ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 530 พบหน้าหลิวหลี่อีกครั้ง!

คนแบบหลิวซิวนั้นเปรียบเหมือนดวงไฟเล็กๆ ในความมืด ตอนที่เราเดินเข้าไปในความมืดและหนาวเหน็บ เราก็ไม่อยากรู้ว่าจะมีสิ่งร้ายๆ อย่างการหลอกลวงหรือสิ่งน่าเกลียดอะไรรอเราอยู่ข้างหน้า เราเพียงอยากได้อะไรบางอย่างมาเตือนใจว่าเราสามารถเป็นคนที่ดีและคิดบวกได้ในแบบของเราเอง

 

 

หลี่ว์ซู่ยืนอย่างนิ่งเงียบท่ามกลางกลุ่มคนในแถวสุดท้าย ห่าวจื้อเชาบอกเขาว่าท่ายืนขณะสิ้นใจของหลิวซิวจะถูกหลอมเป็นรูปปั้นทองแดงและจะถูกนำไปแสดงไว้ที่ถนนหลิงจิง และจะสลักชีวประวัติของหลิวซิวเอาไว้ที่ตัวฐานของอนุสาวรีย์

 

 

เครือข่ายฟ้าดินไม่ได้ใส่ใจอะไรหากโลกจะรู้ว่าพวกเขาเป็นคนฆ่าทาคาชิมะ ทาอิรัตสึ บริเวณฐานรูปปั้นสลักไว้อย่างชัดเจนว่าหลิวซิวสิ้นใจลงขณะร่วมลงมือปลิดชีพทาคาชิมะในครั้งนั้นพร้อมกับสหายร่วมรบ

 

 

ทว่าไม่มีใครคาดเดาออกว่าสหายร่วมรบคนนั้นเป็นใคร

 

 

หลี่ว์ซู่พาเสี่ยวอวี๋มาเคารพศพหลิวซิว เธอก้มลงเคารพศพแล้วพูดออกมาเบาๆ ว่า “ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยชีวิตหลี่ว์ซู่เอาไว้”

 

 

น่าเสียดายที่เธอไม่สามารถสัมผัสได้ถึงวิญญาณของหลิวซิวได้จากโลงศพ หลี่ว์ซู่ตั้งใจพาเธอมาที่นี่เพื่อมาพิสูจน์ว่าสมมติฐานของเขาเป็นจริงหรือเปล่าที่เขาสามารถใช้พลังพาคนตายกลับมาได้โดยหากสะสมดาบทั้งเจ็ดเล่มให้ครบ

 

 

ถึงแม้มันจะเป็นแค่สมมติฐาน แต่เขาจะต้องพิสูจน์มันให้ได้

 

 

เสี่ยวอวี๋ส่ายหน้าให้หลี่ว์ซู่ สีหน้าของเขาหม่นลงไปเล็กน้อย จริงๆ แล้วเป็นแบบนี้อาจจะดีแล้วก็ได้ เพราะหากหลี่ว์ซู่ทำไม่สำเร็จ วิญญาณของหลิวซิวก็อาจจะหายไปเลยก็ได้ เขาไม่อยากเสี่ยง เว้นเสียแต่ว่าจะมั่นใจแล้วจริงๆ

 

 

หลายคนตกใจและดีใจที่เห็นหลี่ว์ซู่อีกครั้ง พวกเขาส่งสหายร่วมรบออกไปและก็ได้สหายร่วมรบอีกคนกลับมา

 

 

ถึงแม้พวกเขาจะโศกเศร้าในงานศพแห่งนี้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้อ่อนแอลง พวกเขาอยากจะสานต่อที่หลิวซิวได้ทำไว้

 

 

หลี่ว์ซู่ได้อธิบายกับพวกเขาไปว่าภารกิจนี้เป็นการนำมหาสมุทรลึกและทรายขาวกลับมาด้วยวิธีการฉ้อฉล แต่เขาก็ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดมากนักเนื่องจากได้ของจากการโกงมาก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีเท่าไหร่นัก…

 

 

แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะได้รับการตอบกลับในทางดีซะงั้น “เก่งมาก! ทำดีแล้วล่ะ! นายได้ของกลับมาแล้วก็แก้แค้นได้สำเร็จด้วย ที่สำคัญกลับมาปลอดภัยก็ดีมากแล้ว!”

 

 

หลี่ว์ซู่พูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่ง พวกเขาเป็นทหารตัวอย่างที่เนี่ยถิงฝึกมานี่นะ หลี่ว์ซู่คาดหวังอะไรอยู่…

 

 

แต่ทันใดนั้นเอง เขาก็เหลือบไปเห็นหลิวหลี่!

 

 

เขาใช้เวลาพักหนึ่งกว่าจะตั้งสติได้ จากนั้นก็ชี้ไปทางหลิวหลี่แล้วถามโยวหมิงอวี่

 

 

“ทำไมหมอนั่นมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”

 

 

“อ้าว รู้จักกันเหรอ” โยวหมิงอวี่ถามกลับอย่างสงสัย

 

 

“บ้าแล้ว เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเต้าหยวนของผมอ่ะ” หลี่ว์ซู่ตอบ หัวเสียเล็กน้อย

 

 

“อ้อ งั้นเหรอ เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับหลิวซิวน่ะ เนี่ยถิงขอให้เขามาร่วมงานศพ” โยวหมิงอวี่อธิบาย “ตอนเด็กๆ เขาสนิทกับหลิวซิวมากเลยนะ หลิวซิวจากบ้านไปตอนเขาอายุหกขวบ ใครๆ ก็บอกว่าหลิวซิวชอบอุ้มเขาขึ้นไหล่ เขามองหลิวซิวเป็นต้นแบบมาตลอดเลยล่ะ ตอนที่หลิวซิวได้ไปเป็นสายลับในประเทศญี่ปุ่นก็ยิ่งที่ให้หลิวหลี่ภูมิใจในประเทศตัวเองใหญ่ เขารู้แหละว่าหลิวซิวทำงานรับใช้ชาติ แต่ก็ไม่รู้รายละเอียดว่าไปทำอะไรบ้าง”

 

 

หลี่ว์ซู่อึ้ง เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าหลิวซิวกับหลิวหลี่จะเกี่ยวข้องกัน!

 

 

มาตอนนี้เลยรู้สึกผิดขึ้นมาซะงั้น เพราะเขาดันไปกวนประสาทหลิวหลี่ไว้เยอะเชียว

 

 

“รอแป๊บ เสี่ยวอวี๋” หลี่ว์ซู่พูดขณะที่เดินเข้าไปหาหลิวหลี่ที่กำลังยืนตกใจไม่น้อยอยู่เหมือนกัน!

 

 

[ได้แต้มจากหลิวหลี่! +999!]

 

 

“นาย…นายยังมีชีวิตอยู่เหรอเนี่ย!” หลิวหลี่อุทานตกใจอย่างกับเพิ่งเจอผี

 

 

หลี่ว์ซู่ทำตัวไม่ถูก เขาไม่อยากพูดอะไรไม่ดีกับหลิวหลี่ในสถานการณ์แบบนี้ แต่เขาก็ไม่เคยทำดีกับหลิวหลี่มาก่อนเหมือนกัน หลี่ว์ซู่ก็เลยคิดว่าหลิวหลี่คงจะตกใจที่เห็นคนที่คิดว่าตายไปแล้วยังมีชีวิตอยู่…

 

 

เขาเดินเข้าไปหาหลิวหลี่อย่างไม่ทันไม่คิด แต่พอมาอยู่ตรงหน้าจริงๆ เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี หลี่ว์ซู่จึงเอ่ยขอโทษออกไปเพื่อทำลายความเงียบ “ฉันขอโทษด้วยที่เมื่อก่อนทำไม่ดีกับนาย ตอนนี้เราเป็นสหายร่วมรบ เป็นเพื่อนร่วมชั้น มาดูแลกันให้ดีเถอะนะ…”

 

 

หลิวหลี่ได้แต่จ้องหลี่ว์ซู่กลับ ไม่รู้จะทำตัวยังไง

 

 

[ได้แต้มจากหลิวหลี่ +999!]

 

 

หลิวหลี่เตรียมที่จะไปล้างแค้นให้หลี่ว์ซู่ตั้งแต่ได้ยินว่าเขาเสียชีวิตไป ถึงแม้ว่าจะมีความทรงจำที่ไม่ดีหลายอย่างระหว่างกัน แต่จริงๆ แล้วเขารู้ว่าหลี่ว์ซู่ก็เป็นคนดี

 

 

ทว่าตอนนี้เขาอดช็อกไม่ได้ที่หลี่ว์ซู่แสดงท่าทีเช่นนี้ หมอนี่กำลังทำอะไรอยู่เนี่ย มาขอโทษที่ทำผิดเนี่ยนะ นายช่วยทำตัวปกติหน่อยได้ไหม…

 

 

โยวหมิงอวี่และห่าวจื้อเชาเองก็ช็อกเช่นกัน เจ้าเด็กน่ารำคาญนั่นเปลี่ยนไปเป็นคนละคนได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไงนะ ทุกคนในเครือข่ายฟ้าดินต่างได้รับประสบการณ์อันตราตรึงใจจากหลี่ว์ซู่กันหมด

 

 

“ถ้านายยังมีชีวิตอยู่ ทำไมนายถึงไม่ได้มาสอบเข้าวิทยาลัยลั่วเฉิงล่ะ” หลิวหลี่ตอบกลับหลังนิ่งอยู่นาน

 

 

แต่หลี่ว์ซู่ก็พูดต่อโดยไม่ได้สนใจฟังหลิวหลี่พูด “…ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ปัญหาของนายก็คือปัญหาของฉัน ถ้ามีใครมาแกล้งหรืออยากยืมเงินก็มา…เออช่างเถอะ นายรวยอยู่แล้วนี่นะ เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะ! เมื่อกี้นายพูดว่าไงนะ!”

 

 

เขาพลาดไปสอบเข้าวิทยาลัยลั่วเฉิงงั้นเหรอ! หลอกกันเล่นรึเปล่า!

 

 

สีหน้าของหลี่ว์ซู่หม่นลงทันที เขาเดินออกไปหาจงอวี้ถัง “ผมยังเข้าสอบเข้าวิทยาลัยลั่วเฉิงรอบสองได้อยู่ใช่ไหมครับ”

 

 

แต่จงอวี้ถังเมินเขาแล้วโบกมือเรียกโยวหมิงอวี่มาหาแทน

 

 

“เฮ้ย โยวหมิงอวี่ มานี่ที ขอคุยอะไรด้วยหน่อย”

 

 

ทว่าก่อนที่เขาจะเดินจากไป หลี่ว์ซู่ก็ดึงตัวเขาไว้ เขาดึงแรงขนาดที่เสื้อของจงอวี้ถังแทบจะขาดออก…

 

 

[ได้แต้มจากจงอวี้ถัง +374…]

 

 

“ฟังฉันให้ดีหลี่ว์ซู่ สอบเข้าวิทยาลัยลั่วเฉิงก็เหมือนการสอบในโรงเรียนม.ปลายทั่วไป มันคือการสอบระดับชาติ ถ้าไม่ได้เข้าสอบก็ไม่มีการสอบรอบสอง…” จงอวี้ถังยิ้มถึงแม้ว่าจะดูเป้นยิ้มตึงๆ ไปบ้าง เขาเป็นคนรับผิดชอบเรื่องการปลอมตัวของหลี่ว์ซู่ เขารู้ดีว่าหลี่ว์ซู่ทำอะไรไว้บ้างที่กลุ่มทวยเทพ เด็กนี่ฆ่าคนระดับ A แบบนั้นได้ เขาเองเลยไม่อยากจะเป็นศัตรูกับหลี่ว์ซู่

 

 

แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกเหมือนกัน ช่วงเวลาแบบนี้เขาได้ลดตำแหน่งคนไปมาก ไม่มีทางที่เขาจะหาลู่ทางอื่นๆ ให้หลี่ว์ซู่ได้เลย!

 

 

แล้วเขาเองก็ไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจเรื่องทางอื่นได้เสียด้วย หลังจากคิดไตร่ตรองแล้ว เขาก็ตอบออกไป

 

 

“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่น่าเสี่ยวซู่ ลองไปคุยกับราชันฟ้าเนี่ยหรือราชันฟ้าสือดูสิ มาพูดกับฉันไปก็ไม่ได้อะไรหรอก”

 

 

“ฮ่าๆ” หลี่ว์ซู่แค่นหัวเราะ

 

 

[ได้แต้มจากจงอวี้ถัง +666!]

 

 

“ปล่อยฉันได้แล้วน่า…”

 

 

“ฮ่าๆ”

 

 

“จะปล่อยหรือไม่ปล่อยเนี่ย…”

 

 

“ฮ่าๆ”

 

 

[ได้แต้มจากจงอวี้ถัง +999!]

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset