Advent of the Archmage – ตอนที่ 10: The MI3

สถานณการณ์ในเขตดอกไม้นั้น ดีกว่าในสถาบันเวทมนต์มาก เนื่องจากมีคนตายไม่มาก

 

ถึงแม้พวกนักฆ่าจะมีเยอะแต่ก็ยังน้อยกว่าประชากรชาวเมืองแกลดสโตนที่มีกันกว่า1แสนคนเป็นอย่างมาก

 

เสียงที่ดังมาจากสถาบันเวทมนต์นั้นทำให้ผู้คนในละแวกเขตดอกไม้ตื่นขึ้นมา ซึ่งในเวลาดึกเช่นนี้ในถนนมักจะมีคนไม่มาก แต่ว่าในคืนนี้กลับเต็มไปด้วยผู้คน

 

มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นมาจากคฤหาสน์หลังใหญ่ อยู่ตลอด เสียงเหล่านั้นอาจจะเป็นเสียงของผู้ที่ค้นพับศพที่ถูกลอบสังหาร

 

ลิงค์ คงเดินต่อไปบนถนนกว่าครึ่งชั่วโมง เขาได้เห็นความวุ่นวายในเมืองแกลดสโตนตลอดทางที่เขาเดิน

 

เสียงรบกวนและเหตุการณ์ที่มาจากสถาบันเวทย์มนต์พร้อมๆกับการที่บุคคลสำคัญในเมื่องแกลดสโตนถูกสังหารนั้น น่าจะมีการ์ดติดอาวุธโผล่ออกมารักษาความสงบได้แล้ว แต่ว่าตอนนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของพวกเค้าเลย

 

พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของเมืองน่าจะถูกสังหารไปหมดแล้วแล้ว ลิงค์ ถอนหายใจและเดินต่อไป

 

ผู้คนยังคงอยู่กันเต็มท้องถนน และนอกจากการโจมตีจากพวกดาร์กเอลฟ์แล้วยังมี การปล้นหรือแม้แต่การข่มขืนเกิดขึ้นไปทั่วเมือง ด้วยการที่ไม่มีคนคอยเฝ้าระวังอยู่ พวกอาชญากรที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองก็ต่างพากันออกมาสร้างความหายนะให้แก่เมือง

 

หลังจากผ่านไป 20 นาที หายตัวระดับต้นและเงียบที่เขาร่ายไว้ก็หายไป แต่เขาไม่กลัวที่จะถูกเห็นเพราะเขาได้เขาไปอยู่ท่ามกลางฝูงชนเรียบร้อยแล้ว

 

ด้านหน้าของเขาชายหนุ่มวัยกลางคนสวมผ้าขี้ริ้วรีบวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยกริช ดวงตาวูบวาบจากภายในใบหน้าอันโหดร้าย เขาตั้งใจที่จะปล้น ลิงค์

 

ลิงค์ ยังคงเดินต่อไปพร้อมทั้งยื่นมือออกมา มานาในตัวเขาพุ่งพล่าน จนทำให้มือของเขาส่องแสงเล็กน้อย

 

“อย่ามายุ่งกับชั้น!!” เขาตะโกนอย่างแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

 

นักเวทย์! ชายหนุ่มไวกลางคนที่ดูสกปรกกลัวจนตัวแข็งทื่อ แล้วเขาก็วิ่งหนีไปเพื่อมองหาเหยื่อคนอื่นที่ดูอ่อนแอกว่า

 

สำหรับคนทั่วไป นักเวทย์ดูลึกลับและทรงพลัง การที่ทำให้พวกเขาโกรธนั้นหมายถึงความตาย

 

เขาใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการเดินผ่านเขตดอกไม้ มีคนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในท้องถนน ทำให้มีความวุ่นวายมากขึ้นกว่าตอนแรก สิ่งก่อสร้างบางแห่งเกิดไฟไหม้ มีเสียงร้องดังมาจากภายใน บางคนก็พยายามที่จะช่วยเหลือ แต่บางคนก็ยังคงปล้นคนอื่นต่อไป

 

“กฎหมายและกฏระเบียบได้พังทลายลงเรียบร้อยแล้ว” ลิงค์ ได้แต่ถอนหายใจออกมา เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ในสถานการณ์เช่นนี้

 

ไกลออกไปเล็กน้อยเขาเหลือบเห็นแม่น้ำ มันไม่ได้กว้างมาก ขนาดประมาณ 60 ฟุต แต่มันมีท่าเรือเล็กๆและเรืออยู่ที่นั่น

 

 

นี่คือหนึ่งในส่วนของแม่น้ำแกลดสโตน

 

มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับลิงค์ เขาเดินตรงไปและกระโดดลงไปในเรือลำนึง และใช้ไม้พายดันเรือออกจากฝั่ง และปล่อยให้เรือไหลไปตามกระแสน้ำ

 

เขาทำอย่างนี้เพื่อหลบเลี่ยงการสะกดรอยตามโดยพวกนักฆ่าจากสถาบันเวทมนต์

 

ดาร์กเอลฟ์จอมเวทย์ที่ไปยังสถาบันเวทมนต์จะต้องตามหาตัวฉันด้วยเวทย์สะกดรอยแน่ๆ แต่มันเป็นแค่นักเวทย์เลเวล2 มันทำได้แค่ตามรอยเท้าเท่านั้น ในตอนนี้ชั้นอยู่ในแม่น้ำแล้ว มาดูซิว่าแกจะตามชั้นมาได้ยังไง!

 

ลิงค์ ไม่ได้เจอกับดาร์กเอลฟ์นักเวทย์โดยตรงตอนที่อยู่ในเกม แต่ในเซิฟเวอร์ของเกมนั้นเขาเป้นเจ้าของฟอรั่มมากมายที่ผู้คนมาแบ่งปันข้อมูลกลยุทธ์และพูดคุยกัน ซึ่งทุกครั้งที่เขาว่างเขามักจะเข้าไปอ่าน เพื่อหาข้อมูลในกรณีที่เขาอาจจะเจอกับนักเวทย์ที่แข็งแกร่ง เพราะอย่างนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับพวกดาร์กเอลฟ์ที่ปรากฏตัวมาในช่วงพระจันทร์สีเลือดู

 

ลิงค์ จำได้แม้กระทั่งชื่อของนักเวทย์คนนั้น โฮล์มส์

การสะกดรอยของนักเวทย์ระดับต้นนั้นไม่ต่างอะไรกับคนธรรมดาที่ไม่ใช่นักเวทย์มากนัก นั่นคิอสาเหตุที่ลิงค์ใช้วิธีการปกติในการหลบหนีออกมาได้

 

เว้นแต่ว่าถ้าเป็นนักเวทย์ระดับสูง พวกเขาจะสามารถตามกระแสของมานาหรือในกรณีที่แย่กว่านั้นอาจจะตามได้แม่กระทั่งกระแสวิญญาน  การร่ายเวทย์ วิญญาณตามติดนั้นจะทำให้ ลิงค์ ตกอยู่ในอันตรายจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ในช่วงหลังๆ

 

หลังจากเวลาผ่านไปแค่เพียง 10 นาที ระหว่างที่ลิงค์เดินทางไปได้เพียง 1500 ถึง 2000 ฟุต ลิงค์ ก็เห็นท่าเรือต่อไป เขาจึงเอาเรือไปจอดเทียบท่า

 

เขาไม่รู้วิธีการพายเรือเลย แต่ว่ากระแสน้ำไม่ได้แรงมาก เขาสามารถไปถึงท่าเรือได้โดยไม่มีปัญหาอะไรมากนัก

 

หลังจากกลับเข้าฝั่ง เขาได้เดินต่ออีกซักพักเพื่อรีบออกจากเขตดอกไม้

 

ทางออกนำไปสู่เขตตลาด ปกติตอนกลางวันคนจะหนาแน่นแต่กลางคืนกลับเงียบเขียบ นั้นเป็นเพราะว่ามีคนอาศัยอยู่ที่นี่น้อยนั่นเอง ราคาค่าเช่าของที่นี่มันแพงเกินไปสำหรับประชาชนทั่วไป

 

คืนนี้ก็เหมือนกับปกติ นอกจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่หน้าร้านค้าแล้ว ก็ไม่มีใครเลย

 

โคมไฟตามสองข้างทางในถนนดับลงปล่อยให้ถนนตกอยู่ในความมืดมิด และยังมีลมหนาวคอยพัดอยู่เป็นช่วงๆ พัดให้ขยะลอยขึ้นกลางอากาศ มัน้ป็นภาพของความว่างเปล่า

 

ประตูเมืองนั้นอยู่ใกล้ๆกับเขตตลาด เขาสามารถออกจากเมืองได้โดยใช้เส้นทางนั้น

 

กองทัพดาร์กเอลฟ์กำลังจะมาในไม่ช้า เขาจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการสังหารหมู่ถ้าเขายังอยู่ในเมืองต่อไป  เขาจะต้องออกไปให้ได้ในตอนนี้ ในตอนที่เขายังมีโอกาสอยู่

 

ด้วยความคิดนั้น ลิงค์ รีบออกจากเขตดอกไม้โดยไม่หันกลับไปมองหลังเลยและได้เดินผ่านเขตตลาดมา

 

เขาเปิดนาฬิกาพกพาดู ตอนนี้เป็นเวลา 5 ทุ่ม 36 นาที มันใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว มานาของเขาได้ฟื้นฟูจนกลายเป็น32แต้ม

 

ในเกมพวกดาร์กเอลฟ์จะโจมตีเมืองในตอนเกือบรุ่งสาง ในตอนนั้นไม่มีคนคอยปกป้องเมือง ที่แย่กว่านั้นคือพวกดาร์กเอลฟ์ได้ยึดประตูเมืองและเปิดให้กองทัพทั้งหมดเดินทัพเข้ามาได้

 

จากนั้นการสังหารหมู่ก็เริ่มขึ้น ภายในเวลารุ่งสางคนกว่า1แสนคนก็ถูกฆ่าด้วยฝีมือของพวกดาร์กเอลฟ์  ศพทั้งหลายจะถูกทิ้งลงไปในแม่น้ำแกลดสโตน นี่มันคือโศกอนาตกรรมอย่างแท้จริง!

 

ตอนนี้เป็นเวลา 5 ทุ่มครึ่ง เขายังคงเหลือเวลามากกว่า 2 ชั่วโมงในการหนีออกจากเมืองแกลดสโตน เขามีเวลามากพอเว้นแต่ พระเจ้าจะไม่อนุญาติ หรือมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้น

 

เขตตลาดเงียบเกินไป มันแปลกมากที่เขาเดินอยู่บนถนนคนเดียว เผื่อในกรณีฉุกเฉินเขาจึงร่ายเวทย์ หายตัวขั้นต้นกับเงียบใส่ตัวเองอีกครั้ง

 

20 นาทีต่อมา ลิงค์ ก็ได้มาถึง จตุรัสกลางตลาดและลิงค์ได้ร่ายเวทย์ใหม่อีกครั้ง เขาได้ยินเสียงอาวุธกระทบกันจากตรอกข้างๆที่เขาอยู่

 

มีใครบางคนอยู่ตรงนั้น! และพวกเขากำลังสู้กันอยู่! ลิงค์ ตื่นตัวขึ้นมา เสียงเหมือนกำลังสู้กันอยู่จริงๆ ไม่เหมือนกับเสียงการสู้กันของพวกอันทพาล หรือว่าจะเป็นเสียงของพวกระดับสูงที่ยังเหลือรอดกัน?

 

ลิงค์ ตามไปยังแหล่งต้นเสียง

 

ในตรอกนั้นค่อนข้างมืดและลึก มีแสงจากพระจันทร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่คอยให้ความสว่าง โชคดีมากที่คืนนี้ฟ้าโปร่งไม่มีเมฆ แต่ถึงจะมีแสงจากดวงจันทร์ ลิงค์ ก็ยังแทบจะมองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในตรอก

 

ด้านหน้าของเขามีคนที่ยืนอยู่ 4 คน ขณะที่มีคนนึงนอนอยู่  4 คนที่มีชีวิตมีลมหายใจและศพอีกหนึ่งศพ

 

ใน 4 คนที่ยืนอยู่ มี 3 คนที่ใส่เกราะหนังสีเทาดำ แสดงถึงลักษณะของพวกดาร์กเอลฟ์นักฆ่า ตัวตนของพวกมันเห็นได้ชัดว่า, พวกมันกำลังร้อมลอบคนที่เหลืออยู่

 

เขาสวมเกราะหนังสีเขียวเข้ม แม้ว่าเขาจะสวมหน้ากากเหมือนกับพวกดาร์กเอลฟ์นักฆ่า แต่หูที่กลมของเขาก็ได้ทรยศตัวตนของเขา

 

ศพที่นอนอยู่ที่พื้นนั้นเป็นดาร์กเอลฟ์นักฆ่า นักรบชาวมนุษย์ได้ฆ่าดาร์กเอลฟ์คนนั้นดูจาก เลือดและแผลที่แขนซ้ายของเค้า

 

ไม่มีใครพูดอะไรเลย พวกเขายืนมองหน้ากันแบบเงียบๆ

 

พวกนักฆ่ามองมนุษย์อย่างระมัดระวัง พวกมันมองทุกการกระทำขณะที่ค่อยๆขยับเข้าไปใกล้พลางๆ

 

นักฆ่าเผ่ามนุษย์ค่อยๆถอยอย่างช้าๆ แต่ด้านหลังของเขาคือกำแพงอิฏ ซึ่งอีกไม่นานเขาก็จะถึงมันแล้ว ไม่มีทางอื่นให้หนีแล้ว หลังของเขาแนบอิฏอันเย็นเฉียบ

 

ในมือทั้ง 2 ของเขาถือมีดอยู่ ดูจากความเงาของใบมีด ดูเหมือนมันจะไม่ได้กันเวทมนต์

 

นั่นเป็นเรื่องปกติ อาวุธต่อต้านเวทมนต์นั้นแพงมากๆ ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถมีมันได้

 

ในตอนที่พวกเขากำลังจะสู้กันนั้น มนุษย์ก็ได้พูดขึ้นมา”ฮิฮิฮิ หอคอยวาร์ปพังไปแล้ว แผนการของพวกแกพังแล้ว!”

 

ดาร์กเอลฟ์คนนึงได้ตอบกลับมา “ถึงแม้หอคอยจะพัง แต่พวกข้าก็ยังมีอีกาส่งสารอยู่ พวกข้ายังส่งข่าวไปหากองทัพข้างนอกได้อยู่ถึงแม้มันอาจจะเสียเวลาเพิ่มอีกซักครึ่งชั่วโมงก็ตาม”

 

 

อีกาส่งสาร? นกฮูกตาแดงคอยบินตรวจตราอยู่บนท้องฟ้าของเมืองแกลดสโตนตั้งแต่ตอนพลบคล่ำแล้ว มันขยายพันธ์เพื่อจัดการกับอีกาส่งสารและพวกนกแก้ว อีกาของพวกแกจะรอดจากมันมาได้ยังไง?” นักฆ่าชาวมนุษย์ถามกลับ

 

พวกเอลฟ์ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่ามันคือเรื่องจริง “ภารกิจของพวกเราไม่ใช่การส่งข่าว ในตอนนี้มันคือการฆ่าแก เพื่อความเท่าเทียมพวกเราจะทิ้งศพของแกไว้ทั้งตัว”

 

หลังจากพูดนักฆ่าก็ได้พุงไปข้างหน้า และเพื่อนๆของเขาก็พุ่งเข้าไปพร้อมกัน

 

3ต่อ1!

 

ลิงค์ ที่แอบฟังจากปากทางของตรอก เขาได้นึกถึงตัวตนของนักฆ่าชาวมนุษย์ ชุดเกราะสีเขียวเข้มและลักษณะการพูดของเขานั้นแสดงออกถึงข้อสรุปเดียว

 

เขามาจากหน่วยข่าวกรองทหาร หน่วยที่3!

 

ทหารข่าวกรองหน่วยที่3 หรือรู้จักกันในชื่อ MI3 คือหน่วยข่าวกรองของแดนเหนือ หน้าที่หลักคือการป้องกันการการลอบเข้ามาของพวกดาร์กเอลฟ์จากฝั่งตะวันออก ก่อนถึงช่วงพระจันทร์สีเลือด อาณาจักรทางเหนือและพวกดาร์กเอลฟ์ในป่าดำนั้นอยุ่ในสภาพสงบ แต่ในเบื้องหลังนั้นก็มีหน่วยข่าวกรองคอยเข้าออกหาข่าวอยู่ ยังไงก็ตามสถานการณ์มันไม่เคยเคร่งเครียดจนถึงเมื่อเร็วๆนี้

 

MI3อยู่คู่กับ มือแห่งความตายแห่งป่ามืด ซึ่งมันคือองกรณ์นักฆ่าของดาร์กเอลฟ์

 

ภายในเวลาอันสั้น ลิงค์ ได้เข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของแกลดสโตนมากขึ้น

 

เมืองแกลดสโตนยังไม่ได้ล่มสลายซะทีเดียว บางที่อาณาจักรทางเหนืออาจจะรู้ถึงการซุ่มโจมตีของพวกดาร์กเอลฟ์ บางทีอาจจะยังตอบโต้ได้ทันเวลาอยู่ เพราะดาร์กเอลฟ์โจมตีเร็วกว่าที่คิดไว้ ถ้าการโจมตีนั้นล่าช้าบางทีอาจจะช่วยเมืองแกลดสโตนได้ก็ได้?

 

มึความคิดหนึ่งเข้ามาในหัวของเค้า มีแจ้งเตือนใหม่ขึ้นมาในใจเค้า

 

สำเร็จภารกิจส่วนที่3 หลบหนี

ได้รับค่าโอมนิ20แต้ม

ปลดล็อคภารกิจส่วนที่4 การช่วยเหลือ

เนื้อหา:ช่วยนักรบเผ่ามนุษย์ในเขตตลาดสู้กับนักฆ่าดาร์กเอลฟ์

ผลตอบแทน:ค่าโอมนิ10แต้ม

 

ช่วยคนแค่คนเดียวแต่ได้ตั้ง 10 แต้มโอมนิ ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้ข้อเสนอดีๆแบบนี้ผ่านไป เขารับภารกิจโดยที่ไม่ลังเลเลย

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset