มันไม่ใช่เรื่องแปลก ที่คนแปลกหน้าจำนวนกลุ่มหนึ่งรุมกันเข้ามาในเมืองโบราณต้าหลี่ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว
แต่ถ้าคนกลุ่มนี้ล้วนใส่ชุดสูทสีดำกางเกงขายาวสีดำ และแต่ละคนเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่กล้ามโต ก็จะทำให้เป็นที่ดูดดึงสายตาจริงๆ
เจ้าของร้านชุดน้ำชา สังเกตดูอยู่พักหนึ่ง“พวกคุณกำลังหาคนหรือ”
คว้าจับไปที่ชายหนุ่มกล้ามใหญ่ในชุดสูทท่าทางรีบร้อนคนหนึ่ง
เสิ่นเอ้อแปลกใจที่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งจับไว้
“หาคน”
“หาใครหรือ?”
ตอนแรกนั้นเสิ่นเอ้อไม่อยากจะบอก แต่ตอนนี้ถูกคนถามขึ้น จึงหยิบมือถือขึ้นมา ด้านในเป็นรูปถ่ายบาร์เหล้าใบหนึ่ง “คุณเคยเห็นเธอไหม?”
“เห็นไม่ชัด”เจ้าของร้านขายชุดน้ำชาเปลี่ยนท่าที แล้วส่ายหัว
เสิ่นเอ้อพยักหน้า“ผมจะไปถามคนอื่นๆอีกครั้ง”
ซีเฉินกับเสิ่นซิวจิ่นอยู่ด้วยกัน โฮมสเตย์ที่อยู่ตรงข้ามพวกเขาก็คือที่อยู่ของเฟ่ยหมิงหมิงกับเซียวเหิง
“เราหาคนแบบป่าเถื่อนเช่นนี้ ฝั่งตรงข้ามจะต้องสังเกตเห็นแล้วอย่างแน่นอน”
เสิ่นซิวจิ่นสนใจแต่การดูดบุหรี่“แล้วไง?”
ขณะกำลังพูด ก็มีคนมาเคาะประตู
“ผมไปเปิดประตู”ซีเฉินเก็บคำพูดที่อยากจะพูดไว้ หันหลังเดินไปเปิดประตู เมื่อเปิดประตูออก เห็นคนตรงหน้าแล้ว ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ตายยากจริงๆ เพิ่งจะพูดถึง ก็มาแล้ว ”เขาไม่ได้สนใจคนที่อยู่นอกประตู หัวเราะคิกคักหันหน้าเข้าไปในห้องอย่างทะลึ่ง “คุณดู เมื่อกี้ผมพูดอะไรนะ ”
ขณะที่เขาพูด ก็ไม่ได้บอกคนที่อยู่นอกประตูว่าเข้ามาได้หรือเข้ามาไม่ได้ ประตูก็เปิดอ้าไว้เช่นนั้น แล้วซีเฉินก็หันหลังเดินเข้าไปในห้อง
เซียวเหิงเข้ามาด้วยมือเสียบในกระเป๋า เดินไปตรงหน้าเสิ่นซิวจิ่น มองดูเสิ่นซิวจิ่นอย่างตาเขม็ง “หากคุณมาเพื่อจะพาเธอกลับไป หากคุณยังมีมโนธรรม ก็ไม่ต้องมารบกวนเธออีกแล้ว”
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ เงยหน้ามองดูเซียวเหิงแวบหนึ่ง ด้วยท่าทางดุร้ายโหดเหี้ยม แล้วค่อยๆลุกขึ้น เซียวเหิงที่เมื่อกี้ยังข่มเขาอยู่ ก็ถูกตามจนทัน ดูผิวเผินแล้ว ยังถูกแซงหน้าไปแล้ว
“เรื่องระหว่างเราสามีภรรยา คุณที่เป็นคนนอกคนหนึ่ง ยุ่งอะไร? ”ริมฝีปากบอบบางของชายหนุ่ม ค่อยๆเปิดออก แล้วกล่าวทีละคำอย่างเรียบๆ ขณะที่พูด ก็ยื่นมือที่คีบก้นบุหรี่อยู่ในนิ้วมือออกมา กดไปบนไหล่ชุดสูทของชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า แล้วบดขยี้ลงไป
“หากคุณยังกล้ามาสร้างปัญหา ก็ลองดู”
เซียวเหิงไม่ได้หลบ เพียงแค่ก้มมองดูตรงไหล่ของตัวเองอย่างเย็นชา บนเสื้อคลุมชุดสูทราคาหลายแสน มีรอยไหม้ก้นบุหรี่เพิ่มมา
นิ้วมือเรียวยาว ถอดเสื้อคลุมออกอย่างสง่างาม แล้วโยนลงถังขยะที่อยู่ข้างๆไป ต่อหน้าเสิ่นซิวจิ่น
“โอเค ลองก็ลอง”
พูดอย่างเย็นชา มองอีกฝ่ายแวบหนึ่งด้วยสายตาเยือกเย็น แล้วหันหลังเดินออกไป
เสิ่นซิวจิ่นยืนอยู่ที่เดิม ใช้สายตาส่งเซียวเหิงจากไป
“คุณทำแบบนี้ เกินไปเล็กน้อยแล้วนะ อาซิว”
ซีเฉินใช้ปากชี้ไปที่เสื้อคลุมชุดสูทที่พังแล้วตัวนั้น หมายความว่า เมื่อกี้เสิ่นซิวจิ่นทำเกินไปเล็กน้อย
“ฉันเกลียดเขา”เสิ่นซิวจิ่นหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย
“คุณ……….”
พูดชัดเจนว่าเกลียดเซียวเหิงเช่นนี้ ซีเฉินรู้สึกอ่อนแรงไปทันที…….เขาไม่รู้จริงๆว่า จะไปเกลี้ยกล่อมเสิ่นซิวจิ่นได้อย่างไร
“ไร้เดียงสาจริงๆ”
เด็กน้อยถึงจะท้าทายอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่เสิ่นซิวจิ่นจะทำได้เลย
“ช่วงบ่ายไปเอ๋อร์ไห่”ชายหนุ่มกล่าวขึ้น ในเมื่อไม่พบเบาะแสที่เป็นประโยชน์ในเมืองโบราณต้าหลี่ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องใช้วิธีที่โง่เขลาที่สุดเสียเวลาและเสียแรงที่สุดในการหาคนแล้ว
“แม้จะต้องหาแต่ละตารางนิ้ว ฉันก็จะต้องหาเธอให้เจอ เธอจะต้องอยู่ที่เอ๋อร์ไห่อย่างแน่นอน ฉันไม่เชื่อว่า ค้นหาทุกตารางนิ้ว จนพลิกแผ่นดินเอ๋อร์ไห่ให้ทั่วแล้ว จะหาเธอไม่เจอ”
……
ที่เมือง S
เจี่ยนโม่ป๋ายก็กำลังตามหาเจี่ยนถงอยู่
คุณหญิงเจี่ยนกำลังปอกแอปเปิลให้เจี่ยนโม่ป๋าย
แต่เจี่ยนโม่ป๋ายทุรนทุรายใจอยู่ไม่เป็นสุข
“ลูกชาย แกรออีกหน่อย พ่อของแกได้ใช้เส้นสายไหว้วานคนไปแล้ว จะต้องหาคนที่ไขกระดูกสันหลังเข้ากับแกได้อย่างแน่นอน ”
เธอก็ดูออกว่าลูกชายกระวนกระวายใจ แล้วมองดูลูกชายแวบหนึ่ง เจี่ยนโม่ป๋ายที่อยู่บนเตียงผู้ป่วย จ้องมองหน้าจอมือถือตาไม่กะพริบอยู่ตลอดเวลา แล้วก็เลื่อนหน้าจออยู่ตลอดเวลา เธอรู้ว่า ลูกชายกำลังหาข่าวของเสี่ยวถงอยู่
“เสี่ยวถง…….ช่างมันเถอะ? ”
ผ่านไปครู่หนึ่ง คุณหญิงเจี่ยนพูดเกลี้ยกล่อมว่า“พ่อของแก ……..จะสามารถหาไขกระดูกสันหลังที่เหมาะสมให้แกได้ สำหรับเสี่ยวถง…….ช่างมันเถอะ”
ช่างมันเถอะ เราปล่อยเสี่ยวถงไปเถอะ…….นี่เป็นเสียงที่แม่เจี่ยนคิดอยู่ในใจ
“หากว่า……หาไม่ได้ล่ะ?”
“เป็นไปไม่ได้ จะต้องหาได้อย่างแน่นอน”
เจี่ยนโม่ป๋ายโวยวายขึ้นมาทันที ตะโกนเสียงดัง “หากหาไม่ได้จริงๆล่ะ! หรือจะให้ผมนอนรอวันตายหรือ!
แม่!
ผมไม่อยากตาย!
ผมยังหนุ่มยังแน่นอยู่!
ผมไม่อยากรอความหวังอันน้อยนิด!
ไม่อยากเป็นฝ่ายนั่งรออยู่เช่นนั้น !”
เขากระชากหมวกบนหัวตัวเองออกทันที “แม่ แม่ดู ! เส้นผมของผมเริ่มจะร่วงแล้ว! แม่ไม่รู้ว่า ทุกเช้าที่ผมตื่นนอน เส้นผมร่วงมาทีละกระจุกทีละกระจุก! แม่ไม่รู้เลยว่า เคมีบำบัดมันทรมานแค่ไหน ! พะอืดพะอมอยากจะอ้วก วิงเวียนหน้ามืด จนอยากจะอาเจียน อาเจียนกรดเหลวในกระเพาะออกมาหมดแล้ว ยังจะอาเจียนอีก!
แม่!
คุณหมอบอกว่า โรคนี้ ทางที่ดีควรจะปลูกถ่ายไขกระดูกสันหลังให้เร็วที่สุด แม่ให้ผมรอ ผมรอแล้ว แต่ว่าแม่สามารถจะรับประกันได้ไหมว่า ผมจะรอจนได้ไขกระดูกที่เหมาะสมกับผมได้อย่างแน่นอน? ”
“โม่ป๋าย !ใจเย็นๆ สงบสติก่อน ไม่เป็นไร แม่จะอยู่เคียงข้างแกตลอด คนเก่งของแม่ ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น ”
แม่เจี่ยนสงสารลูกชายมาก บนสีหน้าที่ขาวซีดของลูกชาย ริมฝีปากแตกแห้ง ไม่มีสีเลือดเลย เธอกอดลูกชายไว้ในอ้อมกอด แล้วปลอบประโลมว่า“ไม่ต้องกลัว พ่อกับแม่จะต้องช่วยแกอย่างแน่นอน”
“ดังนั้น……แม่ ขอร้องท่านล่ะ ช่วยผมหาน้องสาวให้เจอด้วย”
แม่เจี่ยนร้องไห้ขมขื่น
“แม่ ท่านอย่าร้องไห้ ท่านพูดอะไรสักคำซิ”
“เสี่ยวถงเธอ ไม่มีไตแล้ว ”แม่เจี่ยนพูดตะกุกตะกัก“ร่างกายเธอแบบนั้น แกจะให้เธอบริจาคไขกระดูกสันหลังให้แกได้อย่างไร ?โม่ป๋าย เรารอดูก่อน ได้ไหม?”
“แม่ อย่างนี้ดีไหม ท่านช่วยผมหาเสี่ยวถงให้เจอก่อน ”ขณะที่เจี่ยนโม่ป๋ายพูด“ผมก็จะรอพ่อติดต่อหาไขกระดูกที่เหมาะสมกับผมอย่างสงบ ถ้าไม่ถึงวินาทีสุดท้าย ผมจะไม่ไปรบกวนเสี่ยวถง ถ้าหากสุดท้ายแล้ว ยังหาไขกระดูกสันหลังไม่ได้…..แล้ว อย่างน้อยก่อนที่ผมจะตายไป ให้ผมได้เห็นหน้าเสี่ยวถง ผมก็จะตายตาหลับ”
“ถุย อะไรตายไม่ตาย พูดไร้สาระ”แม่เจี่ยนงมงายกับคำพวกนี้
เจี่ยนโม่ป๋ายจับมือแม่เจี่ยนไว้ “แม่ ท่านว่าอย่างนี้ได้ไหม?”
แม่เจี่ยนลังเล“แก……พูดจริงหรือ?”
“จริงครับ!”
“ถ้าอย่างนั้น……ฉันจะพูดกับพ่อของแกดู”
แม่เจี่ยนพูด“เสี่ยวถงเธอ……ก็ไม่รู้ว่าสบายดีหรือเปล่า”
……
ที่เมืองโบราณต้าหลี่
เสิ่นซิวจิ่นกำลังตามหาคน เซียวเหิงก็กำลังตามหาคนเหมือนกัน
ซีเฉินได้ใช้เส้นสายทั้งหมดในวงการแล้ว
“ผู้หญิงในรูปถ่ายใบนี้ ผมเธอยาวมาก”เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มพูดขึ้น“เหมือนเคยเห็นที่ไหน ”
“จริงหรือ!”ในกลุ่มเริ่มตื่นเต้น“เฮ้ เจ้าวางรอง หากแกสามารถหาเบาะแสได้ จะเป็นงานชิ้นโบแดงเลยนะ ได้ยินเรื่องของตระกูลตู้หรือยัง ? เจ้าตู้สามไอ้สารเลวมันลงมือเร็วมาก โทรไปหาประธานเสิ่นเป็นคนแรก ให้รูปถ่ายใบนั้น ตอนนี้บริษัทของบ้านพวกเขาที่กำลังจะล้มละลาย ไม่เพียงแต่ไม่ล้มละลาย ยังได้รับการลงทุนจากเสิ่นซื่อกรุ๊ปด้วย หากแกสามารถช่วยประธานเสิ่นหาภรรยาของเขาเจอ พวกแกตระกูลวางก็จะได้น้ำขึ้นเรือย่อมสูงขึ้น พลอยได้ดิบได้ดีไปด้วย ”(เจ้าตู้สามคือคุณชายสามตระกูลตู้ เจ้าวางรองคือคุณชายรองตระกูลวาง)
คุณชายรองตระกูลวางไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
ในกลุ่มล้วน@คุณชายรองแห่งตระกูลวาง
เวลานี้คุณชายรองตระกูลวางมีเวลาจะมาสนใจคนเหล่านี้ที่ไหนกัน เขารีบเปิดโทรศัพท์แล็ปท็อป เข้าไปในแพลตฟอร์มหนึ่ง เลื่อนดูหน้าจออย่างไม่หยุด เพื่อจะค้นหาโพสต์นั้น
ตามที่กลุ่มคนในกลุ่มนั้นพูด หากสามารถช่วยประธานเสิ่นหาเบาะแสได้ ไม่แน่ว่าพวกเขาตระกูลวางก็จะได้รับผลประโยชน์ไปด้วย
เวลานี้ เขาเสียดาย ที่ตอนแรกน่าจะบันทึกโพส์ตนั้นไว้
หาอยู่ครึ่งค่อนวัน แทบจะที่สามารถหาได้ก็ค้นหาจนทั่วแล้ว ก็หาโพส์ตนั้นไม่เจอ คุณชายรองแห่งตระกูลวางตบหน้าตัวเองอย่างแรงๆ แกนะแก
แต่ก็ยังไม่ตายใจ เอามือถือขึ้นมาอย่างลังเล โทรไปหาคนในบ้าน“พ่อ พ่อมีวิธีติดต่อประธานเสิ่นไหม ?”
“ประธานเสิ่นไหน?”
“ก็ประธานเสิ่นแห่งเสิ่นซื่อกรุ๊ปไง”
“เสิ่นซิวจิ่นตระกูลเสิ่นหรือ? แกจะเอาเบอร์โทรของเขาทำไมกัน?”
“โอ๊ย ! พ่อ !มีหรือไม่มี ผมมีเบาะแสเกี่ยวกับเหมือนเจี่ยนถงแห่งตระกูลเจี่ยนคนนั้น……….”
ยังไม่ทันพูดจบ พ่อของเขาที่อยู่อีกฝั่งตื่นเต้นขึ้นมาทันที “ทำไมเพิ่งจะมาบอกเนี่ย! ฉันได้ยินมาว่าครั้งนี้ตระกูลตู้โชคดีมากเลย! แกรอก่อน ฉันจะส่งเบอร์โทรโทรศัพท์ให้แก”
คุณชายรองตระกูลวางลังเลอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดก็กัดฟัน แล้วโทรไปหาหมายเลขโทรศัพท์นั้น
“ประ ประธานเสิ่น ผมมีข่าวเกี่ยวกับภรรยาของท่าน ”
เขาพูดตะกุกตะกักจนจบ คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่รับโทรศัพท์ของเขา
ชายหนุ่มทางปลายสาย หดตาลงเล็กน้อย“คุณพูดมาเลย ”
“ผม คือก่อนหน้านั้นผมเคยเห็นในแพลตฟอร์มหนึ่ง ข้างในเป็นคู่รักคู่หนึ่งร้องเรียนโฮมสเตย์แห่งหนึ่งในเอ๋อร์ไห่ ……..”
เอ่ยถึง“เอ๋อร์ไห่”สองคำ ม่านตาดำเข้มของเสิ่นซิวจิ่นเป็นประกาย ถามอย่างไม่กระโตกกระตากว่า“แพลตฟอร์มไหน ส่งโพสต์นั้นมา ”
“นั่น…..โพสต์นั้น เมื่อกี้นี้ผมได้ค้นหาจนทั่วแพลตฟอร์มแล้ว หาไม่เจอ แต่ว่า แต่ว่าผมรับประกันว่าทุกคำที่ผมพูดล้วนเป็นความจริง
ตอนแรกในโพสต์นั้นยังมีรูปถ่ายด้วย ในรูปถ่ายมีผู้หญิงคนหนึ่ง ดูเหมือนก็คือนางเอกในรูปถ่ายใบนั้นในกลุ่มเพื่อนของเฟ่ยหมิงหมิง”
“โฮมสเตย์อะไร? ชื่ออะไรหรือ?” เขาขมวดคิ้ว ถามต่อ
“ชื่อว่า ‘Me……Memory House’ใช่ๆ ชื่อ ‘Memory House’ผมจำได้ชัดเจน เพราะว่าตอนนั้นผู้หญิงบนรูปถ่ายในโพสต์แพลตฟอร์มนั้น ผมของเธอยาวมาก จึงให้ความสนใจเป็นพิเศษ”
“ผมรู้แล้ว”
ทางปลายสาย คุณชายรองตระกูลวางอึ้งอยู่กับที่มองดูโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไป…….เพียงเท่านี้หรือ
เจ้าตู้สามยังได้รับผลประโยชน์ แล้วของเขาล่ะ?
คุณชายรองตระกูลวางโทรศัพท์ไปหาพ่อ“พ่อ ท่านว่า นี่มันลำเอียงเกินไปหรือเปล่า ประธานเสิ่นไปลงทุนกับทางตระกูลตู้แล้ว แต่ครอบครัวของเราไม่ได้อะไรเลยหรือ?”
“ทำไมแกถึงใจร้อนเช่นนี้ การทำงานของประธานเสิ่น ในใจเขารู้ดี เรารอดูก่อน ถึงแม้รอแล้วไม่ได้รับการลงทุนจากเสิ่นซื่อกรุ๊ป อย่างน้อยก็ทำให้ประธานเสิ่นเป็นหนี้บุญคุณเราตระกูลวาง”
หนี้บุญคุณของประธานเสิ่น มูลค่าไม่น้อย
……
เสิ่นซิวจิ่นลุกขึ้นทันที“หาเจอแล้ว”
ซีเฉินกำลังดื่มน้ำ“พุ่ง!”น้ำในปากกระเด็นออกมา“หาอะไรเจอแล้วหรือ?”
“อยู่ที่ ‘Memory House’ ฉันมีลางสังหรณ์ ว่าจะต้องเป็นเธอ”