ตอนที่ 457 สาวใช้ตัวแสบ361
ได้ยี้เฉียงอายุสี่สิบกว่าปี ก่อนเดินขึ้นบนเวที สีหน้าดูสุขุมและเข้มขรึม ความสนใจของพนักงานทุกคนมารวมอยู่บนเวทีทันที ไม่มีใครรู้ว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น สีหน้าเขาดูเข้มขรึมมาก
แต่เดิมเซี่ยชีหรั่นคิดว่ามันเป็นการประชุมระดมพลก่อนจัดกิจกรรม แต่เมื่อเห็นสีหน้าของผู้จัดการใหญ่ได้ เธอถึงเข้าใจว่าเรื่องมันไม่ใช่ในแบบที่เธอคิด
“กิจกรรมคริสต์มาสในครั้งนี้ แผนกการตลาดสาขาบริษัทเพชรพลอยของเราได้จัดการประชุมเพื่อแถลงการณ์วางแผนกิจกรรม”
เซี่ยชีหรั่นคิดไม่ถึงว่าจะจัดประชุมเพราะเรื่องนี้ เธอนั่งตัวตรง รวบรวมสมาธิตั้งใจฟังได้ยี้เฉียงต่อไปจะพูดอะไร
พนักงานคนอื่นๆก็เหมือนเซี่ยชีหรั่นรวมความสนไปบนเวที ใครๆก็รู้ว่าในบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปมักจะมีวิธีการแข่งขันเช่นนี้เป็นประจำ แค่กิจกรรมเล็กๆของแผนกการตลาดของสาขาบริษัทเพชรพลอย ตามหลักแล้วจะไม่นำมาเป็นประเด็นในที่ประชุมใหญ่ของกรุ๊ป ดังนั้นสิ่งต่อไปคงไม่ได้พูดถึงความสำเร็จของกิจกรรมว่าสำเร็จมากแค่ไหนแน่ ในนี้ต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน
“ที่มาของกิจกรรมในครั้งนี้ จากการตรวจสอบของผู้จัดการทั่วไปของกรุ๊ป ยืนยันว่าสาขาการตลาดของฉันผู้จัดการหวังชิ้งหลิงได้ตกลงการซื้อขายแบบส่วนตัวกับคนที่อยู่นอกกลุ่ม เขาได้นำโครงการของผู้ใต้บังคับบัญชาของตนเองหวูเหม่ย ให้หวูเหม่ยได้รับชัยชนะในการแข่งขันครั้งนี้ นอกจากนี้ผู้จัดการหวังชิ้งหลิงยังใช้ตำแหน่งของตนเอง ลดตำแหน่งพนักงานเซี่ยชีหรั่น ซึ่งเป็นผู้ที่ควรจะได้รับชัยชนะในครั้งนี้
การกระทำเช่นนี้เป็นการละเมิดความถูกต้องของบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป ดังนั้นผู้จัดการทั่วไปจึงตัดสินใจแจ้งให้ทราบถึงคำวิจารณ์และลงโทษ ผลการตัดสินมีดังนี้ ผู้จัดการแผนกการตลาดหวังชิ้งหลิงถูกไล่ออก แต่เนื่องจากเขาเป็นพนักงานเก่าแก่ และเคยสร้างผลงานให้กับกรุ๊ปมากมาย ดังนั้นเมื่อเขาถูกไล่ออกเขาจะได้รับเงินก้อนครั้งเดียวเป็นเวลา 15 ปีจนกระทั่งเขาเกษียณ กลุ่มยังคงทำประกันทุกประเภทในขณะที่เขาทำงานอยู่ หวูเหม่ยผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดสาขาบริษัทเพชรพลอย ถูกไล่ออก
ผู้จัดการทั่วไปได้ยี้เฉียงของสาขาบริษัทเพชรพลอย ก็คือฉันเอง เนื่องจากการจัดการที่ไม่เหมาะสม ลดตำแหน่ง เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาด”
เซี่ยชีหรั่นจ้องมองได้ยี้เฉียงที่อยู่บนเวที ไม่อาจจะเชื่อหูของตัวเอง เรื่องที่เธอถูกลดตำแหน่ง เธอยังไม่ได้บอกเย่เชินหลินเลย เขาก็รู้แล้วเหรอ
หลิน เพราะฉันคุณถึงได้ตั้งใจทำให้คนในกลุ่มรับรู้เรื่องนี้เหรอ หรือว่า…..
วินาทีที่ได้ยินความจริง พูดได้ว่าในใจเธอรู้สึกโล่งใจในทันที ทันใดนั้นเธอตระหนักขึ้นได้ว่าไม่ใช่ทำเพื่อผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอนะ จนทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้
แค่กิจกรรมนี้ ต้องทำให้ผู้จัดการต้องโดนไล่ออก ผู้จัดการทั่วไปของสาขาบริษัทเพชรพลอยถูกลดตำแหน่ง ยังมีหวูเหม่ยก็ต้องถูกไล่ออก คิดยังไงก็รู้สึกว่ามันรุนแรงเกินไป
ในความเป็นจริงไม่ใช่เธอคนเดียวที่รู้สึกเช่นนี้ พนักงานอีกหลายก็รู้สึกเหมือนกัน คิดว่าอยากทำอะไรเล็กๆน้อยๆเพื่อบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป กลัวจะต้องเผชิญกับชะตากรรมของการถูกไล่ออก
แต่พวกเขาคิดอย่างรอบคอบ ก็รู้สึกว่าบริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปก็ไม่ได้ใจจืดใจดำเกินไป ถึงแม้ผู้อำนวยการหวังจะถูกไล่ออก แต่ก็ไม่ได้ทอดทิ้งเขายังมีเบี้ยเลี้ยงดูอยู่ แค่ไม่ให้เขาดำรงตำแหน่ง
เมื่อวานก่อนประชุม เย่เชินหลินได้เตือนผู้อำนวยการหวังกับหวูเหม่ยควรจะแสดงท่าทีที่ควรจะทำ ดังนั้นหลังจากที่ได้ยี้เฉียงได้ตัดสินเรียบร้อยแล้ว ผู้อำนวยการหวังขึ้นกล่าวทบทวนตัวเอง
หลังจากคิดมาทั้งคืนหวังชิ้งหลิงก็คิดได้แล้ว
ตั้งแต่ถูกหวูเหม่ยขู่ เขาก็ค่อยๆสูญเสียศีลธรรมของตัวเองแล้ว ขณะเดียวกันก็กลัวว่าคนรักของเขาจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหวูเหม่ย
ตอนนี้ถูกเปิดเผยแล้ว เขารู้จักเย่เชินหลินเป็นคนยุติธรรมไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น ถูกไล่ออกเป็นสิ่งที่สมควร แต่เขาไม่นึกเลยว่าคนทำผิดอย่างเขาจะได้รับค่าตอบแทนจากกลุ่มมากขนาดนี้ แล้วยังรับผิดชอบประกันทุกประเภทในขณะที่เขาทำงานอยู่
ตอนเขาขึ้นไปรายงานบนเวที ไม่ได้ปกปิดเรื่องราวที่เกิดขึ้น พูดในสิ่งที่ควรพูดจนหมด
“บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ป เป็นองค์กรที่มีมโนธรรม ได้รับการตัดสินเช่นนี้ในวันนี้ ฉันก็พอใจมากแล้ว ในขณะเดียวกันฉันหวังว่าผู้บริหารทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ ให้ฉันเป็นบทเรียนราคาแพง ก็ยังเป็นคำพูดดีๆประโยคนั้น คนเราควรเดินในทางที่ถูกต้อง”
เย่เชินหลินเป็นคนสรุปผลการประชุมในครั้งนี้ด้วยตัวเอง รูปลักษณ์ที่สูงสง่าของเขาปรากฏอยู่บนเวที พนักงานสาวๆอดไม่ได้ที่จะฉายแววตาชื่นชมเขาต่างจ้องมองที่ตัวเขา
เย่เชินหลินนั่งลงหน้าเวที สายตาเย็นชามองไปที่ผู้ชมทั้งหมด แม้ว่าดูเหมือนจะมีคนอยู่ตรงกลางเป็นหมื่นคน เซี่ยชีหรั่นก็ยังรู้สึกว่าสายตาของเขาหยุดอยู่บนใบหน้าของเธอ แล้วก็ผ่านไป
หน้าของเธอร้อนเล็กน้อย ตอนนี้ในใจไม่สามารถสงบลงได้ ยังคงคิดว่าการตัดสินเช่นนี้มันจะหนักเกินไปไหม
“สวัสดีทุกคน ฉันคือเย่เชินหลิน” เขาพูดไปไม่กี่คำ ก็มีเสียงปรบมือจากผู้ชมดังขึ้น เสียงดังขึ้นดังขึ้นไม่หยุด
เซี่ยชีหรั่นมองทุกคนที่มีอาการกำลังตื่นเต้น ดูยังไงเสียงปรบมือนี้ไม่ใช่แค่ปรบมือให้ประธาน แต่ในนั้นยังมีความเคารพและความจริงใจ ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสำคัญมากในใจของพนักงานทุกคน
เธอก็ปรบมือเหมือนคนอื่นๆ ในขณะเดียวกันก็มองเขานั่งอยู่ที่นั่นด้วยท่าทางที่ไม่ธรรมดา เปรียบเหมือนกษัตริย์ผู้สูงส่งที่ทุกคนสรรเสริญ หัวใจเธอเต้นแรงอีกครั้งเวลานี้ทันใดนั้นเสียงเพลงก็ดังขึ้นในใจเซี่ยชีหรั่น คุณยืนอยู่ท่ามกลางคนเป็นหมื่น รู้สึกถึงสง่าราศีอันรุ่งโรจน์……..
ใจเธอยิ่งสงบไม่ลง ในใจฉันมีเลือดสูบฉีดอย่างรุนแรง เธอคิดว่าทุกคนควรจะมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ สมควรได้รับความเคารพและความสนใจจากคนมากมาย ถ้าเช่นนั้น ก็ถือว่าคุ้มค่ามากที่เกิดมา
ในเวลานี้เธอยังตระหนักไม่ถึง ความรู้สึกบางอย่างมันเกิดโดยธรรมชาติ ที่มหาลัยเธออาจต้องการแค่ทำแผนการตลาดที่ประสบความสำเร็จเท่านั้น ได้รับการยอมรับจากคนอื่น สร้างตำนานในการทำงาน ตอนนั้นเธอไม่คาดคิดว่า เธอจะเป็นผู้หญิงที่อยากจะประสบความสำเร็จอย่างมาก เหมือนในวินาทีนี้ ยีนที่อยู่ในใจของเธอนั้นปรารถนาที่จะได้รับการยอมรับจากผู้คนมากขึ้น เธอจ้องมองเย่เชินหลินอย่างชื่นชม เกือบจะเห็นรัศมีบนหัวของเขา ส่องแสงประกาย
“ฉันรู้การตัดสินในวันนี้ อาจจะมีคนบางคนไม่ยอมรับ รู้สึกว่าการลงโทษเช่นนี้มันหนักเกินไป แต่ฉันต้องการประกาศให้ทุกคนในที่นี้อีกครั้ง บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปจะไม่เอาประสิทธิภาพเป็นตัววัดเท่านั้น บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปต้องการให้พนักงานทุกคนมีความซื่อสัตย์ เพราะความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานของมนุษย์ นอกจากนี้ยังเป็นองค์ประกอบพื้นฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับองค์กรเพื่อความอยู่รอด หากยังมีการแข่งขันที่อยุติธรรมอีก เมื่อตรวจสอบแล้ว จะได้รับการลงโทษที่หนักกว่าครั้งนี้แน่นอน หวังว่าทุกคนจะจดจำ…..”
เย่เชินหลินพูดไม่เยอะ สุดท้ายเขาพูดว่าเขาเห็นพนักงานส่วนใหญ่ทำงานอย่างขยันขันแข็งในตำแหน่งของพวกเขา ยังมีรายงานว่าในกลุ่มมีคนดีมีความสามารถอีกมาก ตั้งแต่วันนี้จะมีการประเมินผลอย่างยุติธรรม จะจัดการประชุมเป็นครั้งคราว เพื่อชื่นชมบุคคลและกลุ่มงานที่มีผลงานดี
การให้รางวัลและบทลงโทษที่ชัดเจนดังกล่าว ก็ต้องได้รับเสียงปรบมือที่ดังกระหึ่ม
หลังเลิกประชุม เซี่ยชีหรั่นก็กลับไปที่ห้องทำงานเหมือนคนอื่นๆ ถึงแม้บริษัทฝู้ซื่อกรุ๊ปจะมีกฎระเบียบ อย่ากระซิบระหว่างทำงาน เนื่องจากวันนี้ทุกคนอาจจะดีใจมาก เสียงของการสนทนายังคงไม่มีที่สิ้นสุด
หัวข้อการสนทนาของพวกเขาคือหวูเหม่ยชนะด้วยวิธีการที่สกปรก ทุกคนคิดว่าเธอเป็นคนไม่ซื่อตรง เซี่ยชีหรั่นเป็นคนชื่อตรง
มีพนักงานสองคนเดินไปหาเซี่ยชีหรั่น ยินดีกับเธอ “ครั้งนี้โครงการของคุณชนะแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นอย่าลืมเลี้ยงข้าวด้วยนะ”
เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันกับพวกเขา เซี่ยชีหรั่นรู้สึกรับมือไม่ทัน แต่เธอไม่ชอบพฤติกรรมน้ำขึ้นให้รีบตักเช่นนี้
ดังนั้นเธอจึงยิ้มพูดกับพวกเธอว่า “ขอบคุณ ทางบริษัทยังไม่ได้ประกาศ โครงการของฉันจะชนะหรือไม่ ยังไม่สามารถมั่นใจได้”
“โธ่ ไม่ต้องพูดก็รู้ ต้องเป็นของคุณแน่นอนที่ชนะ อย่าลืมเลี้ยงข้าวละกัน”
ยังไม่ทันรอเซี่ยชีหรั่นบอกปฏิเสธเลย ทุกคนก็สงบลง มองไปที่ประตูห้องทำงานพร้อมกัน
เซี่ยชีหรั่นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็มองตามทุกคนไปที่ประตู เห็นเย่เชินหลินเดินเข้ามากับได้ยี้เฉียง ด้านหลังของพวกเขายังมีผู้หญิงอายุประมาณสี่สิบที่ไม่เคยเห็นตามมาด้วยหนึ่งคน
เมื่อเห็นเขา เซี่ยชีหรั่นก็ตื่นเต้นโดยไม่รู้ตัว ในช่วงนี้ เขารักษาสัญญาได้ดี ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่โกรธมากแต่เขาก็ไม่ได้เปิดเผยว่าเธอเป็นผู้หญิงของเขา แต่ทุกครั้งที่เขาปรากฏตัวในเวลาทำงาน เธอจะรู้สึกกังวลเสมอ
“มา ทุกคนมาทางนี้ ฉันมีอะไรจะแจ้ง” ได้ยี้เฉียงเรียกทุกคนมาที่โล่งหน้าสำนักงาน แต่เดิมเขาคิดว่าเรื่องสำคัญนี้น่าจะมีการประชุมสักครั้ง คิดไม่ถึงว่าประธานเย่จะเรียบง่ายขนาดนี้ บอกว่าแค่แจ้งในสำนักงานก็พอแล้ว
เมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้ว ได้ยี้เฉียงประกาศทันทีว่า “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สาขาบริษัทเพชรพลอยของพวกเราตำแหน่งผู้จัดการประธานเย่จะเป็นคนดำรงตำแหน่งด้วยตัวเอง…….”
เมื่อประกาศออกไป ทันใดนั้นเหมือนโยนระเบิดลงในห้องประชุม ทุกคนกำลังงงงวย อดไม่ได้ที่จะปรบมืออีกครั้ง
เสียงปรบมือครั้งนี้กระหึ่มกว่าในหอประชุมอีก ประธานเย่มารับตำแหน่งเองมันหมายความว่าอย่างไร แสดงให้เห็นถึงตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปทั้งสาขาบริษัทเพชรพลอยก็จะมีการเปลี่ยนแปลง ทุกคนทำงานข้างกายบุตรแห่งสวรรค์ โอกาสก็จะมากกว่าที่ผ่านมา ขอแค่ขยันตั้งใจ ก็จะได้รับการส่งเสริมง่ายขึ้น
ในบรรดาคนทั้งหมดมีแค่เซี่ยชีหรั่นที่ไม่ขัดข้อง เธออ้าปากเล็กน้อย มองเย่เชินหลินด้วยความตกตะลึง และสายตาของคนแซ่เย่ก็มองผ่านฝูงคนมาอยู่บนใบหน้าเธอ
เนื่องจากไม่อยากให้คนอื่นผิดสังเกต เขาจึงมองด้วยรอยยิ้มเป็นเวลาหนึ่งหรือสองวินาทีแล้วมองผ่านไป มองคนอื่นแทน
แค่แวบเดียว เซี่ยชีหรั่นก็รู้แล้วว่า ที่เขามารับตำแหน่งที่สาขาบริษัทเพชรพลอย เพราะเธอ ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกปลื้มใจ
“นอกจากนี้ ผู้จัดการลี่ผู้จัดการลี่บตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดของพวกเราอย่างเป็นทางการ เซี่ยชีหรั่นก็ยังเป็นผู้ช่วยผู้จัดการเหมือนเดิม เรื่องมีเพียงเท่านี้ ทุกคนกลับไปทำงานของตัวเองได้แล้ว ต่อไปต้องขยันกว่าเดิม” ได้ยี้เฉียงพูดจบ ทุกคนก็แยกย้าย
เวลานี้เพราะผู้บริหารอยู่ครบ จึงไม่มีใกล้กระซิบอะไร ทุกคนรีบกลับไปทำงานของตนเอง
“แจ้งพนักงานที่ชื่อเซี่ยชีหรั่น มาพบฉันในห้องทำงานด้วย” เย่เชินหลินสั่ง แล้วเดินไปที่ห้องทำงานเดิมของได้ยี้เฉียง