ตอนที่ 789 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (9)
จูอวี้ลู่เบิกตาโต เธอช็อกจนแทบจะเป็นลมแล้วชี้นิ้วด่าอวี๋กานกาน “แก…ทำไมถึงเป็นผู้หญิงร้ายกาจขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะบังคับให้พ่อตัวเองหย่า”
อวี๋กานกานพูดอย่างเย็นชา “ตอนแรกฉันไม่มีความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการหย่าของพ่อหรอกนะ แต่สิ่งที่คุณทำช่วงนี้มันน่ารำคาญเกินไป ฉันก็เลยตัดสินใจเห็นด้วย ฉันเชื่อว่าถ้าเขารู้เขาจะหย่ากับคุณแน่ เป็นไปได้มากที่ระยะเวลาการหย่าจะสั้นลงจากหนึ่งเดือนเหลือหนึ่งสัปดาห์”
จูอวี้ลู่สั่นเทิ้มไปทั้งร่าง เธอไม่แปลกใจในคำพูดของอวี๋กานกานเลยสักนิด
เธอจึงหันไปมองกู้เนี่ยนอย่างช่วยไม่ได้ “เสี่ยวเนี่ยน ลูกดูความร้ายกาจของผู้หญิงคนนี้สิ”
กู้เนี่ยนนวดระหว่างคิ้ว เขารู้สึกเหมือนหัวสมองจะระเบิด เขาก็ไม่ได้เข้าใจในตัวอวี๋กานกานมากนัก แต่สามารถฟังออกว่าเธอจงใจพูดไปอย่างนั้นแหละ
เมื่อกู้ซูหลิงเห็นว่ากู้เนี่ยนเงียบกริบจึงเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห “แม่ ดูลูกที่แม่เลี้ยงมาสิคะ คิดไม่ถึงว่าจะรวมหัวกับนังผู้หญิงคนนี้มาทำแบบนี้กับแม่”
กู้เนี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะอธิบาย “ผมเปล่านะครับ ผมแค่ไม่อยากเข้าไปยุ่งเรื่องหย่าของผู้ใหญ่ ผมไม่อยากจัดการกับพวกแม่ทั้งนั้น คนหนึ่งก็แม่อีกคนก็พี่สาวต่างพ่อ ผมจะไปจัดการกับพวกแม่ได้ยังไง”
กู้ซูหลิงถอนหายใจ จ้องกู้เนี่ยนแล้วชี้ไปที่อวี๋กานกาน “ตอนนี้แกอยู่ข้างมัน แกก็ช่วยมันจัดการพวกเรา แกนี่มันใจดำจริงๆ แม่เลี้ยงแกจนโตมาอย่างยากลำบาก แกกลับตอบแทนบุญคุณแม่แบบนี้เหรอ”
กู้เนี่ยนอยากพูดอะไรบางอย่างแต่กลับถูกอวี๋กานกานผลักไปอีกทางก่อนจะออกคำสั่งกับกู้เนี่ยน “นายไปทำกับข้าวให้ฉันกินไป”
“ผม…”
“รีบไปเดี๋ยวนี้”
กู้เนี่ยนรู้ว่าที่อวี๋กานกานไล่เขาไปเพราะไม่อยากทำให้เขาอึดอัดลำบากใจอีก เขาลังเลครู่หนึ่งก่อนจะก้าวขาเข้าห้องครัว
กู้ซูหลิงตกละลึงอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูกเบิกตาจ้องอวี๋กานกาน “แกมีสิทธิ์อะไรมาใช้น้องชายฉันไปทำกับข้าวให้แกกิน”
จากนั้นเธอก็โหวกเหวกเสียงดัง “กู้เนี่ยน แกออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”
อวี๋กานกนยกมือชี้นิ้วไปทางประตู “ตอนนี้พวกคุณรีบออกไปจากที่นี่ซะ ไม่งั้นฉันจะเรียกรปภ.มาไล่พวกคุณออกไป”
กู้ซูหลิงสวนกลับทันควัน “เธอกล้าเหรอ”
ทำไมจะไม่กล้า อวี๋กานกานยกยิ้มเยาะแล้วรีบโทรหานิติคอนโดให้พวกเขาขึ้นมาไล่พวกเธอไป
จูอวี้ลู่ที่ยืนเงียบอยู่นานมองอวี๋กานกานด้วยสายตาเย็นชา “ฉันคลอดเขาและเลี้ยงเขามา ต่อให้ฉันหย่ากับพ่อของเธอ เขาก็ยังเป็นลูกชายฉันอยู่ดี แต่เธอไม่สามารถทำให้ทุกอย่างสะอาดได้ด้วยประโยคเดียวหรอกนะ”
“ใช่ คุณคลอดเขาคุณเลี้ยงเขา แต่คุณกลับไม่เคยอบรมสั่งสอนเขา แต่ก็โชคดีที่คุณไม่เคยสอนเขา ไม่งั้นตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเขาจะกลายเป็นคนยังไง ในเมื่อคุณคิดว่าแค่คำพูเดียวก็ล้างมลทินไม่ได้ งั้นคุณก็บอกมาสิว่าต้องการเงินเท่าไหร่ถึงจะทำให้พวกคุณล้างมลทินจนหมดสิ้น”
แววตากู้ซูหลิงเป็นประกายวูบไหว “ต้องการเงินเท่าไหร่ ถ้าพวกฉันต้องการเงินมากเท่าไหร่เธอก็จะยอมให้ใช่ไหม”
อวี๋กานกานพยักหน้า “แน่นอน ขอแค่พวกคุณไม่มาให้กู้เนี่ยนเห็นหน้าอีก เช่นนั้นเงินที่พวกคุณจะได้รับก็สามารถให้พวกคุณมีชีวิตสุขสบายไปตลอดชีวิต”
กู้ซูหลิงหวั่นไหว
ที่พวกเธอไม่ยอมหย่าก็เพราะเงิน ถ้าหาก…ในขณะที่เธอกำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกจูอวี้ลู่เอ่ยขัดขึ้นมาเสียก่อน “เสี่ยวเนี่ยนคือลูกชายของฉัน เงินแค่ไหนก็ซื้อฉันให้ตัดขาดกับลูกไม่ได้!”
หลังจากทิ้งประโยคนี้เอาไว้เธอก็หันหลังออกไป กู้ซูหลิงก็รีบตามไปเช่นกัน
เมื่อออกมาผ่านพ้นประตูแล้ว กู้ซูหลิงจึงย้อนถาม “แม่คะ ถ้าเขายอมให้เงินมากพอ…”
จูอวี้ลู่หันขวับจ้องผู้เป็นลูกสาวแล้วเอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แกฟังไม่ออกหรือไง นังนั่นมันจงใจ เพราะน้องแกยังอยู่ในห้องครัว!”
ตอนที่ 790 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (10)
กู้ซูหลิงตระหนักได้ในภายหลัง “แม่คะ แม่หมายถึงคือ อวี๋กานกานตั้งใจทำแบบนี้ เมื่อเรายื่นข้อเสนอจริง เธอมันจะไปหากู้เนี่ยนในครัวแล้วบอกว่าแม่จะขายลูกชายเพื่อเงิน”
“ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะ”
“เลวจริงๆ นังแพศยา” กู้ซูหลิงขมวดคิ้วมุ่นแล้วเอ่ยขึ้นอย่างโกรธแค้น “แม่คะ ตอนนี้เราทำยังไงดี หรือพวกเราไม่ทำอะไรเลยแล้วกล้ำกลืนฝืนทนแบบนี้เหรอคะ”
จูอวี้ลู่ฝืนทนจนสั่นเทาไปทั้งร่าง ไม่อยากทนก็ต้องทน “ถ้าตอนนี้ไม่อดทนแล้วจะให้ทำยังไง สถานการณ์เราตอนนี้เป็นยังไงแกรู้บ้างหรือเปล่า หากไปยุ่งกับนังอวี๋กานกานแล้วพ่อแกรู้เข้า ขี้คร้านจะไสหัวพวกเราออกจากบ้าน”
“แต่ก็จะมัวนิ่งดูดายไม่ได้นะคะ แม่ดูท่าทางของกู้เนี่ยนวันนี้สิคะ หากเราไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง เกรงว่าอีกไม่กี่วันแม้กระทั่งหน้าแม่ก็จะไม่ได้แล้ว”
ทำไมจูอวี้ลู่จะไม่รู้
โอกาสเดียวของเธอคือกู้เนี่ยน คราวนี้อวี๋กานกานเข้ามาพัวพันกับกู้เนี่ยนทุกวัน เห็นได้ชัดว่าพยายามบีบฟางเส้นสุดท้ายของเธอ
ตอนนี้เธอมาอยู่ในจุดที่ไม่แกกับฉันต้องมีสักคนต้องตาย เธอต้องหาทางจัดการกับอวี๋กานกานแน่นอน
แต่วิธีการการจะวางแผนแบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ จำเป็นต้องคิดให้รอบคอบ
เมื่อเห็นจูอวี้ลู่ที่แม้จะมีสีหน้าไม่พอใจ แต่ยังแฝงไปด้วยความอาฆาตแค้น แววตาเป็นประกายชั่วร้ายของกู้ซูหลิงก็เกิดความหวังขึ้นมา
ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็ส่องแสงประกายมองไปที่จูอวี้ลู่แล้วเอ่ยขึ้น “แม่ ไม่ต้องห่วงฉันจะมีวิธีที่จะฉีกหน้ากากที่แท้จริงของอวี๋กานกานอย่างแน่นอน ไม่ให้กู้เนี่ยนได้เจอมันอีก และแม้แต่ช่วยเราไม่ให้พ่อหย่ากับแม่”
จูอวี้ลู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย “แกคิดแผนอะไรดีๆ ได้งั้นเหรอ”
กู้ซูหลิงเลิกคิ้ว กระซิบเสียงต่ำอย่างมีลับลมคมใน “แน่นอนว่ามันเป็นวิธีที่ดีค่ะ พอถึงตอนนั้นแล้วหนูจะบอกแม่เอง ตอนนี้หนูยังหาโอกาสไม่ได้ค่ะ”
หรือต่อให้ไม่มีโอกาส เธอก็จะสร้างโอกาสขึ้นมาเองก็ได้ จะต้องทำให้ทุกคนได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของอวี๋กานกานแน่นอน
จะได้ไม่ต้องถูกนังนั่นหลอกอีก
“แกคิดจะทำอะไร” จูอวี้ลู่ไม่ไว้ใจลูกสาวคนนี้ เพราะถึงยังไงเธอก็ไม่เคยญาติดีกับอวี๋กานกาน
“แม่ก็รอเซอร์ไพรส์จากหนูได้เลยค่ะ” กู้ซูหลิงร้อยเล่ห์มารยา ยังไม่กล้าบอกตอนนี้
จูอวี้ลู่มีลางสังหรณ์ไม่ดีจึงเอ่ยเตือนลูกสาว “แกอย่าทำอะไรซี้ซั้วเด็ดขาด”
“แม่สบายใจได้หนูไม่ทำอะไรซี้ซั้วหรอกค่ะ”
กู้ซูหลิงหัวเราะ เธอไม่ซี้ซั้วเด็ดขาด ทุกอย่างจะต้องเตรียมการด้วยความระมัดระวัง
จูอวี้ลู่คิดว่าเธอคงไม่ก่อเรื่องวุ่นวายจริงๆ แล้วก็ไม่พูดอะไรมาก เพราะขี้เกียจจะจัดการต่างๆ มากมาย ตอนนี้ในหัวเธอเต็มไปด้วยจะออกจากสถานการณ์ในตอนนี้ยังไง
…
อวี๋กานกานเข้าไปในห้องครัวแล้วเห็นกู้เนี่ยนรินน้ำให้หนึ่งแก้ว เมื่อเธอดื่มน้ำหมดแก้วในอึกเดียวแล้วรับมาดื่มอีกแก้ว ดูเหมือนจะใช้น้ำมาดับอารมณ์ที่คุกรุ่น
แต่เมื่อดื่มไปหลายต่อหลายแก้วจนพุ่งยื่นออกมา อารมณ์ของเธอก็ไม่ได้ดีขึ้นแต่อย่างใด
เขาหันหน้าไปมองอวี๋กานกาน เอาแก้ววางลงแล้วพึมพำ “พี่ไม่ต้องปลอบผมหรอก”
อวี๋กานกานอิงประตู “ใครเขาจะปลอบนายกัน รีบทำกับข้าวให้พี่กินเดี๋ยวนี้เลยนะ”
กู้เนี่ยน “…”
เมื่อกี้ไม่ใช่ข้ออ้างใช่ไหม
เขาชี้ตัวเอง “พี่ให้ผมทำกับข้าวเหรอ”
อวี๋กานกานตอบ “อืม” หนึ่งคำ
“ไม่เอา พี่เป็นผู้หญิงไม่ทำกับข้าวแล้วมาใช้ผมทำนี่นะ” กู้เนี่ยนปฏิเสธอย่างคร่ำครวญ แล้วบ่นอีกขึ้นมาอีก “พี่เป็นพี่สาวผมนะ”
“ให้นายทำก็ทำสิ บ่นอะไรมาก” อวี๋กานกานจ้องเขาน้ำเสียงแฝงไปด้วยความข่มขู่ “รีบทำกับข้าว พี่หิวแล้ว ไม่งั้นนะ อย่าคิดว่าพี่จะช่วยที่นายขอร้องเรียนต่อที่จีน”