ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 531 รุ่นพี่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋

หลี่ว์ซู่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไปในการสอบเข้าวิทยาลัย เขาก็เข้าสอบทุกครั้งนี่ พอลองคำนวณเวลาดีๆ ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรเหมือนที่จงอวี้ถังบอก

 

 

งั้นเขาไม่ได้เข้าสอบก็เพียงเพราะเขาต้องไปทำภารกิจ…

 

 

“วันสอบมันคือวันไหนกันแน่” หลี่ว์ซู่ดึงเสื้อจงอวี้ถังมาถาม

 

 

“วันที่หก เดือนมกราคม” จงอวี้ถังตอบแบบไม่ลังเล

 

 

หลี่ว์ซู่แทบลมจับ นั่นมันไม่กี่วันก่อนหลังจากที่เนี่ยถิงถามเขาว่าจะกลับหรือไม่กลับไม่ใช่เหรอ ถ้าเขาเลือกกลับมาตอนนั้น เขาก็คงมาสอบได้ทันเวลา!

 

 

แต่ไม่มีใครบอกเขาเรื่องนี้เลยนี่! หลี่ว์ซู่ถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันสอบคือวันไหน เขาลืมเรื่องวันเวลาไปสนิทเลยตอนที่เขาอยู่ในญี่ปุ่น!

 

 

จงอวี้ถังรู้สึกว่าช่วงนี้หลี่ว์ซู่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ น้ำเสียงของเขาเลยนอบน้อมมาก เพราะว่าเขารู้ดีว่าเขาเอาชนะหลี่ว์ซู่ไม่ได้ แล้วหลี่ว์ซู่เองก็เป็นพวกไม่สนอะไรด้วยว่าใครจะเป็นเพื่อนกับเขาหรือไม่ มันจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งถ้าเขาตายไป

 

 

“เสี่ยวซู่ รู้ใช่ไหมว่าเครือข่ายฟ้าดินไม่อยากมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่ที่มีอิทธิพลต่างๆ คือว่ากันตามหลักการแล้วมันทำไม่ได้ที่จะให้นายสอบใหม่ แบบนี้มันไม่ยุติธรรมกับคนอื่น แล้วคนอื่นจะเอาอย่างตามได้” จงอวี้ถังพูดตามตรงอย่างจริงใจ

 

 

“แต่ผมช่วยประเทศชาติไว้นะ…” หลี่ว์ซู่บ่นอุบอิบ

 

 

[ได้แต้มจากจงอวี้ถัง +666!]

 

 

“ขอเวลาเดี๋ยวนะ!” จงอวี้ถังเริ่มปวดหัวกับเรื่องนี้แล้ว “ฉันมีเรื่องอื่นต้องไปทำ ขอลาล่ะ!”

 

 

จงอวี้ถังไม่รอให้หลี่ว์ซู่พูดอะไร เขาสะบัดตัวให้หลุดออกจากเสื้อแจ็กเกตออกแล้วรีบจากไปทันที

 

 

หลี่ว์ซู่ถือแจ็กเกตของจงอวี้ถังค้างไว้อย่างนั้น “อ้าว ไม่อยากได้แจ็กเกตแล้วเหรอ”

 

 

หลิวหลี่มองหลี่ว์ซู่อย่างทึ่งๆ ตอนนี้หลี่ว์ซู่ญาติดีกับเขาแล้ว ลูกพี่ลูกน้องของเขาช่วยชีวิตหลี่ว์ซู่ไว้ เพราะงั้นหลี่ว์ซู่เลยต้องทำดีกับเขาใช่ไหมล่ะ

 

 

แต่แล้วหลี่ว์ซู่ก็เดินกลับมาหาหลิวหลี่

 

 

“ฉันมีธุระต้องไปทำน่ะ เดี๋ยวไปก่อนนะ แต่ว่าฉันหมายความตามที่พูดเลย ถ้านายมีปัญหาอะไรก็มาหาฉันได้ ฉันเป็นเพื่อนกับลูกพี่ลูกน้องนาย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยู่แล้วก็ตามเถอะ จากนี้ไปฉันจะเป็นญาติผู้พี่ของนายเอง!”

 

 

[ได้แต้มจากหลิวหลี่ +999!]

 

 

หลิวหลี่หน้ามืดคล้ำ ที่พูดมาก็โอเคอยู่หรอก แต่เขาก็ยังใช้ประโยชน์จากคนอื่นเหมือนเดิมเลยนะ หลิวหลี่คิดว่าหลี่ว์ซู่เปลี่ยนไปแล้ว แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด หลี่ว์ซู่ก็ยังเป็นหลี่ว์ซู่!

 

 

แต่อย่างไรเขาก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย เมื่อก่อนที่โรงเรียนมีนักเรียนใช้ความรุนแรงเยอะมาก พอมองย้อนไปหลังจากที่จบมาแล้ว เรื่องพวกนั้นก็ช่างน่าขันเสียจริงๆ พอเริ่มทำงานกันแล้ว พวกนักเรียนที่เคยตีกันก็กลับกลายมาเป็นเพื่อนซี้ ถึงจะไม่ค่อยปกติท่าไหร่ แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาล่ะนะ

 

 

ตอนที่ทุกคนคิดว่าหลี่ว์ซู่ตายไปแล้วนั้น หลี่อวี้ชิงกับเยี่ยหลิงหลิ่งก็โศกเศร้ากันจะตาย ตอนนั้นทุกคนก็ยังมีความสัมพันธ์กันแบบไม่ซับซ้อน เป็นชีวิตธรรมดาๆ ที่เรียบง่าย

 

 

แต่หลิวหลี่ก็ยังไม่รู้แน่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลี่ว์ซู่ ก็ตอนนั้นเครือข่ายฟ้าบอกว่าหลี่ว์ซู่ตายแล้วนี่ ทุกคนในเครือข่ายฟ้าดินดูเหมือนว่าจะเก็บอารมณ์กันเก่งมากถึงแม้จะเจอเรื่องที่ไม่คาดคิดในแต่ละวันที่เมืองหลวงนี่

 

 

หลิวหลี่คิดไปถึงตอนที่พวกเขาทะเลาะกันสมัยเรียน หลี่ว์ซู่ก้าวข้ามผ่านคำว่านักเรียนธรรมดาๆ ไปสู่อะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นแล้ว

 

 

ดูอย่างจงอวี้ถังสิ เขาเป็นถึงหัวหน้าผู้จัดการของอวี้โจว เขาเป็นเหมือนราชันฟ้าในสายตาของเด็กนักเรียนทั้งหลาย แต่จงอวี้ถังกลับปสุภาพกับหลี่ว์ซู่มาก แต่หลี่ว์ซู่เองก็เกือบจะฉีกเสื้อแจ็กเกตจงอวี้ถังออกเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว…

 

 

ในมุมมองของหลิวหลี่ เขารู้สึกว่าหลี่ว์ซู่นั้นลึกลับมาก เหมือนกับว่ามีอะไรมากมายเกิดขึ้นโดยที่หลิวหลี่ไม่รับรู้

 

 

หลี่ว์ซู่ทุบอกตัวเองด้วยมือขวาก่อนชี้นิ้วไปที่หลิวหลี่

 

 

“คนอย่างหลี่ว์ซู่ไม่คืนคำหรอก จำไว้ว่าตอนนี้ฉันเป็นญาติผู้พี่นายแล้ว”

 

 

[ได้แต้มจากหลิวหลี่ +999!]

 

 

ไปไหนก็ไปเลยไป! คิดจะเอาเปรียบกัน หาดีเข้าตัวตลอดเลยงั้นเรอะ

 

 

หลี่ว์ซู่พูดจบก็เดินออกไป เขาอยากไปคุยกับเนี่ยถิงหรือสือเสวจิ้นในเรื่องนี้ แต่เขาก็เพิ่งสังเกตว่าทั้งสองคนหายไปแล้ว ไปไหนกันล่ะเนี่ย!

 

 

เขาตามหาตัวเนี่ยถิงกับสือเสวจิ้นอยู่ตลอดสองวัน แต่ก็หายหัวไปกันหมด ถ้าพวกเขาไม่ได้ตั้งใจหลบหน้าหายตาไปจากเขาแล้วละก็ คนพวกนี้ก็คงเป็นผีแล้วล่ะ!

 

 

“เสี่ยวอวี๋ เธอได้ไปสอบเข้าหรือเปล่า” เขากังวลใจเลยถามออกไปทั้งที่รู้ว่ามันคงทำให้เขาไม่สบายใจมาก

 

 

“ไปสิ แถมฉันได้คะแนนดีด้วยนะ” หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ตอบ “ตอนแรกก็คิดว่าเราจะได้เป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน แต่ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นรุ่นพี่เธอแล้วล่ะ”

 

 

“…”

 

 

เธอควรจะเป็นรุ่นน้องเขาสี่ปีสิ มาเป็นรุ่นพี่ของเขาแบบนี้ได้ยังไง! มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย!

 

 

“เอาน่า เดี๋ยวปีหน้าก็สอบได้ หลี่ว์ซู่ของพวกเราฉลาดจะตาย ขยันๆ หน่อยเดี๋ยวก็สอบผ่านปีหน้าเอง” หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ ปลอบใจเขา

 

 

“หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ ฉันจะให้โอกาสเธอกลับไปคิดว่าเธอพูดอะไรออกมา” หลี่ว์ซู่พูดหน้ามืดคล้ำ

 

 

“รอปีหน้าน่า” เสี่ยวอวี๋กำลังรู้สึกสนุก ขณะเดียวกันก็ดูนารูโตะบนมือถือไปด้วย

 

 

เธอไม่ได้อยากไปเรียนนักหรอก ก็แค่หลี่ว์ซู่อยากให้เธอไปเรียนก็เท่านั้น

 

 

เพราะงั้นเธอเลยรู้สึกสนุกที่หลี่ว์ซู่ไม่ได้ไปสอบเข้า เพราะการได้เป็นรุ่นพี่หลี่ว์ซู่นี่มันช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ …

 

 

ในเวลาเดียวกัน เนี่ยถิงและสือเสวจิ้นที่อยู่ห่างออกไปกำลังนั่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเพื่อตกปลา สือเสวจิ้นกำลังเพลิดเพลินกับการอ่านหนังสือเย็บกี่ของเขา แต่แล้วโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้นมา เขาหยิบขึ้นมาดูแล้วยิ้ม

 

 

“หลี่ว์ซู่ออกมาจากเมืองหลวงแล้วล่ะ การให้เขาอยู่ในที่ที่ปลอดภัยก็คือการขัดขวางไม่ให้เขาออกไปทำอะไรบ้าๆ ได้”

 

 

“เขาควรที่จะไปแสดงความสามารถของตัวเองในที่ที่คนเห็นได้เยอะๆ” คันเบ็ดในมือเนี่ยถิงกระตุก ในขณะที่เขาหมุนรอกเบ็ดขึ้นมาเขาก็พูดต่อว่า “รอให้เขาได้ใช้เวลาอยู่ในที่ปลอดภัยแบบนี้ไปก่อนเถอะ แล้วเขาจะรู้ว่ามันไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย เดี๋ยวเขาก็เข้าใจเองแหละว่าออกไปโลกข้างนอกนั่นแล้วจะมีประโยชน์ต่อตัวเขาเองยังไง”

 

 

“คุณกลัวว่าเขาจะดื้อด้านขึ้นมาไหม” สือเสวจิ้นถามหัวเราะ

 

 

“หลี่ว์ซู่เองก็มีขอบเขตของเขา เขาดีกว่าไอ้พวกที่ปากบอกว่ารักชาติแต่ก็ยังไปมีส่วนร่วมกับธุรกิจไม่ทำกำไรทั้งหลายไว้บังหน้า เขาต้องมีใจอยากมาเป็นราชันฟ้าคนที่เก้าเพื่อมารับหน้าที่จัดการเรื่องความสัมพันธ์ต่างประเทศนี้ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะให้ฉันไปขอโทษเขาด้วยใจจริงหรอก” เนี่ยถิงตอบ

 

 

“ตอนแรกผมก็คิดว่าทำไมคุณถึงคาดหวังกับเจ้าเด็กระดับ C คนนี้จัง” คันเบ็ดของสือเสวจิ้นกระตุก เขาตกปลาขึ้นมา “ถ้าเราปล่อยข่าวออกไปว่ามีเด็กอายุสิบเจ็ดปีฆ่าทาคาชิมะที่อยู่ระดับ A ตายได้ ผมก็ไม่รู้ว่าฮาเดสจากสมาคมฟีนิกซ์จะว่ายังไง เขาคงบอกว่าหลี่ว์ซู่ดวงดีมากล่ะมั้ง”

 

 

“ดวงก็เป็นหนึ่งในความสามารถ” เนี่ยถิงตอบอย่างใจเย็น

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset