ตอนที่ 708 ระงับถาวร! คุณอิ๋งสูงส่งได้ถึงขั้นไหนกัน
อะไรคือก็แค่แอ๊กเคานท์ระดับเอ!
เยี่ยซือชิงยังคิดตามไม่ทัน
โทรศัพท์มือถือดัง ติ๊ดๆ อีกครั้ง มีสองข้อความเข้ามาต่อเนื่อง
อิ๋งจื่อจิน : [ไอดี S0239 รหัสผ่านแรกเข้า 123456]
อิ๋งจื่อจิน : [ล็อกอินเข้าไปแล้วเปลี่ยนรหัสผ่านด้วย]
เท้าของเยี่ยซือชิงหยุดอยู่กับที่ทันที มองไอดีกับรหัสผ่านที่สุดแสนจะธรรมดา เธออึ้งไปชั่วขณะ
สมาชิกคนอื่นๆ ในกลุ่มบีเห็นท่าทางของเยี่ยซือชิงก็แปลกใจ
นักศึกษาชายคนก่อนหน้านี้อึ้ง “รุ่นพี่เยี่ย รุ่นน้องอิ๋งตอบมาว่าอะไรเหรอครับ”
“อ๋อ อ่อๆ” เยี่ยซือชิงอึ้งอยู่สักพักถึงได้สติกลับมา “รุ่นน้องอิ๋งให้แอ๊กเคานท์เว็บดับบลิวกับฉันมา พวกเราลองดูก่อน”
“รุ่นน้องอิ๋งให้เหรอ” นักศึกษาชายตะลึงยิ่งกว่าเดิม “คนที่ขวางพวกเราคือแอ๊กเคานท์ระดับเอ ถ้าอยากให้การขนส่งกลับมาเป็นปกติ อย่างน้อยก็ต้องเป็นแอ๊กเคานท์ระดับเอที่มีอายุลงทะเบียนนานกว่าแอ๊กเคานท์นี้”
ทำโปรเจ็กต์มาด้วยกันตั้งนาน พวกเขารู้ประวัติของอิ๋งจื่อจินอยู่ไม่น้อย
เพิ่งเข้าสำนักวิจัยได้ไม่นาน พ่อแม่ตายหมด ถูกญาติเอาไปเลี้ยงดู เป็นชาวเมืองธรรมดาเหมือนพวกเขา
แล้วจะไปเอาแอ๊กเคานท์ระดับเอมาจากไหน
“พูดมากทำไม” เยี่ยซือชิงใส่ไอดีกับรหัสผ่านเสร็จเรียบร้อย กดเอนเทอร์ดัง ตึก
หน้าเว็บเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
มีคำว่า ‘ยินดีต้อนรับ’ ปรากฏ ต่อมาก็ล็อกอินสำเร็จ
เยี่ยซือชิงกดดูข้อมูลส่วนตัวของแอ๊กเคานท์
ชื่อเรียก : ชื่อเรียกสิบสี่อักษร
ประเภทแอ๊กเคานท์ : สมาชิก
ระดับแอคเคาท์ : ระดับ S
ตัว ‘S’ ใหญ่ ทำให้เกิดความเงียบในชั่วขณะ
เยี่ยซือชิงมือสั่น จับจ้องระดับแอ๊กเคานท์ที่อยู่บรรทัดสุดท้าย
ดวงตาเบิกโพลง สมองแทบหยุดทำงาน
สมาชิกกลุ่มบีทั้งหมดที่ล้อมอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ “…”
แอ๊กเคานท์ของเว็บดับบลิวตั้งแต่ระดับเอขึ้นไปจะไม่สามารถขอเลื่อนระดับในนามบุคคลได้แล้ว
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแอ๊กเคานท์ระดับเอส
แอ๊กเคานท์ระดับเอสล้วนอยู่ในมืออิทธิพลใหญ่ชั้นแนวหน้าของเมืองแห่งโลก
บางครั้งในงานประมูลจะมีการเอาแอ๊กเคานท์ระดับเอสมาประมูล ซึ่งก็ถูกแย่งหมดตั้งแต่เอาออกมา
อย่างไรเสียสิทธิพิเศษของระดับเอสก็เยอะกว่าแอ๊กเคานท์ทั่วไปค่อนข้างมาก
แอ๊กเคานท์ระดับเอสทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ที่แอดมินของเว็บดับบลิว ถึงขั้นที่มีโอกาสได้เข้าพบผู้วิเศษ
ไม่มีใครในเมืองแห่งโลกไม่รู้ว่าเว็บดับบลิวก่อตั้งโดยผู้วิเศษนักพรต
สมาชิกกลุ่มบีมองหน้ากัน
แต่ตอนนี้ แอ๊กเคานท์ระดับเอสของแท้อยู่ตรงหน้าพวกเขา
เยี่ยซือชิงนึกถึงเรื่องที่อิ๋งจื่อจินกำชับไว้ มือสั่นรีบเปลี่ยนรหัสผ่านทันที
รหัสผ่านง่ายๆ อย่างหนึ่งสองสามสี่ห้าหก เกิดถูกแฮกเกอร์โจมตีจะทำไง
หลังจากเปลี่ยนรหัสผ่านเสร็จ เยี่ยซือชิงก็ใส่เลขสินค้าในโซนซื้อขาย เข้าไปดูข้อมูลการขนส่งอะไหล่ของพวกเขา
แอ๊กเคานท์ระดับเอกับแอ๊กเคานท์ระดับเอสเทียบกันไม่ได้อย่างสิ้นเชิง
ในเวลาแค่สองวินาที การขนส่งอะไหล่ก็กลับมาเป็นปกติ
ผ่านไปอีกไม่กี่นาทีก็ได้ยินเสียง ตุบ กล่องรับพัสดุที่อยู่ด้านข้างเด้งออกมาหนึ่งกล่อง
แต่ไม่มีใครไปหยิบ สมาชิกกลุ่มบียังอยู่ในอาการตะลึง
จนกระทั่งมีเสียงพูดดังขึ้น ทำลายความเงียบ “ล็อกอินได้ไหม”
“รุ่นน้องอิ๋ง!” เยี่ยซือชิงหันไป ยืนขึ้นทันที “ล็อกอินได้แล้ว อะไหล่ก็มาถึงแล้วด้วย”
“งั้นก็ดี” อิ๋งจื่อจินเดินไปที่หน้ากล่องรับพัสดุ อุ้มกล่องอะไหล่ขึ้นมาวางบนโต๊ะ “ต่อไปถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกให้รีบบอกฉันนะคะ”
“ได้ รุ่นน้องอิ๋ง แต่ก็ไม่รู้ว่าคนที่ขวางการขนส่งอะไหล่ของพวกเราเป็นใคร” เยี่ยซือชิงขมวดคิ้ว “แต่คนที่รู้ว่าพวกเราจำเป็นต้องใช้อะไหล่ชิ้นนี้ก็น่าจะมีแค่กลุ่มเอแล้ว”
กลุ่มเอกับพวกเขาเข้าอบรมของพวกอาจารย์พร้อมกัน
บางครั้งกลุ่มเอก็ได้ยินที่พวกเขาคุยกันในห้องทดลอง
“ต้องเป็นสวีจิ่งซานคนใจแคบนั่นแน่ๆ!” นักศึกษาชายตบโต๊ะ พูดด้วยความโมโห “เขามีแอ๊กเคานท์ระดับเอ ผมจะไปถามเขา”
“ไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้น” อิ๋งจื่อจินหยิบคอมพิวเตอร์ของตัวเองออกมาจากกระเป๋าเป้แล้วเปิด “แค่ดูก็รู้แล้วว่าใคร”
เยี่ยซือชิงอึ้งอีกครั้ง “ดะ ดูเหรอ”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้า ล็อกอินเข้าแอ๊กเคานท์หลักของตัวเอง
แอ๊กเคานท์ผู้ก่อตั้งมีหน้าสำหรับบริหารจัดการ สามารถดูได้ทุกอย่างตั้งแต่ชื่อไอดีแอ๊กเคานท์ เวลาที่ล็อกอินครั้งล่าสุด ที่อยู่ไอพี รวมถึงข้อมูลส่วนตัวชื่อจริง
แม้แต่แอดมินทั้งเจ็ดของซิวก็ยังไม่มีสิทธิ์นี้
อิ๋งจื่อจินหาแอ๊กเคานท์ระดับเอที่ขัดขวางพัสดุของพวกเขาเจออย่างรวดเร็ว
ตรงที่อยู่ไอพีคือสำนักวิจัย คณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์
ดวงตาของเธอหรี่ลง เคาะแป้นคีย์บอร์ดหนึ่งทีอย่างไม่ใส่ใจ
มีหน้าต่างเด้งขึ้นมา
[ท่านต้องการระงับแอ๊กเคานท์ทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ไอพีนี้เป็นการถาวรใช่หรือไม่]
[ใช่/ไม่ใช่]
อิ๋งจื่อจินกดคำว่าใช่ จากนั้นก็พับหน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วพูดขึ้น “เป็นนักศึกษาระดับสูงของคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ น่าจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้ที่ฉันซ้อมคนของพวกเขา”
เรื่องนี้พวกเยี่ยซือชิงก็รู้กันหมด
“คณะชีววิทยาทำเหรอ” นักศึกษาชายคนนั้นลังเล “พวกเขาไม่ใช่คนดี แถมยัง…”
จะจับคนไปทำการทดลอง จิตใจโหดร้ายมาก
แต่ติดตรงที่คณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์มีผู้วิเศษนักมายากลกับผู้วิเศษนักบวชหญิงหนุนหลังอยู่ เมื่อเทียบกันแล้ว คณะวิศวกรรมศาสตร์ไม่มีผู้วิเศษหนุนหลัง
“วางใจได้ ผู้วิเศษไม่ว่างมายุ่งกับคนธรรมดาหรอก” อิ๋งจื่อจินลุกขึ้น หมุนข้อมือเล็กน้อย “ฉันขอไปอัดคนหน่อย อยากไปด้วยกันไหม”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย เหมือนแค่จะไปจ่ายตลาด
“อยากๆๆ!” สมาชิกกลุ่มบีชักสนใจ “รุ่นน้องอิ๋ง ขอไปด้วยนะ”
อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดแล้วชี้กระสอบที่อยู่ตรงมุมห้อง “เอานั่นไปด้วย สะดวกหน่อย”
นักศึกษาชายรีบคว้ากระสอบขึ้นมาอย่างคล่องแคล่วแล้วเดินตามอิ๋งจื่อจินออกไปอย่างอารมณ์ดี
พวกอาจารย์และคณบดีไม่มีทางยุ่งการแก่งแย่งชิงดีทั้งต่อหน้าและลับหลังของพวกนักศึกษา
สำนักวิจัยก็คือสถานที่แบบนี้ ใครเก่งก็อยู่รอด
ผู้อ่อนแอย่อมเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง
ไม่เก่งก็อยู่ไม่ได้ จะโทษใครได้
เยี่ยซือชิงขยี้ตา
เมื่อกี้เหมือนเธอเห็นอักษรสีทองในคอมพิวเตอร์ของอิ๋งจื่อจิน
มันเขียนว่าอะไรนะ
เยี่ยซือชิงเกาหัว
โอ๊ย บ้าจริง เธอลืมไปแล้ว
…
ทางด้านคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์
ภายในห้องทดลองส่วนตัวเลขที่เก้าสิบแปด
นักศึกษาระดับสูงคนหนึ่งทุบโต๊ะอย่างแรง “ผีหลอก!”
เมื่อกี้เขากำลังดูไลฟ์สดในโซนเกมของเว็บดับบลิวอยู่ดีๆ ปรากฏว่าอยู่ๆ แอ๊กเคานท์ก็เด้งออก
พอล็อกอินเข้าไปใหม่กลับมีข้อความขึ้นว่าแอ๊กเคานท์นี้ถูกระงับการใช้งานเป็นการถาวร
เว็บดับบลิวมีมานานขนาดนี้ยังไม่เคยได้ยินว่ามีแอ๊กเคานท์ไหนถูกระงับถาวร
น่าแปลก
นักศึกษาระดับสูงจ้องคอมพิวเตอร์ ใช้แอ๊กเคานท์สำรองล็อกอินอย่างไม่สบอารมณ์
แต่ก็ยังคงขึ้นว่าถูกระงับถาวร
เขาสบถด่าออกมา “ไอ้บ้าเอ๊ย!”
ขณะที่เขายังอยากลองใช้แอ๊กเคานท์สำรองอื่นๆ ลองเข้าอีก ทันใดนั้นประตูก็ถูกถีบออก
เขาหันไป เห็นกลุ่มคนเดินเข้ามาท่าทางเอาเรื่อง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างควบคุมไม่ได้ “พวกแกจะทำอะไร”
อิ๋งจื่อจินกอดอก ยืนพิงประตู ดวงตาหงส์เย็นชา “ไม่ทำอะไร พวกเรามาเล่นด้วยอย่างเป็นมิตร”
ดวงตาของเธอหลุบลง ขยับนิ้วเล็กน้อย
กำลังภายในฝ่าอากาศออกไป สกัดจุดลมปราณของนักศึกษาระดับสูงคนนี้ไว้ในชั่วพริบตา
พออีกฝ่ายเห็นว่าร่างกายตัวเองขยับไม่ได้ เหงื่อก็ผุดเต็มหน้าผาก ตะโกนโวยวาย “พวกแกต้องการทำอะไรกันแน่ ฉันไม่รู้จักพวกแกเสียหน่อย”
“เอ๊า ไม่รู้จัก แต่มาขัดขวางพัสดุของพวกเราเนี่ยนะ” เยี่ยซือชิงแสยะยิ้ม “งั้นนายก็เล่นได้ถูกคนมาก”
นักศึกษาระดับสูงคนนี้สีหน้าเปลี่ยนทันที
เขาเป็นคนขัดขวางพัสดุของกลุ่มบีจริง แต่คนกลุ่มบีรู้ได้อย่างไร
หากว่ากันตามหลักการแล้ว กลุ่มบีควรไปเอาเรื่องสวีจิ่งซานถึงจะถูก
เขาก็จะลอยตัวอย่างสิ้นเชิง
“อย่าเสียเวลาพูดกับเขาเลย” นักศึกษาชายในกลุ่มบีเอากระสอบคลุมหัวนักศึกษาระดับสูงคนนี้อย่างคล่องแคล่ว “รุมเลยดีกว่า”
“พวกแกบ้าไปแล้ว!” นักศึกษาระดับสูงทั้งตกใจทั้งโมโห “พวกแกรนหาที่ตายชัดๆ!”
คนของคณะวิศวะกล้าทำร้ายคนของคณะชีววิทยาเลยเหรอ
ไม่กลัวทำให้สองคณะเกิดความขัดแย้ง ล่วงเกินผู้วิเศษนักมายากลกับผู้วิเศษนักบวชหญิงหรือไง!
นักศึกษาชายแสยะยิ้ม “พวกเราจะตายไหมไม่รู้ แต่วันนี้แกจบเห่แน่”
นักศึกษาระดับสูงอ้าปากจะพูด “พวกแก…”
แต่สมาชิกกลุ่มบีไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดอีกต่อไป
ตามมาด้วยการรุมกระทืบ ได้ยินเพียงเสียงร้องโอดครวญ
“เอาล่ะ เดี๋ยวจะตายซะก่อน” เยี่ยซือชิงตบมือห้าม “รุ่นน้องอิ๋ง พวกเราไปเถอะ”
อิ๋งจื่อจินตวัดมือ คลายจุดลมปราณที่ผนึกไว้
นักศึกษาชายกลอกตาไปมา จากนั้นก็โยนลูกกลมๆ เข้าไปในกระสอบแล้วถึงเดินเอ้อระเหยออกไป
จังหวะที่ประตูห้องทดลองปิดลง
ตูมตาม!
“อ๊าก! โอ๊ยยย!”
ด้านหลังเป็นเสียงร้องโวยวายจะขาดใจของนักศึกษาระดับสูงคนนั้น ตามมาด้วยเสียงโครมคราม
ฟังดูเหมือนคนสิ้นหวัง
เมื่อกี้ตอนพวกเขารุมกระทืบยังไม่เห็นร้องขนาดนี้
เยี่ยซือชิงหยุดเดิน มองนักศึกษาชายด้วยความสงสัย “นายยัดอะไรเข้าไปในกระสอบใช่ไหม”
“หา?” นักศึกษาชายเกาหัว “อ่อ ก็แค่ระเบิดตดง่ายๆ หนึ่งลูก เพิ่งทำเมื่อกี้ระหว่างทางที่มา”
ศึกษาในคณะวิศวกรรมศาสตร์ไม่กี่เดือนก็สามารถทำระเบิดอัดสุญญากาศแบบง่ายๆ ได้แล้ว
เยี่ยซือชิงพูด “น่าจะไม่ใช่แค่ระเบิดตดธรรมดาๆ หรือเปล่า”
“แน่นอน” นักศึกษาชายพูดอย่างมีลับลมคมใน “ในนั้นยังผสมของเสียจากสัตว์หลายชนิดอีกด้วย พอระเบิดออกก็ไม่ต่างจากบ่อขี้”
เยี่ยซือชิง “…”
อิ๋งจื่อจินถอยหลังอย่างเงียบๆ หนึ่งก้าว
เธอต้องอยู่ให้ห่างจากกลุ่มนี้ไว้หน่อย
โทรศัพท์มือถือดังขึ้นพอดี อิ๋งจื่อจินกดรับ “ฮัลโหล”
เป็นเสียงเนือยของผู้ชาย น้ำเสียงกึ่งหยอกเย้า “เด็กน้อย เสร็จธุระหรือยัง”
“อืม” อิ๋งจื่อจินดูเวลา “ออกมารับฉันได้เลย เดี๋ยวออกไป”
“โอเค”
อิ๋งจื่อจินเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋าแล้วหันไปโบกมือให้พวกเยี่ยซือชิง “ฉันออกไปเที่ยวแล้วนะ”
“ไปเถอะๆ” เยี่ยซือชิงพูด “พวกเราจะประกอบอะไหล่เอง”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ แล้วลงจากตึก
สมาชิกกลุ่มบีรอนักศึกษาระดับสูงคนนั้นร้องจนหมดแรงแล้วถึงเดินออกไป
พวกเขาเดินไปถึงประตูทางเข้าก็บังเอิญเห็นรถสีดำคันหนึ่งลงมาจากบนฟ้าพอดี หยุดลงตรงหน้าอิ๋งจื่อจิน
ประตูรถเปิดออก มือเรียวยาวดึงอิ๋งจื่อจินเข้าไป อีกทั้งยังคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ
พวกเขาเห็นคนที่อยู่ในรถไม่ชัด
“ไม่เหมือนรถที่คราวก่อนมารับรุ่นน้องอิ๋งเลยนะ” นักศึกษาชายพูดขึ้น “และก็ไม่เท่เท่าคันที่แล้วด้วย”
“โง่เอ๊ย!” เยี่ยซือชิงตบหัวเขาหนึ่งที พูดเสียงเบา “นายเห็นสัญลักษณ์ที่ป้ายทะเบียนไหม”
“ถึงจะไม่เท่ แต่เป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่งวางขายในเว็บดับบลิวแน่นอน ก็แค่คนธรรมดาอย่างพวกเราไม่มีปัญญาซื้อ”
นักศึกษาชายถึงได้รีบมองไป
ตามคาด เขาเห็นสัญลักษณ์ที่เป็นรูปอัญมณี
มันคือบริษัทผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองแห่งโลก ร่วมงานกับคณะวิศวกรรมศาสตร์มานานแล้ว
รถคันนี้ไม่ใช่รถแข่ง แต่เป็นประเภทรถยานเกราะ
รวมระบบโจมตีและระบบป้องกันไว้ในคันเดียว ป้องกันอาวุธเลเซอร์ได้
รถแบบนี้เว็บดับบลิวขายให้เฉพาะคนในเท่านั้น ไม่มีทางเอาออกมาวางในโซนซื้อขาย
นักศึกษาชาย “…”
รุ่นน้องอิ๋งสูงส่งได้ถึงขั้นไหนกัน
…
อีกด้านหนึ่ง
ภายในห้องทดลอง
คนของกลุ่มบีกลับมากันหมดแล้ว
“เยี่ยซือชิง ได้ยินว่าอะไหล่ของพวกเธอถูกชะลอระหว่างทางเหรอ”
มีเสียงพูดขึ้น สวีจิ่งซานเดินเข้ามาด้วยท่าทางอวดดี “แถมยังเป็นอะไหล่สำคัญด้วย อยากให้ฉันช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ไหมล่ะ”
เขาเคยบอกแล้วว่าไม่เพียงแต่อิ๋งจื่อจินจะทำอะไรไม่ได้ ยังจะเป็นตัวถ่วงให้อีก
ล่วงเกินพวกคนของคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ ต่อไปยังคิดจะอยู่ในสำนักวิจัยอีกเหรอ
โชคดีที่เขาตัดสินใจเด็ดขาด ไปอยู่กลุ่มเอทันที
คุณหนูบิลใช่คนที่ใครจะมาเทียบได้ที่ไหนกัน
คุณหนูใหญ่ของตระกูลเรนเกล อีกเดี๋ยวก็จะได้เลื่อนเป็นนักวิจัยระดับเอสแล้ว
แต่ไหนแต่ไรมาเขามองคนไม่เคยผิด
“เยี่ยซือชิง ความสามารถของเธอก็โดดเด่นกว่าใคร” สวีจิ่งซานทำเสียงจึ๊ “อยากให้ฉันช่วยคุยกับคุณหนูบิลให้รับเธอเข้ากลุ่มด้วยไหมล่ะ”
สีหน้าของเยี่ยซือชิงเย็นชาลงในทันที “สวีจิ่งซาน สมองนายมีปัญหาหรือเปล่า”
“ฉันน่ะเหรอมีปัญหา ถ้าไม่มีฉัน พวกเธอก็ไม่มีทางได้อะไหล่หรอก”
ขณะที่สวีจิ่งซานพูด เขาก็วางคอมพิวเตอร์ของตัวเองลงบนโต๊ะดังตุบ
จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น เห็นแอ๊กเคานท์ที่ยังไม่ได้ล็อกเอ้าท์ออกบนหน้าจอใหญ่