(ฉลองยอดอ่าน 200,000 View ยอมกระอักเลือดแถมให้อีกตอนครับอิอิ)
–การพบหน้ากันครั้งนี้มีเรื่องประหลาดหลายอย่างเกิดขึ้น
แต่ตอนนี้มันก็ได้ผ่านพ้นไปแล้วล่ะ
จนท้ายที่สุดคุณเอย์เซนก็ไม่กลับมา
คู่ของเธอนั้นก็ยังคงกินอาหารต่อไปด้วยหน้าบึ้ง
คู่ของลิเลียจัง หลังจากที่กินอาหารได้ไม่นานเขาก็ลุกจากเก้าอี้และเดินออกไป
ส่วนคุณคิยาโนโตะกับชายคางคกคนนั้นหลังกินอาหารเสร็จก็เดินออกไปพร้อมกัน
จริงๆแล้วผมอยากจะตามไปเพื่อถามนายคางคกคนนั้นว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้
แต่น่าเสียดาย เพราะท่านทวดมีเรื่องจะคุยด้วย
ผมกับคุณซิลเวียเลยยังลุกออกจากที่นั่งไม่ได้
ดูเหมือนว่าตอนที่ทักทายไปก่อนหน้านี้
ท่านทวดค่อนข้างจะประทับใจผมอยู่พอสมควรเลยล่ะ
นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมกับคุณซิลเวียยังไม่ได้ออกไปไหน
ทั้งๆที่คนอื่นกินอาหารเสร็จและออกไปกันหมดแล้ว
และแน่นอนว่าผมกับคุณซิลเวีย
ได้ตัดสินใจกันว่าจะยังไม่กลับไปที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ของคุณซิลเวีย
แต่จะไปที่บ้านของคุณคิยาโนโตะก่อน
ตอนแรกคุณแม่ของคุณซิลเวียจะไปด้วย แต่สุดท้ายคุณซิลเวียก็ได้เกลี้ยกล่อมเธอไปว่า
[หนูอยากขอลองไปคุยพร้อมกันกับเรียวด้วยกันสองคนดูก่อนน่ะ]
หลังจากนั้นพวกเราก็มาอยู่ที่หน้าบ้านของคุณคิยาโนโตะ
เป็นบ้านสีขาวหลังเล็ก เทียบกับบ้านคุณพ่อคุณแม่ของคุณซิลเวียแล้ว
คงจะเล็กกว่าประมาณ 5 เท่าได้
“บ้านหลังนี้สินะครับ?”
“อา….เธอแยกกับพ่อแม่มาอาศัยอยู่ที่นี่ตามลำพังน่ะนะ นี่ คิยาโนโตะ นี่ฉันเอง ซิลเวีย”
คุณซิลเวียเคาะประตูบ้าน ท่าทางของเธอดูหงุดหงิดมากกว่าปกติ
ก็นะ มันก็ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะใจเย็นอยู่ได้ซักหน่อยนี่นา
“ค่าา รอก่อนน้าซิลเวีย~ เดี๋ยวจะเปิดให้เดี๋ยวนี้แหละ”
หลังจากผ่านไปได้ซักพักประตูก็ค่อยๆเปิดออก
จากนั้นคุณซิลเวียก็รีบเดินเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
“ขอโทษที่มาหาดึกดื่นแบบนี้นะ พอดีมีเรื่องอยากคุยด้วย–“
คุณซิลเวียที่กำลังจะพูดต่อจู่ๆก็หยุดเดิน
ผมคิดว่ามันมีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นรึเปล่า ผมเลยเดินตามเข้าไปในบ้าน
และทันทีที่ผมเดินเข้าไปในบ้าน จู่ๆก็มีคนเข้ามากอดผมจากทางด้านหลัง
“–เรียว!”
“อะ….เอ๊ะ คุณคาร์ล่า!?”
ตกใจหมดเลย
คนที่จู่ๆก็พุ่งเข้ามากอดผมนั้นเป็นคนที่ผมคุ้นหน้าเป็นอย่างดี
คนนั้นก็คือคุณคาร์ลา นักผจญภัยแรงค์ S ปาร์ตี้โรเซนครูเซอร์จากเมืองคาสซานดร้านั่นเอง
คุณคาร์ล่า ผู้หญิงที่มีผมสีแดงประบ่า หน้าตาดี ดวงตากลมโตสดใส
ใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงขาสั้นที่โชว์ให้เห็นถึงต้นขาเรียวยาวสวยของเธออย่างเต็มที่
ทะ ทำไมคุณคาร์ล่าถึงมาอยู่ที่นี่ได้กันล่ะ!?
ในขณะที่ผมกำลังสับสนอยู่นั่นเอง ผมก็ได้ยินอีกเสียงนึงที่คุ้นเคย
“เดี๋ยวเถอะๆ คาร์ล่าจัง ทำแบบนี้ท่านเรียวตกใจหมดเลยเห็นมั้ย”
“คุณซึกิคาเงะก็ด้วย!? ทำไมทั้งสองคนถึงมาอยู่ที่นี่….”
สิ่งที่น่าตกใจคือ แม้แต่สาวหูจิ้งจอกแห่งโรเซนครูเซอร์ คุณซึกิคาเงะก็มาด้วย
ไม่เหมือนกับคุณคาร์ล่า คุณซึกิคาเงะเป็นอมนุษย์สวมกิโมโนดั้งเดิมของบ้านเกิดเธอ
เธอตัวเล็กและหน้าเด็ก แต่เธออายุเยอะกว่าผมมาก
“คิยาโนโตะ นี่มันหมายความว่ายังไงกันน่ะ?”
“อย่าทำหน้าตาน่ากลัวขนาดนั้นสิซิลเวีย เดี๋ยวเล่าให้ฟังระหว่างดื่มชานะ เพราะงั้นมาทางนี้สิ”
คุณซิลเวียยังคงสับสนงุนงง
แต่ก่อนอื่นก็เอาเป็นว่าเดินตามคุณคิยาโนโตะไปเพื่อฟังเรื่องราวดูก่อนดีกว่า
เรามาห้องที่เหมือนจะเป็นห้องนั่งเล่นและห้องอาหาร
มีโต๊ะและเก้าอี้สำหรับ 6 คนอยู่กลางห้อง แล้วก็ที่สำหรับใช้น้ำที่ต่อน้ำขึ้นมาจากใต้ดิน
ถึงแม้ห้องจะดูไม่รกมาก แต่ถ้าเทียบกับบ้านของคุณซิลเวียแล้วก็ถือว่าแคบล่ะนะ
ตอนที่เห็นจากข้างนอกก็คิดไว้ว่าคงเป็นบ้านสำหรับคนที่อยู่คนเดียว
แต่ที่นี่มันกลับดูใหญ่กว่าบ้านชั้นเดียวที่ผมเคยอยู่ซะอีกนะเนี่ย
ที่นั่งอยู่บนโต๊ะตอนนี้ฝั่งผมมี ผม คุณซิลเวีย คุณคาร์ล่า
ส่วนฝั่งตรงข้ามมี คุณซึกิคาเงะ คุณคิยาโนโตะกับนายคางคก
แต่จริงๆแล้วนายคางคกก็นั่งที่เก้าอี้ตัวนั้นตั้งแต่แรกแล้วแหละนะ
ในตอนที่เขาเห็นผมกับคุณซิลเวียเดินเข้ามาในห้อง
เขาก็รีบฟุบหน้าหนีด้วยความตกใจกลัวเลยทีเดียว
คุณซิลเวียเองก็ไม่แม้แต่จะชายตามองนายคางคกคนนั้นแม้แต่นิด
เธอมองไปเพียงแค่คุณคิยาโนโตะเท่านั้น
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจชายคางคกคนนั้นเลยซักนิดเดียว
“คิยาโนโตะ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย? ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่กับพวกคาร์ล่าได้ล่ะ?”
“เรื่องนั้นเดี๋ยวพวกเราจะอธิบายให้ฟังเองค่า”
คิดว่าจะไม่มีเรื่องให้ตกใจอีกแล้วนะ….แต่ผมกับคุณซิลเวียยังตกใจได้อีก
คนที่เดินเข้ามาในห้องด้วยเสียงที่แผ่วเบานั้นก็ยังเป็นคนรู้จักของเราอยู่ดี
“เมย์ฟา….ซึสึเองก็ด้วย!? ทำไมพวกเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละ?”
“เหมียว! แม้แต่เรียวก็ยังตกใจเลยล่ะสิท่า?”
“ซึสึจังช่วยเงียบก่อนได้มั้ย ตอนนี้เรากำลังอธิบายอยู่น่ะน้า”
“เมี้ยวๆ ขอโทษนะเมี้ยว เมย์ฟาจัง!”
คนแรกคือสาวหูกระต่ายเมย์ฟา
ส่วนอีกคนที่พูดเมี้ยวตอนจบประโยคคือซึสึนั่นเอง
ทั้งสองคนเป็นสมาชิกขององค์กรอาชญากรรมที่มีชื่อว่า[กิลด์แห่งความมืด]
แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันจนเมย์ฟากับซึสึได้กลายมาเป็นคนรู้จักกัน (กับเรียวนะ)
ตอนนี้ทั้งคู่เป็นนักผจญภัยของเมืองคาสซานดร้าและทำงานอยู่ในกิลด์แห่งความมืดด้วย
แต่ตอนนี้ที่ห้องไม่มีเก้าอี้ให้พวกเธอสองคนแล้ว เพราะว่าห้องนี้มีเก้าอี้แค่ 6 ตัว
ผมคิดว่าเธอคงจะยืนอธิบายทั้งๆอย่างนั้นซะอีก
แต่กลับกลายเป็นว่าเมย์ฟาเดินเข้ามาข้างหลังผม
แล้วเธอก็โอบแขนรอบตัวเพื่อกอดผมแทน
ท่าแบบนี้ทำให้หน้าอกของเมย์ฟาแนบชิดกับหลังหัวของผมเลย
คุณซิลเวียที่นั่งอยู่ข้างๆจ้องมาที่เมย์ฟา
แต่เมย์ฟาก็ทำเป็นไม่สนใจและเริ่มเปิดปากพูด
“จะเริ่มอธิบายจากตรงไหนดีน้า….เอ่อ…ใช่แล้ว คิยาโนโตะที่อยู่ตรงนั้นน่ะเป็นหนึ่งในสมาชิกกิลด์แห่งความมืดล่ะ”
“อะไรนะ!?”
“อื้อ ช่ายแล้วล่ะ~”
คุณซิลเวียหันไปหาคุณคิยาโนโตะด้วยตาที่เบิกกว้าง
“คิยาโนโตะเนี่ยนะเป็นสมาชิกกิลด์แห่งความมืด…..!?”
“ใช่แล้วล่ะ งั้นซิลเวียกับท่านเรียวน่ะ รู้จักองค์กรลอบสังหารที่มีชื่อว่าหัตถ์แห่งพระเจ้ารึเปล่า?”
(ขอไม่ใช้คำว่าหัตถ์เทวะนะครับ เดี๋ยวได้เตะฟุตบอล5555555)
คุณซิลเวียพยักหน้าให้กับคำถามนั้น
“รู้สิ พวกนั้นคือพวกที่ลอบสังหารพระสันตะปาปาแห่งออสโตวา เมื่อ 5 ปีก่อนใช่มั้ยล่ะ? พวกที่เป็นนักฆ่า แต่ดันจงใจรับผิดกับอาชญากรรมที่ตัวเองก่อไว้สินะ แต่ว่าเรื่องนั้นมันทำไมล่ะ?”
“ดูเหมือนว่าในหมู่บ้านนี้จะมีใครบางคนส่งคำร้องในการลอบสังหารไปที่หัตถ์แห่งพระเจ้าน่ะนะ”
“ห๊ะ!?”
คุณซิลเวียกลอกตาไปมา เมย์ฟาก็ยักไหล่
“เอ่อ ก็ถ้าจะให้พูดก็คือ….ที่จริงแล้ว หัตถ์แห่งพรเจ้าน่ะเป็นองค์เคยเป็นส่วนหนึ่งของกิลด์แห่งความมืดของเราน่ะนะ เป็นองค์กรที่แยกตัวออกไปประมาณ 100 ปีก่อนเนื่องจากแนวคิดที่ไม่ตรงกันน่ะนะ”
“แนวคิดที่ไม่ตรงกัน?”
“อื้อ ถ้าจะให้ยกตัวอย่างล่ะก็ ถ้าเป็นการลอบสังหารของกิลด์แห่งความมืดจะมีกฎว่าห้ามยุ่งกับทรัพย์สินของเป้าหมายที่ตายไปแล้วน่ะนะ แต่ถ้าเป็น หัตถ์แห่งพระเจ้าก็ทำได้น่ะ พวกเขาจะพูดประมาณว่า[นี่เป็นพรจากหัตถ์แห่งพระเจ้า]ประมาณนี้น่ะนะ”
พอพูดแบบนั้นเสร็จเมย์ฟาก็ทำหน้าขมขื่น
สำหรับเมย์ฟาที่ปกติจะยิ้มอ่อนๆอยู่เสมอแล้ว
ใบหน้าที่เธอแสดงให้เห็นในตอนนี้ถือว่าหาได้ยากมากๆเลยล่ะ
ดูเหมือนว่าหัตถ์แห่งพระเจ้านั่นจะเป็นคู่ต่อสู้ที่ต่อกรได้ยากล่ะสินะ
“ก็อย่างที่ว่าไปแหละนะ สำหรับพวกเราแล้ว หัตถ์แห่งพระเจ้าน่ะเป็นองค์กรที่เราต้องการจะกำจัดล่ะ เพราะงั้นกิลด์แห่งความมืดจึงมี สายลับที่ตรวจสอบข้อมูลความเคลื่อนไหวของหัตถ์พระเจ้าน่ะ…..แล้วทีนี้ข้อมูลที่ว่านั่นก็พบที่หมู่บ้านนี้ไงล่ะ”
“เมื่อกี้ก็บอกไว้สินะว่า[มีใครบางคนในหมู่บ้านนี้ส่งคำขอลอบสังหารไปยังหัตถ์แห่งพระเจ้า]น่ะ”
“ใช่แล้วล่ะ แล้วในตอนที่ได้รับข้อมูลการลอบสังหารมาและกำลังคิดหาวิธีขัดขวางการลอบสังหารอยู่ ท่านเรียวกับซิลเวียจังก็กำลังเดินทางมาที่หมู่บ้านนี้พอดีนี่? เพราะงั้น เพื่อที่จะมาปกป้องท่านเรียวก็เลยมาที่หมู่บ้านนี้พร้อมกับพวกคาร์ล่าจังไงล่ะ”
(คำขอลอบสังหารมาในช่วงรับมรดกพอดีกับที่เรียวกับซิลเวียเดินทางมาที่หมู่บ้าน)
“เป็นงั้นเองเหรอ…..แต่ว่าทำไมถึงพาแม้กระทั่งพวกคุณคาร์ล่ามาด้วยล่ะ?”
“ถ้าจะปกป้องท่านเรียวแล้วล่ะก็ มีคนเยอะๆก็น่าจะดีกว่าน่ะ แล้วก็นะถ้าเป็นพวกคาร์ล่าจังแล้วล่ะก็ พวกเธอก็คงจะไม่ปฏิเสธแน่นอนอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ”
“แล้ว รู้รึยังล่ะว่าใครเป็นคนส่งคำขอในการลอบสังหารน่ะ?”
“ขอโทษนะ เรื่องนั้นยังไม่รู้เลยล่ะ เราก็ลองส่งลูกน้องของเราให้ลองไปสืบดูแล้วล่ะ แต่พวกนั้นก็ยังไม่โผล่หางออกมาเลยน่ะนะ….”
พอพูดแบบนั้นเสร็จเมย์ฟาก็ยื่นหน้าเอาแก้มมาถูกับแก้มผม
แก้มนุ้มนุ่ม รู้สึกดีจังแฮะ
“เรื่องนั้น….ไม่จริงน่า….!”
คุณซิลเวียที่นั่งอยู่ข้างผมเปล่งเสียงออกมาด้วยความช็อก
“จะบอกว่า มีคนส่งคำขอให้หัตถ์แห่งพระเจ้าเพราะอยากได้มรดกงั้นเหรอ? เรื่องบ้าๆแบบนั้น….!”
“อืม…เราก็พอจะได้ยินมาจากคิยาโนโตะแล้วล่ะนะ มรดกในครั้งนี้น่ะ มีซากโบราณสถานของไฮเอลฟ์อยู่ด้วยใช่มั้ยล่ะ? ถ้างั้น เราก็ไม่แปลกใจหรอกที่จะมีคนที่อยากได้มันมาครอง ถึงแม้ว่าจะต้องฆ่าอีกฝ่ายก็ตามน่ะ”
“แต่ว่า เรื่องแบบนั้นน่ะ มันไม่น่าจะ….”
ถึงแม้จะเป็นคุณซิลเวียแต่เจอแบบนี้ไปก็รู้สึกช็อกเหมือนกันสินะ
ผมหันไปเรียกเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“คุณซิลเวีย บางทีแล้วคนร้ายอาจไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องด้วยกันเอง แต่อาจจะเป็นคู่หมั้นของพวกเธอก็ได้นะ พวกเมย์ฟาที่เป็นคนนอกยังเข้ามาที่นี่ได้เลย เพราะฉะนั้นคนอื่นๆก็คงเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ?”
“อะ อา…นั่นสินะ….ขอบคุณนะเรียว”
ผมพยายามทำให้คุณซิลเวียยิ้มได้ แต่ดูเหมือนว่าความช็อกจะยังไม่หายไป
ผมจึงหันไปหาเมย์ฟาเพื่อที่จะเปลี่ยนเรื่อง
“สรุปก็คือ เมย์ฟากับคนอื่นๆมาที่นี่เพื่อที่จะขัดขวางการลอบสังหารของหัตถ์แห่งพระเจ้างั้นสินะ”
“นั่นก็มีส่วนอยู่ล่ะน้า…..แต่ถ้าให้เรียงลำดับความสำคัญแล้ว ที่มาเป็นอันดับหนึ่งคือการคุ้มกันท่านเรียว รองลงมาคือการขัดขวางการลอบสังหารน่ะนะ”
“งั้นเหรอ….ถ้างั้น เหตุผลที่หมอนั่นมาที่นี่คืออะไรล่ะ?”
“อ๋อ นั่นน่ะเหรอ? เนื่องจากว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้คิยาโนโตะเป็นหนึ่งในทายาทที่จะได้รับมรดกน่ะนะ กิลด์แห่งความมืดก็เลยให้ผู้ชายมาเพื่อใช้ในการเข้าร่วมรับมรดกน่ะ ส่วนพวกเราเองก็ใช้ข้ออ้างว่า เราคือนักผจญภัยที่คิยาโนโตะจ้างมาคุ้มกันน่ะนะ”
พอพูดแบบนั้นแล้ว เมย์ฟาก็ยิ่งถูแก้มไปมามากกว่าเดิมอีก
ผิวเนียนนุ่มจริงๆเลยน้า ยัยนี่น่ะ
“แล้วก็นะ ถ้าจะคุ้มกันท่านเรียวล่ะก็–เราจำเป็นจะต้องลักพาตัวท่านเรียวไปจากที่นี่และเอาไปขังไว้ในฐานลับของกิลด์แห่งความมืดซักหนึ่งเดือนน่ะนะ เพราะงั้นขอความร่วมมือหน่อยได้มั้ยคะ?”
“มันก็ต้องไม่ได้อยู่แล้วน่ะสิ”
“ชิ ว่าแล้วเชียวไม่ได้สิน้า”
เมย์ฟายิ้มติดตลก แต่น้ำเสียงนี่ไม่ตลกเลยซักนิด
คุณซิลเวียกับคุณคาร์ล่าที่นั่งอยู่ข้างๆก็ทำหน้าบึ้งกัน
คุณคาร์ล่าก็ดูเหมือนจะวางมือไว้บนดาบที่คาดอยู่ตรงเอวด้วยแฮะ
“เรื่องที่พวกเมย์ฟามาที่นี่ก็พอจะเข้าใจแล้วล่ะ แต่ขอถามอะไรอีกหน่อยได้รึเปล่า?”
“อะไรเหรอ?”
“คุณคิยาโนโตะน่ะจะทำอะไรหลังจากนี้ล่ะ? จะแต่งงานกับหมอนั่นทั้งอย่างนั้นและรับมรดกด้วยรึเปล่า?”
“อ๊ะ แต่เดิมแล้วเรื่องมรดกนั่นน่ะ สำหรับฉันน่ะจะยังไงก็ช่างมันอยู่แล้วล่ะนะ~”
ก่อนที่เมย์ฟาจะทันได้ตอบ คุณคิยาโนโตะก็ตอบคำถามนั้นก่อน
คุณคิยาโนโตะพูดต่อพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
“ฉันว่าจะถอนตัวในการรับมรดกในวันประชุมมรดกอยู่แล้วล่ะน้า เพราะงั้นวางใจได้ เนอะ?”
“เอ๊ะ งั้นเหรอครับ?”
“สำหรับฉันแล้วเรื่องมรดกน่ะจะยังไงก็ช่าง….แต่ว่าถ้าฉันเป็นคนที่ไม่ได้พาคู่หมั้นมาด้วยและไม่ได้ร่วมรับมรดกอยู่คนเดียวล่ะก็ มันรู้สึกเหมือนว่าฉันเป็นคนแพ้เลยใช่มั้ยล่า? เพราะงั้นในตอนที่ฉันกำลังสงสัยว่าจะทำยังไงดีอยู่นั่นเอง ท่านเมย์ฟาก็ได้มีข้อเสนอมาให้พอดีล่ะ♡”
“เอ่อ….แบบนั้นมันจะดีจริงๆเหรอครับ? ถ้าทำแบบนั้นคุณก็จะไม่ได้อะไรเลยน่ะสิครับ….”
พอได้ยินคำพูดของผมคุณคิยาโนโตะก็หันไปมองที่ชายคางคก
ถึงเธอจะยิ้มอยู่แต่สายตาของเธอเหมือนกับงูที่มองกบเลย
“ฮุฮุ เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาหรอกนะ♡ ที่จริงแล้วน่ะนะท่านเมย์ฟาบอกว่า ถ้าแผนการครั้งนี้สำเร็จล่ะก็ จะให้เขามาเป็นหมาน้อยส่วนตัวของฉัน 1 สัปดาห์เลยล่ะนะ♡”
มะ หมาน้อยส่วนตัว….!?
ฟังดูน่าสนุกดียังไงก็ไม่รู้แฮะ
แอบอิจฉานายคางคกนั่นนิดๆนะเนี่ย
“เนอะ? หลังจากการรับมรดกแสนวุ่นวายนี้จบลงและได้กลับไปที่กิลด์แห่งความมืดแล้วล่ะก็ จะเล่นด้วยเยอะๆเลยล่ะนะ♡ ทำอะไรดีนะ ใช้ยาชูกำลังและบังคับให้ช่วยตัวเองต่อหน้าทุกคนเลยดีมั้ยน้า?”
ขอกลับคำพูด! ไม่น่าสนุกเลยซักนิด!
ในตอนที่คุณคิยาโนโตะกำลังพูดออกมาอย่างมีความสุข
คุณคาร์ลาอุทานขึ้นมาว่า[เอ๋….] ออกมา
คุณซึกิคาเงะเองก็ยักไหล่พูดขึ้นมาว่า[คนหนุ่มสาวสมัยนี้เนี่ยหัวรุนแรงกันจังเลยน้อ]
แต่นายคางคกคนนั้นกลับ–
“ครับ อันนั้นน่ะผมเพิ่งทำไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเอง เพราะงั้นครั้งนี้ผมขออะไรที่มันแตกต่างไปจากเดิมด้วยเถอะครับ!”
“ระ เหรอ…”
เฮ้ย คนที่ตื่นเต้นกับเรื่องแบบนี้มีแค่นายคนเดียวแหละเฟ้ย!
คำตอบที่ดูร่าเริงแบบนั้น ทำให้คุณคิยาโนโตะถึงกับแอบถอยไปหน่อยๆเลยนะนั่น!
“อืม….อะแฮ่ม! อ๊ะ ขอโทษน้าซิลเวีย~ ที่พูดกับอดีตสามีของซิลเวียแบบนี้….รู้สึกไม่ดีรึเปล่า?”
คุณคิยาโนโตะกระแอมเพื่อเรียกสติคืนมาและหันไปหาคุณซิลเวีย
ถ้าพูดถึงซิลเวียแล้ว เธอกอดอดคิดตอนที่ฟังอยู่ตลอด
แต่พอคุณคิยาโนโตะหันมาพูดด้วย เธอก็เงยหน้าขึ้นมา
“หืม? อ๋อ ถ้าเรื่องนั้นฉันไม่เป็นไรหรอก ตอนนี้ฉันน่ะไม่ได้สนใจผู้ชายคนนั้นเลยแม้แต่นิด จะเป็นยังไงฉันก็ไม่ใส่ใจหรอก ไม่ต้องห่วงเรื่องของฉันหรอกนะ เธอทำตามใจชอบเถอะ”
เหมือนคุณซิลเวียจะไม่สนใจจริงๆแฮะ
แต่ไม่รู้ทำไมจู่ๆคุณคิยาโนโตะก็เข้าหาเธอ
“เห….อย่างงั้นเหรอ? ไม่เป็นไรแน่นะ? ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องฝืนก็ได้น้า?”
“อา ไม่เป็นไรหายห่วงแน่นอน ไม่ต้องสนใจฉันหรอก จะทำอะไรกับเจ้านั่นก็ตามสบายเลย”
“หืม…เข้าใจแล้วล่ะ ขอบคุณน้า”
ตรงกันข้ามกับคำพูดของคุณคิยาโนโตะเลย
หน้าเธอเหมือนจะสื่อว่า[ไม่สนุกเลยน้า]อยู่เลยแฮะ
“ที่สำคัญกว่านั้นคือ ถ้าครั้งนี้กลุ่มนักฆ่าที่อันตรายมามีส่วนล่ะก็ เรียวก็ควรจะกลับไปที่เมืองคาสซานดร้าจะดีกว่านะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับนายขึ้นมาล่ะก็ ฉันคงจะเสียใจไปตลอดแน่ๆ”
ในตอนที่ผมกำลังรู้สึกไม่ไม่ค่อยดีกับปฏิกิริยาของคุณคิยาโนโตะเมื่อกี้นี้
คุณซิลเวียก็ได้พูดแบบนั้นขึ้นมา ผมจึงรีบหันไปหาคุณซิลเวีย
“ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของผมหรอกนะคุณซิลเวีย เรามาถึงนี่แล้วนี่นา เราต้องผ่านมันไปให้ถึงที่สุดสิ”
“แต่ว่า….”
“แล้วก็นะ ถ้าบอกว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามาล่ะก็ คุณซิลเวียเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ ถ้าเป็นงั้นแล้ว จะให้ผมหนีไปและทิ้งคุณซิลเวียไว้ข้างหลังคนเดียวน่ะ ผมทำไม่ได้หรอกนะ”
“อึก…เรียว…ขอบคุณ….จริงๆ….”
ดวงตาของคุณซิลเวียเริ่มเปียกชื้น
แต่เมย์ฟาก็ยังคงเกาะหลังผมอยู่ไม่ขยับไปไหน
ให้ตายสิ ดูไม่เท่เอาซะเลยเรา
แต่เอาเถอะ ถึงดูจะไม่เท่ก็ตาม แต่ถ้าคุณซิลเวียรู้สึกดีขึ้นบ้างก็ถือว่าดีแล้วล่ะนะ