โม่จื่อเฉินไม่ได้พูดอะไรมากนัก เขาทำเพียงกอดถังหนิงก่อนเอ่ย “แม่ครับ ผมคิดถึงแม่”
“ถ้าคิดถึงแม่อย่างนั้นก็น่าจะกลับบ้านมาเยี่ยมบ่อยกว่านี้สิ” ถังหนิงสั่ง “ตลอดปีนี้แม่แทบจะไม่ได้เจอหน้าลูกเลยนะ จะไม่ให้แม่เป็นห่วงได้ยังไงล่ะ”
“ต่อไปนี้ลูกต้องมารายงานตัวกับแม่ทุกเดือน” โม่ถิงสั่งเมื่อได้ยินว่าภรรยาของตัวเองเป็นกังวล
“ครับพ่อ”
“พี่รอง พี่นี่น่าเบื่อจริงๆ ทำไมถึงได้ชอบการเป็นครูฟิสิกส์ขนาดนั้นล่ะคะ” โม่จื่อเหยียนได้เชื้อพ่อแม่มาเต็มๆ ไม่เพียงแต่เธอจะหน้าตาสวยยังมีขาคู่เรียวยาวอีกด้วย
“พี่ว่าชีวิตเรียบง่ายอย่างนี้ก็ดีออก” โม่จื่อเฉินตอบ “พี่กำลังหาแฟนสักคนด้วยนะ พอถึงเวลาเดี๋ยวพี่จะพาเธอมาเจอทุกคนแล้วกัน”
“พี่รองคะ หนูขอเตือนพี่ไว้เลยนะ มีไม่กี่ตระกูลในปักกิ่งที่เทียบกับเราได้นะคะ” โม่จื่อเหยียนว่าฮึดฮัด “ถ้าเธออยากจะเป็นพี่สะใภ้ของหนู เธอต้องได้รับการยอมรับจากคนทั้งตระกูลของเรา”
“ยัยตัวแสบ” โม่จื่อเฉินหัวเราะพลางลูบศีรษะน้องสาว
“พี่รอง พี่เป็นคนฉลาดที่สุดที่หนูรู้จักเลย ดูจากที่หนูไปหาพี่ตลอดเวลามีเรื่องแทนที่จะเป็นพี่ใหญ่ที่เอาแต่ใช้กำลังสิคะ พี่ต้องปกป้องหนูต่อไปนะคะ” โม่จื่อเหยียนซบศีรษะบนไหล่ของโม่จื่อเฉิน
“ครับ พี่รู้แล้ว”
“อีกอย่างพี่ไม่ต้องการพี่ไฉ่อีกแล้วเหรอ พี่ไฉ่ชอบพี่มากที่สุดเลยนะคะ”
พี่ไฉ่ที่โม่จื่อเหยียนพูดถึงไม่ใช่ใครอื่น นอกจากหนานกงไฉ่หรือที่รู้จักกันในชื่อเสี่ยวต้านเขอ
แม้จะผ่านมานานหลายปีแล้วเธอก็ยังชอบสองพี่น้อง ทว่าโม่จื่อเฉินมักจะหลบหน้าเธออยู่เสมอ อันดับแรกคือเขาไม่ได้ชอบเธอ และอันดับที่สองคือเขารู้ว่าโม่จื่อซี พี่ชายของเขาหลงรักเธออยู่
เขาไม่อยากทะเลาะกับพี่ชายด้วยเรื่องผู้หญิง
“ถ้าพี่มีโอกาสจะพาแฟนมาเจอเธอที่บ้านแล้วกัน”
“หมายความว่ายังไงคะ ถ้ามีโอกาสเหรอ พี่ต้องพาเธอมาเจอฉันสิ!”
โม่จื่อเฉินนั่งทานมื้อเย็นด้วยความรู้สึกหลากหลาย หากแต่ไม่นานสายโทรศัพท์ก็ดังขึ้นแทรกความคิดของเขา
โม่จื่อเหยียนโวยวายขึ้นทันทีที่เห็นพี่ชายหยิบโทรศัพท์ออกมา “ทำไมครูสมัยนี้ถึงได้ยุ่งนักล่ะคะ”
“แม่ครับ พ่อครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า กินข้าวกันต่อเถอะ ฉันจะไปส่งเขาเอง” ถังหนิงเอ่ยขณะยืนขึ้นพาโม่จื่อเฉินไปที่ประตูบ้าน
เมื่อเห็นลูกชายตัวน้อยของเธอเติบโตเป็นชายหนุ่มในตอนนี้ ถังหนิงรู้สึกปลาบปลื้มใจเล็กน้อย
“จื่อเฉิน คนอื่นอาจจะไม่ทันสังเกตแต่ลูกโกหกแม่ไม่ได้หรอกนะ แม่จะไม่ตั้งคำถามกับตัวตนที่แท้จริงของลูก แต่ลูกต้องรับปากว่าจะรักษาตัวให้ปลอดภัยตลอดเวลา อยู่ๆ แม่จะเสียลูกชายไปไม่ได้”
โม่จื่อเฉินไม่ได้อธิบายแต่อย่างใด ทำเพียงยื่นแขนออกมากอดแม่ตัวเองไว้ “เข้าใจแล้วครับแม่”
“ไปเถอะ”
คนเราเกิดมาพร้อมกับความทะเยอทะยาน
ถังหนิงพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่าเธอไม่สนใจว่าลูกชายของเธอจะทำอาชีพอะไร จะเลือกคนรักแบบไหน ตราบใดที่พวกเขาสบายใจกับการตัดสินใจของตัวเองเท่านั้นก็ทำให้เธอพอใจแล้ว
ทว่าโม่จื่อเฉิน…
ถังหนิงถอนหายใจเมื่อนึกถึงลูกชาย ชายหนุ่มคนนี้เฉลียวฉลาดมาตั้งแต่เด็กและมักจะหาทางก้าวหน้าอยู่เสมอ สัญชาตญาณของเธอจึงบอกว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงครูสอนฟิสิกส์ธรรมดา
และเธอก็คิดถูก!
ทันทีที่โม่จื่อเฉินออกจากไฮแอทรีเจนซี เขาถอดแว่นตา กระโดดขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ในที่จอดรถห้องพักของเขา และขับตรงไปยังสถานที่ที่นัดพบกันไว้
การเป็นครูสอนฟิสิกส์ทั้งหมดเป็นแค่เรื่องโกหก… ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือสายสืบของกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติ
ด้วยระดับสติปัญญาที่สูงของเขา กระทรวงความมั่นคงแห่งชาติได้คัดเลือกเขามาตั้งแต่ยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย เดิมทีเขาเพียงแค่ทำงานเบื้องหลัง แต่หลังจากนั้นเขาก็ได้เลื่อนขั้นให้รับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง
การเป็นครูฟิสิกส์จึงเป็นเพียงฉากหน้าปิดบังตัวตนที่แท้จริงของเขาเท่านั้น
มันยิ่งทำให้เขาสะดวกในการถูกส่งไปทำภารกิจได้ทุกเมื่อ…
ภารกิจของเขาในครั้งนี้คือการสืบว่าศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเกี่ยวข้องกับผลงานที่มีความเสี่ยงที่จะกระทบกับความมั่นคงของชาติหรือไม่
ไม่มีใครในครอบครัวของเขารู้ว่าเขาทำงานให้กับกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติเพราะเขาได้เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลไว้
หากแต่คนที่ช่างสังเกตอย่างถังหนิงจะไม่ระแคะระคายเรื่องนี้ได้อย่างไร
ระหว่างที่ทำภารกิจโม่จื่อเฉินเปลี่ยนเป็นคนละคน เขาสวมเสื้อแจ็กเกตหนัง ขับมอเตอร์ไซค์และเต็มไปด้วยความเข้มแข็ง เมื่อพูดถึงการต่อสู้ บางทีแม้แต่คนที่ฝึกมาในกองทัพอย่างโม่จื่อซียังไม่อาจสู้เขาได้ด้วยซ้ำเพราะว่าเขามีไหวพริบมาก
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ เขากลับมาที่ห้องพักและเปลี่ยนกลับไปมีภาพลักษณ์เช่นเดิม เขาจัดการมันได้อย่างไร้ที่ติ
ตอนนั้นเองที่ในที่สุดเขาก็เห็นข้อความจากเชียนหลาน
ในฐานะเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง โม่จื่อเฉินมีตัวตนและความสามารถมากมาย เขาตามสืบเบื้องหลังและทั้งหมดและประวัติครอบครัวของเชียนหลานได้หากเขาต้องการจะทำ แต่เขาไม่ได้ทำเช่นนั้น บางทีอาจเป็นเพราะมีบางอย่างที่เป็นปริศนาเกี่ยวกับเธอที่เขาไม่อาจเข้าใจได้
เขาจึงทำเพียงตอบกลับไป [ครับ ผมนอนแล้ว…]
ทว่าคนที่นอนหลับไปแล้วจะตอบข้อความได้อย่างไรกันล่ะ
เชียนหลานอดไม่ได้ที่จะขำเมื่อเห็นคำตอบของเขา
[มีหนังที่ฉันอยากดูคืนพรุ่งนี้ คุณว่างไหมคะ ฉันดูตารางสอนของคุณและดูเหมือนคุณจะไม่ติดอะไรนะคะ]
[ครับ ถูกของคุณ ผมไม่มีสอนพรุ่งนี้ครับ คุณจัดการจองตั๋วได้เลยครับ]
คนที่ออกจะน่าเบื่อทั้งสองคนได้สนใจในตัวกันและกันเข้าแล้วจริงๆ
ช่างเป็นสถานการณ์ที่น่าแปลกไม่น้อย
คืนต่อมาโม่จื่อเฉินไม่ได้อยู่ในชุดสูทสีดำอย่างที่เคย ครั้งนี้เขาปรากฏตัวในเสื้อแจ็กเกตสีน้ำตาล เมื่อเชียนหลานเห็นเข้าเธอก็พบว่าเขาชวนมองเหลือเกิน
“น่าเสียดายที่คุณไม่ได้เป็นนายแบบนะคะ”
ด้วยยีนส์เด่นของโม่ถิงกับถังหนิง เป็นธรรมดาที่โม่จื่อเฉินจะได้ลักษณะที่ดีที่สุดของพวกเขามา
“แต่อยู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าคุณดูคล้ายดาราดังคนหนึ่งน่ะค่ะ”
“จริงเหรอครับ” โม่จื่อเฉินตอบกว้างๆ เขาเป็นมืออาชีพด้านการตัดบท
แต่เชียนหลานไม่ได้ถือสา เธอทำเพียงหัวเราะก่อนถาม “คุณชอบหนังสืบสวนไหมคะ”
“ก็ไม่แย่นะครับ” เขาตอบ “ผมก็ดูบ้าง”
แม้จริงๆ แล้วเขาจะคิดว่าพวกมันไร้สาระก็ตาม
“ดีเลยค่ะ ฉันกังวลว่าคุณจะไม่ชอบอยู่เลย” เชียนหลานค่อนข้างใส่ใจความรู้สึกของโม่จื่อเฉิน
เขาระบายยิ้มก่อนส่ายหน้า จากนั้นจึงเข้าไปในโรงหนังด้วยกันและนั่งลงข้างกัน
เชียนหลานมักหันมามองโม่จื่อเฉินอยู่เรื่อยๆ เมื่อมองจากด้านข้างเขาดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์มากกว่าหน้าตรง
“คุณดูเย็นชาแล้วก็เฉยเมยตลอดเวลาเลยนะคะ เหมือนกับกำลังเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้อย่างนั้นแหละค่ะ”
“บางทีอาจเป็นเพราะผมไม่ชินกับการอยู่กับเพศตรงข้ามละมั้งครับ” เขาบอกกลับ
“คุณคิดว่าฉันน่าเบื่อเหรอคะ”
“ผมเองก็เป็นคนน่าเบื่อมากคนหนึ่งเหมือนกันครับ” เขาตอบ “นักเรียนของผมชอบเข้าเรียนกับผม แต่ไม่มีใครสนใจฟังที่ผมพูด พวกเขาแค่มาเพื่อมองหน้าผมเฉยๆ”
“เป็นเพราะว่าคุณดูดีไงคะ” เชียนหลานอดหัวเราะคิกคักออกมาไม่ได้เมื่อเห็นด้านที่น่ารักของโม่จื่อเฉิน “ต่อไปนี้เราออกมาเที่ยวกันบ่อยกว่านี้เถอะค่ะ ฉันชอบที่มีเพื่อนอย่างคุณไม่น้อยเลยนะคะ”
“การที่ใครสักคนจะชอบผมมันยากนะครับ”
โม่จื่อเฉินพูดความจริง ด้วยงานที่ต้องรักษาความลับมันยากที่เขาจะสนิทสนมกับคนอื่น ในเวลาเดียวกันมันก็ทำให้เขาเย็นชาและเฉยเมยกับทุกอย่างจนแทบจะไม่มีเพื่อนสักคนเดียว
หรือเชียนหลานจะเป็นข้อยกเว้นกัน
อยู่ๆ เขาก็ไม่ได้รู้สึกต่อต้านเธอขึ้นมา มันเป็นความรู้สึกที่แปลก
สมองของคนฉลาดมีประโยชน์ เป็นธรรมดาที่การตัดสินใจของพวกเขาจะดีตามไปด้วย! นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยสงสัยในตัวเองสักครั้ง