จู่ๆก็มีประกายแสงเกิดขึ้นกลางอากาศพร้อมกับเสียงสั่นสะเทือนในป่าที่อยู่นอกเขตเมืองโอปอล จากแสงตรงนั้น มีคน 2 คนปรากฏขึ้นและตกลงมาที่พื้นจากความสูง 6 ฟุตจากพื้นดิน
นั่นคือลิงค์กับเซลีนที่หนีมาที่นี่ด้วยความช่วยเหลือของเวทย์ข้ามมิติ
เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกเคลื่อนย้ายไปบนต้นไม้ใหญ่ ลิงค์จึงกำหนดพื้นที่ลงดีๆเอาไว้ก่อนล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเข้าไปในเมืองแล้ว มันเป็นพื้นที่โล่งๆในป่าซึ่งเป็นทางที่เขาเคยผ่านมาก่อนหน้านี้ในตอนที่เขาขี่เสือนภามา
ตุ่บ! ตุ่บ!
ลิงค์กับเซลีนตกลงบนเตียงหญ้าอ่อนๆ ดังนั้นพวกเขาทั้งคู่จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ พวกเขาทั้งคู่ยังคงมึนหัวอยู่เนื่องจากมันเป็นผลข้างเคียงจากการใช้เวทย์ข้ามมิติ
เซลีนนั้นเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกอะไรจากการตกลงมาเลย กลับกันในด้านของลิงค์ที่ไม่ได้มีความเข้มแข็งต่างไปจากคนธรรมดาเท่าไหร่นัก เขายังคงรู้สึกมึนอยู่เล็กน้อยหลังจากที่ตกลงมา
ในตอนที่เขานอนอยู่บนพื้นเพื่อรักษาอาการมึนหัว ลิงค์ก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่กดทับลงมาที่ร่างกายเขาและแสงนั้นก็ส่องเข้าตาเขาทำให้เขาปิดตาเอาไว้ พอเขาลืมตาขึ้นมาเขาก็เห็นเซลีนกำลังนั่งคร่อมอยู่บนตัวของเขาและกำลังมองลงมาที่เขา ระยะห่างระหว่างดวงตาของทั้งสองนั้นห่างกันไม่ถึง 8 นิ้ว
ลิงค์รู้สึกว่าถึงแม้เขาจะมองหน้าของเซลีนใกล้ขนาดนี้แต่มันก็ยังดูเรียบเนียนเหมือนกับผิวของหินหยก ดวงตาสีดำของเธอนั้นใสเหมือนกับคริสตัลและดูมีชีวิตชีวาเหมือนกับลูกกวางในป่า คิ้วโค้งๆของเธอก็มีเสน่ห์อันเย้ายวน และริมฝีปากของเธอก็เป็นประกายสีแดงราวกับเมล็ดทับทิมสีแดง
มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกเลยที่เธอจะได้เป็น 1 ใน 4 ของตัวละครที่สวยที่สุดภายในเกม! เธอดูสมบูรณ์แบบมากไม่ว่าจะมองเธอจากมุมไหนก็ตาม
“ครั้งนี้นายช่วยฉันเอาไว้นะลิงค์” เซลีนกระซิบ น้ำเสียงอันอ่อนโยนของเธอสะท้อนอยู่ในดวงตาของเธอที่กำลังจ้องมองมาที่ดวงตาของลิงค์
ลิงค์เกือบตกอยู่ในภวังค์และต้องการที่จะเอื้อมมือออกไปเพื่อปลอบโยนแก้มของเซลีนแต่เขากลัวว่ามันจะไม่เหมาะสม แม้ว่าเขาจะคิดอย่างนั้นก็ตาม แต่นี่มันเป็นเวลาที่เหมาะสมกับการจูบไม่ใช่เหรอ?
แต่ความความเป็นจริงนั้นมักจะไม่สมบูรณ์แบบเหมือนกับในจินตนาการ
ในตอนที่ลิงค์กำลังสนุกกับช่วงเวลานี้ เสียงอันหยาบคายและดิบเถื่อนก็ดังขึ้นข้างพวกเขา มันคือเสือนภา
“รออะไรอยู่หล่ะลิงค์?” ดอเรียสตะโกน “ผู้หญิงของนายพร้อมที่จะผสมพันธุ์กับนายแล้วนะ!”
เสียงนั้นดังขึ้นมาอย่างกะทันหันทำให้เซลีนตกใจกลัว เมื่อเธอหันไปมอง เธอก็เห็นเสือยักษ์ที่มีขนสีเขียวกระโจนออกมาจากในป่า เธอรีบกระโดดออกจากตัวลิงค์และชักดาบคริสตัลไพลินของเธอออกมา
“สัตว์ป่าตัวนี้คือตัวอะไรเนี่ยลิงค์?”เธอถาม
ณ จุดๆนี้ตัวลิงค์เองก็รู้สึกรำคาญเสือ
“นี่ดอเรียส” เขาตอบด้วยความโกรธ “มันคือเสือนภา มันเป็นคนที่พาฉันมาทางใต้นี้”
“และนี่คือ เซลีน ฟลังดร์” จากนั้นลิงค์ก็พูดกับดอเรียส “เธอคือ…เพื่อนที่ดีของฉัน”
“โอ้!” เจ้าเสือตอบ จากนั้นมันก็จ้องไปที่เซลีนด้วยความสนใจและเดินวนรอบตัวเธอ ทันใดนั้นจมูกของมันก็ตั้งขึ้นและมันก็หันมาถามลิงค์ “เอ๊ะ! ทำไมข้าถึงได้กลิ่นพลังงานความมืดจากตัวเธอหล่ะ?”
หน้าของเซลีนซีดลงเมื่อเธอได้ยินคำพูดนี้ เธอมักจะคิดว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอนั้นเป็นเรื่องน่าอายมาตลอดชีวิตของเธอ แต่ ออร่าของเธอและคลื่นพลังภายในนั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่สามารถปิดบังได้ และสิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นสิ่งที่บ่งบอกตัวตนของเธออย่างชัดเจนไม่ว่าใครจะเจอเธอก็ตาม แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ตั้งใจสบประมาทเธอในทุกๆครั้ง แต่มันก็ยังคงทำให้เธออารมณ์เสีย
ลิงค์ที่หูตาไวรู้ได้ในทันทีว่าเซลีนนั้นรู้สึกและคิดยังไงหลังจากที่เห็นแววตาของเธอมืดลง แต่ลิงค์ไม่ได้คิดที่จะเบี่ยงประเด็นในครั้งนี้ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะอธิบายเหตุผลให้กับดอเรียสตรงๆ
“ไปกันเถอะ” เขาบอกกับดอเรียสทันทีที่เขายืนขึ้น “พวกเราจะต้องขึ้นเหนือเดี๋ยวนี้เลย; ฉันจะอธิบายเรื่องทุกอย่างที่เกี่ยวกับเซลีนให้ฟังระหว่างทางเอง”
“ก็ได้” ดอเรียสมองไปที่เซลีนแล้วก็รู้สึกตัวว่าเขานั้นน่าจะทำร้ายความรู้สึกของเธอ ดังนั้นเขาจึงหยุดที่จะดึงดันเรื่องนี้ต่อและก้มลงเพื่อให้ลิงค์ปีนขึ้นมาบนหลังของเขา
จากนั้นลิงค์ก็ส่งสัญญาณให้เซลีนขึ้นมาเช่นกัน เมื่อพวกเขาทั้งสองคนขึ้นมาบนหลังเสืออย่างปลอดภัย ดอเรียสก็มุ่งหน้าขึ้นเหนือในทันที
“พ่อของเซลีนคือเจ้าแห่งความลึก โนโซม่า…” ลิงค์อธิบาย
ดอเรียสนั้นตกใจมากจนเกือบสะดุดขาตัวเองล้ม
“นายว่ายังไงนะ?!” เขาอุทานขึ้นมา ”เจ้าแห่งความลึกโนโซม่า? นายไม่ได้ล้อฉันเล่นใช่มั้ยเนี่ย?!”
แม้ว่าดอเรียสจะเป็นสัตว์วิเศษที่มีอายุมากกว่า 400 ปีและได้เห็นสิ่งมีชีวิตอันทรงพลังมานับไม่ถ้วน แต่โนโซม่านั้นเป็นข้อยกเว้น-ตลอดช่วงชีวิตของเขาและสิ่งต่างๆที่เขาเห็นมา-เขาคือ 1 ใน 3 สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดที่เขาเคยเห็นมาในโลกนี้
สำหรับดอเรียส โนโซม่านั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่สามารถพลิกทวีปฟิรุแมนได้ด้วยการดีดนิ้วเพียงเท่านั้น! เมื่อ 300 ปีที่แล้ว ในช่วงเวลาของนักเวทย์ในตำนาน ไบรอัน, โนโซม่านั้นมีชื่อเสียงไปทั่วทวีปฟิรุแมนเพราะพลังอันน่ากลัวของเขา และปีศาจทราวิสก็เป็นแค่ลูกน้องของเขา!
แม้ว่าเจ้าปีศาจนั้นไม่สามารถลงมาที่ทวีปฟิรุแมนด้วยตัวเองได้ แต่ตำนานได้บอกว่าเขาสามารถแปลงกายตัวเองให้เป็นร่างคนธรรมดาลงมาที่โลกมนุษย์ได้ และทิ้งทายาทเอาไว้มากมาย
ในหมู่ลูกหลานของเขานั้น บางคนก็มีทักษะระดับปานกลางและมีพลังงานความมืดเพียงแค่ระดับต่ำในร่างกายของพวกเขา ในขณะที่บางคนก็เป็นอัจฉริยะที่สามารถสร้างคลื่นความหวาดกลัวและการทำลายล้างได้ทั้งทวีป พอเขาคิดมาถึงจุดนี้ ดอเรียสก็แอบมองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังเขา เขาคิดว่าตำนานนั้นน่าจะเป็นจริงและผู้หญิงที่ขี่หลังเขาอยู่ในตอนนี้จะต้องเป็นลูกหลานที่ทรงพลังที่สุดที่เจ้าแห่งความลึกเคยมีแน่ๆ
“พ่อของเซลีนพยายามไล่จับเธอเพื่อที่จะดึงเธอกลับไปที่หุบเหวแห่งความลึกมาโดยตลอด” ลิงค์พูดต่อ “เขาได้ส่งลูกสมุนปีศาจมาไล่ล่าเธอ และเหตุผลที่ฉันลงใต้มาก็คือการมาช่วยเหลือเธอจากพวกมันเนี่ยหล่ะ”
“แต่ว่า เธอจะหนีจากคนที่แข็งแกร่งอย่างเจ้าแห่งความลึกไปตลอดชีวิตของเธอได้ยังไง?” ดอเรียสถาม
เซลีนรู้สึกว่าดอเรียสไม่ได้แสดงความรังเกียจหรือเกลียดชังต่อเธอ ดังนั้นเธอจึงเริ่มที่จะผ่อนคลาย จากนั้นเธอก็ส่ายหน้าเบาๆและตอบคำถามของเสือ
“ถ้าสุดท้ายแล้วฉันพลาดจริงๆ” เธอพูด “ฉันก็จะเลือกตายด้วยน้ำมือของตัวเอง”
“เธอนี่มันเป็นผู้หญิงที่ดื้อด้านจริงๆนะ!” ดอเรียสตอบ จากนั้นเขาก็พูดต่อแบบไม่คิดอะไร “ไม่แปลกใจเลยที่ลิงค์ชอบเธอ!”
เซลีนหน้าแดงและหันไปทางลิงค์ เธอเห็นว่าหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ด้วยเหตุผลบางอย่าง มันทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นมาในทันที
“แต่ว่า” ดอเรียสพูดต่อ “ปัญหาของโนโซม่านั้นจะยังคงวนเวียนมาหาพวกเราเหมือนกับเมฆดำก้อนใหญ่ ลิงค์, นายได้คิดวิธีรับมือกับลูกสมุนปีศาจเอาไว้รึยัง?”
ดอเรียสไม่ได้กังวัลเกี่ยวกับคนอื่นๆ ไม่แม้แต่เนโครแมนเซอร์เลเวล 7 แอนดรูว เพราะว่าเขาเชื่อมั่นว่าลิงค์คงจะไม่มีปัญหาที่จะจัดการกับพวกเขา แต่ว่าโนโซม่า… เพียงแค่พูดชื่อของเขาออกมามันก็มากพอที่จะทำให้ดอเรียสเข่าพับและความกล้าหาญก็ถูกดูดออกไปจากทั้งร่างกายของเขาแล้ว ความจริงคือ ดอเรียสพบ่วาตอนนี้เขาตัวสั่นอยู่ตลอดเวลา!
นี่เป็นปัญหาอย่างแท้จริง เซลีนเอียงหน้าไปมองลิงค์ และเธอก็ตกใจที่พบว่าลิงค์ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของเขา
“โนโซม่า ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่นายจินตนาการไว้หรอกนะ” ลิงค์พูดอย่างใจเย็น
“อย่าโง่ไปหน่อยเลย, ลิงค์” ดอเรียสไม่เชื่อ “โนโซม่าไม่น่ากลัวงั้นหรอ? นายจะต้องล้อเล่นแน่ๆ!”
ลิงค์ยังคงไม่รู้สึกกังวลใดๆกับคำตอบของดอเรียส
“ในตอนนี้” เขาเริ่มที่จะวิเคราะห์ “ฉันสามารถต่อสู้กับปีศาจเลเวล 8 ได้ และฉันก็ยังหนุ่มมาก ยังคงมีพื้นที่อีกมากให้ฉันได้พัฒนา ภายใน 1 ปีหรือ 2 ปี ฉันอาจจะสามารถต่อสู้กับปีศาจระดับตำนานได้ก็ได้นะ ยิ่งไปกว่านั้น นี่ไม่ใช่การต่อสู้ของฉันคนเดียว ในตอนนี้ ฉันกำลังสร้างดินแดนและกองกำลังของฉันอยู่ ถ้าโนโซม่ากล้าส่งลูกสมุนของมันมา ฉันก็จะฆ่าพวกมันให้หมด ฉันเชื่อว่าพอผ่านไป 10 ปี ต่อให้ถ้าโนโซม่ามาที่นี่ด้วยตัวเอง ฉันก็สามารถสู้กับมันได้อย่างไม่เกรงกลัว”
ลิงค์พูดคำพูดพวกนี้ด้วยความมั่นใจ และเขาก็รู้ว่าความมั่นใจนี้ไม่ใช่ความเข้าใจผิดหรือภาพลวงตาของความยิ่งใหญ่ของเขา
เหตุผลเดียวง่ายๆก็คือความจริงเรื่องที่ปีศาจแห่งความลึกนั้นมาจากอีกดินแดนนึง ซึ่งปีศาจนั้นต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาลในการเข้ามาสู่โลกนี้ อ้างอิงจากตำนาน ในการที่จะส่งทราวิสมายังโลกนี้ได้นั้น ต้องบูชายัญวิญญาณของนักรบปีศาจระดับสูงถึง 1,000 ดวง ซึ่งนั่นก็เป็นค่าใช้จ่ายมหาศาลที่แม้แต่โนโซม่าผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังไม้กล้าที่จะจ่ายง่ายๆ
หรือพูดอีกนัยนึงก็คือ เพียงแค่ลูกสาวที่มีความสามารถเพียงคนเดียวนั้นไม่มีค่าพอต่อการบูชายัญขนาดนั้น
ดอเรียสมั่นใจว่าเขาจะต้องหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแน่ถ้าคำพูดนี้ออกมาจากปากคนอื่น มันอาจจะกัดหัวของคนๆนั้นออกหลังจากที่พูดอย่างหยิ่งผยองแบบนั้นเลยก็ได้ แต่เพราะว่าคำพูดนั้นออกมาจากปากลิงค์ นักเวทย์ผู้แข็งแกร่งที่พึ่งจะฆ่าปีศาจเลเวล 8 ทราวิสมาได้ เขารู้สึกว่าคำพูดพวกนี้มีน้ำหนัก, น่าเชื่อถือและคุ้มที่จะนำมาคิดแบบจริงจัง
“โอเค โอเค ข้าเข้าใจแล้ว” ดอเรียสพูดอย่างมีอารมณ์ขัน “ข้ารู้ว่าเจ้าหน่ะแข็งแกร่ง!”จากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรต่อและตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อไป
ลิงค์นั่งบนหลังเสืออย่างสบายอยู่ข้างหลังเซลีน มือของเขากอดเอวที่โค้งเว้าอย่างน่าตกใจของเจ้าหญิงปีศาจ เซลีนไม่ได้ต่อต้านการกระทำของเขา เธอปลอ่ยให้เขามีความสุขในการขี่เสือกลับทางเหนือด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความปลื้มปิติ
และหลังจากนั้นพักนึง เขาก็ตัดสินใจที่จะพูดกับเซลีนเกี่ยวกับเป้าหมายที่แท้จริงของเขา
“เซลีน” เขาพูด “ฉันอยากให้เธอช่วยทำอะไรบางอย่างในตอนที่พวกเรากลับไปถึงทางเหนือแล้ว”
“ว่ามาสิ” เซลีนตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม แม้ว่ามันจะเป็นความจริงที่ลิงค์ได้พัฒนาไปไกลมากจากครั้งล่าสุดที่เธอพบกับเขา แต่เธอก็ยังคงอยู่เลเวล6และไม่ได้ไร้ประโยชน์
จากนั้นลิงค์ก็อธิบายให้ฟังตั้งแต่เหตุการณ์ที่ทำให้เขาได้รับรางวัลเป็นที่ดินจากพระราชาและเขาต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของที่ดินของเขา จนถึงตอนที่เขาพบกับแวนซ์ และเรื่องที่เขาสัญญากับแวนซ์ว่าจะทวงคืนพระราชวังใต้ดินของเขาคืน
“พระราชวังใต้ดินนั้นเป็นเขาวงกตอันซับซ้อน” ลิงค์พูดในที่สุด “ฉันต้องการความช่วยเหลือจากนักรบที่เก่งกาจมากๆ ดังนั้นฉันเลยนึกถึงเธอขึ้นมา”
“งั้นนายก็มาหาถูกคนแล้วหล่ะ” เซลีนพูด พร้อมกับยกกำปั้นสีชมพูของเธอขึ้นฟ้าอย่างประณีต เธอคงไม่รู้สึกดีใจกับเรื่องไหนไปมากกว่าการได้ช่วยเหลือลิงค์แล้ว
ดอเรียสส่ายหัวในทันทีเมื่อได้ยินชื่อของแวนซ์และอธิบายเกี่ยวกับลักษณะของเขา
“ข้ารู้จักไอบ้านี่” เสือพูด “มันเป็นคนเดียวในหอคอยอสุราที่ปฏิเสธการแหกคุก แถมมันยังไม่คิดที่จะปล่อยทราวิสออกมาด้วย ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะหอคอยถูกทำลายจนไม่เหลือซาก ข้ามั่นใจได้เลยว่ามันก็ยังคงเสียเวลาในที่เน่าๆแบบนั้นอยู่แน่ๆ”
“อะไรนะ? เป็นเรื่องจริงงั้นหรอ?” ลิงค์ถามอย่างประหลาดใจ เขารู้สึกยินดีที่ได้ยินเรื่องแวนซ์แบบนี้เพราะว่าเขาดูน่าสงสัยที่เป็นลิซ แต่หลังจากทีได้ยินสิ่งที่ดอเรียสพูดเกี่ยวกับเขา ลิงค์ก็รู้เกี่ยวกับลิซมากขึ้นและเริ่มที่จะพิจารณาเขาใหม่ในทางที่ดีขึ้น
จากที่มองดูแล้ว แวนซ์น่าจะเป็นคนดีพอที่จะร่วมงานด้วยจริงๆ ยังไงซะลิซคนนั้นก็เป็นชายที่ได้คิดค้นการศึกษาเรื่องออร่าต่อสู้และศิลปะการต่อสู้ขึ้นมา ดังนั้นจะมีใครเหมาะสมไปกว่านี้ในการช่วยเหลือลิงค์พัฒนาศิลปะการต่อสู้พิเศษที่สามารถใช้ฝึกกับนักรบทุกคนในกองกำลังของเขาได้หล่ะ ?
ในขณะเดียวกัน เซลีนก็สงสัยเรื่องตัวตนของคนพวกนี้
“นี่นายบอกว่าแวนซ์เป็นลิซงั้นหรอ?” เธอถาม
“ลิซแน่อยู่แล้ว” ดอเรียสตอบ “มันเป็นแค่โครงกระดูก!”
เซลีนหันไปหาลิงค์และยิ้มให้กับเขา
“ลิซ สัตว์วิเศษ และคราวนี้ก็ฉัน ปีศาจ” เธอพูด “ลิงค์นี่นายไม่กลัวว่าพวกเราจะทำให้นายมีปัญหาหรอ?”
“5555 ไม่ต้องห่วงหรอก” ลิงค์ตอบด้วยรอยยิ้ม “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ฉันรับมือกับมันได้อยู่แล้ว”
คำพูดของลิงค์นั่นไม่ได้หยิ่งผยอง แต่มันคือความมั่นใจในตัวเองและความเชื่อที่คิดว่าทุกอย่างจะออกมาดี ในอดีต เขานั้นกลัวที่จะต้องแตะต้องกับบางอย่าง หรือบางคนที่เกี่ยวข้องกับเวทย์มนตร์ดำ สำหรับนักเวทย์ธรรมดาคนพวกนี้นั้นเหมือนกับสิ่งที่ผู้คนต้องหลบหนีเหมือนกับโรคระบาดแต่ในตอนนี้ เขาได้เห็นสถานการณ์และผลของทุกคนที่ทำแบบนั้นอย่างชัดเจน
เขาเคยกลัวที่จะไปข้องเกี่ยวกับเวทย์มนตร์ดำด้วยตนเองเพราะเขากลัวว่าเขาจะถูกความมืดครอบงำและทำให้ความรู้และการตัดสินใจของเขาได้รับผลจากความมืดในตัวของเขา และเขายังต้องการปกป้องความตั้งใจและหลักการของเขาเพื่อที่เขาจะไม่หันเหไปจากจุดประสงค์หลักที่เขาถูกส่งมาที่นี่ตั้งแต่แรกด้วย
และเขาก็ไม่ต้องการที่จะเอาตัวเขาไปข้องเกี่ยวกับนักเวทย์ที่ใช้เวทย์มนตร์ดำหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆที่มีความเกี่ยวข้องกับพลังความมืด เพราะเขากังวลเรื่องความคิดเห็นของสังคมและชื่อเสียงของเขา
ในอดีตเขานั้นเป็นเพียงนักเวทย์ฝึกหัดตัวกระจ้อยในสถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟ และชื่อเสียงด้านลบนั้นย่อมไม่เป็นผลดีต่อการเติบโตของเขาในฐานะนักเวทย์ในอนาคต ซึ่งนั่นเป็นเพราะเขาจะถูกขับไล่ออกจากโลกแห่งเวทย์มนตร์ได้อย่างง่ายดายเพราะไปทำให้จอมเวทย์สงสัยในตัวเขา แม้แต่เอร์เรร่าก็อาจจะทอดทิ้งเขาได้อย่างง่ายดายและส่งเขากลับในทันทีที่รู้ว่าเขานั้นเกี่ยวของกับสิ่งที่น่ารังเกียจอย่างเวทย์มนตร์แห่งความมืด
แต่ตอนนี้ เขามีชื่อเสียงและฐานะแล้วและไม่ใช่เพียงแค่กองหญ้าในพื้นดินอีกต่อไป เขานั้นเป็นต้นโอ๊กอันแข็งแกร่งที่ยืนหยัดได้อย่างภาคภูมิใจและสูงกว่าต้นไม้ต้นอื่นๆ คำพูดของเขานั้นมีน้ำหนักและอิทธิพลต่ออาณาจักรนอร์ตันและอาจจะมีทั่วทั้งอาณาจักรนอร์ตันเลยก็ได้ ณ จุดๆนี้ เขาไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับการที่ตัวเองจะถูกวิจารณ์เล็กๆน้อยในสังคมอีกแล้ว
อย่างที่พูดกันว่า ถ้าน้ำใสเกินไปมันก็จะไม่มีปลา ถ้าเกิดว่าเขาเป็นลอร์ดที่เข้มงวดเกินไปและหมกมุ่นอยู่กับการตั้งกฏเขาก็จะไม่มีความหวังมากนักในอนาคตของเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการพยายามทำสิ่งที่สำคัญอย่างเช่นการรวบรวมพันธมิตรจากทั่วทุกที่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในตอนนี้ ลิซแวนซ์นั้นสามารถที่จะช่วยเขาในการเปลี่ยนสภาพอากาศของที่ดินของเขาได้ ตอนนี้เขาเชื่อว่าแวนซ์เหมาะสมที่จะรับการเชื่อใจของเขาอย่างเต็มที่ ดังนั้นลิงค์จะร่วมมือกับเขาโดยไม่มีความลังเลหรือสงสัยเกี่ยวกับอดีตอันดำมืดของเขา
เหมือนกับคำพูดที่ดังๆว่า: ฮีโร่ที่แท้จริงนั้นไม่กังวลเกี่ยวกับอดีตของเขา มีเพียงแค่ปัจจุบันเท่านั้น
ตราบใดที่ลิงค์รู้ขีดจำกัดที่เขาไม่ควรข้าม ต่อให้ความจริงจะถูกเปิดเผย ก็ไม่มีใครสามารถลงโทษหรือทำอะไรเขาได้ อย่างมากที่สุด บางคนอาจจะตักเตือนเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ และลิงค์ก็มีวิธีจัดการกับคนพวกนั้นแล้ว-เขาเพียงแค่ไม่สนใจคนพวกนั้นเท่านั้นเอง!
พอเห็นลิงค์ใจเย็นและมั่นใจแบบนี้แล้ว เซลีนก็ได้แต่นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในคืนแห่งโชคชะตาที่แกลดสโตน
ในตอนนั้นเขายังคงเป็นแค่เด็กหนุ่ม เธอคิด แต่ในชั่วพริบตา เขาก็ได้กลายเป็นลอร์ดและนักเวทย์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วทวีปฟิรุแมนแล้ว เห้อ เวลาช่างผ่านไปเร็วจริงๆและเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน เซลีนไม่ได้ถูกรบกวนจากเหตุการณ์นี้ และเธอก็แค่ใจเย็นลงอย่างสงบและพบว่ามีพื้นที่ปลอดภัยอยู่ตรงนี้ภายในอ้อมแขนของลิงค์
พวกเขาทั้ง 3 คุยกันและหัวเราะกันตลอดการเดินทาง ร่างกายของดอเรียสเกือบหายดีแล้วในตอนนี้ ดังนั้นความเร็วของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างมากราวกับสายฟ้าเหมือนกับตอนที่เขายังหนุ่มๆ และพวกเขาก็มุ่งหน้าไปทางเหนือ
…
ในขณะเดียวกัน เมืองโอปอลก็ตกอยู่ภายใต้ความวุ่นวาย ปีศาจได้ปรากฏตัวขึ้นบนถนนและในการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างนักเวทย์และปีศาจนั้นก็ได้ลากประชาชนจำนวนประมาณ 236 คนเข้ามาในเหตุการณ์นี้ด้วย ซึ่ง 127 คนนั้นได้ตายไปแล้ว นี่มันหายนะครั้งใหญ่ชัดๆ!
ไม่นานนัก ทั้งเมืองก็ตกอยู่ภายใต้ความวุ่นวาย ผู้คนต่างหวาดกลัวในขณะที่หัวหน้าของพวกเขาได้ชี้นิ้วไปที่พันธมิตรนักเวทย์และต่อว่าพวกเขาเรื่องการใช้เวทย์มนตร์ อีกด้านนึงพันธมิตรนักเวทย์ก็รายงานว่า มันเป็นหน้าที่และความสำคัญสูงสุดของพวกเขาที่จะขับไล่ปีศาจและความตายของประชาชนนั้นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ และสำหรับประชาชนบริสุทธิ์ที่น่าสงสารมากมายที่ติดอยู่ในเหตุการณ์นี้ ทางพันธมิตรนักเวทย์ได้ให้สัญญาว่าจะจ่ายค่าชดเชยให้กับทางครอบครัวผู้เสียหาย
หัวหน้าของอาณาจักรได้ตอบกลับมาว่าชีวิตของมนุษย์นั้นไม่สามารถวัดได้ด้วยเหรียญทอง พันธมิตรนักเวทย์นั้นใจร้อนและมีพลังมากเกินไป ดังนั้นจึงต้องตั้งพระราชกฤษฎีกาที่จะจำกัดความสามารถของพวกนักเวทย์ คำแถลงนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากประชาชนในทันทีที่มีการแพร่กระจายออกไป
ผู้คนไม่ได้สนใจว่ามีปีศาจหรือไม่ พวกเขารู้และเห็นว่าผู้คนโชคร้ายมากมายที่ตายไปอย่างน่ากลัวหรือบาดเจ็บสาหัสนั้นเป็นเพราะนักเวทย์
ในที่สุดพันธมิตรนักเวทย์ก็ต้องลดละและยอมแพ้ต่อแรงกดดันจากหน่วยงานเบื้องบนและประชาชนทั่วไปเบื้องล่าง
ในขณะเดียวกันที่โลกใต้ดิน ในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดของสมาคมสาขาเมืองสิงโต เบรนนั้นไม่ได้ดีใจเลยซักนิดเดียวที่พันธมิตรนักเวทย์ถูกจำกัดสิทธิ หน้าของเขานั้นซีดเป็นไก่ต้มเพราะเจ้าหญิงเซลีนได้หลุดออกไปจากมือของพวกเขาอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น ปีศาจทั้งสามก็ถูกพันธมิตรนักเวทย์ฆ่าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีความช่วยเหลือจากเจ้าแห่งความลึกโนโซม่าอีกต่อไปแล้ว
โดยรวมแล้ว ทั้งหมดนั้นมีแต่ความผิดพลาด!
มันเป็นความจริงที่เขารู้ว่าเซลีนได้หนีไปไหน แต่เขาก็ยังไม่ได้คิดหาหนทางที่จะไล่ตามเธอไปทางเหนือ อีกอย่าง เบรนรู้ว่ามันเป็นความพยายามที่สูญเปล่าในการไปแย่งเซลีนมาจากมือของไอบ้านั่น
สมาชิกของสมาคมรู้ดีว่าตอนนี้เบรนนั้นอารมณ์เสียมากแค่ไหน ดังนั้นพวกเขาทั้งหมดจึงหลีกหนีจากเขาในทันทีที่เขาปรากฏตัวออกมา
ในขณะเดียวกัน เนโครแมนเซอร์แอนดรูวก็ออกไปข้างนอกทุกวันและไม่ได้กลับมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้ว เขานั้นมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ในทุกครั้งที่เขากลับมา-มีเพียงแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าทำไมเขาถึงทำตัวแปลกๆเช่นนี้