ตอนที่ 771 ช็อก! เขาคือพ่อแท้ๆ ของลูก (11)
ทั้งยังห้ามลู่จิ้งอีเอาไว้ไม่ให้เธอทำแบบนี้อีก แต่ไม่ว่ายังไงลู่จิ้งอีก็ไม่ยอมรามือ เธอบอกว่าไม่เชื่อคำพูดใดๆ เธอจะเชื่อแค่ผลตรวจดีเอ็นเอที่โปร่งใสหมดทุกอย่างในครั้งนี้เท่านั้น
คุณหญิงลู่จนปัญญาจึงทำได้เพียงโทรหาลู่เสวี่ยเฉินแล้วเล่าเหตุการณ์ทางด้านนี้ให้ฟังแล้วให้เขารีบกลับมาโดยเร็วที่สุด
ตอนแรกลู่เสวี่ยเฉินกะว่าจะไปรับหลินกั๋วเฟิงและภรรยากลับมานั่งพักที่บ้านก่อน แต่พอรับสายคุณหญิงลู่แล้วใจเขาก็เต้นสั่นรุนแรงไปครู่หนึ่ง
เขารีบหาข้ออ้างเพื่อพาหลินกั๋วเฟิงและภรรยาไปพักที่โรงแรมก่อน
ตอนที่เขารีบกลับมาถึงบ้านด้วยความเร็วที่สุด การตรวจดีเอ็นเอก็เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว อีกสักครู่ผลก็จะออกมา
เมื่อเห็นเหวินซินเหมยอยู่ในบ้านตระกูลลู่ อารมณ์ของลู่เสวี่ยเฉินก็เดือดพล่าน
ตกลงผู้หญิงคนนี้เป็นบ้าอะไร
ประสาท!
แอบสะกดรอยตามเขาตอนยังไม่แต่งงานก็ให้มันแล้วไป ตอนนี้เขาแต่งงานแล้วทำไมเธอถึงยังตามราวีไม่เลิก
ลู่เสวี่ยเฉินพุ่งเข้าบ้านด้วยความเดือดดาล เขาเผลอคว้าแจกันที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมาปาไปทางเหวินซินเหมย
เหวินซินเหมยตกใจกรีดร้องแล้วรีบหลบข้างๆ “ว้ายๆๆ เสวี่ยเฉินอย่านะ อย่านะ…”
เขาเกือบปาแจกันโดนเหวินซินเหมยแล้ว แต่มันเพียงแค่ตกแตกลงพื้นเสียงดังเพล้งเท่านั้น เหวินซินเหมยสั่นสะท้านอย่างหวาดกลัว แล้วหลบข้างหลังลู่จิ้งอีด้วยความผวา
ลู่จิ้งอีขมวดคิ้ว “เสวี่ยเฉิน นี่แกทำอะไร”
“แค่นี้ยังวุ่นวายไม่พออีกหรอ” ลู่เสวี่ยเฉินมองพวกเธออย่างขุ่นเคืองและคำรามออกมาราวกับฟ้าร้อง “รีบไสหัวเธอไปซะ แล้วหยุดทุกอย่างเดี๋ยวนี้”
ไม่พอยังถ่ายทอดสดอีก ไม่อยากให้เขามีชีวิตสงบสุขหรือไงถึงได้จงใจหาเหาใส่หัวเขาแบบนี้!
ลู่เสวี่ยเฉินเดินอย่างรวดเร็วและจะเอื้อมมือคว้าโทรศัพท์มือถือ แต่ถูก หลินจยาอวี่หยุดไว้ ลู่เสวี่ยเฉิน มองเธอด้วยความประหลาดใจ “คุณ…”
หลินจยาอวี่สูดหายใจเข้าลึกๆ นัยน์ตาใสสงบนิ่งดุจจันทร์เพ็ญยามเที่ยงคืน “ถ้าเราอยากอยู่ด้วยกันจริงๆ ถ้าอย่างนั้นมีเรื่องอะไรก็ควรบอกให้พวกเขารู้ ไม่อย่างนั้นเรื่องแบบนี้ก็คงจะเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ…”
ครั้งสองครั้งก็ทำเธอเหนื่อยใจแล้ว หากมีครั้งต่อไปอีกอาจจหัวใจวายเพราะความตื่นตระหนกมากเกินไปแน่ๆ
ลู่เสวี่ยเฉินข่มอารมณ์แล้วปลอบเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแผ่วเบา “จยาอวี่ อย่าไปวุ่นวายกับพวกเธอเลย เรื่องของลูกแค่เรารู้กันสองคนว่ามันเป็นยังไงก็พอแล้ว คนดี รีบเอามือถือให้ผมนะครับ”
เหวินซินเหมยแลตามองลู่จิ้งอี ดวงตาคู่นั้นเหมือนกำลังสื่อว่า พี่ดูสิ ฉันว่าลู่เสวี่ยเฉินรู้แล้ว แต่ถูกหลินจยาอวี่เป่าหูจนยอมรับเป็นพ่อของเด็กแทน ตอนนี้พี่ก็น่าจะรู้แล้วใช่ไหมล่ะคะ
ลู่จิ้งอีก้าวไปข้างหน้าแล้วยื่นมือห้ามลู่เสวี่ยเฉินเอาไว้ “เสวี่ยเฉิน เรื่องวันนี้จะต้องได้รับการชี้แจงให้ชัดเจน พวกเราตระกูลลู่ไม่สามารถเลี้ยงลูกแทนคนอื่นได้…”
ลู่เสวี่ยเฉินปัดมือเธอทิ้งอย่างรุนแรงแล้วเอ่ยด้วยวาจาเฉียบคม “ถ้าพี่ว่างมาก ก็พาเหวินซินเหมยไปโรงพยาบาลตรวจเช็คประสาทบ้างนะ ตอนที่พี่พาเธอมาแนะนำกับแม่ พี่ไม่รู้เหรอว่าเธอเป็นคนโรคจิต”
ตอนแรกก็เป็นเพราะลู่จิ้งอีเป็นแม่สื่อแม่ชัก คุณหญิงลู่ถึงให้เธอแต่งงานกับลู่เสวี่ยเฉิน
ลู่จิ้งอีตกใจชะงักค้าง “เสวี่ยเฉิน ทำไมแกพูดแบบนี้ล่ะ”
เหวินซินเหมยสะอึกสะอื้น แล้วพูดราวกับไม่ได้รับความยุติธรรม “เสวี่ยเฉิน ฉันไม่ได้ป่วยนะคะ ตกลงคุณไม่เชื่อฉันหรือคุณอยากปกป้องหลินจยาอวี่กันแน่”
แน่นอนว่าเขาทำเพื่อหลินจยาอวี่ การกระทำที่โหดร้ายต่อภรรยาของเขาแบบนี้ คำพูดของเขาดูเหมือนคมมีดที่ฝังลึกอยู่ในหัวใจและเจ็บปวดจนหลั่งเลือด
“ฉันปกป้องเมียฉันแล้วมันไม่สมควรหรือไง เธอเป็นใคร! รีบไปโรงพยาบาลตรวจเช็คประสาทซะ” ความเมตตาสุดท้ายในใจของลู่เสวี่ยเฉินไม่หลงเหลืออีกแล้ว
ตอนที่ 772! เขาคือพ่อแท้ๆ ของลูก (12)
เมื่อสิ้นเสียงของลู่เสวี่ยเฉินก็เกิดเสียง “ตึงตึง” ดังขึ้น
ทุกคนรู้ตัวต่างก็หันหลังกลับไป โทรศัพท์มือถือในมือของหลินจยาอวี่ตกบนพื้น ส่วนเธอมีสีหน้าตกตะลึงยืนชะงักงันอยู่กับที่
มือถือไม่ได้ตกจนแตก ดังนั้นภาพถ่ายทอดสดยังคงดำเนินอยู่เช่นนั้น…
“เธอเป็นอะไร ปามือถือลงพื้นทำไม…” เมื่อลู่จิ้งอีรีบเดินเข้าไปเก็บโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูผลลัพธ์ที่อยู่ในนั้น เธอก็ช็อกจนลืมสิ่งที่จะพูดต่อไป
ผลตรวจดีเอ็นเอตรงกันเหรอ เสี่ยวเล่อเล่อคือลูกชายของเสวี่ยเฉิน
แต่ไหนเมื่อกี้หลินจยาอวี่บอกว่าไม่ใช้ลูกของลู่เสวี่ยเฉินไง นี่…หรือว่าจะพูดประชดจริงๆ
เมื่อเหวินซินเหมยก็เห็นผลตรวจเช่นกัน เธอก็ตกตะลึงถึงขีดสุดด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ เธอขยี้ตาดูอีกหลายๆ ครั้งเพราะกลัวว่าตัวเองจะดูผิดไป…ผลตรวจตรงกันได้ยังไง
การตรวจดีเอ็นเอคราวนี้ไม่มีคนแทรกแซงปลอมแปลงอย่างแน่นอน
แล้วผลที่ออกมาล่ะ ทำไมถึงตรงกันได้
ไม่ ต้องมีปัญหาที่ไหนสักที่ เธอจึงรีบเข้าไปตะโกนใส่จอโทรศัพท์ “พวกคุณคะระหว่างตรวจมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า ไม่งั้นผลตรวจมันจะตรงกันได้ยังไง”
การถ่ายทอดสดไม่ได้เปิดเสียงเอาไว้ แน่นอนว่าผู้ชมไม่ได้ยินเสียงตะโกนของเธอ
ลู่จิ้งอีขมวดคิ้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “เห็นชัดเจนหมดทุกขั้นตอน ไม่มีตรงไหนผิดปกติทั้งนั้น ถึงยังไงคนที่ถ่ายทอดสดเป็นคนที่ฉันจ้างมาเอง แล้ววันนี้เขาก็พึ่งพบหลินจยาอวี่เป็นครั้งแรก”
คุณหญิงลู่หน้าตึงเรียบ “แม่บอกแล้วไงว่าไม่ต้องตรวจแล้วแก้ก็ไม่ฟัง แล้วดูสิ่งที่แกทำตอนนี้…”
เธอหันหน้าไปมองหลินจยาอวี่
คนที่ช็อกที่สุดในเหตุการณ์ก็คือหลินจยาอวี่ ตอนนี้หลินจยาอวี่หน้าซีดเผือดมาก
เธอดุทุกขั้นตอนในการถ่ายทอดสดทั้งหมด ไม่สามารถมีอะไรแอบแฝงในระหว่างตรวจ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมผลตรวจดีเอ็นเอถึงออกมาตรงกันได้ล่ะ
นอกเสียจากว่าพวกเขาเป็นพ่อลูกกันแท้ๆ
พ่อลูกแท้ๆ เหรอ
ลู่เสวี่ยเฉินกับเสี่ยวเล่อเล่อจะเป็นพ่อลูกกันแท้ๆ ได้ยังไง
ความคิดสับสนมึนงงไปหมด คิดอยู่หลายตลบแต่ก็คิดไม่ตก
ในชั่วพริบตา คำว่าพ่อลูกแท้ๆ สี่คำนี้ฟังดูเหมือนเสียงฟ้าร้องในใจและรู้สึกเหมือนกำลังแตกสลาย
เสี่ยวเล่อเล่อเป็นลูกแท้ๆ ของลู่เสวี่ยเฉิน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าผู้ชายในผับคืนนั้นก็คือลู่เสวี่ยเฉิน
ถ้าอย่างนั้นลู่เสวี่ยเฉินรู้ทุกอย่างตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมพอรู้แล้วไม่บอกความจริงกับเธอ ทั้งยังหลอกแต่งงาน ค่อยๆ ก้าวเข้ามายึดครองหัวใจเธอทีละก้าว ปั่นหัวเหมือนเธอเป็นคนโง่
เธอกลับยังคิดว่าซาบซึ้งที่เขาดีกับลูกเธอเสมือนลูกแท้ๆ ของเขา
คิดว่าเป็นเพราะเธอเขาก็เลยพาลรักลูกไปด้วย ตอนนี้ดูแล้วเกรงว่าหากไม่ใช่เพราะลูก เขาถึงได้ดูแลห่วงใยเธอ
ความอบอุ่นเหรอ ความอ่อนโยนเหรอ ทุกอย่างมันเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ
เธอมันเป็นคนโง่เขลาจริงๆ ทั้งยังเชื่อทุกถ้อยคำหลอกลวงของเขาอย่างหมดใจ แต่งงานทางนิตินัยเหรอ ชอบฟังจือหันเหรอ โดยลืมไปหมดสิ้นว่าตอนเจอเขาครั้งแรกเขาเป็นผู้ชายน่ารังเกียจมาก
หลินจยาอวี่โกรธถึงขีดสุด
ที่แท้ทุกอย่างก็เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง
สร้างเรื่องโกหกเพื่อลูก!
เธอจ้องลู่เสวี่ยเฉินเขม็งด้วยสายตาคมกริบราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“จยาอวี่ คุณ…” ลู่เสวี่ยเฉินสบสายตาหลินจยาอวี่ หัวใจเย็นเฉียบไปหมด เขาประหม่าร้อนรนเป็นอย่างมากแล้วก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายกับเธออย่างไร
“คุณกลับห้องไปดูเสี่ยวเล่อเล่อก่อน ผม…ผมจัดการเสร็จแล้วจะไปหาคุณ ผมต้องอธิบายคุณได้แน่นอน…”
เขาพูดพลางพยายามแตะตัวหลินจยาอวี่อย่างระมัดระวัง
แต่ทว่าหลินจยาอวี่กลับต่อต้านอย่างแรงแล้วถอยหลังหลายก้าวเพื่อหลีกเลี่ยงสัมผัสจากลู่เสวี่ยเฉิน