Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 2001 หยิ่งผยองดั่งเทพ

ตอนที่ 2001 หยิ่งผยองดั่งเทพ
หมีอู๋หยาอึ้งไป เขาที่ราบเรียบเหมือนน้ำเรื่อยมา ยามนี้ถึงกับเปล่งเสียงหัวเราะลั่นอย่างยากจะได้เห็น

“ในเมื่อพี่หลินมีความคิดเช่นนี้ ข้าหมีอู๋หยามีหรือจะปฏิเสธ เช่นนั้นก็ประชันสูงต่ำในการต่อสู้ชุลมุนนี้เลย!”

เสียงสะท้อนก้องเก้าชั้นฟ้า

ทุกคนต่างหน้าเปลี่ยนสี รู้สึกขมปาก

ก่อนหน้านี้พวกเขายังคิดว่าสองพยัคฆ์ประชันกัน ต้องมีการบาดเจ็บ จึงยินดีที่จะนั่งดูพวกเขาตีกัน

แต่หากการห้ำหั่นนี้เกิดขึ้นในการต่อสู้เพื่อชิงแท่นมรรค เกรงว่านั่นคงซวยมาถึงพวกเขาแล้ว!

วู้ม…

แท่นมรรคแผ่กลิ่นอายไพศาลออกมา ละอองแสงโปรยปราย ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ

แต่เหล่าผู้กล้ากลับสบตากัน ไม่มีใครกล้าชิงลงมือก่อนสักคน ห่วงว่าเด่นเกินไปจะมีภัย กลายเป็นเป้าโจมตีของทุกคน

ต้องรู้ว่าแท่นมรรคจะหยุดค้างอยู่ในโลกภายนอกนี้หนึ่งก้านธูป ต่อให้ตอนนี้ชิงยืนอยู่บนนั้นได้ ก็ไม่มีทางเข้าไปในประตูทลายนั่นทันทีได้

ด้วยเหตุนี้แม้เหล่าผู้กล้าจะกระเหี้ยนกระหือรือ แต่ก็ไม่มีใครอยากพุ่งเข้าไปเป็นคนแรก

บรรยากาศในที่นั้นเปลี่ยนเป็นพิกลขึ้นมาทันที

โอกาสอยู่ตรงนั้นชัดๆ แต่ต่างฝ่ายกลับต้องรอบคอบและระมัดระวัง ไม่มีใครลงมือก่อน

“มีแต่คนฉลาด…”

เสวียนจิ่วอิ้นยิ้มน้อยๆ พลางเอ่ยปาก “ไม่อย่างนั้นให้ข้าลองขึ้นไปก่อน รอพวกเจ้าพร้อมแย่งชิงข้าค่อยสละแท่นมรรคให้เป็นอย่างไร”

เขาพูดพลางก้าวเท้าเตรียมเดินไป

แต่ในพริบตานี้เอง ไอสังหารน่ากลัวมากมายม้วนพัดมา จับจ้องไปที่เสวียนจิ่วอิ้น ทำให้เขาตัวแข็งทื่อ ฝีเท้าที่ก้าวออกไปพลันหดกลับ

“ได้ ข้ายอมแพ้ แค่ดูเรื่องสนุกตกลงไหม”

เขาเบ้ปาก กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “ประเดี๋ยวข้าจะดู ว่าในบรรดาพวกเจ้าจะมีคนตายเท่าไหร่กัน”

“แน่นอนว่าเลือดต้องหลั่งรินเป็นกระแสน้ำ ข้าก็จะชมการต่อสู้ด้วย”

หลิงเคอจื่อพูดอยู่ข้างๆ

เสวียนจิ่วอิ้นเหลือบมองเขาเล็กน้อย คล้ายตระหนักถึงอะไรได้ ก่อนกล่าวเสียงเหี้ยม “ภิกษุน้อย เจ้าอย่าใช้ ‘จิตพุทธะไร้มลทิน’ มาดูข้าเชียว มิฉะนั้นข้าจะควักหัวใจของเจ้าออกมาซะ!”

หลิงเคอจื่อส่ายหน้าเป็นพัลวัน “ไม่กล้าๆ”

เสวียนจิ่วอิ้นยิ้มอย่างภาคภูมิ

หลิงเคอจื่อจนปัญญา เจ้า คุณชายน้อยที่เป็นบุตรชายคนเดียวของผู้นำตระกูลเสวียน รังแกภิกษุอย่างข้ามีอะไรให้ภูมิใจนัก

เห็นชัดว่าไม่ได้มีแค่เสวียนจิ่วอิ้นที่เหมือนรู้ความลับบางอย่างของหลิงเคอจื่อ หลิงเคอจื่อก็กุมความลับบางอย่างของเสวียนจิ่วอิ้นไว้เช่นกัน

ตามเวลาที่ล่วงเลย บรรยากาศในที่นั้นดูกดดันและตึงเครียดยิ่งกว่าเดิม

เหล่าผู้กล้าจากต่างบริเวณจับจ้องแท่นมรรคที่ลอยอยู่กลางอากาศนั่น พลังขับเคลื่อนทั่วร่างก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ทำให้ฟ้าดินต่างเปลี่ยนสี

พวกเขากำลังรอ

รอช่วงเวลาที่แท่นมรรคกลับเข้าไปในประตูทลาย

มีแค่ลงมือเวลานั้น ถึงจะมีหวังชิงแท่นมรรคและถือโอกาสเข้าไปในประตูทลายได้มากที่สุด

‘สหายน้อย จวินหวนเคยมอบประทับที่เกี่ยวข้องกับเขาปู้โจวให้เจ้าไม่ใช่หรือ ตอนนี้เจ้าใช้กลิ่นอายของประทับนี้ไปเชื่อมต่อกับแท่นมรรคนั้นดูสิ บางทีอาจมีเรื่องที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นก็ได้’

ทันใดนั้นเสียงของจี้เสวียนพลันดังขึ้นในใจของหลินสวิน

‘ปีนั้นศิษย์พี่จวินหวนเคยซ่อนหมากตาท้ายไว้ที่นี่หรือ’ หลินสวินใจเต้น

‘ไม่ผิด แต่ข้ารู้แค่ปีนั้นจวินหวนเคยบอกว่า แม้นางจะกลับไปมือเปล่า แต่ได้ทิ้งความหวังเสี้ยวหนึ่งไว้ ไม่ช้าก็เร็วต้องมีสักวันที่ความหวังเสี้ยวนี้บังเกิดผล’

จี้เสวียนกล่าว ‘ตลอดทางมานี้ข้าใคร่ครวญอยู่นาน สุดท้ายก็นึกได้ว่าหากจวินหวนซ่อนหมากตาท้ายไว้จริงๆ เช่นนั้นก็ต้องอยู่ในประทับนั่นที่มอบให้เจ้าแน่’

‘ที่แท้เป็นเช่นนี้’

หลินสวินใจไหววูบ ในหัวเผยพลังประทับที่เกี่ยวข้องกับเขาปู้โจวออกมา

ขณะเดียวกันเขายังลองหยั่งสัมผัสแท่นมรรคนั้นด้วย

ตูม!

ในหัวของเขาสั่นสะเทือนชั่วพริบตา ประทับที่จวินหวนเหลือทิ้งไว้พลันส่องประกายสว่างไสว ปรากฏสัญลักษณ์อักษร ‘ผนึก’ ที่แปลกประหลาดออกมา

เกือบจะเวลาเดียวกัน แท่นมรรคที่ลอยอยู่กลางอากาศนั้นพลันสะเทือนดังวู้ม ลอยมาทางหลินสวินราวกับถูกมือใหญ่ไร้รูปข้างหนึ่งพันธนาการไว้

เหล่าผู้กล้าที่เตรียมตัวและเกร็งพลังขับเคลื่อนรอบตัวไว้นานแล้วเห็นดังนี้ ก็เผยสีหน้าตื่นตะลึง

เจ้าหลินสวินนี่ ถึงกับกล้าลงมือก่อน!?

เวลานี้หลินสวินสัมผัสได้ถึงไอสังหารน่ากลัวมากมายที่เล็งมาทางตนอย่างมืดฟ้ามัวดิน ในใจพลันยิ้มขื่นทันที

ความหวังเสี้ยวหนึ่งที่ศิษย์พี่จวินหวนเหลือทิ้งไว้มีประโยชน์ก็จริง แต่จะมีประโยชน์มากเกินไปแล้ว ถึงกับดึงแท่นมรรคนั่นมาตรงๆ!

เมื่อเป็นเช่นนี้เลยทำให้เขากลายเป็นเป้าโจมตีในชั่วขณะเดียว!

“ฆ่า!”

มีคนตวาดลั่น เรียกกระบี่จักรพรรดิเล่มหนึ่งออกมา แหวกอากาศพุ่งสังหารเข้ามาตรงๆ

เหตุไม่คาดฝันเช่นนี้ทำให้ผู้คนเชื่อโดยจิตใต้สำนึก ว่าหลินสวินลอบใช้แผนการ ทำให้การต่อสู้แย่งชิงที่เดิมทีก็กดดันตึงเครียดอยู่แล้วปะทุขึ้นเหมือนจุดชนวนระเบิด

“ลงมือ!”

“หลินสวิน ภายใต้สายตาผู้คนที่จับจ้องเจ้ายังกล้าทำเช่นนี้ ไม่ประมาณตนจริงๆ คิดชิงแท่นมรรคไปรึ ไม่มีทาง!”

“ฆ่า!”

เสียงตวาดดังก้องขึ้น แสงสมบัติและวิชามรรคนานัปการพุ่งออกมาจากต่างบริเวณ พร่างพรายลานตา น่าสะพรึงอย่างที่สุด

จนถึงตอนนี้หน้าประตูทลายมีผู้แข็งแกร่งอยู่รวมกันราวสี่สิบกว่าคน แต่ละคนหากไม่ใช่ปีศาจแห่งยุคที่เกริกก้องในดินแดนหนึ่ง ก็เป็นยอดอัจฉริยะที่กิตติศัพท์ล้นฟ้า

เมื่อพวกเขาลงมือพร้อมกันเพื่อสังหารคนผู้เดียว ภาพเหตุการณ์นั้นช่างทำให้เทพผีถอยร่น สรรพชีวิตสิ้นหวัง

น่ากลัวเกินไปแล้ว!

วิชามรรคไม่มีวิชาใดที่ไม่ใช่ชั้นยอด สมบัติก็ไม่ขาดยอดอาวุธสังหารอย่างศาสตราจักรพรรดิ เมื่อพุ่งโจมตีเข้ามาพร้อมกัน มีหรือจะใช้คำว่าน่ากลัวมาบรรยายได้หมด

‘เจ้าหมอนี่… ก็ร้อนใจเกินไปแล้วกระมัง’

เสวียนจิ่วอิ้นงงงวย

‘ตัวคนเดียว ศัตรูรอบด้าน นี่เท่ากับตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายที่สุดแล้ว’

หลิงเคอจื่อก็สูดหายใจเย็นเยียบ

‘ทำไมถึงเป็นเช่นนี้…’

หมีอู๋หยามุ่นคิ้ว เขาไม่เชื่อว่าหลินสวินจะเป็นคนโง่ที่เลือกชิงลงมือก่อนในยามนี้

หลินสวินในตอนนี้ขมปากจนพูดไม่ออก ไหนเลยจะคิดว่าหมากตาท้ายที่ศิษย์พี่จวินหวนเหลือไว้ กลับมีประโยชน์ที่คาดไม่ถึงเช่นนี้

สิ่งที่จนปัญญาที่สุดคือ เขาไม่มีแม้แต่โอกาสยอมแพ้และหลบหลีก!

ในช่วงวิกฤติถึงขีดสุดนี้ เจตจำนงแห่งการต่อสู้ที่หลินสวินเคี่ยวกรำจากการกรำศึกมานานปี ยามนี้ได้ช่วยสลัดความคิดฟุ้งซ่านในหัวออกไปทั้งหมด

จิตใจก็ผ่องแผ้วยากจับต้องตามไปด้วย เยือกเย็นดุจหิมะ!

แววตาที่ล้ำลึกของเขาฉายแววเด็ดเดี่ยว

ตูม!

เขตแดนมรรคแรกกำเนิดปรากฏ กลายเป็นเหวลึกที่บังฟ้าคลุมตะวัน

เหนือศีรษะหลินสวิน เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดปรากฏ ตัวเจดีย์ที่เหมือนหล่อจากทองเทพหลากสีส่องแสงสว่างไสวไร้สิ้นสุด

ตึง…

เสียงอึกทึกสนั่นหูดังก้องขึ้น ทวนจักรพรรดิที่แสงดาวส่องระยับเล่มหนึ่งตัดผ่าอากาศ ม้วนแสงดารามากมายขึ้นมา เข้าปะทะกับเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุด

ดวงดาวแตกระเบิด ละอองแสงสาดกระจายทันที

ทวนวงเดือนที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายมรรคจักรพรรดินั้นถูกเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดกระแทกปลิว

แต่ก็มีสมบัติและวิชามรรคมากมายพุ่งตามมาจากทั่วสารทิศ เข้าปกคลุมพื้นที่ซึ่งหลินสวินอยู่จนสิ้น

มีแสงสายฟ้าวาบแปลบปลาบดังครั่นครืน มีน้ำไฟไหลพุ่ง มีกระบี่มรรค ดาบศึก ทวน ค้อนทองแดงบุกสังหารเข้ามาดั่งมรสุมคลั่ง!

ตูม โครม…

ที่นี่มีลักษณ์ประหลาดพวยพุ่ง กลิ่นอายทำลายล้างถาโถมทั่วเก้าฟ้าสิบแผ่นดิน สภาพอากาศแปรปรวนที่น่ากลัวม้วนกลืน ราวกับจะลบพื้นที่แถบนี้ให้หายไป!

เสวียนจิ่วอิ้นและหลิงเคอจื่อหน้าเปลี่ยนสีพร้อมกัน มือเท้าเย็นเยียบ

ศัตรูมากขนาดนี้ กวาดสายตามองทั่วหล้า ล้วนเรียกได้ว่าไม่เคยได้ยิน ไม่เคยได้เห็น

ต้องรู้ว่าในหมู่ศัตรูที่โจมตีมานั่น หากสุ่มมาสักคนก็ย่อมเป็นคนที่เหมือนราชันในระดับมกุฎราชันอริยะ ชื่อเสียงโด่งดังในดินแดนแห่งหนึ่ง พลังต่อสู้สะเทือนใต้หล้า

และตอนนี้ยังบุกโจมตีกันเต็มกำลัง หันปลายหอกจ่อใส่หลินสวินคนเดียว นี่สามารถทำให้ไม่ว่าใครต่างรู้สึกสิ้นหวัง!

ในที่นั้นยังมีบางคนที่ไม่ลงมือ อย่างพวกหมีอู๋หยา หลิงหงจวงเป็นต้น แต่ไม่จำเป็นต้องสงสัย สำหรับการช่วงชิงแท่นมรรค พวกเขาไม่มีทางเก็บมือเฝ้ามอง แค่คิดลงมือยามสบโอกาสเท่านั้น

‘เกรงว่าหลินสวินนี่คงจบเห่แล้ว…’

แววตาของถังซูไหววูบ นางก็ไม่ได้ลงมือเช่นกัน แต่การต่อสู้ที่ปะทุขึ้นในพริบตานี้กลับทำให้นางรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว

‘หลินสวินนี่… น่าเสียดาย…’

ฮว่าซิงหลีทอดถอนใจ

เดิมทีหลินสวินน่าจะเป็นคนที่มีภัยคุกคามยิ่งใหญ่เหมือนหมีอู๋หยา แต่ด้วยเขาชิงลงมือก่อนจึงชักนำให้เกิดการสังหารทั่วทิศ!

นี่จะสู้อย่างไรเล่า

ไม่มีแม้แต่โอกาสชนะด้วยซ้ำ!

ตูม…

ฟ้าดินส่งเสียงกัมปนาท ห้วงอากาศระเบิดออก

แต่สิ่งที่เหนือความคาดหมายคือ ภายใต้การโจมตีที่น่ากลัวเช่นนี้ กลับเห็นหุบเหวลึกที่วิวัฒน์อยู่รอบตัวหลินสวิน แม้จะสั่นสะเทือนม้วนซัดอย่างรุนแรง แต่กลับไม่ถูกตีพ่ายยับเยิน!

ภายใต้การโจมตีของสมบัติจักรพรรดิพวกนั้น แม้เจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดจะส่งเสียงกัมปนาทต่อเนื่อง มีสัญญาณว่าจะถูกกำราบ แต่กลับสลายการโจมตีนานัปการได้!

“นี่…”

หลายคนนัยน์ตาหดรัดทันที ในใจสั่นสะท้าน

ในตอนนี้เอง…

ตูม!

ท่ามกลางเสียงกึกก้องปานสะท้านฟ้าสะเทือนดิน เขตแดนมรรคแรกกำเนิดที่ลึกลับยากหยั่งถึงพลันแผ่ขยายเป็นวงกว้างโดยมีหลินสวินเป็นศูนย์กลาง คล้ายเหวลึกม้วนกลืนสวรรค์

ทุกหนแห่งที่พาดผ่าน สรรพสิ่งเปลี่ยนเป็นว่างเปล่า ทุกอย่างกลายเป็นจุณ หมื่นวิชาดับสลาย!

เมื่อเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดส่งเสียงกัมปนาท เปล่งแสงมรรคทองนิลกาฬสายแล้วสายเล่าออกมา อานุภาพแห่งการกำราบที่เต็มไปด้วยความยิ่งใหญ่พลันพุ่งทำลายการปิดล้อมของสมบัติจักรพรรดิทั้งมวล เสียงมรรคดังครั่นครืนสะเทือนจักรวาล ศักดิ์สิทธิ์เหลือประมาณ!

เพียงชั่วขณะ การโจมตีที่เดิมทีควรถึงฆาตกลับถูกพลิกผัน!

เหล่าผู้กล้าที่ล้อมโจมตีหลินสวินเห็นดังนี้ แต่ละคนต่างใจสั่นสะท้าน เผยสีหน้ายากจะเชื่อ ไม่มีใครกล้าเชื่อ

นี่น่าเหลือเชื่อนัก คนผู้หนึ่งกลับสลายการล้อมโจมตีของพวกเขาได้!

หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ใครจะกล้าเชื่อ

“แข็งแกร่ง! แข็งแกร่งยิ่งนัก!”

เสวียนจิ่วอิ้นตบเข่าฉาด ร้องออกมาอย่างต่อเนื่อง

‘ข้าก็รู้อยู่แล้ว…’

หลิงเคอจื่อแอบพูดในใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก คนอย่างเขามีหรือจะถูกลบหายไปจากโลกง่ายๆ

‘ช่าง… พาให้คนคาดไม่ถึงจริงๆ…’

ถังซูอึ้งไป

ฮว่าซิงหลีก็ตะลึงงัน

ขอเพียงเป็นคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ด้วยตาตนเอง ก็ย่อมรู้สึกว่าเหมือนฝันไป

ยามนี้ไม่รู้ว่าหลินสวินไปยืนอยู่บนแท่นมรรคนั่นตั้งแต่เมื่อไหร่ เหนือศีรษะเจดีย์มหามรรคไร้สิ้นสุดลอยคว้าง ร่างกายมีแสงลึกลับไหลบ่า ดูพร่าเลือนขุ่นมัว

เขานัยน์ตาเยียบเย็นดุจอสนี พรั่งไปด้วยแววเย็นชาที่พาให้คนใจสั่น เสื้อผ้าโบกสะบัดไปตามลม ขับเน้นให้เขาดูสันโดษเป็นเอกเทศยิ่งกว่าเดิม

เขาในตอนนี้เหมือนเทพมารมาเยือนโลก อานุภาพครอบคลุมแผ่นฟ้า!

‘คนอย่างเจ้ากับข้า เดิมก็ควรเป็นเช่นนี้…’

หมีอู๋หยากล่าวทอดถอนใจอยู่ภายในใจ ท่าทีแข็งกร้าวที่พลิกสถานการณ์ในคราเดียวนั้นของหลินสวินทำให้เขาอดตะลึงไม่ได้

“แท่นมรรคนี้ ข้าคนแซ่หลินจับจองไว้แล้ว!”

หลินสวินกล่าวราบเรียบ แต่เสียงกลับกึกก้องสะท้านปฐพี สะท้อนทั่วบริเวณ

สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณรอบตัวเขาพลุ่งพล่าน ราวกับหินหนืดที่ลุกโหม กฎเกณฑ์ของพลังมหามรรคนานัปการร้อยถักเข้าด้วยกัน ทำให้เขาแฝงมาดสง่างามประหนึ่งว่าไร้คู่ต่อกร

หยิ่งผยองดั่งเทพ!

……………………….

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset