ตอนที่ 652 ถูกจับได้อีกแล้ว
ฮาเวิร์ดรู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติเพราะเบ็นเนตต์นั้นแน่วแน่กับการร่วมมือระหว่างกลุ่มฟีนิกซ์และกลุ่ม EO มาก เหมือนกับว่าพวกเขาได้พูดคุยกันมาแล้ว ดูเหมือนเขาจะมองข้ามเงื่อนไขบางอย่างเสมือนโฮเวิร์ดไม่คิดจะปฏิเสธข้อเสนอเลย
แต่ฮาเวิร์ดไม่เข้าใจ เบ็นเนตต์บอกเงื่อนไขออกมามากเกินกว่าจะรับได้ เขาคิดอะไรอยู่นะ
เพราะฉะนั้นฮาเวิร์ดจึงคิดว่ามีอะไรแปลกๆ แต่สิ่งนั้นคืออะไรล่ะ เขาไม่รู้เลย แต่เขาจะต้องหาคำตอบให้ได้
ฮาเวิร์ดกระทืบเท้า แล้วอุณหภูมิของบรรยากาศรอบๆ ก็เพิ่มสูงขึ้น วัชพืชที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาไหม้เกรียมจนแห้งตาย!
มีวงแหวนแผ่ออกมารอบๆ ตัวของฮาเวิร์ด พลังของเขาน่าเกรงขามมาก!
ลูกน้องที่อยู่รอบตัวเขาพลันกระเด็นปลิวออกไปด้วยวงแหวนไฟนี้!
เขาไม่ได้เตรียมจะถอยกลับหรือรีบมุ่งหน้าไปไหน หลี่ว์ซู่เริ่มเครียดแล้วสิ หรือตัวตนของเขาจะโดนทำลายอีกแล้วนะ…
ตอนที่หลี่ว์ซู่ออกมาจากสำนักงานใหญ่ของกลุ่ม EO เขารีบไปหาฮาเวิร์ดโดยไม่ได้หยุดพักเลย ระหว่างทางเขาเจอลูกน้องของฮาเวิร์ดจึงลงมือฆ่าทิ้งซะ จากนั้นหลี่ว์ซู่ก็ค่อยๆ เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาเป็นลูกน้องคนนั้น
แต่บุคลิกและน้ำเสียงที่หลี่ว์ซู่เลียนแบบครั้งนี้ค่อนข้างแตกต่างจากลูกน้องคนที่ว่า ตอนแรกฮาเวิร์ดอาจจะไม่ได้สงสัยอะไรเพราะกำลังคิดเรื่องเบ็นเนตต์อยู่ แต่หลังจากที่เอะใจแล้ว หลี่ว์ซู่ก็โดนระเบิดจนกระเด็นออกไป
แต่ก็ช่างมันเถอะ หลี่ว์ซู่มาที่นี่เพื่อฆ่าต่างหาก!
เครือข่ายฟ้าดินนั้นปฏิบัติงานในต่างประเทศได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เหตุผลหนึ่งก็เพราะกลุ่มฟีนิกซ์และฝ่ายศรัทธานั้นแข็งแกร่งเกินไป
องค์กรใหญ่พวกนี้เคยวางกับดักเครือข่ายฟ้าดินที่บริเวณชายแดนประเทศเพื่อคอยตรวจจับพวกเขา นี่คือสไตล์การลงมือจู่โจมของฮาเวิร์ด
จะบอกว่าฮาเวิร์ดนั้นเป็นผู้ที่กระตือรือร้นที่สุดในโลกแห่งการบำเพ็ญนี้ก็ว่าได้ หากเขากำลังอยู่บนเวที ต่อให้แสงไฟจะมอดดับไปก็ตาม เขาก็ยังส่องประกายเจิดจรัสได้ สถานะของเขาแข็งแกร่งมาก
ก่อนหน้านี้ยอดฝีมือและสมาชิกส่วนใหญ่ของกลุ่มฟีนิกซ์ที่ทำตามแผนเดิมนั้นถูกส่งตัวไปหา ‘ยอดฝีมือที่ขโมยอาวุธไป’ กันอยู่
เพราะฉะนั้นตอนนี้ฮาเวิร์ดจึงตัวคนเดียว หลี่ว์ซู่อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาซุ่มโจมตีฮาเวิร์ดเสีย บางทีอาจทำให้ฝ่ายศรัทธาตกที่นั่งลำบากได้ และมันก็คงทำให้การแข่งขันแย่งชิงแร่นี้ผ่อนปรนลงมาได้บ้าง และก็คงทำให้ความกดดันที่เครือข่ายฟ้าดินต้องเผชิญหน้ากับประเทศอื่นๆ นั้นลดลงมาได้บ้าง และพวกเขาจะได้รับบทผู้ชมดูความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรใหญ่สององค์กรนี้ตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เท่านั้น
หลี่ว์ซู่รู้ว่าครั้งนี้เขาต้องถูกจับได้แน่นอน แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะโดนจับได้เร็วขนาดนี้ ฮาเวิร์ดควรจะเอาเวลาไปโกรธแค้นเบ็นเนตต์สิ ทำไมเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้เนี่ย…
แต่หลี่ว์ซู่ไม่รู้ว่าฮาเวิร์ดนั้นจำรูปร่างและน้ำเสียงของเขาไม่ได้หรอก เขารู้สึกว่าลูกน้องเขานั้นเชื่อถือไม่ได้และไม่เคยทำตัวแบบนี้มาก่อน
เมื่อไฟนั้นลามไปที่หลี่ว์ซู่ ม่านเกราะประกายดาวก็โอบรอบตัวเขาไว้ ประกายดวงดาวกลืนกินร่างหลี่ว์ซู่เข้าไปจนตัวเขาส่องแสงระยิบระยับ หลี่ว์ซู่พุ่งเข้าหาฮาเวิร์ด และทันใดนั้นฮาเวิร์ดก็ชี้มือขึ้นฟ้า จากนั้นนกฟีนิกซ์ก็บินออกมาจากนิ้วของเขา!
ตอนนี้หลี่ว์ซู่เริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว เขาไม่คิดเรื่องนี้มาก่อนเลย แต่แล้วจู่ๆ นกฟีนิกซ์ตัวนั้นก็ตัวหดเล็กลง กลายเป็นไก่ติดไฟเท่านั้น…
ฮาเวิร์ด “…”
ฮาเวิร์ดไม่รู้ว่ามีอะไรผิดพลาดไป แต่แล้วเขาก็รู้สึกราวกับว่าราชันอัคคีได้ปรากฏตัวขึ้น พลังไฟของเขาเองก็รับรู้ได้ถึงการปรากฏตัวนั้น และมันก็ยอมศิโรราบต่อราชาตรงหน้าโดยดี
ก่อนหน้านี้เหลียงเช่อเคยตั้งใจจะโจมตีหลี่ว์ซู่ด้วยไฟของเขา แต่ไฟกลับดับมอดไปเสียดื้อๆ ในตอนนั้นเหลียงเช่อคิดว่าเขาได้ใช้พลังเวทไปหมดแล้ว หลี่ว์ซู่เองก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน…
แต่ตอนนี้หลี่ว์ซู่เริ่มเอะใจแล้วว่าไฟที่อยู่ในตัวของเขาไม่ธรรมดาเสียแล้ว ราวกับว่าพลังไฟนี้เป็นนายทั้งปวงของไฟทั้งหลาย
“แกเป็นใครกัน” ฮาเวิร์ดถามเสียงเย็น เขาไม่ได้โง่ เขารู้ดีว่าตัวเองโดนพลังบางอย่างกดเอาไว้อยู่ แต่ไอ้การเปลี่ยนจากนกฟีนิกซ์เป็นไก่ติดไฟนี่มันก็เกินไปหน่อยนะ!
นี่เป็นพลังของคนคนนี้หรือเขามีวัตถุวิเศษที่สามารถยับยั้งธาตุไฟได้กันแน่นะ ฮาเวิร์ดรู้สึกว่าน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า ที่สุดแล้วการปะทุธาตุไฟนี้ก็ไม่มีลำดับขั้นหรอก เพียงแต่ระดับ B สามารถหยุดการโจมตีของระดับ C ได้ แล้วตอนนี้เขาก็มีพลังระดับ B ขั้นสูง หรือศัตรูของเขาคนนี้จะเป็นระดับ A กันนะ
แต่ผู้มีพลังสายธาตุไฟยังไม่มีใครไต่ระดับไปถึงระดับ A ได้นี่ แล้วถ้าศัตรูอยู่ระดับ A จริง ทำไมยังมาหยอกเขาเล่นๆ แบบนี้อยู่ล่ะ ฮาเวิร์ดควรจะตายไปนานแล้ว!
อีกอย่างจะมีระดับ A คนไหนกันที่เบื่อหน่ายชีวิตจนต้องปลอมตัวมากวนโทสะคนอื่นเล่นแบบนี้! เขาสติดีอยู่หรือเปล่า!
หลี่ว์ซู่ไม่ได้ตอบคำถามของฮาเวิร์ด เขามาที่นี่เพื่อฆ่าฮาเวิร์ดทิ้ง กระนั้นเขากลับพบว่าเขานั้นเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการยับยั้งผู้มีพลังธาตุไฟได้ อย่างกับมีคนยื่นหมอนมาให้ตอนเขากำลังอยากงีบอยู่เลยแน่ะ!
กระบี่ซือโก่วและกระบี่ฝูฉื่อปรากฏตัวขึ้นด้วยเสียงคำราม หลี่ว์ซู่ใช้กระบี่ทั้งสองปกป้องตัวเอง
ฮาเวิร์ดตระหนักได้ว่าเขาเดาผิดแล้วที่ว่าชายคนนี้มาจากฝ่ายศรัทธา เมื่อตอนที่เขาได้ยินเสียงกระบี่บิน ไม่ใช่ว่าราชันฟ้าไม่มีไม้ตายอะไร เพียงแต่พวกเขาแค่ซ่อนไพ่เอาไว้มาโดยตลอด!
ราชันฟ้าปรากฏตัวขึ้นแล้ว!
สำหรับฮาเวิร์ดแล้ว ในเครือข่ายฟ้าดิน ใครที่มีพลังอยู่ระดับ B ก็นับเป็นราชันฟ้าทั้งนั้นแหละ!
ฮาเวิร์ดเริ่มเข้าใจอะไรหลายๆ อย่างแล้ว ราชันฟ้าคนนี้เป็นคนปาเต้าหู้เหม็นจู่โจมองค์กรอื่นๆ และเป็นคนไปโจมตีสำนักงานใหญ่ของ EO นอกจากนี้เขายังขโมยอาวุธของฮาเวิร์ดและฟรานเชสโก้ไป แถมเขาอาจจะเป็นคนประกาศข่าวการจับมือเป็นพันธมิตรระหว่าง EO กับกลุ่มฟีนิกซ์ด้วย
แต่ถึงจะรู้เรื่องทั้งหมดก็สายไปแล้วล่ะ
ไฟของเขาถูกยับยั้งไว้ ฮาเวิร์ดเลยได้แต่โจมตีทางกายภาพเท่านั้น เขาไม่ยอมแพ้หรอก!
ฮาเวิร์ดชี้นิ้วขึ้นฟ้าอีกรอบ เขาอยากจะทดสอบดูว่าพลังของเขาถูกยับยั้งไว้จริงๆ หรือเปล่า ถ้าหลี่ว์ซู่ใช้วัตถุวิเศษจริงๆ มันก็ไม่น่าหยุดพลังของระดับ B ขั้นสูงได้!
แต่แล้วทันใดนั้น เจ้าไก่ติดไฟก็ร่วงหล่นลงมากับพื้น มันส่งเสียงร้องในลำคอแล้ววิ่งหนีไป…
ถ้าหลี่ว์ซู่เจอผู้มีพลังระดับ B คนอื่น เขาก็คงได้ประมือสู้กันอย่างสูสี ไม่รู้ใครจะตายไปก่อนกัน แต่เขาบังเอิญเจอผู้มีพลังสายธาตุไฟเสียนี่! กระบี่บินของหลี่ว์ซู่ล้อมรอบตัวฮาเวิร์ดไว้ แล้วร่างกายของเขาก็ค่อยๆ อ่อนพลังลง เขาสู้หลี่ว์ซู่ไม่ได้จริงๆ
ฮาเวิร์ดรู้ว่าถ้าไม่รีบคิดหาทางรอด เขาต้องตายที่นี่แน่ๆ ฝีมือการปลอมตัวของราชันฟ้าดีแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย อีกอย่างทำไมเขาถึงมีวิธีการสังหารมากมายอย่างนี้นะ!
ฮาเวิร์ดวิ่งหลบกระบี่บินสุดชีวิต เขาหยิบเอาขวดยาสีแดงสดมาจากช่องเก็บของล่องหนแล้วเทเข้าปากเพื่อปกป้องชีวิตของตัวเองไว้!
ที่สุดแล้วกลุ่มฟีนิกซ์ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขายังมีชื่อเสียงโด่งดังในโลกของผู้บำเพ็ญเรื่องฝีมือการวิจัยด้วย มีคนกล่าวไว้ว่ากลุ่มฟีนิกซ์สามารถทำให้คนธรรมดาปะทุพลังได้ อีกทั้งพวกเขายังประสบความสำเร็จเรื่องนี้อย่างงดงาม!