กริ่ง! กริ่ง! กริ่ง!
เสียงระฆังดังกึกก้อง กังวานไปทั่วทั้งบ้านใหญ่ตระกูลหู
ในเวลานี้ที่ฟังก็ไม่ได้เคร่งขรึมศักดิ์สิทธิ์ขนาดนั้น ตรงกันข้ามกัน อยู่ภายใต้พื้นหลังของค่ำคืนที่เย็นเหมือนน้ำ เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างแปลกประหลาด
ทุกคนในงานต่างก็เบิกตากว้างมองอย่างเหลือเชื่อ
ใครก็คิดไม่ถึงว่า หูอีซานไม่เพียงมาร่วมงานวันเกิดครบรอบเจ็ดสิบปี ยังมอบของขวัญให้ด้วย
เพียงแต่ว่า เป็นระฆังมรณะเรือนหนึ่ง!
ภายใต้เสียงระฆังที่ดังกังวาน สมาชิกทุกคนในตระกูลหูต่างก็มีความรู้สึกว่า ไม่เพียงแต่เป็นวันสุดท้ายของท่านหู แต่วันสุดท้ายของทั้งตระกูลหูก็มาถึงแล้ว
“ฮ่าๆๆๆ…..”
หูอีซานหัวเราะเสียงดัง มองไปทางท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด และพูดเสียงดัง: “ภรรยา คุณได้ยินมั้ยไอ้สวะที่ทำให้คุณตาย กำลังจะตายเดี๋ยวนี้แล้ว?”
“เพียงแต่ว่า คุณขึ้นสวรรค์แล้ว เขาตกนรก ไม่มีวันรอดตาย!”
หูอีซานทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ ท่าทางบ้าคลั่ง
ซูเซี่ยที่อยู่ด้านหนึ่งได้ยินเสียงระฆังนี้ ดวงตาก็แดงก่ำอย่างฉับพลัน และน้ำตาแหมะๆไหลลงมา
เธอรู้หัวนอนปลายเท้าของเธอแล้ว ก็รู้ข่าวของแม่เธอหลังจากที่ให้กำเนิดเธอได้ไม่นาน ก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ของตระกูลหู
ในเวลานี้ เธอพูดไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร
แค้นนี้ต้องชำระมั้ย?
ก็ไม่เท่าไหร่หรอก
ต่อให้ฆ่าคนมากแค่ไหน คนที่ตายก็ไม่มีทางฟื้นขึ้น
พวกเขาทำได้เพียงใช้ชีวิตอยู่ต่อไปด้วยความเสียใจเท่านั้น
แต่ว่า ในใจของพวกเขาไม่เก็บกดอีกต่อไป จากนี้ไปที่หลุมฝังศพของแม่ สามารถพูดคำนั้นออกมาอย่างไม่สะทกสะท้านว่า ‘ปล่อยวางอดีตที่ผ่านมาได้อย่างแท้จริง’
กริ่ง! กริ่ง! กริ่ง!
เสียงระฆังมรณะยังดังอยู่ แต่ว่าทุกคนที่อยู่ในงานก็รู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่ตลบอบอวลไปด้วยความแตกต่าง
ในเวลานี้ หูอีซานได้เช็ดน้ำตาออกแล้ว ยืนตัวตรงขึ้นมา และเผชิญหน้ากับทุกคนในตระกูลหู
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับตระกูลหูอย่างมีมั่นใจขนาดนี้
แม้แต่เป็นถังเฉา ก็เหมือนราวกับว่าเห็นหูอีซานเป็นแบบนี้ครั้งแรก
“หูอีซาน แกกล้ามอบระฆังให้ฉัน ฉันจะฆ่าแก!”
หูเซียวบันดาลโทสะอย่างถึงที่สุด ดวงตาทั้งสองแดงก่ำมองไปที่หูอีซาน
หูจิ้งจู๋โบกมือในทันที: “เด็กๆ ทำลายระฆังเรือนนี้ซะ!”
เพล้งๆๆๆ!
บอดี้การ์ดที่เหลืออยู่ของตระกูลหูพุ่งไปข้างหน้า และทุบตีระฆังมรณะแบบชาติตะวันตกพังยับเยิน
หูอีซานไม่ได้ห้าม แต่แสยะยิ้มแล้วมองดู
ระฆังมรณะถูกตีดังขึ้นแล้ว ต่อให้ตอนนี้ทำลายระฆังแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์
“วันนี้ ตระกูลหูต้องตาย”
ในแววตาของหูอีซานเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“อย่างแกนะเหรอ?”
หูจิ้งจู๋จ้องมองที่เขาอย่างไม่พอใจ
ในขณะนี้ ทุกคนในตระกูลหูก็รู้สึกถึงวิกฤติ
ปีนั้นลูกชายที่ถูกทอดทิ้งที่โดนขับไล่ออกไปของตระกูลหู ตอนนี้ได้คุกคามถึงรากฐานของตระกูลตระกูลหูแล้ว
จำเป็นต้องกำจัด!
บนใบหน้าของหูอีซานยังคงมีรอยยิ้มจางๆอยู่
“แค่นี้ก็โมโหแล้ว ยังห่างไกลมาก กับสิ่งที่คุณมอบให้ฉันเมื่อยี่สิบปีก่อน!”
หูอีซานชูนิ้วออกมาสามนิ้ว: “รีบพูดมา ลูกสาวของคุณถังอยู่ที่ไหน? ไม่อย่างนั้น ฉันจะทำให้เศรษฐกิจของตระกูลหูพังทลายลงเข้าไปอีกก้าวหนึ่ง!”
ไม่นาน พูดไปแล้วสามรอบ ก็ไม่มีใครพูดออกมา
ถังเฉามองไปที่หูอีซานแวบหนึ่งในทันที หูอีซานเข้าใจ ก็โทรหาหมายเลขหนึ่ง
ในไม่ช้า ทุกแง่มุมของตระกูลหูก็ถูกเล่นงาน
ประวัติที่ตระกูลหูเคยแย่งผลประโยชน์กันเองเมื่อก่อนก็ถูกเปิดเผยทั้งหมด และมอบให้สื่อ
บนอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยเสียงต่อต้านตระกูลหู
ชื่อเสียงของตระกูลหู ตกต่ำอยู่ใต้ก้นเหว
“หูอีซาน หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
หูเซียวมองไปที่หูอีซานแล้วตะคอก
เขาแทบจะโกรธจนบ้าจริงๆแล้ว
หูอีซานแสยะยิ้ม: “คุณจะให้ฉันหยุดก็ได้ ส่งมอบตัวลูกสาวของคุณถังมา ต่อจากนั้นทุกคน คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคุณถัง และขอโทษ!”
“แกฝันไปเถอะ!”
หูเซียวบันดาลโทสะอย่างสุดขีด
แม้ว่าเขาจะตาย ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะคุกเข่าคำนับให้ถังเฉา
“งั้นก็ไม่มีทางแล้ว ตระกูลหูของคุณ รอพังพินาศได้เลย”
หูอีซานส่ายหน้า รู้สึกสงสารความดื้อรั้นยิ่งนักของหูเซียว
หูจิ้งจู๋มองไปที่ถังเฉาและหูอีซาน ทันใดนั้นก็เข้าใจอะไรบางอย่าง และแสยะยิ้ม
“หูอีซาน แกคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้ ยังคงเป็นแกที่เหนือกว่าเหรอ?”
หูอีซานไม่เกรงกลัวสิ่งใด: “หรือว่าไม่ใช่เหรอ?”
แม้ว่าเขาจะจัดการเรื่องทั้งหมดนี้อย่างลับๆ ถ้าหากเผชิญหน้ากันแบบตัวต่อตัว เขาคงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลหูอย่างแน่นอน
แต่ว่าพ่ายแพ้ก็คือพ่ายแพ้ ไม่สามารถหาเหตุผลได้ ดังนั้นหูอีซานจึงมีความมั่นใจมากเช่นกัน
หูจิ้งจู๋ชี้ไปทางคู่นักมีดทั้งใต้และเหนือที่อยู่ทั้งซ้ายและขวา และพูดอย่างเยือกเย็นว่า: “ดูเหมือนว่าแกทำผิดพลาดเรื่องหนึ่ง ที่นี่เป็นตระกูลหู ไม่มีใครกล้าทำอะไรผิดในตระกูลหูของเรา”
“เกิดคุณปู่สั่งให้คู่นักมีดทั้งใต้และเหนือลงมือ พวกแกไม่มีทางที่จะเอาชีวิตรอด จากที่นี่ไปได้”
“แกตายแล้ว ยังจะต่อสู้กับตระกูลหูของเราได้อย่างไร ต่อให้แกทำให้พวกเราเสื่อมเสียชื่อเสียง พวกเราสามารถอาศัยอิทธิพลพลิกสถานการณ์กลับมาได้ แกแน่ใจว่าจะต่อสู้จนตายกับพวกเราเหรอ?”
หูอีซานไม่ได้พูดอะไร มองไปที่คู่นักมีดทั้งใต้และเหนือคู่ขวาดำแวบหนึ่ง ร่องรอยของแรงกดดันปรากฏขึ้นบนร่างกาย
อันที่จริง หูจิ้งจู๋พูดถูก ข้อได้เปรียบของเขา เพียงแค่กำจัดตระกูลหูในธุรกิจเท่านั้น
ถ้าหากเขาถูกคู่นักมีดทั้งใต้และเหนือฆ่าแล้ว ทุกอย่างก็เป็นเพียงแค่พูดโอ้อวด
เขาให้ซูเซี่ยหลบอยู่ที่ข้างหลังของตัวเอง
เมื่อเห็นฉากนี้ หูจิ้งจู๋ยิ้มเล็กน้อย: “อย่างแก ยังไม่สามารถเป็นภัยคุกคามต่อตระกูลหูได้ รู้ตัวแล้ว รีบเป็นคนบอกกับสื่อโทรทัศน์ที่เปิดเผยว่า พวกเราถูกใส่ร้าย”
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ถูกควบคุมโดยหูจิ้งจู๋ หูเซียวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่เลือกหูจิ้งจู๋มาเป็นผู้นำคนฉลาดคนต่อไป ก็ตะโกนเสียงดัง
“ถูกต้อง ถ้าหากบีบคั้นฉันแล้ว ฉันก็จะให้คู่นักมีดทั้งใต้และเหนือฆ่าพวกแกทั้งหมด!”
หูอีซานอดไม่ได้ที่จะมองไปทางถังเฉา
เรื่องของการต่อสู้ อยู่นอกเหนือความสามารถของเขา
ด้วยกำลังของคนคนเดียวต่อกรกับทั้งตระกูล ค่อนข้างเป็นความยากลำบากของเขาจริงๆ
ถังเฉาตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่ได้พูดอะไร ถึงขนาดไม่ได้มองคู่นักมีดทั้งใต้และเหนือที่หน้าตาบูดบึ้งไม่ยิ้มแย้มอยู่ด้านข้างแม้แต่แวบเดียว เพียงแค่พยักหน้าให้เขา
หูอีซานมั่นใจมากในทันที
สายตานี้ แสดงให้เห็นว่าถังเฉามอบที่นี่ให้กับเขาแล้ว
ที่นี่เขาเป็นใหญ่
แล้วแต่เขาว่าจะทำอย่างไร
เขาก็คือผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังของหูอีซาน
เกิดเขาแบกรับไม่ไหวแล้ว ถังเฉาก็ย่อมลงมือเองเป็นธรรมดา
เขามั่นใจมาก มองไปที่ทุกคนในตระกูลหูแล้วพูดว่า: “ทรัพย์สินของตระกูลหูพังไม่เป็นท่า ต่อไป เป็นคนของตระกูลหูแล้ว ฉันจะส่งพวกแกเข้าคุกไปทีละคน!”
“แกกล้าเหรอ!”
หูเซียวและหูจิ้งจู๋ต่างก็ตะโกน
มีเรื่องของก่อนหน้านี้ หูอีซานกล้าพูดแบบนี้ เขาต้องมีความมั่นใจอย่างแน่นอน!
แต่หูเข่อเฟิงและหูเย่าหยางพวกเขาต่างก็ตื่นตระหนก
ปกติแล้วพวกเขาอาศัยที่ตัวเองเป็นคุณชายของตระกูลหูทำเรื่องราวไม่ดีมากมาย แค่ข้อหาเดียว ก็เพียงพอที่พวกเขาจะติดคุกได้แล้ว
“ดูเหมือนว่า แกตั้งใจแน่วแน่ที่จะรนหาที่ตาย!”
“ต่อไปแกก็จะเข้าใจว่า อาศัยแค่แกคนเดียว จะต่อสู้กับตระกูลหูของเราได้อย่างไร!”
ใบหน้าของหูจิ้งจู๋เต็มไปด้วยความเยือกเย็นน่ากลัว กำลังจะให้คู่นักมีดทั้งใต้และเหนือลงมือ
โครม!
ทันใดนั้น ที่ประตูบ้านของตระกูลหู ในเวลานี้ก็มีรถหรูหลายคันขับมาถึง
กลุ่มคนยิ่งใหญ่เกรียงไกรเดินเข้ามา
นำโดยชายวัยกลางคนที่หัวเราะอย่างร่าเริง
“งั้นรวมทั้งตระกูลเซี่ยด้วยล่ะ? สามารถที่จะต่อสู้กับตระกูลหูของนายได้สักตั้งมั้ย?”
“ตระกูลเซี่ย เซี่ยสิงจู๋!”
ทันใดนั้น ผู้คนทั้งหมดในงานก็อุทาน
สีหน้าของทุกคนในตระกูลหูก็ดูไม่ดีอย่างสุดขีด
“ยังมีตระกูลลู่ของฉัน!”
เสียงที่สงบก็ดังมาอีกหนึ่งเสียง
ชายหนุ่มคนหนึ่งนำพาคนกลุ่มยิ่งใหญ่เกรียงไกรเดินมา
ก็คือลู่โป๋หานของตระกูลลู่
ในภวังค์ กองกำลังเป็นหมื่นๆพันๆกำลังคืบคลานเข้ามา ปลุกปั่นพลังอานุภาพให้ฟ้าคำราม