the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ – ตอนที่ 189 เหรียญคำขอบคุณที่หายวับไป

หยางเสียวจิ่นฉกระเบิดมือจากทหารของสมาคมตระกูลชิ่งนายหนึ่งด้วยความเร็วสูง ทหารนายนั้นพยายามหลบตามสัญชาตญาณการปกป้องอาวุธตัวเองของทหารทุกนาย ทว่าสุดท้ายก็สัมผัสได้แต่ความชาวูบวาบในมือ ส่วนลูกระเบิดนั้นหายไปแล้ว

หยางเสียวจิ่นถอดสลักอย่างเด็ดเดี่ยวและโยนระเบิดลงไปในท่อทันที เกิดเสียงดังสนั่น อิฐบนถนนโดนระเบิดจนกระจุย

ตัวทดลองที่อัดกันแน่นอยู่ในท่อระบายน้ำไม่อาจทานรับระเบิดมือสองลูก เศษเลือดเนื้อกระจุยกระจายไปทั่วฝาท่อ

แต่กระนั้นทุกคนก็เห็นว่ายังมีตัวทดลองอีกไม่น้อยที่ไม่ได้รับผลกระทบจากแรงระเบิด เริ่นเสี่ยวซู่พูดเสียงเย็น “ระเบิดอีก!”

หยางเสียวจิ่นฉกระเบิดมือมาอีกสองลูกโยนใส่ท่อระบายน้ำ ตอนนั้นเองตัวทดลองที่เหลือจึงเคลื่อนตัวถอยปล่อยร่างแยกเงาของเริ่นเสี่ยวซู่ไว้!

เริ่นเสี่ยวซู่กำลังนอนสมองปวดตุบๆ อยู่บนพื้น เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสว่าระเบิดนั้นมีอำนาจทำลายล้างเพียงใด

ราวกับมีมีดนับหมื่นเล่มเสียบแทงลงมาที่ร่างเนื้อ สะเก็ดระเบิดทรงพลังเหนือกว่าที่เขาคิดไว้มาก

ทว่าเขาก็ยังกล้าให้หยางเสียวจิ่นโยนระเบิดลงไปในท่อ เขารู้ดีว่าตัวเองทนความเจ็บปวดไหว และร่างแยกเงาก็ไม่ยี่หระ

และหลังจากเรื่องนี้จบลง หลัวหลานต้องติดบุญคุณเขายกใหญ่!

ตอนที่ร่างแยกเงาปืนขึ้นมาจากท่อ หลัวหลานก็เข้าไปจับมือมันด้วยน้ำตานองหน้า “สูเสี่ยนฉู่ ฉันขอขอบคุณนายจริงๆ”

ใจของเริ่นเสี่ยวซู่คิด ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับสูเสี่ยนฉู่เลยเฟ้ย แต่เขาก็พูดอะไรออกไปไม่ได้

ก่อนหน้านี้เขาให้ร่างแยกเงาเป็นแพะอยู่ตลอดๆ ทว่าพอมันลงมือทำอะไรประเสริฐๆ เข้า เขากลับไม่ชินเอาเสียเลย

หลัวหลานพลันเอ่ย “มาๆ ทุกคนมาขอบคุณเขากัน ถ้าไม่ใช่เพราะสูเสี่ยนฉู่ คนของพวกเราห้านายคงได้ตายในท่อระบายน้ำแล้ว”

“ขอบคุณนะสูเสี่ยนฉู่!”

คนกลุ่มใหญ่ขอบคุณร่างแยกเงาปลกๆ แต่เริ่นเสี่ยวซู่ไม่ได้เหรียญคำขอบคุณสักกะเหรียญเดียว!

เริ่นเสี่ยวซู่ปวดใจแปลบปลาบ เหรียญคำขอบคุณนับร้อยหายวับไปแบบนี้!

ที่จริงเขายังขาดอีกราวๆ แปดร้อยเหรียญถึงจะปลดล็อกอาวุธขั้นต่อไปในภารกิจรองที่สอง ถ้าหลัวหลานให้คนของเขาขอบคุณอีกสักไม่กี่รอบ ชั่วลัดนิ้วอาวุธเขาก็ปลดล็อกแล้ว

ร้อยเหรียญคำขอบคุณทำให้เขามีอาวุธที่ทรงพลังมากอย่างดาบทมิฬได้ ถ้าไม่ได้ดาบทมิฬ เขาคงตายไปหลายรอยแล้ว เริ่นเสี่ยวซู่ล่ะคาดหวังอาวุธจากหนึ่งพันเหรียญคำขอบคุณมาก แต่นี่โอกาสที่เขาจะได้เหรียญคำขอบคุณนับร้อยหายไปในชั่วพริบตา!

เริ่นเสี่ยวซู่อยากยอมรับความผิดก่อนหน้าขึ้นมาในบัดดล ขอให้ได้เหรียญคำขอบคุณก็พอ จะโดนตามล่าก็ช่างแม่*ละ!

หลัวหลานเหลือบมองเริ่นเสี่ยวซู่ “สูเสี่ยนฉู่อุตส่าห์ช่วยพวกนายสองคนหนี จะไม่เข้ามาขอบคุณหน่อยเหรอไง”

เริ่นเสี่ยวซู่พูด “…ขอบคุณ”

หยางเสียวจิ่นกลั้นขำและกล่าวขอบคุณร่างแยกเงา สถานการณ์พลิกผันในพริบตาแบบนี้ทำให้เธอตลกไม่น้อย ทว่านี่ไม่ใช่เวลามาล้อเลียนเริ่นเสี่ยวซู่ เธอพูด “เสียงระเบิดคงดึงดูดตัวทดลองมาอีก ทุกคนไปเก็บระเบิดที่อยู่ในบ้านล้อมสวนมาให้หมด”

จากนั้นหยางเสียวจิ่นก็ผลักประตูบ้านล้อมสวนออก พอทุกคนเห็นภาพระเบิดลูกปรายอัดแน่นอยู่ในบ้านก็ตะลึงไป เริ่นเสี่ยวซู่พลันคิดว่าที่หยางเสียวจิ่นหลับในห้องเรียนตลอดเพราะอดหลับอดนอนทำระเบิดพวกนี้อยู่ทุกค่ำคืนน่ะสิ

เริ่นเสี่ยวซู่ “บ้านฉันหลังข้างๆ ก็มีระเบิดเหมือนกัน”

ทหารร้อยกว่านายมองเริ่นเสี่ยวซู่กับหยางเสียวจิ่นด้วยความเงียบงัน ทุกคนต่างคิดว่าสองคนนี้หน้าตาดูเยาว์วัยแท้แต่การกระทำช่างดุร้าย

หลัวหลานตะโกน “จะยืนนิ่งอยู่ทำไม! รีบไปเก็บระเบิดมา จากนั้นก็ไปตั้งตามทางหลบหนีของพวกเรา ระเบิดพวกเวรนั่นแม่*ให้เละ!”

มีระเบิดแล้ว ส่วนที่ว่าจะใช้อย่างไร หยางเสียวจิ่นไม่จำเป็นต้องสอนพวกเขาหรอก ทหารของสมาคมตระกูลชิ่งภายใต้หลัวหลานล้วนเป็นทหารชั้นยอด ไม่มีทางไม่รู้วิธีการใช้ของพวกนี้

หลัวหลานเองก็ลอบขนระเบิดจากข้างนอกป้อมปราการมาไม่น้อย แต่ก็ใช้ไปหมดแล้วตอนมีปัญหากับสมาคมตระกูลหลี่ พอทุกคนได้เติมกระสงกระสุนเรียบร้อย ต่างก็ดูกระเหี้ยนกระหือขึ้นมาก

พวกเขาต้องกระเสือกกระสนหนีตัวทดลองมานานมาก ต้องฆ่าล้างบางดับไฟแค้นในอกเสียหน่อย

และเป็นตามที่พวกเขาคาดไว้ ระเบิดสี่ลูกที่ถูกโยนลงไปในท่อระบายน้ำดึงดูดตัวทดลองรอบๆ มา ตอนที่หลัวหลานวิ่งอยู่นั้น พอลองหันกลับไปดู ก็ต้องสะพรึงที่เห็นตัวทดลองปืนป่ายตามตึกรามบ้านช่องราวกับเป็นพื้นราบ

ทันใดนั้นเอง ระเบิดถูกจุดออก เปลวเพลิงลุกโชนขึ้นฟ้า

ตัวทดลองที่อยู่แถวระเบิดต่างโดนเป่ากระเด็น

ทหารของสมาคมตระกูลชิ่งที่ทำหน้าที่ติดตั้งระเบิดมองหน้ากันเอง พวกเขานึกว่าระเบิดทำมือไม่น่ามีพลังทำลายล้างมากเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่าระเบิดมันทรงพลังกว่าที่พวกเขาคิดมาก พวกเขาต่างอดมองไปยังหยางเสียวจิ่นไม่ได้ ระเบิดพวกนั้นมาจากฝีมือของเด็กสาวคนหนึ่งจริงหรือ

ตัวทดลองจำนวนไม่น้อยเลยที่ร่างแหลกเละจากแรงระเบิด แต่กระนั้นก็ไม่ได้ทำให้ตัวอื่นๆ หวาดกลัว พวกมันกลับยิ่งดุร้ายป่าเถื่อนกว่าเดิมด้วยซ้ำ!

ระเบิดไล่หลังเนืองๆ ตามหลังพวกเริ่นเสี่ยวซู่ที่กำลังวิ่งหนี ทว่าแม้ระเบิดจะดังขึ้นไม่หยุด จำนวนของตัวทดลองกลับดูไม่ลดน้อยลง ไม่ใช่ว่าตัวทดลองไม่โดนระเบิดฆ่าตาย แต่เป็นตัวทดลองชุดใหม่เข้ามาเสริมในการไล่ล่า

เจ้าตัวทดลองพวกนี้ดูดุร้ายกว่าเดิมราวกับอยากทำอย่างไรก็ได้จบชีวิตพวกเขา!

หลัวหลานเอามือกุมหัวกัดฟันกรอด “ต่อให้พวกเรามีระเบิดเยอะ แต่ก็ไม่พอจะใช้รั้งตัวทดลองจำนวนมหาศาลได้อยู่ดี ต่อให้หนีออกจากป้อมไปได้ ก็หนีการตามล่าจากพวกมันไม่ไหวหรอก!”

พวกเขาค่อยๆ เห็นประตูป้อมปราการอยู่เบื้องหน้า ทุกคนต่างระมัดระวังตัวตลอด ตัวทดลองไม่ใช่ง่ายๆ ทั้งพฤติกรรมยากคาดการณ์ ต่อให้พวกเขาออกป้อมปราการไปได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะไม่ไล่ตามต่ออยู่ดี

ต่อให้วิ่งผ่านประตูไปได้ ก็ใช่ว่าพวกเขาจะรอด

แต่ตอนนั้นเอง รถหุ้มเกราะคันหนึ่งก็พุ่งชนใส่ประตูป้อมปราการที่กึ่งเปิดกึ่งปิด ทำเอาเศษประตูกระเด็นกระดอนไปทั่ว หลันหลานเห็นสัญลักษณ์ใบแปะก๊วยบนรถหุ้มเกราะคันโตนั่น

รถหุ้มเกราะสีนิลดั่งสัตว์บกตัวยักษ์ที่พุ่งกระโจนไปข้างหน้า รถหุ้มเกราะของสมาคมตระกูลชิ่งพุ่งเข้ามาทีละคันสองคัน เริ่นเสี่ยวซู่คำนวณคร่าวๆ แล้วก็เห็นว่ามีถึงหลายสิบคัน!

สมาคมตระกูลชิ่งส่งคนมาเป็นกองทัพเลยเหรอ!

หลัวหลานพลันหยุดวิ่ง และยืนนิ่งอยู่ตรงปลายถนน เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งใส่คลื่นตัวทดลองที่กำลังไหลทะลักมา ก่อนจะพูดว่า “เจ้าพวกหลานชั่ว กองหนุนของปู่มาถึงแล้วโว้ย ฮ่าๆๆ”

เจ้าอ้วนที่ก่อนหน้ายังเอามือกุมหัวหนีหางจุกตูด หลังกองหนุนมาถึงก็หน้าเชิดในพลัน

ขบวนรถหุ้มเกราะผ่านหวือพวกเขาไป และหยุดระหว่างกลางกับตัวทดลอง ชิ่งเจิ่นโผล่หน้าและลงมาจากรถคันหนึ่ง ตามมาด้วยทหารของสมาคมตระกูลชิ่งมากมายไล่หลังมา

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์

the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์
Status: Ongoing
ในความมืดมิดอันปั่นป่วนโกลาหล หนุ่มน้อยเริ่นเสี่ยวซู่ผงะตื่นขึ้นพร้อมกับปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก จากนั้นก็หันไปมองเด็กชายอายุราวสิบสี่ปีที่ยืนอยู่ตรงประตู “ลิ่วหยวน มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” เริ่นเสี่ยวซู่ถาม แม้จะเรียกเด็กชายว่าลิ่วหยวน แต่ความจริงแล้วชื่อเขาคือเหยียนลิ่วหยวน มองแวบแรก เหยียนลิ่วหยวนดูราวกับคนใสซื่อไม่มีพิษภัยอะไร ทว่าในมือเขานั้นกลับกำมีดกระดูกแน่น ยืนเฝ้าอยู่ตรงประตู ตอนนี้ดึกดื่นค่อนคืน แม้ว่าเขาจะดูง่วงงุนเพียงไร ก็ไม่หลับตาลงแม้แต่น้อยเพราะว่าจำเป็นต้องเฝ้ายามตอนกลางคืน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset