ทุกคนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เวลาแบบนี้ยังมาโฆษณาอีกเหรอ คู่ต่อสู้เพิ่งจะพูดยุแหย่ไปเองนะ จริงจังหน่อยได้ไหม
พวกผู้หญิงก็ตกใจกันไปหมด หลี่ว์เสี่ยวอวี๋หัวหน้านักศึกษาหญิงวิทยาลัยลั่วเสินคนนี้โดนหลี่ว์ซู่ทำเสียคนแล้ว!
การโฆษณาแบบไม่คาดคิดนี้กระจายออกไปอย่างกับไวรัส ทันใดนั้นทุกคนก็รู้ว่าการแข่งขันครั้งแรกระหว่างเจ็ดวิทยาลัยผู้บำเพ็ญที่สำคัญขนาดนี้ จะกลายเป็นตำนานที่ถูกเขียนในหนังสือประวัติศาสตร์ของวิทยาลัยการบำเพ็ญ เรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งแล้วล่ะ อันนี้เป็นกรณีที่พิเศษมากๆ
หลังจากที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋พูดจบแล้ว เธอก็หันไปมองหลี่ว์ซู่อย่างภาคภูมิใจ เก่งไปเลยใช่ไหมล่ะ
หลี่ว์ซู่ยกนิ้วโป้งให้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ และโทรหาสปอนเซอร์เรื่องเงินๆ ทองๆ เสียหน่อย
หลินอี้ซินไม่พอใจ เขาอยากจะทำให้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋โกรธ ถ้าทำแบบนี้แล้วหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ก็อาจจะหลับหูหลับตาเข้าโจมตีและเธอก็อาจจะได้เปรียบกว่าก็ได้
ถึงเขาจะทำให้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋โกรธไม่ได้ แต่เขาก็อาจจะไปขัดความคิดอะไรบางอย่างในหัวเธอ และเธอก็อาจจะเสียสมาธิไป
แต่เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นน่ะ ตอนแรกเขาไม่รู้ว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋คิดแบบไหนเลย แต่ตอนนี้รู้แล้วล่ะ…
หลินอี้ซินเงียบไป “ไม่กลัวแพ้เลยเหรอ”
หลี่ว์เสี่ยวอวี๋เงียบไปสองวินาที “บะหมี่อาจารย์คง อร่อยเหมือนหน้าตา”
[ได้รับแต้มจาก…]
[ได้รับแต้มจาก…]
จงอวี้ถังรีบส่งสัญญาณให้สู้กันสักที ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปการแข่งขันระหว่างเจ็ดวิทยาลัยก็คงกลายเป็นเรื่องตลกไปแล้วมั้ง
เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น หลินอี้ซินก็จับตาดูหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ว่าเธอจะเคลื่อนไหวอย่างไร เขากลัวว่าเธอจะโจมตีก่อน
เขารู้ว่าถึงแม้ว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋จะเลื่อนระดับขึ้นมาเป็นระดับ B เหมือนเขา แต่เธอก็ยังสร้างชื่อมาได้ไม่เท่าเขา
ทันใดนั้นทั้งสนามก็เงียบงัน หลี่ว์เสี่ยวอวี๋จะเข้าโจมตีแล้ว!
สัญลักษณ์ของผู้มีพลังเสกสรรปรากฏขึ้น และคลื่นพลังงานก็ก่อตัวขึ้นเร็วมาก!
หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ยกมือขึ้น แล้วจอห์นสันที่อยู่ใต้ดินก็เสกร่างปลอมของหลี่ว์ซู่เจ็ดร่างขึ้นมา…
[ได้รับแต้มจากหลินอี้ซิน +999]
หลี่ว์เสี่ยวอวี๋รู้สึกว่าเธอได้ทำตามที่หลี่ว์ซู่สั่งอย่างเต็มที่เลย หลี่ว์ซู่บอกให้เธอกำจัดคู่ต่อสู้แล้วทำให้พวกเขาทรมานซะ
แล้ววิชาไหนจะน่ากลัวเท่าการเห็นหลี่ว์ซู่อีกล่ะ หลี่ว์เสี่ยวอวี๋คิดอย่างอื่นไม่ออกเลย!
หลี่ว์ซู่เห็นอย่างนั้นก็อึ้งไปเลย
[ได้รับแต้มจากหลี่ว์ซู่ +999]
เขาไม่กลัวหรอกว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋จะเปิดเผยอะไรออกมา ถึงแม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่ทุกคนเห็นความสามารถที่ผสมผสานกันของหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ ทั้งสายพละกำลัง การเสกสรร ธาตุดิน และผู้รู้ใจสัตว์ ตอนนี้ความสามารถทั้งหมดก็ปรากฏขึ้นมาแล้ว แม้ว่ามันจะแยกกัน แต่ก็ไม่ใช่ความลับอะไร
แต่หลี่ว์ซู่ไม่เข้าใจ เขาบอกให้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋กำจัดคู่ต่อสู้จนคู่ต่อสู้ทรมาน แต่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋เข้าใจที่เข้าสั่งผิดไปได้อย่างไรกัน
เขาไม่เชื่อเลยว่าเขาจะเป็นคนที่ทำให้คนอื่นกลัวได้ ช่วงนี้เขาใจดีแล้วนะ!
หลี่ว์ซู่ขบกราม “จะเอาแบบนี้เหรอ”
หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ชะงัก “ดูสิ เขาทรมานจะตาย”
หลี่ว์ซู่มองหลินอี้ซินที่กำลังจะเป็นบ้าไปแล้ว…
[ได้รับแต้มจากหลินอี้ซิน +999]
ทุกคนก็คิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกตราบใดที่พวกเขาไม่ต้องไปเผชิญหน้ากับหลี่ว์ซู่ตรงๆ แล้วทันใดนั้นร่างปลอมเจ็ดร่างของเขาก็โผล่มา…
หลินอี้ซินเกือบโทรหาตำรวจแล้ว มีปัญหาขัดข้องในการแข่งขันครับ!
หลังจากที่อึ้งไปในตอนแรก ทุกคนก็คิดตาม พวกเขาเข้าใจนะว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋เป็นผู้มีพลังแบบผสมผสาน และก็มีผู้มีพลังแบบผสมผสานสามแบบด้วย และก็ไม่ได้ตกใจเรื่องนี้เท่าไหร่ หลี่ว์เสี่ยวอวี๋เองก็ไม่ได้พยายามจะปกปิดด้วย
แต่เรื่องสำคัญก็คือ…ทำไมหลี่ว์เสี่ยวอวี๋จะต้องเสกหลี่ว์ซู่ชึ้นมากันนะ!
ผู้มีพลังการเสกสรรเสกมนุษย์ไม่ได้ไม่ใช่เหรอ
เวลาเดียวกันนั้นเองคนร้ายในกระทู้มูลนิธิก็เอามีดสั้นออกมา มันเป็นมีดสั้นที่อาบยาพิษสีน้ำเงิน คนร้ายใช้มีดเล่มนั้นแทงเข้าไปตรงหัวใจสมาชิกของเครือข่ายฟ้าดินคนหนึ่ง
ในตอนที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ก็ก้าวออกมา ก็มีคนโพสต์กระทู้ลงในกระทู้ของมูลนิธิว่า [เนี่ยถิงโจมตีไม่เป็นแล้ว]
ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้หายไปหลังจากโพสต์ประโยคเดียว พวกเขาอธิบายถึงตำแหน่งที่น่าอึดอัดของเสินฉังจิ้ง และอธิบายว่าทำไมเนี่ยถิงถึงโจมตีไม่ได้แล้ว
ถ้าพูดกันตามเหตุผลแล้ว โลกควรมีความอดทนสูงมาก มีกฎหลายพันล้านอย่างที่ควบคุมโลกนี้ไว้ พวกเขาจะไม่ยอมรับกฎอีกเพียงกฎเดียวที่เพิ่มมาได้อย่างไรล่ะ แต่โลกนี้มันพังแล้ว และตอนนี้ก็เกิดความขัดแย้งระหว่างกฎของโลกและโลกพังๆ นี้ ไม่มีใครรู้ว่าจะมีปฏิกิริยาลูกโซ่อะไรเกิดขึ้นอีก
โลกนี้ก็เป็นเหมือนโดมิโนที่เอียงใกล้ล้มเต็มที และเสินฉังจิ้งก็ควรมีอำนาจที่จะผลักโดมิโนให้ล้มลง
หากไม่สามารถใช้กฎร่วมกันได้มัน เรื่องมันจะไม่ง่ายเหมือนโลกที่พังไปหรอก แต่มันจะส่งผลให้เกิดหายนะครั้งใหญ่
มีใครคนหนึ่งถามขึ้นมา [ทำไมรู้เยอะจัง จะยืนยันได้อย่างไรว่าเนี่ยถิงโจมตีไม่ได้อีกแล้ว]
แล้วคนร้ายก็ตอบกลับ [ตอนที่เนี่ยถิงเลื่อนระดับ หัวหน้าบาทหลวงจากกลุ่มแก่นความเชื่อ ปรมาจารย์หุ่นเชิด และนักบุญก็อยู่ที่นั่นเหมือนกัน แต่เห็นเขาฆ่าคนพวกนั้นไหมล่ะ] พอพูดจบเขาก็หายไป
ทุกคนอึ้งไปหมด งั้นก็จริงน่ะสิ เนี่ยถิงเป็นคนที่ดุร้ายจะตาย เขาจะไม่เข้าโจมตีคนที่มาขัดขวางการเลื่อนระดับเขาได้อย่างไร
คนร้ายเริ่มจะได้เปรียบในสถานการณ์นี้อีกแล้ว พวกเขาทำให้คนหลายคนเชื่อได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่หัวหน้าบาทหลวงและนักบุญยังเข้าใจได้ทันที ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเนี่ยถิงถึงไม่ฆ่าพวกเขา!
ในตอนนั้นเององค์กรใหญ่ๆ ก็เข้ามาในสนามรบ ผู้บำเพ็ญลับเริ่มจะส่งข่าวไปบอกองค์กรที่พวกเขาทำงานให้แล้ว “กลุ่มฟีนิกซ์ออกเดินทางกันแล้ว สนามบินทุกที่ในนิวยอร์กถูกปิดหมด และสายการบินหลายแห่งก็ต้องเปลี่ยนเส้นทางบิน พวกเขากำลังมุ่งหน้ามากันที่สนามบินนานาชาติอาร์เตม!”
มีผู้โดยสารหลายคนรออยู่ที่สนามบิน ทุกคนซื้อตั๋วกันเรียบร้อย แต่กลับไม่มีเครื่องบินลำไหนบินออกจากสนามบินเลย
อีกอย่างพวกฟีนิกซ์ก็ไล่นักท่องเที่ยวออกจากสนามบินและปิดสนามบินแล้ว พวกสมาชิกฟีนิกซ์ดุดันมาก ผู้โดยสารธรรมดาไม่กล้าจะหือกับพวกเขาหรอก
กลุ่มแก่นความเชื่อออกเดินทาง!
กลุ่มดังเคอร์ออกเดินทาง!
กลุ่มเพลดจ์ออกเดินทาง!
ผู้คนไม่สามารถมองข้ามความวุ่นวายครั้งใหญ่นี้ได้อีกต่อไป
การที่เนี่ยถิงอยู่ระดับเสินฉังจิ้งตอนนี้ทำให้ทุกคนเป็นกังวล พวกเขากลัวว่าเครือข่ายฟ้าดินจะขยายอิทธิพลไปต่างประเทศ แต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าเนี่ยถิงโจมตีไม่ได้แล้ว ก็เลยบ้าคลั่งกันมาก
ทุกคนรู้ว่ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แต่ก็ไม่มีใครสนใจมากนัก พวกเขาเห็นว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการวางแผนล่วงหน้าเพื่อต่อต้านเครือข่ายฟ้าดิน ฉลามจะตามเลือดไปเพื่อโจมตี คนอื่นๆ ก็คิดจะกอบโกยส่วนแบ่งประโยชน์จากเครือข่ายฟ้าดินกัน
ถ้าไม่มีระดับเสินฉังจิ้ง เครือข่ายฟ้าจะครองโลกได้อย่างไรกัน
แต่ทันใดนั้นเองก็มีใครบางคนเดินเข้ามาส่งข่าวว่ากลุ่มทวยเทพและกลุ่มคาร์เทลที่ซาร์ดิเนียก็ออกเดินทางแล้วเหมือนกัน พวกเขาจะมาเป็นพันธมิตรช่วยเครือข่ายฟ้าดิน!
มีปัญหาเข้ามาให้แก้เสียแล้ว ราวกับว่าโลกทั้งใบจมดิ่งลงสู่เวลาตีสาม ซึ่งเป็นชั่วโมงที่มืดมนที่สุดของวัน