Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1554 โฉมหน้าที่แท้จริงของสี่ยอดแปดพิทักษ์

ภาพนองเลือดและเผด็จการนั้น ทำให้บรรยากาศ ณ ที่นั้นเงียบไปอย่างน่าประหลาด

เวลานี้หลินสวินกล่าวราบเรียบ “ทุกท่านโปรดดู ซากศพและเลือดพวกนั้นจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบสร้างเมือง”

พูดถึงตรงนี้นัยน์ตาดำของหลินสวินราบเรียบกล่าวเสริม “แน่นอนว่านี่เป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ยังห่างไกลจากคำว่าพอ”

คุนป้าชิวและมกุฎอริยะทั้งหมดสีหน้าอึมครึมลงไม่น้อย

แต่ก็แค่ล้มตายหลักพันเท่านั้น

ทั้งในหมู่ผู้แข็งแกร่งที่ตายไป ก็มีอริยะแท้แค่ไม่กี่คน ความสูญเสียแค่นี้ยังไม่อาจสร้างการโจมตีอะไรให้กับพวกเขาได้

“ทุกท่าน แบ่งกำลังส่วนหนึ่งไปต้านและถล่มค่ายกลใหญ่นั่น!”

มีคนตวาดลั่น

ค่ายกลแดนพิฆาตที่ห่างออกไปยังโคจรอยู่ สาดปราณกระบี่เรือนพันเรือนหมื่นออกมาสังหารทั่วทิศ สร้างความเสียหายให้กับผู้แข็งแกร่งเจ็ดดินแดนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างดุดันรุนแรง

ทันใดนั้นก็มีมกุฎอริยะสิบกว่าคนออกเคลื่อนไหวพร้อมกัน ไปกำราบและรุมโจมตีพลังของค่ายกลสังหารแดนพิฆาต

“ทุกท่าน นี่เพิ่งจะเริ่ม ต่อให้อยากทำลายค่ายกลก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน”

หลินสวินสีหน้าราบเรียบไร้คลื่นลม ไม่ผิดคาดแม้แต่น้อย เหมือนทุกอย่างล้วนอยู่ในการคาดเดาของเขาแล้ว

“ฮึ! เจ้าสวะ ชีวิตเจ้าจะไม่ยืดอยู่แล้ว ยังกล้าเห่าหอนอีก!”

คุนป้าชิวตวาดลั่น เรียกสมบัติอริยะนานัปการออกมาถล่มค่ายกลสังหารยอดนภาอย่างเกรี้ยวกราดเหมือนมกุฎอริยะคนอื่นๆ

หลินสวินชี้ไปยังทิศทางหนึ่งที่ห่างออกไปแล้วกล่าว “ข้าบอกแล้ว เรื่องยอดเยี่ยมเพิ่งจะเริ่ม พวกเจ้าดูใหม่อีกครั้ง”

น้ำเสียงเพิ่งแผ่วลง บนทางราบที่ห่างออกไปมีสายฟ้าทะยานขึ้นมา!

ตูม…

ใต้ปฐพีกระบวนอักขระส่องประกายเหลือคณาพุ่งดังสนั่นเหมือนมังกรดินพลิกตัว สร้างเป็นค่ายกลใหญ่กลางอากาศ

ในค่ายกลใหญ่อสนีน่าครั่นคร้ามบาดตา รัศมีสายฟ้าพลุ่งพล่านไปทั่ว แน่นขนัดราวน้ำตกอสนีบาตป่วนคลั่งฟาดผ่า

สายฟ้านานัปการทั้งสีม่วง สีชาด สีฟ้า สีเขียว สีดำ สีเงิน… ล้วนเต็มไปด้วยอานุภาพทำลายล้างฟ้าดิน พอจะทำลายความกล้าของเทพผี!

ค่ายกลสังหารทลายเทพ!

ทันทีที่ปรากฏก็ฟ้าคะนองสะเทือนเลื่อนลั่น ผู้แข็งแกร่งนับร้อยคนหลบไม่ทัน ถูกสังหารกระจุยหายวับไปในพริบตา

กลิ่นอายสังหารที่แข็งแกร่งดุดันนั้น ทำให้ทั่วทั้งลานร้องเสียงหลงอีกครั้ง

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ อสนีบาตพวกนั้นยืดขยายออกไปราวโซ่ตรวน คลั่งระบำอยู่กลางฟ้าดิน ส่องประกายเจิดจ้า แต่กลับฆ่าฟันอริยะแท้ได้อย่างดุเดือด!

ในค่ายชั่วคราวบรรยากาศพลุ่งพล่านถึงขีดสุด เมื่อผู้แข็งแกร่งของดินแดนรกร้างโบราณทุกคนที่หลบอยู่ในค่ายกลแปดพิทักษ์ได้เห็นภาพทำลายล้างนี้กับตาตนเอง ต่างก็อารมณ์ปั่นป่วน โลหิตเดือดพล่าน

พวกเขาคาดการณ์ได้ว่าฝีมือของหลินสวินต้องไม่ได้มีแค่นี้แน่ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าอานุภาพของค่ายกลนี้จะสั่นสะเทือนใต้หล้าเช่นนี้!

“หลบเร็ว!”

“น่าชังนัก! พวกเราถูกไอ้สวะนั่นหลอกแล้ว!”

เสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เห็นภาพนี้แล้ว คุนป้าชิวและมกุฎอริยะทั้งหมดหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้งอย่างอดไม่อยู่

ระหว่างทางมาที่นี่พวกเขาก็เคยตรวจสอบและสัมผัสแล้ว เห็นชัดว่าไม่พบร่องรอยและกลิ่นอายของพลังผนึกใดๆ

แต่ตอนนี้กลับมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่ทำให้พวกเขามีความรู้สึกว่ารับมือไม่ทัน

“ผิดคาดมากใช่ไหม แต่จะว่าไปหากให้พวกเจ้าสังเกตเห็น แล้วข้าจะจับตะพาบในไหอย่างพวกเจ้าได้อย่างไร”

หลินสวินกล่าวเฉยชา

ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ ยามเขาวางกระบวนค่ายกลได้ใคร่ครวญสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นไว้หมดแล้ว

ก็เหมือนค่ายกลที่ปกคลุมในรัศมีร้อยลี้นี้ เพื่อไม่ให้ศัตรูหวาดระแวง หลินสวินจึงใช้ความคิดอย่างมาก ในการใช้พลังเฉพาะตัวของค่ายกลลายมรรคมาตัดกลิ่นอายทั้งหมด

ไม่อย่างนั้นศัตรูมีหรือจะกล้าเข้ามาใกล้อย่างไม่กลัวสิ่งใดเช่นนี้

นี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าจับตะพาบในไห!

ประโยคเดียวทำให้สีหน้าของพวกคุนป้าชิวไม่น่าดูขึ้นมา เจ้าสวะบัดซบนี่คิดจริงๆ หรือว่าวางกระบวนค่ายกลใหญ่พวกนี้แล้วจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้

“พวกเราไปถล่มค่ายกลใหญ่นั่นให้ราบ!”

ทันใดนั้นก็มีมกุฎอริยะสิบกว่าคนออกเคลื่อนไหว พุ่งโฉบไปที่ค่ายกลสังหารทลายเทพ

ไม่ว่าจะเป็นค่ายกลสังหารแดนพิฆาตหรือค่ายกลสังหารทลายเทพก็ล้วนแข็งแกร่งเกินไป ต่างกำจัดอริยะแท้ได้

หากไม่ทำลายมัน ยิ่งปล่อยเวลาเนิ่นนานคงได้สร้างการโจมตีอย่างไม่อาจจินตนาการให้กับทัพใหญ่เจ็ดดินแดนแน่

เมื่อเห็นว่าอานุภาพของค่ายกลสังหารทลายเทพถูกสกัด พวกคุนป้าชิวก็สีหน้าผ่อนคลายลงทันที ล้วนเหลือบสายตาเยียบเย็นมองไปที่หลินสวิน

“เจ้าสวะ ยังมีอีกไหม สำแดงออกมาให้หมด!”

มีคนตวาดลั่น

ขณะกล่าวพวกเขายังโจมตีค่ายกลสังหารยอดนภาที่หลินสวินอยู่ไปด้วย ค่ายกลนี้สั่นสะเทือนรุนแรง โหมซัดไม่หยุด หากเป็นไปดังคาดไม่นานก็จะถูกทำลาย!

ถึงตอนนั้น…

ในแววตาของพวกคุนป้าชิวมีไอสังหารเข้มข้นวาบผ่าน ถึงตอนนั้นเจ้าหมอนี่ต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา!

ส่วนค่ายกลใหญ่ที่ปกปักคุ้มครองอยู่บนท้องฟ้าเหนือค่ายชั่วคราวนั่น กลับไม่ถูกพวกคุนป้าชิวเห็นอยู่ในสายตา รอสังหารหลินสวินแล้ว ด้วยพลังของพวกเขาย่อมต้องล้มและทำลายที่นั่นให้พินาศย่อยยับได้อย่างง่ายดายแน่

กลับเห็นหลินสวินดีดนิ้วกล่าว “เจ้าเดรัจฉานเฒ่าสายตาไม่เลว เดาถูกแล้ว พวกเจ้าดูนะ”

เขาพูดพลางยื่นมือชี้ออกไป

พวกคุนป้าชิวต่างชะงัก เกือบสบถด่าอยู่ในใจ ยังมีอีกจริงรึ

ในจุดที่ห่างออกไปมีพลังอักขระเหมือนละอองฝนเซียนเหินปรากฏขึ้นอย่างไร้สุ้มเสียง สร้างเป็นค่ายกลใหญ่สลัวรางค่ายหนึ่ง

หมอกควันขมุกขมัวตลบอบอวล ในพื้นที่ใกล้เคียงมีเสียงลุ่มลึกหนึ่งดังขึ้น ผู้แข็งแกร่งแถบแล้วแถบเล่าเบิกตากว้าง ร่วงลงไปกองกับพื้น

ร่างกายของพวกเขาสมบูรณ์ไร้ความเสียหาย แต่จิตวิญญาณกลับถูกกำจัด!

นี่ก็คือ ‘ค่ายกลสังหารดับวิญญาณ’ !

หมอกควันอบอวลไม่อาจถูกกำจัดเข้าปกคลุมฟ้าดินแถบนั้น ผู้แข็งแกร่งที่ถูกปกคลุมอยู่ภายใน ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ ล้มลงไปกับพื้นท่ามกลางความตกตะลึงและหวาดกลัว

ภาพแปลกประหลาดชวนขนพองสยองเกล้านั้น ทำให้ในที่นั้นมีเสียงหวีดร้องดังขึ้นไม่รู้เท่าไหร่

“ยอดเยี่ยมมากใช่ไหม”

หลินสวินถอนสายตากลับ มองไปยังพวกคุนป้าชิวด้วยดวงตาเยียบเย็น

“เพื่อวันนี้ ข้าเตรียมการมานานเกือบครึ่งปี ทุ่มแรงกายแรงใจไปไม่รู้เท่าไร ถึงขั้นถ่วงเวลาฝึกปราณของตนไปไม่น้อย ดูเหมือนวันนี้สิ่งที่ทุ่มเทไปก็นับว่าคุ้มค่า”

เสียงเฉยชาดังเป็นระลอก ทำให้พวกคุนป้าชิวสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด

พวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าค่ายกลที่หลินสวินวางไว้จะเชื่อมต่อสอดประสาน ทั้งไม่มีค่ายใดที่อานุภาพไม่น่ากลัว พลังทำลายล้างน่าอัศจรรย์

ทันใดนั้นก็มีมกุฎอริยะกลุ่มหนึ่งนั่งไม่ติด พุ่งไปยัง ‘ค่ายกลสังหารดับวิญญาณ’ ที่อยู่ห่างออกไป

รูปการณ์ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเห็นได้ชัดขึ้นมาทันที

ค่ายกลสังหารสี่แห่งอย่างยอดนภา แดนพิฆาต ทลายเทพ ดับวิญญาณต่างรั้งมกุฎอริยะกลุ่มหนึ่งไว้

ภายในนั้นใกล้ค่ายกลสังหารยอดนภาที่หลินสวินอยู่มีมกุฎอริยะมากที่สุด

ส่วนทัพใหญ่เจ็ดดินแดนในที่นั้น แม้จะถูกสังหารหมู่ไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่ถึงอย่างไรก็มีกันสองแสนหนึ่งหมื่นคน บาดเจ็บล้มตายยังไม่ถึงหนึ่งในสิบด้วยซ้ำ

พวกเขาลงมือถล่มค่ายกลแปดพิทักษ์ที่เหมือน ‘อาณาจักรเทพ’ นั้นอยู่ตลอด

แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นผล

อย่างน้อยผู้แข็งแกร่งของดินแดนรกร้างโบราณที่อยู่ในค่ายชั่วคราวก็ปลอดภัยได้ช่วงหนึ่ง

นี่ทำให้เซ่าเฮ่าและรั่วอู่นึกขึ้นมาได้โดยไม่รู้ตัว ก่อนจะเปิดศึกหลินสวินเคยบอกว่าจะต้านศัตรูที่แข็งแกร่งด้วยตัวคนเดียว

ตอนนั้นทุกคนยังคิดว่าเขาบ้าระห่ำเกินไป

แต่ตอนนี้ดูท่าสถานการณ์ทุกอย่างเหมือนจะยืนยันคำพูดของเขาแล้ว!

“ไร้เดียงสา ขอแค่เจ้าตาย ทุกอย่างนี้ก็ย่อมสลายไปตามกัน!”

มีคนกล่าวเสียงขรึมทันที เสียงสะท้านไปทั่วเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน

“ทุกท่าน บุกโจมตีเต็มกำลัง สังหารเจ้าหมอนี่!”

คุนป้าชิวตวาดลั่น

ในสายตาของพวกเขา ค่ายกลสังหารยอดนภาใกล้จะพังทลายแล้ว!

แต่เวลานี้หลินสวินพลันหัวเราะร่า ท่าทางผงาดผยองเหมือนจะกลืนกินภูผาธารา

“สายไปแล้ว พวกเจ้าคิดว่าเมื่อครู่ข้าพูดไร้สาระกับพวกเจ้ารึ ก็แค่รอโอกาสหนึ่งเท่านั้น”

“ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว!”

ฮูม หลินสวินที่ไม่เคยเคลื่อนไหวอะไรสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง สมบัติอริยะสิบสองชิ้นที่เหลือถูกหลอมเป็นจานกระบวน แบ่งเป็นสามชุดแล้วพุ่งแหวกไปสามทิศทาง

ตูม!

ที่แรกคือค่ายกลสังหารแดนพิฆาต หลังจากมีจานกระบวนสามอัน อานุภาพของมันก็ถูกเปิดใช้อย่างสมบูรณ์ ภายในค่ายกลใหญ่ราวกับมหาสมุทรปราณกระบี่แถบหนึ่งจริงๆ

ปราณกระบี่แน่นขนัดเหมือนคลื่นซัดสาด ทะยานขึ้นฟาดฟันนภาคราม ตวัดลงตัดใต้พิภพ ไอสังหารแผ่กระจายไปทั่วทิศ ส่งเสียงมีพลังกึกก้อง

จากนั้นในค่ายกลสังหารทลายเทพก็เกิดการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย พายุสายฟ้าพร่างพรายงามตระการซัดโหม กระหน่ำมายาสายฟ้าดุจว่างเปล่าหลายสายออกมา เหมือนวิญญาณอสนีและเทพอสนีในตำนาน!

ต่อจากนั้นค่ายกลสังหารดับวิญญาณก็เกิดการเปลี่ยนแปลง หมอกหนาไร้ขอบเขตเหมือนทะเลหมอกปกคลุมฟ้าดิน ในแสงขมุกขมัวมีละอองฝนประหลาดส่องประกาย

สุดท้ายค่ายกลสังหารยอดนภาที่เดิมโงนเงนไม่มั่นคง ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงท่ามกลางเสียงกัมปนาทสะท้านฟ้าสะเทือนดินในทันที

หากพูดว่าก่อนหน้านี้เป็นหมู่ดาวที่มีหมื่นดาราเวียนวน

เช่นนั้นค่ายกลสังหารยอดนภาในตอนนี้ ก็เป็นทะเลดาวที่ภายในพรั่งไปด้วยธารดาราส่องประกายมากมาย!

การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง สำเร็จเสร็จสิ้นเพียงหนึ่งลมหายใจ

เวลานี้สี่ยอดค่ายกลขานรับซึ่งกันและกัน หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว เข้าปกคลุมพื้นที่ใกล้เคียงในรัศมีร้อยลี้ไว้ภายใน!

ยามนี้ค่ายกลสี่ยอดแปดพิทักษ์จึงนับว่าปรากฏขึ้นบนโลกอย่างสมบูรณ์

หากมองลงมาจากเวิ้งฟ้าจะพบว่าแค่พลังคลื่นผนึกที่กระบวนค่ายกลใหญ่นี้แผ่ออกมา ก็กระจายเป็นวงกว้างในรัศมีสามพันลี้แล้ว ประสานเข้ากับฟ้าดินกลายเป็นอานุภาพยิ่งใหญ่ที่ ‘เมื่อสบโอกาสฟ้าดินจะส่งเสริม’ อย่างหนึ่ง

ประหนึ่งว่าต้านทานมัน ก็เหมือนต่อต้านฟ้าดินทั้งแถบ!

นี่คือการใช้ค่ายกลวัฏจักรดาราเป็นรากฐาน ใช้เวลาเกือบครึ่งปีของหลินสวิน จึงโคจรโฉมหน้าที่แท้จริงของกระบวนค่ายกลสี่ยอดแปดพิทักษ์ที่วางไว้ออกมาได้อย่างเต็มกำลัง

“แย่แล้ว!”

“นี่คือผนึกอริยะอะไร”

“บัดซบ ติดกับแล้ว เคลื่อนย้ายไม่ได้เลย!”

“ใต้ดินก็ไม่ได้ มีพลังผนึกกระจายอยู่แน่นหนา”

ยามนี้มกุฎอริยะอย่างพวกคุนป้าชิวไม่มีใครไม่หน้าเปลี่ยนสี สัมผัสได้ว่าท่าไม่ดี

เวลานี้พวกเขาเหมือนอยู่ในทะเลดาวไร้ขอบเขต ขาดการติดต่อทุกอย่างกับโลกภายนอก

ขณะเดียวกันในพื้นที่อื่น มกุฎอริยะกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าก็ทยอยถูกขังอยู่ในค่ายกลสังหารอื่น สังเกตเห็นว่าไม่เข้าทีเช่นกัน

นี่คือ ‘สวรรค์ไร้ทางพิภพไร้ประตู’ อย่างแท้จริง!

หากทำลายค่ายกลไม่ได้ ผลที่ตามมานั้นก็ไม่อยากจะคิดจริงๆ

สำหรับทัพใหญ่เจ็ดดินแดนหลายแสนนั่นก็ติดกับเช่นกัน พวกเขารู้สึกเพียงเบื้องหน้าพลันฝ้าฟาง ภาพตรงหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ไม่ต้องพูดถึงว่าจะไปโจมตีค่ายชั่วคราวต่อ แม้แต่จะหาทางออกก็ยังไม่ได้

กวาดตามองโดยรอบเป็นทะเลดาราไร้สิ้นสุด เป็นโลกปราณกระบี่ที่เหมือนมหาสมุทร เป็นอาณาจักรอสนีที่พายุสายฟ้าโหมทำลายพลุ่งพล่านไปทั่ว เป็นแดนว่างเปล่าที่หมอกควันไร้ขอบเขต…

ศัตรูทั้งหมดที่มารุกราน ยามนี้ต่างลงไหกันหมด!

หลินสวินสองมือไพล่หลัง นัยน์ตาล้ำลึกฉายแววเยียบเย็น

การเข่นฆ่าสังหารที่แท้จริงจะเริ่มต้น ณ บัดนี้!

……………..

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset