Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 1915 บารมีเทพมาร

ตอนที่ 1915 บารมีเทพมาร
ขวดมหามรรคไร้ขอบเขต!

เมื่อหลินสวินปล่อยพลัง ภายในปากขวดที่แวววาวโปร่งแสงพลันมีปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งออกมาทันควัน

ไปไร้หวน!

กระบวนท่าเช่นเดียวกัน ก่อนหน้ายามหลินสวินสังหารหญิงชุดเงินคนนั้นก็เคยใช้ไปแล้วครั้งหนึ่ง

เพียงแต่ว่ากระบวนท่านี้ที่ถูกขวดมหามรรคไร้ขอบเขตสำแดงออกมา กลิ่นอายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อานุภาพก็เป็นหนึ่งเท่าตัวเต็มๆ จากที่หลินสวินสำแดงออกมา

เคร้ง!

ในเสียงกระแทกสะเทือนหู ทวนศึกสีทองถูกซัดลอยคว้างอย่าแรง กึ่งจักรพรรดิที่ถือทวนศึกข้อมือหักสะบั้นโดยตรง

เขาสีหน้าหวาดผวา เพิ่งหมายจะหลบเลี่ยง ปราณกระบี่สายนั้นก็ตัดหัวร่วงเป็นที่เรียบร้อย

ตูม!

ภาพเหตุการณ์น่าสะพรึงปรากฏขึ้นแล้ว ร่างของกึ่งจักรพรรดิคนนี้ถึงกับแตกระเบิดกระจุยตรงๆ ภายใต้ปราณกระบี่ จิตสิ้นวิญญาณสลาย

จนถึงตอนนี้ กึ่งจักรพรรดิคนที่สี่ถูกสังหาร!

ชายชุดม่วงและกึ่งจักรพรรดิที่ควบคุมมุกวิญญาณที่เหลืออยู่ต่างหวาดผวา ความเดือดดาลภายในใจถูกแทนที่ด้วยไอหนาวเยือกหวั่นหวาด

แรกเริ่มเดิมทีพวกเขาฮึกเหิมเต็มเปี่ยม ระหว่างพูดคุยกลั้วหัวเราะก็มองหลินสวินเป็นตะพาบในไห คิดว่ามีกึ่งจักรพรรดิหกคนลงมือพร้อมกัน แค่จัดการคนรุ่นเยาว์ระดับมกุฎราชันอริยะคนหนึ่งเป็นการทุ่มแรงมากได้ผลน้อยอย่างสิ้นเชิง

แต่ตอนนี้การต่อสู้เพิ่งดำเนินไปเพียงชั่วครู่เท่านั้น ก็มีกึ่งจักรพรรดิสี่คนถูกสังหารต่อเนื่อง

หญิงชุดเงินตายภายใต้ไปไร้หวน

ชายชราอ้วนเตี้ยตายภายใต้เนตรผลาญเผา

ชายร่างผอมแห้งตายภายในเขตแดนมรรค

และยามนี้ ชายถือทวนศึกสีทองก็ตายภายใต้ขวดมหามรรคไร้ขอบเขต!

ภาพการตายที่นองเลือดแต่ละภาพประหนึ่งการโจมตีอันหนักอึ้งหาใดเปรียบครั้งแล้วครั้งเล่า ทำเอาพวกชายชุดม่วงสองคนที่เหลือต่างรู้สึกไม่สมจริง ราวกับฝันไป

น่าสะพรึงเกินไป

และน่าเหลือเชื่อเกินไป!

“พี่รอง สถานการณ์ไม่เข้าที ขืนยังไม่ไปเกรงว่า…”

กึ่งจักรพรรดิที่ควบคุมมุกวิญญาณสีหน้าเคร่งขรึม เขาสวมชุดแพรไหม บุคลิกดุดัน เพียงแต่เวลานี้ในใจกลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

ชายวัยกลางคนชุดม่วงสีหน้าวูบไหวไม่นิ่ง

ภายในใจของเขากำลังกระอักเลือด เต็มไปด้วยความเดือดดาล ไม่ยินยอม และหวาดผวา

หมดสภาพต่อหน้าคนรุ่นหลังคนหนึ่ง สูญเสียพวกพ้องมากมายเช่นนี้ ทำให้เขาจวนจะคลุ้มคลั่ง

แต่ประโยคเดียวของชายชุดแพรไหมทำให้เขาเยือกเย็นลงบ้าง ในใจเกิดความคิดถอยหนีผุดขึ้นมา

“ไป!”

เขากัดฟัน หมายจะล่าถอย

“เพิ่งหนีเอาป่านนี้ ไม่รู้สึกว่าสายไปแล้วหรือ”

เงาร่างหลินสวินพุ่งมากะทันหัน กระตุ้นพลังเขตแดนมรรคปิดครอบสิบทิศ กักขังพวกเขาสองคนเอาไว้

“ฆ่า!”

พวกชายวัยกลางคนชุดม่วงสองคนต่างหน้าเปลี่ยนสี โจมตีแทบจะสุดชีวิต

เพียงแต่เวลานี้พวกเขาไม่ได้ทำไปเพื่อฆ่าศัตรูแล้ว หากแต่เพื่อดั้นด้นหาทางรอด ขอเพียงคว้าโอกาสได้สักเสี้ยว จากความแข็งแกร่งของพวกเขาก็สามารถหนีได้อย่างง่ายดาย

ตูม!

ชายวัยกลางคนชุดม่วงสองมือกดอากาศ เบื้องหน้าปรากฏกระแสน้ำหมื่นชั้น ประหนึ่งมหาสมุทรซัดโหมแผ่ท่วมโลกหล้า อานุภามหาศาลดุจทลายภูผาธารา

อีกด้านหนึ่งชายชุดแพรไหมก็สำแดงฝีมือก้นกรุออกมา เมื่อเขาโบกมือ มุกวิญญาณสีสันสดใสสิบแปดเม็ดก็พุ่งโฉบออกมา ประกอบเป็นวงแหวนมุกวิญญาณส่งเสียงวู้มยาว แสงมรรคศักดิ์สิทธิ์ซัดสาดพร่างพรม

กึ่งจักรพรรดิสองคนสู้สุดชีวิต สภาพการณ์นั้นน่ากลัวเกินกว่าจะจินตนาการ ทำเอาหลินสวินยังรู้สึกถึงแรงกดดันยิ่งยวด

เขาก็ไม่ได้ออมมืออีกต่อไป

สวบ!

บริเวณหน้าอกเขา แสงขาวเจิดจ้าบาดตาสายหนึ่งพุ่งโฉบฉับพลัน ฟ้าดินภูผาธารา วัฏจักรสรรพสิ่งเสมือนชะงักค้างในพริบตา

ดุจกาลเวลาที่ไหลเคลื่อนนิรันดร์เกิดการหยุดชะงักในชั่วขณะ!

อภินิหารพรสวรรค์…

หยุดเวลา!

สรรพสิ่งบนโลกนิ่งงันดุจภาพวาด ชายวัยกลางคนชุดม่วงและชายชุดแพรไหมก็เส้นสายในภาพวาด แม้แต่วิชาที่พวกเขาสำแดงเต็มกำลังยังชะงักค้างอยู่ตรงนั้นด้วยเช่นกัน

ภาพพิสดารหาใดเปรียบนี้ เห็นได้ชัดว่าน่ากลัวเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงอย่างไรก็เกี่ยวพันกับพลังกฎระเบียบกาลเวลาสูงสุด นี่เป็นนัยเร้นลับน่าสะพรึงที่แม้แต่ระดับจักรพรรดิก็ยังมีน้อยคนนักจะสัมผัสถึง

“ฟัน!”

พริบตาที่สำแดงอภินิหารหยุดเวลา ดาบหักราวกับธารดาราสว่างไสว ฟันไปทางชายชุดแพรไหม

ขณะเดียวกันเงาร่างหลินสวินก็แหวกอากาศไปปรากฏเบื้องหน้าชายวัยกลางคนชุดม่วง ใช้คัมภีร์กลืนกินไร้สิ้นสุดสำแดงหนึ่งหมัดสะเทือนสวรรค์

พรูด!

ร่างชายชุดแพรไหมถูกฟัน เลือดสดๆ สาดกระเซ็นกลางอากาศ ประกายคมกริบเจิดจ้าไร้ทัดเทียมกลบร่างที่ระเบิดแตกของเขาจนมิด สุดท้ายทั้งกายจิตล้วนดับสูญ

ส่วนอีกด้านหนึ่งเมื่อเสียงกระแทกทึบหนักดังขึ้น บริเวณอกของชายวัยกลางคนชุดม่วงถูกหมัดหนึ่งซัดกระแทกจนยุบ ปากจมูกกระอักเลือด ส่งเสียงตะโกนโหยหวนออกมา

เดิมทีหมัดนี้ของหลินสวินซัดไปที่หัวของชายวัยกลางคนชุดม่วง แต่สุดท้ายกลับถูกอีกฝ่ายที่มีปฏิกิริยาคืนมาหลังจากอภินิหารหยุดเวลาหลบเลี่ยงได้ทัน

หากไม่เป็นเช่นนี้ หมัดนี้ล้วนสามารถเอาชีวิตเขาได้

ตูม!

ห้วงอากาศพังทลาย ชายวัยกลางคนชุดม่วงลอยคว้างออกไป สีหน้าซีดขาว หน้าอกของเขายุบทลาย ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างที่สุด

แต่ยามเห็นภาพที่ชายชุดแพรไหมซึ่งอยู่ห่างออกไปถูกสังหาร ยิ่งทำให้ความกล้าของเขาแทบแตกสลาย

“น่าชังนัก…”

เขาแหงนหน้าคำราม ดวงตาแทบหลั่งเลือด เคียดแค้นจนคลุ้มคลั่ง “เจ้าเดรัจฉานน้อย วันหน้าข้าเฮ่อเหลียนสยงจะฆ่าเจ้าให้จงได้!”

“เจ้าไม่มีโอกาสแล้ว”

เสียงของหลินสวินยังไม่ทันสิ้นสุด ตัวเขาก็ปรากฏอยู่ต่อหน้าชายวัยกลางคนชุดม่วงแล้ว

พริบตาเดียวเบื้องหน้าชายวัยกลางคนชุดม่วงพลันดำมืด เสมือนหุบเหวใหญ่กลืนฟ้าปิดครอบลงมา เดิมเขาคิดจะสำแดงวิชาลับหลบเลี่ยง แต่เงาร่างกลับเหมือนถูกจองจำ ถูกพลังกลืนกินอันน่าสะพรึงยึดขึงไว้

จากนั้นทั้งตัวเขาล้วนถูกกลืนกินเข้าไปในนั้น

ตูม!

เมื่อพลังเขตแดนมรรคของหลินสวินโคจรเต็มที่ ชายวัยกลางคนชุดม่วงที่เดิมก็เจ็บหนักปางตาย ร่างกายพลันแตกเป็นเสี่ยงๆ ในทันที

สารกาย พลังชีวิต จิตวิญญาณ พลังทั้งหมดในร่างเขาล้วนประหนึ่งถูกกลืนกินอย่างน่าสะพรึง เพียงพริบตาสั้นๆ ก็มอดดับเป็นเถ้าถ่านลอยล่อง!

ใต้เวิ้งฟ้าหลินสวินยืนตระหง่าน ร่างสะท้อนลักษณ์แห่งหุบเหวลึก ผมดำพลิ้วไหว ดุจดั่งเทพมารในตำนานบรรพกาล

ผงาดผยองเหนือหล้า!

บริเวณที่ห่างออกไปไกล เฮ่อเหลียนฉีซึ่งเป็นพยานเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างอึ้งงันไปนานแล้ว สติหลุดลอย จนกระทั่งยามเห็นว่าชายวัยกลางคนชุดม่วงก็ประสบเคราะห์ด้วยเช่นกัน ทั้งตัวเขาก็เหมือนพังทลาย ร้องลั่นเสียงหลง

“ไม่ นี่เป็นไปไม่ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องจริง…”

เสียงร้องแตกตื่นดังสะท้อนเหนือพื้นที่พังพินาศแถบนี้

เฮ่อเหลียนฉี ระดับมกุฎราชันอริยะคนหนึ่ง เคยเป็นหนึ่งในสิบอันดับหนึ่งของการคัดเลือกถกมรรคแคว้นเมฆา และเคยผ่านเข้ารอบในการคัดเลือกรอบที่สอง

พวกชั้นเลิศเช่นเขา ภายในแคว้นเมฆาก็เป็นบุคคลที่สามารถทำให้ผู้ฝึกปราณส่วนใหญ่เลื่อมใส

แต่เวลานี้เขากลับเหมือนนกกระทาที่แตกตื่น ตาแทบถลน ดูประหนึ่งสูญเสียบุพการี!

“นึกเสียใจขึ้นมาแล้วหรือ”

หลินสวินปรากฏตัวตรงหน้าเฮ่อเหลียนฉีโดยพลัน มองดูท่าทางตกใจสติหลุดของเขา นัยน์ตาก็อดฉายแววเวทนาออกมาไม่ได้

เจ้างั่งนี่ ในที่สุดก็รู้สึกกลัวแล้วหรือ

“จะ… เจ้าเป็นใครกันแน่”

เฮ่อเหลียนฉีมองหลินสวินที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกแปลกหน้าหาใดเปรียบเสมือนเพิ่งรู้จักกันครั้งแรกก็ไม่ปาน

“ใกล้ตายรอมร่อ เจ้ายังห่วงปัญหานี้อยู่หรือ”

หลินสวินแปลกใจ

“ข้าแค่กล้ามั่นใจว่าบนโลกใบนี้ไม่เคยมีคนชื่อจินตู๋อีที่อยู่ระดับมกุฎราชันอริยะ แล้วสามารถฆ่ากึ่งจักรพรรดิตั้งมากมายขนาดนั้นได้!”

เฮ่อเหลียนฉีดวงตาแดงก่ำ ฉายแววเคียดแค้น

“หากเมื่อก่อนเจ้าฉลาดเช่นนี้ มีหรือจะเกิดเรื่องอย่างในวันนี้ได้”

หลินสวินถอนหายใจเบาๆ

“เจ้าเป็นใครกันแน่”

เฮ่อเหลียนฉีตวาด เขาคล้ายเสียสติไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น สติหลุดอย่างสิ้นเชิง

“เจ้าใกล้จะตายอยู่แล้ว รู้ว่าข้าเป็นใครจะมีประโยชน์อันใดเล่า”

หลินสวินกล่าวจบก็โบกแขนเสื้อคราหนึ่ง

ตูม!

พลังน่าสะพรึงกลายเป็นเตาหลอมใบหนึ่ง สยบสังหารลงมา

นี่ก็เป็นการใช้เขตแดนมรรคอย่างหนึ่งเช่นกัน ยามที่คล้ายเตาเหลอม วิวัฒน์เป็นนัยเร้นลับแห่งเตาหลอมมหามรรค ยามคล้ายหุบเหว วิวัฒน์เป็นลักษณ์แห่งหุบเหวกลืนกิน!

เพียงชั่วพริบตาเฮ่อเหลียนฉีถูกฆ่าตายคาที่ จิตสิ้นวิญญาณสลาย

ก่อนสิ้นใจยังร้องคำราม ซักไซ้ถามว่าหลินสวินเป็นใคร

อันที่จริงหลินสวินดูออกแต่แรกว่าสภาวะจิตของเฮ่อเหลียนฉีพังทลายแล้ว สติสัมปชัญญะได้รับแรงสะเทือน ต่อให้ตนไม่ฆ่าเขาก็จะกลายเป็นคนบ้าเสียสติคนหนึ่งอยู่ดี

หลินสวินไม่ได้ปลงสังเวชอะไร เริ่มเก็บกวาดทรัพย์หลังศึกในที่นั้นทันที

ครู่ต่อมา

สวบ!

ยานขนส่งอวกาศแหวกห้วงอากาศ พาหลินสวินจากไป

เหลือไว้เพียงแต่ภูผาธาราพังยับที่มีแต่ร่องรอยหายนะเต็มไปหมด

หลินสวินจากไปไม่นาน คนขบวนหนึ่งก็ปรากฏตัว ผู้นำก็คือนักพรตหลัน เจ้าสำนักเกาะเทพเวหาทมิฬนั่นเอง

“ที่นี่เหลือกลิ่นอายกึ่งจักรพรรดิที่แตกต่างกัน ดูจากสภาพเสียหายวายวอดเช่นนี้ น่าจะเคยเกิดการต่อสู้นองเลือดที่ดุเดือดถึงขีดสุด”

นักพรตหลันกวาดสายตาและสันนิษฐานออกมา

“เจ้าสำนัก หรือว่าจินตู๋อีนั่นจะถูกคนอื่นชิงตัดหน้าฆ่าไปก่อนแล้ว”

มีคนอดเอ่ยถามไม่ได้

นักพรตหลันส่ายหน้า สีหน้าวูบไหวไม่นิ่ง “กลิ่นอายกึ่งจักรพรรดิที่หลงเหลือในที่นี้เป็นของคนหกคน หากข้าคาดเดาไม่ผิด หกคนนี้น่าจะประสบเคราะห์กันหมดแล้ว”

“อะไรนะ”

“จินตู๋อีนั่นออกเดินทางเพียงลำพังชัดๆ หรือว่ายังมีคนคอยช่วยเขาอยู่ลับๆ”

ทุกคนต่างตกใจแกมสงสัย

“ไปกันเถิด รีบกลับสำนักเดี๋ยวนี้”

นักพรตหลันสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ทำการตัดสินใจ

ไป?

ทุกคนต่างอึ้งไป จะปล่อยไปทั้งอย่างนี้หรือ

“จินตู๋อีนี่กล้าเดินทางเพียงลำพัง เป็นไปได้หรือว่าจะไม่มีที่พึ่งพิง ไม่เห็นหรือว่าในพื้นที่แถบนี้มีกึ่งจักรพรรดิหกคนร่วงหล่น ข้าถึงขั้นสงสัยว่าเบื้องหลังเจ้าหมอนี่จะมีระดับจักรพรรดิคอยตามอยู่หรือไม่…”

นักพรตหลันเอ่ยเสียงขรึม

ระดับจักรพรรดิ!

ประโยคเดียวทำให้ทุกคนตกใจอึ้งค้าง เมื่อลองคิดดูก็จริง สามารถสังหารกึ่งจักรพรรดิหกคนได้ มีหรือจะใช่คนธรรมดาทั่วไป

จากนั้นนักพรตหลันก็พาคนทั้งขบวนจากไปอย่างรวดเร็ว

“เฮอะ เจ้าพวกเกาะเทพเวหาทมิฬนี่ช่างเฉลียวฉลาดนัก”

นักพรตหลันจากไปไม่ทันไร บริเวณใกล้ๆ พื้นที่ที่พังยับเยินแถบนี้ เงาร่างของคนใหญ่คนโตสำนักยุทธ์เสวียนจีอย่างพวกเหิงเซียวก็ปรากฏตัว

“เจ้าสำนัก พลังต่อสู้ของสหายน้อยจินตู๋อีออกจะน่าสะพรึงเกินไปแล้ว ท่านรู้หรือไม่ว่าเขามีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่”

มีคนอดเอ่ยถามไม่ได้

ก่อนหน้านี้ภายใต้การนำของเหิงเซียว พวกเขาไล่ตามหลินสวินในเงามืด ยามการต่อสู้ก่อนหน้านี้ปะทุขึ้น พวกเขาล้วนเห็นอยู่ในสายตาทั้งหมด

เดิมทีพวกเขาตั้งใจจะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ไหนเลยจะคาดคิด ทันทีที่การต่อสู้เริ่มขึ้น หลินสวินก็สังหารกึ่งจักรพรรดิสองคนรวด

จากนั้นเพียงแค่ชั่วครู่กึ่งจักรพรรดิคนอื่นๆ ก็ถูกสังหารทีละคน

ภาพนองเลือดเช่นนั้นทำเอาเฒ่าชราอย่างพวกเขาล้วนสะท้านสะเทือน เกือบจะไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง

อย่างไรเสียมกุฎราชันอริยะคนหนึ่ง กลับสังหารกึ่งจักรพรรดิได้เหมือนฆ่าไก่ ทอดสายตามองทั่วโลกใหญ่หงเหมิง ใครเล่าจะเคยพบเห็นเรื่องน่าสะพรึงสะท้านโลกเช่นนี้

และแน่นอนว่าไม่มีโอกาสให้พวกเขายื่นมือเข้าช่วยเลยสักนิด

“ไม่ว่าสหายน้อยจินตู๋อีเป็นใคร เรื่องในวันนี้ห้ามมีการรั่วไหลใดๆ ทุกคนเข้าใจหรือไม่”

เหิงเซียวเอ่ยเสียงเข้ม

ในใจทุกคนต่างสะท้านไหว พยักหน้าตอบรับ

เห็นดังนี้เหิงเซียวจึงลอบถอนหายใจโล่งอกอยู่ในใจ เอ่ยว่า ‘นี่เป็นถึงอาจารย์อาเล็กของท่านบรรพจารย์ของพวกเรา ฐานะและความแข็งแกร่งของเขาย่อมไม่ใช่พวกธรรมดาจะเทียบได้!

……………………….

Battling Records of the Chosen One

Battling Records of the Chosen One

BRCO, Tian Jiao Zhan Ji, 天骄战纪
Score 8
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2016 Native Language: Chinese
ณ มหาทวีปชางถูอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเซียนอมตะผู้อยู่เหนือสวรรค์ชั้นฟ้า มีเทพมารบรรพกาลผู้ควบคุมโลกันต์ ก่อเกิดเป็นตำนานอันรุ่งโรจน์ไม่รู้จบบนหน้าประวัติศาสตร์ ในโลกใบเดียวกันนั้น เด็กชายนามว่าหลินสวินจำต้องอาศัยการฝึกปราณและการจารึกรอยสลักวิญญาณ บากบั่นมุ่งหน้าไปบนหนทางสู่ความเป็นหนึ่งแต่เพียงลำพัง หลินสวินเป็นผู้เดียวที่หนีรอดมาได้จากคุกใต้เหมือง ที่ที่เขาถูกเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ เขาไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองเป็นใคร ยกเว้นเพียงความจริงไม่กี่อย่างที่ท่านลู่ ผู้อุปการะของเขาเป็นคนเล่าให้ฟัง ด้วยเครื่องมือวิญญาณโบราณสองอย่างที่ท่านลู่มอบไว้ให้ก่อนคุกใต้เหมืองจะถล่ม หลินสวินเริ่มออกเดินทางสู่จักรวรรดิจื่อเย่า เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดชีพจรวิญญาณของเขาจึงถูกพรากไป และใครที่เป็นคนสังหารครอบครัวของเขา จนทำให้เด็กชายต้องโดดเดี่ยวอ้างว้างอย่างที่เป็นอยู่นี้ แม้ภายนอกจะเป็นเพียงเด็กชายตัวผอมแห้งอายุสิบสองสิบสามที่ดูไร้พิษสง แต่ภายในนั้นเด็ดขาดและไร้ความปราณีเป็นที่สุด ท่านลู่เปรียบเสมือนแสงแดดอุ่นที่คอยสอนไม่ให้หลินสวินหยุดเรียนรู้และสอนวิชาเอาตัวรอดให้เขา ในทางกลับกัน ทหารยามและนักโทษทั้งหลายทำให้เขารู้จักว่าความดำมืดที่แท้จริงเป็นเช่นไร และมนุษย์คนหนึ่งจะชั่วช้าได้สักแค่ไหน… In the vast and boundless continent Cangtu, there were ancient sects governing the Ten Old Domains, unworldly immortal clans beyond the Blue Sky, and primordial demon gods dominating the dark abyss that together created a great number of brilliant stories over the long course of the history. In this very world, there was a boy, named Lin Xun, who embarked on his journey to the pinnacle of strength alone through cultivation and spiritual tattoo inscribing. Escaping alone from the Mine Prison where he had been living since he was adopted by Master Lu, Lin Xun knew nothing about his identity but the little information his adopter, Master Lu, had told him. With two ancient spiritual tools Master Lu gave to him before the destruction of the Mine Prison, Lin Xun started his journey to Ziyao Empire, where he is supposed to find out the truth of his lost Spiritual Vessel and the person who slaughtered his family, leaving him orphaned. Will he be able to unlock the mysteries of the two magic treasures, unveil the secrets of his identity and create a legend of his own?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset