุณคิยาโนโตะกระแอมเพื่อเรียกสติคืนมาและหันไปหาคุณซิลเวีย

ถ้าพูดถึงซิลเวียแล้ว เธอกอดอดคิดตอนที่ฟังอยู่ตลอด

แต่พอคุณคิยาโนโตะหันมาพูดด้วย เธอก็เงยหน้าขึ้นมา

 

“หืม? อ๋อ ถ้าเรื่องนั้นฉันไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ฉันน่ะไม่ได้สนใจผู้ชายคนนั้นเลยแม้แต่นิด จะเป็นยังไงฉันก็ไม่ใส่ใจหรอก ไม่ต้องห่วงเรื่องของฉันหรอกนะ เธอทำตามใจชอบเถอะ”

 

เหมือนคุณซิลเวียจะไม่สนใจจริงๆแฮะ

แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆคุณคิยาโนโตะก็เข้าหาเธอ

 

“เห….อย่างงั้นเหรอ? ไม่เป็นไรแน่นะ? ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนก็ได้น้า?”

 

“อา ไม่เป็นไรหายห่วงแน่นอน ไม่ต้องสนใจฉันหรอก จะทำอะไรกับเจ้านั่นก็ตามสบายเลย”

 

“หืม…เข้าใจแล้วล่ะ ขอบคุณน้า”

 

ตรงกันข้ามกับคำพูดของคุณคิยาโนโตะเลย

หน้าเธอเหมือนจะสื่อว่า[ไม่สนุกเลยน้า]อยู่เลยแฮะ

 

“ที่สำคัญกว่านั้นคือ ถ้าครั้งนี้กลุ่มนักฆ่าที่อันตรายมามีส่วนล่ะก็ เรียวก็ควรจะกลับไปที่เมืองคาสซานดร้าจะดีกว่านะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนายขึ้นมาล่ะก็ ฉันคงจะเสียใจไปตลอดแน่ๆ”

 

ในตอนที่ผมกำลังรู้สึกไม่ไม่ค่อยดีกับปฏิกิริยาของคุณคิยาโนโตะเมื่อกี้นี้

คุณซิลเวียก็ได้พูดแบบนั้นขึ้นมา ผมจึงรีบหันไปหาคุณซิลเวีย

 

“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของผมหรอกนะคุณซิลเวีย เรามาถึงนี่แล้วนี่นา เราต้องผ่านมันไปให้ถึงที่สุดสิ”

 

“แต่ว่า….”

 

“แล้วก็นะ ถ้าบอกว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามาล่ะก็ คุณซิลเวียเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ถ้าเป็นงั้นแล้ว จะให้ผมหนีไปและทิ้งคุณซิลเวียไว้ข้างหลังคนเดียวน่ะ ผมทำไม่ได้หรอกนะ”

 

“อึก…เรียว…ขอบคุณ….จริงๆ….”

 

ดวงตาของคุณซิลเวียเริ่มเปียกชื้น  

แต่เมย์ฟาก็ยังคงเกาะหลังผมอยู่ไม่ขยับไปไหน  

ให้ตายสิ ดูไม่เท่เอาซะเลยเรา

 

แต่เอาเถอะ ถึงดูจะไม่เท่ก็ตาม แต่ถ้าคุณซิลเวียรู้สึกดีขึ้นบ้างก็ถือว่าดีแล้วล่ะนะ

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset