A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน – ตอนที่ 1495 การต่อสู้กับอสูรอเวจีอัสนี

หลังจากเสียง “ปัง” ดังขึ้นสองสามครั้ง หานลี่ก็ปล่อยอัสนีเทวาปัดเป่าภยันตรายออกมาอีกครั้ง อสูรอเวจีอัสนีหยุดชะงักไปชั่วครู่ สะบัดแขนเสื้อ ดอกไม้สีทองสามดอกพุ่งออกมา

 

 

นั่นก็คือแมลงกลืนทองโตเต็มวัยสามตัว!

 

 

อสูรอเวจีอัสนีเพิ่งจะยินดีกับการกลืนกินประจุไฟฟ้าสีทองสองสามสาย เห็นแมลงเกราะทองสามตัวบินมา พลันตะลึงงัน แต่ทันใดนั้นก็อ้าปากออกอย่างไม่ใส่ใจ

 

 

พ่นประจุไฟฟ้าสีเงินออกมาสายหนึ่ง พลิ้วไหวแล้วกลายเป็นประจุไฟฟ้าสีสามสายพุ่งออกมา แยกกันโจมตีร่างของแมลงทอง

 

 

ผลคือหลังจากที่เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นสามครั้ง แมลงทองก็ถูกลำแสงอัสนีกลืนกิน

 

 

แต่ครู่ต่อมาลูกตาสีทองของอสูรอเวจีอัสนีคู่นั้นพลันฉายแววตะลึงงัน

 

 

เห็นเพียงหลังจากที่ลำแสงอัสนีหม่นแสงลง แมลงวิญญาณสามตัวไม่เพียงจะไม่ได้กลายเป็นเถ้าถ่าน ร่างกายกลับขยายใหญ่ขึ้นสองสามเท่า กระโจนเข้าหาอสูรตัวนั้นอย่างดุดัน

 

 

แม้ว่าสติปัญญาของอสูรอเวจีอัสนีจะไม่เท่ากับมนุษย์ทั่วๆ ไป แต่ฝึกบำเพ็ญเพียรมาจนถึงขั้นนี้ได้ สติปัญญาย่อมไม่มีทางต่ำเตี้ยแน่

 

 

เมื่อมันเห็นแมลงประหลาดเหล่านี้ ทันใดนั้นก็ไม่ประมาทอีก กรงเล็บข้างหนึ่งที่มีประจุไฟฟ้าพัวพันตบออกไปกลางอากาศ

 

 

ชั่วขณะนั้นกรงเล็บลำแสงสีเขียวสามสายพลันเปล่งแสงสว่างวาบพุ่งออกไป หลังจากขยายใหญ่ขึ้น ก็สับลงมาหาแมลงทองที่ดาหน้าเข้ามา

 

 

หลังจากเสียงกรีดร้องแสบแก้วหูดังขึ้น กรงเล็บลำแสงพลันระเบิดออก ลำแสงสีเขียวห่อหุ้มร่างของแมลงทองเอาไว้ข้างใน

 

 

พายุวิญญาณที่น่าตกตะลึงเป็นกลุ่มๆ แผ่กระจายออก พลังปราณฟ้าดินถูกดูดเข้าไป บรรยากาศรอบๆ ราวกับเหมือนพังทลายลงอย่างไรอย่างนั้น

 

 

อสูรอเวจีอัสนีดูเหมือนว่าจะมั่นใจในการโจมตีนี้อย่างเต็มเปี่ยม ไม่สนใจมองผลของการโจมตีอีก ประจุไฟฟ้าสีเงินบนร่างเปล่งแสงสว่างวาบ หมายจะดีดตัวพุ่งออกไปอีกครั้ง เพื่อไล่ตามหานลี่ไป

 

 

แต่หลังจากที่มีเสียงหึ่งๆ ดังออกมาจากลำแสงสีเขียว ก็ทำให้อสูรตนนั้นมีสีหน้าตะลึงงัน เผยแววตาไม่อยากจะเชื่อออกมา

 

 

เห็นเพียงจุดลำแสงสีทองเปล่งแสงสว่างวาบในลำแสงสีเขียว แมลงทองสามตัวบินออกมา กระพริบวาบแล้วกระโจนเข้าไปอยู่ห่างจากอสูรอเวจีอัสนีสองสามจั้ง

 

 

ร่างของพวกมันเปล่งแสงสีทองระยิบระยับ ไหนเลยจะมีท่าทีบาดเจ็บ

 

 

อสูรอเวจีอัสนีพลันตกตะลึง แต่ก็กระตุ้นความเ**้ยมโหดในใของมันขึ้นมาสองสามส่วน!

 

 

อสูรตัวนี้อ้าปากออกอย่างไม่ต้องขบคิด ม่านลำแสงสีเงินพวยพุ่งออกมา ชั่วครู่ก็ห่อหุ้มแมลงทองสามตัวเอาไว้ข้างใน

 

 

แม้ว่าแมลงกลืนทองจะเป็นสิ่งที่กัดกินได้ทุกอย่าง แต่ก็ไม่อาจกัดทะลวงม่านหมอกสีเงินได้

 

 

ดังนั้นหลังจากที่อสูรตัวนี้สูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง ลำแสงสีเงินพลันม้วนออกไป แมลงกลืนทองสามตัวถูกม้วนเข้าไปในปาก

 

 

อสูรตัวนี้อ้าปากกว้างๆ ออก เขี้ยวที่เรียงอยู่เต็มปากออกแรงเคี้ยวอย่างไม่คำนึงถึงสิ่งใด จากนั้นก็กลืนลงไปในท้องทั้งหมด

 

 

จากนั้นร่างของมั่นก็เตี้ยลง แขนขาทั้งสี่มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้น กลายเป็นประจุไฟฟ้าสีเงินสายหนึ่งหายไจปากที่เดิม

 

 

หานลี่ถือโอกาสนี้ไล่ตามออกไปไกลถึงพันจั้งเศษ หันกลับมามองสถานการณ์นี้ ใบหน้ามีสีหน้าประหลาดใจฉายแวบผ่าน ปีกที่แผ่นหลังคู่นั้นพลันกระพือโดยไม่ได้ปริปากใดๆ กลายเป็นผลึกเส้นไหมเส้นหนึ่งพุ่งออกไป แล้วหายวับไปจากกลางอากาศ

 

 

ทั้งสองดูเหมือนว่าจะกลับมายังสถานการณ์หนึ่งคนหนีหนึ่งคนไล่ตามต่ออีกครั้ง

 

 

ทว่าอสูรอเวจีอัสนีดูเหมือนว่าจะถูกการที่หานลี่ปล่อยแมลงทองออกมาก่อนหน้าทำให้โกรธ ร่างกายพลิ้วไหวท่ามกลางประจุไฟฟ้าสีเงิน จิตสังหารปรากฎขึ้นในแววตาเป็นบางครั้งคราว

 

 

ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะคิดหมายสังหารหานลี่แล้ว

 

 

สถานการณ์ต่อจากนี้ก็เป็นสิ่งยืนยันว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ!

 

 

คราเมื่อหานลี่ปล่อยอัสนีเทวาปัดเป่าภยันตรายออกมาโจมตีอสูรตัวนี้อีกครั้ง ร่างกายของอสูรอเวจีอัสนีพลันพลิ้วไหว จากนั้นก็ทะลวงผ่านประจุไฟฟ้าสีทองสองสามสายไป ลำแสงหลีกหนีไม่หยุดลงเลยสักนิด

 

 

อสูรตัวนี้ไม่คิดจะหยอกล้อเล่นอีกเลยสักนิด

 

 

หานลี่ใจหายวาบ ลมปราณรอบกายเพิ่มขึ้น ผลึกเส้นไหมที่สร้างขึ้นพุ่งไปมากลางอากาศไม่หยุด ลำแสงหลีกหนีกปรากฎเลือนๆ อยู่ในนั้น ราวกับภูตผีก็ไม่ปาน

 

 

ทว่าแม้จะเป็นเช่นนั้น ก็แค่ชั่วครู่ อสูรอเวจีอัสนีก็ไล่มาอยู่ด้านหลังเขาห่างออกไปร้อยจั้งเศษแล้ว

 

 

ลำแสงอัสนีที่แผ่นหลังของอสูรตัวนี้ตัดสลับกันไปมา ประจุไฟฟ้าพุ่งออกมา คาดไม่ถึงว่าประจุไฟฟ้าสีเงินจะพัวพันกันกลายเป็นปีกไฟฟ้าคู่หนึ่ง

 

 

อีกคู่นี้มีความยาวสองจั้ง ผิวสีเงินขาว อักขระจำนวนนับไม่ถ้วนลอยไปมาไม่หยุด

 

 

ปีกคู่นี้แค่กระพือเบาๆ อสูรอเวจีอัสนีร่างกายเลือนรางอย่างเปล่าประโยชน์ไปท่ามกลางเสียงปังๆ

 

 

ครู่ต่อมาด้านหลังของหานลี่ห่างออกไปสิบจั้งเศษ ประจุไฟฟ้าสีเงินพลันปรากฎขึ้น เงาลวงตาของอสูรอเวจีอัสนีปรากฎออกมา และเงาลวงตาที่อยู่ตรงจุดเดิมถึงได้สลายหายไปราวกับฟองอากาศ

 

 

“เงาหลีกหนี”

 

 

หานลี่ที่สัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาดของเงาร่างนี้ ก็หันหน้าไปท่ามกลางลำแสงหลีกหนี มองเห็นฉากนี้เข้าอย่างพอดิบพอดี ใบหน้าจึงซีดขาวไปเล็กน้อย

 

 

อสูรตัวนี้มีอิทธิฤทธิ์ในเคล็ดวิชาหลบหนีที่แปลกประหลาดมาก ทำให้เขารู้สึกคาดไม่ถึง และจิตใจหนักอึ้ง

 

 

บางทีเคล็ดวิชาเงาหลีกหนีอาจจะไม่ใช่เคล็ดวิชาที่มีความเร็วมากที่สุดในโลกหล้า แต่ย่อมเป็นเคล็ดวิชาหลีกหนีที่ลึกลับและหายากมากอย่างแน่นอน แม้กระทั่งผู้ที่เคยเห็นเคล็ดวิชาหลีกหนีนี้ด้วยตาตัวเองก็ยังมีไม่มากนัก

 

 

หากไม่ใช่เพราะตอนที่หานลี่อยู่ในเมืองเทวะสวรรค์ เคยศึกษาเคล็ดวิชาอัสนีหลีกหนีของตัวเอง อ่านคัมภีร์ที่เกี่ยวข้องที่ขายอยู่ในเมือง ก็ไม่อาจมองปราดเดียวก็รู้จักเคล็ดวิชาหลีกหนีนี้ได้

 

 

ทว่าครานี้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาตกตะลึง อสูรอเวจีอัสนีมาปรากฎตัวในระยะประชิดเช่นนี้ ปีกไฟฟ้าคู่นั้นก็สะบัดมาทางหานลี่ราวกับภาพลวงตา

 

 

ชั่วขณะนั้นปีกที่สร้างขึ้นจากการหลอมด้วยประจุไฟฟ้าอัสนีก็ลางเลือนสลายหายไปท่ามกลางเสียงฟ้าคำราม

 

 

หานลี่พลันตกตะลึง ไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง เหนือหัวก็มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้น ตาข่ายไฟฟ้ายักษ์ผืนหนึ่งร่อนลงมาจากกลางอากาศ และมาอยู่ใกล้แค่คืบ

 

 

หานลี่พลันตกตะลึงพรึงเพริด ร่างกายหมุนคว้างอย่างไม่ต้องขบคิด อักขระสีทองเงินบนร่างหมุนวน ชุดคลุมอัสนีบินออกมา กลายเป็นตาข่ายไฟฟ้าสีทองเงินผืนหนึ่งเช่นกัน ต้านทานประจุไฟฟ้าสีเงินเอาไว้กลางอากาศ

 

 

จากนั้นลำแสงสีเขียวรอบกายพลันเปล่งแสงสว่างวาบ ร่างกายของเขาพุ่งออกไป หมายจะออกจากอาณาเขตของตาข่ายไฟฟ้า

 

 

อสูรอเวจีอัสนีเห็นเช่นนั้นแววตาเหยียดหยามพลันฉายแวบผ่าน ร่างกายพลิ้วไหวลางเลือนไปอีกครั้ง

 

 

ทันใดนั้นเบื้องหน้าของหานลี่พลันมีลำแสงสีเงินสว่างวาบ เงาลวงตาของอสูรอเวจีอัสนีปรากฎขึ้นเบื้องหน้า ในเวลาเดียวกันกรงเล็บข้างหนึ่งตบออกไปยังจุดที่เหลือ ปลิวไสวราวกับไม่มีเรี่ยวแรง แต่ความรู้สึกที่มอบให้กลับเหมือนกับกรงเล็บนี้ขยายใหญ่ขึ้นสองสามเท่า ราวกับจะห่อหุ้มร่างทั้งร่างของหานลี่เอาไว้

 

 

แต่ตหลังจากที่เสียงอึกทึกดังขึ้น บรรยากาศทั้งสี่ด้านก็สั่นคลอน ด้านล่างกรงเล็บอสูรมีพายุทะลักออกมา หลุมดำไร้รูปร่างที่ดูเหมือนว่าจะกลืนกินได้ทุกอย่างพลันปรากฎขึ้นตรงนั้น

 

 

ร่างของหานลี่เกร็งแน่น ถูกพลังมหาศาลที่ไร้ซึ่งแรงต้านทานผลักไปเบื้องหน้า และถูกส่งไปยังกรงเล็บอสูรกรงเล็บนั้น

 

 

ชั่วพริบตานั้นเขาพลันหน้าซีดเผือด แต่ทันใดนั้นแววตาโหดเ**้ยมพลันปรากฎขึ้น ฉับพลันนั้นพลันอ้าปากออก กระบี่เล่มเล็กสีทองยาวสองสามชุ่นพลันเปล่งแสงสว่างวาบ กลายเป็นสายรุ้งสีทองสายหนึ่งสับลงมาบนกรงเล็บอสูรตนนี้

 

 

อสูรอเวจีอัสนีเห็นเช่นนั้น ไม่เพียงไม่ได้ดึงกรงเล็บกลับ กลับมีแววตายิ้มเยาะฉายแวบผ่าน

 

 

เสียง “ตูม” ดังขึ้น สายรุ้งและลำแสงสีทองพลันหม่นแสงลง คาดไม่ถึงว่ากระบี่เล่มเล็กจะถูกดีดกลับมา

 

 

ส่วนกรงเล็บอสูรนั้นไม่ได้แม้แต่จะขยับ ท่าทางไม่ได้รับความเสียหายเลยัสกนิด

 

 

และยิ่งไปกว่านั้นไม่ใช่แค่นี้กรงเล็บอีกข้างของอสูรตัวนี้เปล่งแสงสว่างวาบยืดออกไป คาดไม่ถึงว่าจะคว้ากระบี่เล่มเล็กเอาไว้ในกรงเล็บท่ามกลางเงากรงเล็บที่ลางเลือน

 

 

แววตาของอสูรตนนี้ฉายแววโหดเ**้ยม ลำแสงสว่างวจ้า กรงเล็บทั้งกรงเล็บกลายเป็นสีเงินบริสุทธิ์ กรงเล็บหุบเข้าหากัน หมายจะทำลายกระบี่เล่มเล็กสีทองเล่มนี้

 

 

อสูรอเวจีอัสนีไม่เพียงมีพลังเทวะโดยกำเนิด และยิ่งไปกว่านั้นกายเนื้อยังแข็งแกร่งกว่าสมบัติระดับสุดยอด เมื่อทั้งสองประสานกัน ก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้จักใช้กรงเล็บแหลมคมของตัวเอง ทำลายสมบัติของคู่ต่อสู้ไปตั้งไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

 

 

แต่ตอนนี้กรงเล็บอสูรออกแรง หมายจะทำเช่นเดิมคือบีบกระบี่เล่มเล็กให้กลายเป็นผุยผง

 

 

แต่หลังจากี่เสียงเสียดสีของธาตุทองแหลมสูงดังขึ้น กระบี่เล่มเล็กสีทองที่อยู่ท่ามกลางลำแสงสีเงินก็บิดเบี้ยวสั่นเทา ลำแสงวิญญาณแค่หม่นแสงลงไปสองสามส่วน แต่กลับปลอดภัยไร้กังวล

 

 

อสูรตัวนี้ดูถูกความแข็งแกร่งของกระบี่ไผ่เขียวตัวต่อเมฆาเกินไปหน่อย

 

 

 กระบี่เล่มนี้ถูกหานลี่ผสมวัตถุดิบที่ล้ำค่าลงไปสองสามชนิด ไม่ต้องพูดถึงสิ่งอื่น แค่ระดับความแข็งแกร่งก็เป็นสิ่งที่หาได้ยากในแดนวิญญาณแล้ว แม้ว่ากระบี่เล่มเล็กจะไม่อาจทำร้ายอสูรอเวจีอัสนีได้ แต่อสูรตัวนี้คิดจะทำลายกระบี่เล่มนี้ ก็ไม่อาจทำได้ในระยะเวลาสั้นๆ เช่นกัน

 

 

อสูรอเวจีอัสนีพลันนิ่งค้าง ไม่รอให้มันได้สติกลับมาจากความตกตะลึง

 

 

หานลี่ที่ถูกกรงเล็บมันกักเอาไว้ กลับมีลำแสงสีทองปรากฎขึ้นบนใบหน้า ปากร้องตะโกนออกมา ลำแสงสีทองนับหมื่นสาย เกล็ดปรากฎขึ้นบนผิวหนังราวกับสร้างขึ้นจากทองคำบริสุทธิ์ ในเวลาเดียวกันลำแสงสีทองที่แผ่นหลังพลันสั่นไหว เผยเงาร่างสีทองสามหัวหกแขนออกมา

 

 

แขนทั้งหกยืดออกมาอย่างช้าๆ พร้อมกัน สั่นเทาเล็กน้อย ทำให้บรรยากาศรอบๆ มีคลื่นแปลกประหลาดปรากฎขึ้น ราวกับผิวน้ำสงบเกิดระลอกคลื่นขึ้น

 

 

และในโอกาสนี้ปีกที่แผ่นหลังของหานลี่พลันสะบัด พายุอ่อนๆ พัดโชยมา ร่างทั้งร่างหายวับไปท่ามกลางสายลม

 

 

อสูรอเวจีอัสนีร้องคำรามต่ำๆ ออกมา กรงเล็บอสูรข้างนั้นชูขึ้นแล้วกำมือ โจมตีไปยังกลางอากาศห่างออกไปสามสิบจั้ง

 

 

เสียงตูมดังสนั่นขึ้น พลังไร้รูปร่างกลุ่มหนึ่งระเบิดออก จากนั้นพลังคลื่นที่ไร้รูปร่างกลุ่มหนึ่งก็สลายออก เสียงหึ่งๆ ดังขึ้น

 

 

เงาร่างคนสายหนึ่งโซซัดโซเซ ถูกโจมตีกระเด็นออกมาจากกลางอากาศ

 

 

นั่นก็คือหานลี่ที่มีสีหน้าตะลึงงัน

 

 

คาดไม่ถึงว่าอสูรตัวนี้แค่ยกมือก็ทำลายเคล็ดวิชาเคลื่อนย้ายของเขาได้ ความสามารถช่างยากจะจินตนาการจริงๆ

 

 

ทันใดนั้นร่างของเขาก็พุ่งออกไปด้านหลังอย่างไม่หยุดยั้ง ในเวลาเดียวกันแขนข้างหนึ่งก็สะบัดออก ไข่มุกกลมสีเขียวสิบกว่าเม็ดพลันพุ่งเข้าไปห่อหุ้มอสูรอเวจีอัสนีเอาไว้ราวกับห่าฝน

 

 

นั่นก็คือไข่มุกอัสนีที่หลอมขึ้นอย่างยากลำบาก

 

 

คาดม่ถึงว่าหานลี่จะใช้ไปในจำนวนหนึ่งในสามส่วน ไม่เรียกว่าไม่พยายามอย่างสุดชีวิตไม่ได้แล้ว

 

 

อสูรอเวจีอัสนีเห็นฉากนี้ แววตายิ้มเยาะพลันฉายแววแวบผ่าน ร่างกายเลือนรางไปอีกครั้ง คาดไม่ถึงว่าหมายจะสำแดงเคล็ดวิชาเงาหลีกหนีเปล่งแสงสว่างวาบแล้วพุ่งผ่าไนป

 

 

แต่ในตอนนั้นเองหานลี่ที่อยู่ไกลออกไปพลันมีสีหน้าแปลกประหลาดปรากฎขึ้น มือหนึ่งร่ายอาคมทันที

 

 

ชั่วขณะนั้นอสูรอเวจีอัสนีพลันรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกมีดแทงในช่องท้อง ร่างกายกลับมาชัดเจนขึ้นอีกครั้ง คาดไม่ถึงว่าจะถูกทำลายเคล็ดวิชาเงาหลีกหนี

 

 

และภายใต้เวลาที่ล่าช้าไปนั้น ไข่มุกกลมสีเขียวสิบกว่าเม็ดก็มาอยู่ในบริเวณใกล้

 

 

ครานี้อสูรอัสนีเจ็บท้องราวกับถูกมีดฟัน จะไปสนใจการโจมตีที่ไม่สะดุดตาเหล่านี้ได้อย่างไร แค่เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นบนเรือนร่าง ฝืนกระตุ้นประจุไฟฟ้าสีเงินชั้นหนึ่งห่อหุ้มร่างเอาไว้ รีบตรวจสอบสถานการณ์ในร่างอย่างร้อนรน

 

 

อสูรตนนี้ประมาทเช่นนี้ ทำให้ดวงตาของหานลี่เปล่งประกาย จิตสัมผัสเคลื่อนไหวอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด

 

 

ไข่มุกอัสนสิบกว่าเม็ดพลิ้วไหวในเวลาเดียวกัน ลำแสงสีเขียวเปล่งแสงสว่างวาบ ระเบิดออกในเวลาเดียวกัน คราแรกลูกอัสนีสีเขียวสิบกว่าลูกพลันปรากฎออกมา กระพริบวาบๆ กลายเป็นลำแสงสีเขียวขนาดเท่าล้อรถ พลังธาตุอัสนีที่แข็งแกร่งสิบกว่ากลุ่มระเบิดออกมาพร้อมกัน

 

 

ชั่วพริบตาเมฆอัสนีขนาดสองสามหมู่พลันปรากฎขึ้น ห่อหุ้มอสูรอเวจีอัสนีที่ไม่ได้เตรียมการป้องกันเลยสักนิดเอาไว้ข้างใน

 

 

เห็นเพียงประจุไฟฟ้าเปล่งแสงสว่างวาบ เสียงอัสนีดังขึ้น เสียงร้องคำรามอันตกตะลึงระคนโกรธแค้นของอสูรตัวนี้ดังออกมาจากเมฆอัสนี

 

 

แม้ว่าอสูรตัวนี้จะเชี่ยวชาญในการกลืนกินอัสนี แต่การโจมตีที่เท่ากับผู้บำเพ็ญเพียรระดับหลอมร่างสองสามคนโจมตีเต็มกำลังพร้อมกัน แน่นอนว่าย่อมไม่อาจกลืนกินได้ และยิ่งไปกว่านั้นครานี้ หานลี่กระตุ้นแมลงกลืนทองในร่างของมันอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ความสามารถของอสูรตัวนี้ถูกกำจัดไป จึงทำได้เพียงรับการโจมตีนี้อย่างทำใจดีสู้เสือเท่านั้น

 

 

พลานุภาพของอัสนีในเมฆอัสนีสำแดงออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย ประจุไฟฟ้าสีเขียวขนาดหนาเท่าปากชามจำนวนนับไม่ถ้วนดีดออกมาจากก้อนเมฆ เสียงฟ้าผ่าดังสะเทือนแก้วหู เสียงฟ้าร้องดังก้องไปในรัศมีร้อยลี้

A Record of a Mortal s Journey to Immortality

A Record of a Mortal s Journey to Immortality

Type: Author: ,
เจ้าบื้อที่สอง หานลี่ เด็กหนุ่มธรรมดาสามัญผู้ได้รับวาสนาให้ไปเข้าทดสอบเป็นศิษย์ในสำนักเล็กๆ แห่งหนึ่ง ทำให้เขาได้รู้จักกับโลกใบใหม่ที่หนุ่มน้อยชนบทอย่างเขาใฝ่ฝันอยากสัมผัสกับมันมาโดยตลอด ในโลกแห่งเซียน เหล่าผู้บำเพ็ญเพียรต่างฝึกฝนค้นหาเส้นทางเพื่อก้าวเข้าสู่ความเป็นนิรันดร์ ทว่าเส้นทางที่แม้กระทั่งผู้บำเพ็ญเพียรซึ่งมีพรสวรรค์สูงส่งแต่กำเนิดยังต้องผ่านความยากลำบากเท่าไหร่กว่าจะไปถึงจุดนั้น แล้วเด็กหนุ่มปุถุชนเช่นเขาจะทำได้หรือ? ด้วยความสามารถอันธรรมดาสามัญของเขาจะเอาตัวรอดในโลกแห่งเซียนนี้ไปได้อย่างไร? เส้นทางแห่งความสำเร็จช่างอยู่ห่างไกลเสียเหลือเกิน… คัมภีร์วิถีเซียนเป็นนิยายจีนย้อนยุคเล่าเรื่องการเดินทางอันน่าติดตามของหานลี่ ผู้ต้องใช้ทั้งไหวพริบและพลังยุทธ์ในการฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ด้วยตัวคนเดียว มาร่วมเดินทางไปกับหานลี่ ผู้เย้ยฟ้าท้านรกเพื่อแสวงหาเส้นทางแห่งการเป็นเซียนด้วยกันเถอะ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset