หยางเสียวจิ่นฉกระเบิดมือจากทหารของสมาคมตระกูลชิ่งนายหนึ่งด้วยความเร็วสูง ทหารนายนั้นพยายามหลบตามสัญชาตญาณการปกป้องอาวุธตัวเองของทหารทุกนาย ทว่าสุดท้ายก็สัมผัสได้แต่ความชาวูบวาบในมือ ส่วนลูกระเบิดนั้นหายไปแล้ว
หยางเสียวจิ่นถอดสลักอย่างเด็ดเดี่ยวและโยนระเบิดลงไปในท่อทันที เกิดเสียงดังสนั่น อิฐบนถนนโดนระเบิดจนกระจุย
ตัวทดลองที่อัดกันแน่นอยู่ในท่อระบายน้ำไม่อาจทานรับระเบิดมือสองลูก เศษเลือดเนื้อกระจุยกระจายไปทั่วฝาท่อ
แต่กระนั้นทุกคนก็เห็นว่ายังมีตัวทดลองอีกไม่น้อยที่ไม่ได้รับผลกระทบจากแรงระเบิด เริ่นเสี่ยวซู่พูดเสียงเย็น “ระเบิดอีก!”
หยางเสียวจิ่นฉกระเบิดมือมาอีกสองลูกโยนใส่ท่อระบายน้ำ ตอนนั้นเองตัวทดลองที่เหลือจึงเคลื่อนตัวถอยปล่อยร่างแยกเงาของเริ่นเสี่ยวซู่ไว้!
เริ่นเสี่ยวซู่กำลังนอนสมองปวดตุบๆ อยู่บนพื้น เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสว่าระเบิดนั้นมีอำนาจทำลายล้างเพียงใด
ราวกับมีมีดนับหมื่นเล่มเสียบแทงลงมาที่ร่างเนื้อ สะเก็ดระเบิดทรงพลังเหนือกว่าที่เขาคิดไว้มาก
ทว่าเขาก็ยังกล้าให้หยางเสียวจิ่นโยนระเบิดลงไปในท่อ เขารู้ดีว่าตัวเองทนความเจ็บปวดไหว และร่างแยกเงาก็ไม่ยี่หระ
และหลังจากเรื่องนี้จบลง หลัวหลานต้องติดบุญคุณเขายกใหญ่!
ตอนที่ร่างแยกเงาปืนขึ้นมาจากท่อ หลัวหลานก็เข้าไปจับมือมันด้วยน้ำตานองหน้า “สูเสี่ยนฉู่ ฉันขอขอบคุณนายจริงๆ”
ใจของเริ่นเสี่ยวซู่คิด ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสูเสี่ยนฉู่เลยเฟ้ย แต่เขาก็พูดอะไรออกไปไม่ได้
ก่อนหน้านี้เขาให้ร่างแยกเงาเป็นแพะอยู่ตลอดๆ ทว่าพอมันลงมือทำอะไรประเสริฐๆ เข้า เขากลับไม่ชินเอาเสียเลย
หลัวหลานพลันเอ่ย “มาๆ ทุกคนมาขอบคุณเขากัน ถ้าไม่ใช่เพราะสูเสี่ยนฉู่ คนของพวกเราห้านายคงได้ตายในท่อระบายน้ำแล้ว”
“ขอบคุณนะสูเสี่ยนฉู่!”
คนกลุ่มใหญ่ขอบคุณร่างแยกเงาปลกๆ แต่เริ่นเสี่ยวซู่ไม่ได้เหรียญคำขอบคุณสักกะเหรียญเดียว!
เริ่นเสี่ยวซู่ปวดใจแปลบปลาบ เหรียญคำขอบคุณนับร้อยหายวับไปแบบนี้!
ที่จริงเขายังขาดอีกราวๆ แปดร้อยเหรียญถึงจะปลดล็อกอาวุธขั้นต่อไปในภารกิจรองที่สอง ถ้าหลัวหลานให้คนของเขาขอบคุณอีกสักไม่กี่รอบ ชั่วลัดนิ้วอาวุธเขาก็ปลดล็อกแล้ว
ร้อยเหรียญคำขอบคุณทำให้เขามีอาวุธที่ทรงพลังมากอย่างดาบทมิฬได้ ถ้าไม่ได้ดาบทมิฬ เขาคงตายไปหลายรอยแล้ว เริ่นเสี่ยวซู่ล่ะคาดหวังอาวุธจากหนึ่งพันเหรียญคำขอบคุณมาก แต่นี่โอกาสที่เขาจะได้เหรียญคำขอบคุณนับร้อยหายไปในชั่วพริบตา!
เริ่นเสี่ยวซู่อยากยอมรับความผิดก่อนหน้าขึ้นมาในบัดดล ขอให้ได้เหรียญคำขอบคุณก็พอ จะโดนตามล่าก็ช่างแม่*ละ!
หลัวหลานเหลือบมองเริ่นเสี่ยวซู่ “สูเสี่ยนฉู่อุตส่าห์ช่วยพวกนายสองคนหนี จะไม่เข้ามาขอบคุณหน่อยเหรอไง”
เริ่นเสี่ยวซู่พูด “…ขอบคุณ”
หยางเสียวจิ่นกลั้นขำและกล่าวขอบคุณร่างแยกเงา สถานการณ์พลิกผันในพริบตาแบบนี้ทำให้เธอตลกไม่น้อย ทว่านี่ไม่ใช่เวลามาล้อเลียนเริ่นเสี่ยวซู่ เธอพูด “เสียงระเบิดคงดึงดูดตัวทดลองมาอีก ทุกคนไปเก็บระเบิดที่อยู่ในบ้านล้อมสวนมาให้หมด”
จากนั้นหยางเสียวจิ่นก็ผลักประตูบ้านล้อมสวนออก พอทุกคนเห็นภาพระเบิดลูกปรายอัดแน่นอยู่ในบ้านก็ตะลึงไป เริ่นเสี่ยวซู่พลันคิดว่าที่หยางเสียวจิ่นหลับในห้องเรียนตลอดเพราะอดหลับอดนอนทำระเบิดพวกนี้อยู่ทุกค่ำคืนน่ะสิ
เริ่นเสี่ยวซู่ “บ้านฉันหลังข้างๆ ก็มีระเบิดเหมือนกัน”
ทหารร้อยกว่านายมองเริ่นเสี่ยวซู่กับหยางเสียวจิ่นด้วยความเงียบงัน ทุกคนต่างคิดว่าสองคนนี้หน้าตาดูเยาว์วัยแท้แต่การกระทำช่างดุร้าย
หลัวหลานตะโกน “จะยืนนิ่งอยู่ทำไม! รีบไปเก็บระเบิดมา จากนั้นก็ไปตั้งตามทางหลบหนีของพวกเรา ระเบิดพวกเวรนั่นแม่*ให้เละ!”
มีระเบิดแล้ว ส่วนที่ว่าจะใช้อย่างไร หยางเสียวจิ่นไม่จำเป็นต้องสอนพวกเขาหรอก ทหารของสมาคมตระกูลชิ่งภายใต้หลัวหลานล้วนเป็นทหารชั้นยอด ไม่มีทางไม่รู้วิธีการใช้ของพวกนี้
หลัวหลานเองก็ลอบขนระเบิดจากข้างนอกป้อมปราการมาไม่น้อย แต่ก็ใช้ไปหมดแล้วตอนมีปัญหากับสมาคมตระกูลหลี่ พอทุกคนได้เติมกระสงกระสุนเรียบร้อย ต่างก็ดูกระเหี้ยนกระหือขึ้นมาก
พวกเขาต้องกระเสือกกระสนหนีตัวทดลองมานานมาก ต้องฆ่าล้างบางดับไฟแค้นในอกเสียหน่อย
และเป็นตามที่พวกเขาคาดไว้ ระเบิดสี่ลูกที่ถูกโยนลงไปในท่อระบายน้ำดึงดูดตัวทดลองรอบๆ มา ตอนที่หลัวหลานวิ่งอยู่นั้น พอลองหันกลับไปดู ก็ต้องสะพรึงที่เห็นตัวทดลองปืนป่ายตามตึกรามบ้านช่องราวกับเป็นพื้นราบ
ทันใดนั้นเอง ระเบิดถูกจุดออก เปลวเพลิงลุกโชนขึ้นฟ้า
ตัวทดลองที่อยู่แถวระเบิดต่างโดนเป่ากระเด็น
ทหารของสมาคมตระกูลชิ่งที่ทำหน้าที่ติดตั้งระเบิดมองหน้ากันเอง พวกเขานึกว่าระเบิดทำมือไม่น่ามีพลังทำลายล้างมากเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่าระเบิดมันทรงพลังกว่าที่พวกเขาคิดมาก พวกเขาต่างอดมองไปยังหยางเสียวจิ่นไม่ได้ ระเบิดพวกนั้นมาจากฝีมือของเด็กสาวคนหนึ่งจริงหรือ
ตัวทดลองจำนวนไม่น้อยเลยที่ร่างแหลกเละจากแรงระเบิด แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ตัวอื่นๆ หวาดกลัว พวกมันกลับยิ่งดุร้ายป่าเถื่อนกว่าเดิมด้วยซ้ำ!
ระเบิดไล่หลังเนืองๆ ตามหลังพวกเริ่นเสี่ยวซู่ที่กำลังวิ่งหนี ทว่าแม้ระเบิดจะดังขึ้นไม่หยุด จำนวนของตัวทดลองกลับดูไม่ลดน้อยลง ไม่ใช่ว่าตัวทดลองไม่โดนระเบิดฆ่าตาย แต่เป็นตัวทดลองชุดใหม่เข้ามาเสริมในการไล่ล่า
เจ้าตัวทดลองพวกนี้ดูดุร้ายกว่าเดิมราวกับอยากทำอย่างไรก็ได้จบชีวิตพวกเขา!
หลัวหลานเอามือกุมหัวกัดฟันกรอด “ต่อให้พวกเรามีระเบิดเยอะ แต่ก็ไม่พอจะใช้รั้งตัวทดลองจำนวนมหาศาลได้อยู่ดี ต่อให้หนีออกจากป้อมไปได้ ก็หนีการตามล่าจากพวกมันไม่ไหวหรอก!”
พวกเขาค่อยๆ เห็นประตูป้อมปราการอยู่เบื้องหน้า ทุกคนต่างระมัดระวังตัวตลอด ตัวทดลองไม่ใช่ง่ายๆ ทั้งพฤติกรรมยากคาดการณ์ ต่อให้พวกเขาออกป้อมปราการไปได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่ไล่ตามต่ออยู่ดี
ต่อให้วิ่งผ่านประตูไปได้ ก็ใช่ว่าพวกเขาจะรอด
แต่ตอนนั้นเอง รถหุ้มเกราะคันหนึ่งก็พุ่งชนใส่ประตูป้อมปราการที่กึ่งเปิดกึ่งปิด ทำเอาเศษประตูกระเด็นกระดอนไปทั่ว หลันหลานเห็นสัญลักษณ์ใบแปะก๊วยบนรถหุ้มเกราะคันโตนั่น
รถหุ้มเกราะสีนิลดั่งสัตว์บกตัวยักษ์ที่พุ่งกระโจนไปข้างหน้า รถหุ้มเกราะของสมาคมตระกูลชิ่งพุ่งเข้ามาทีละคันสองคัน เริ่นเสี่ยวซู่คำนวณคร่าวๆ แล้วก็เห็นว่ามีถึงหลายสิบคัน!
สมาคมตระกูลชิ่งส่งคนมาเป็นกองทัพเลยเหรอ!
หลัวหลานพลันหยุดวิ่ง และยืนนิ่งอยู่ตรงปลายถนน เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งใส่คลื่นตัวทดลองที่กำลังไหลทะลักมา ก่อนจะพูดว่า “เจ้าพวกหลานชั่ว กองหนุนของปู่มาถึงแล้วโว้ย ฮ่าๆๆ”
เจ้าอ้วนที่ก่อนหน้ายังเอามือกุมหัวหนีหางจุกตูด หลังกองหนุนมาถึงก็หน้าเชิดในพลัน
ขบวนรถหุ้มเกราะผ่านหวือพวกเขาไป และหยุดระหว่างกลางกับตัวทดลอง ชิ่งเจิ่นโผล่หน้าและลงมาจากรถคันหนึ่ง ตามมาด้วยทหารของสมาคมตระกูลชิ่งมากมายไล่หลังมา