ชีวิตนักเรียนของฉันในอาเรย์ออสเริ่มต้นขึ้นแล้ว
ไม่มีการลงไปสู้กับรุ่นพี่ในสนามซ้อมตั้งแต่เริ่ม ไม่มีเรื่องน่าอายอย่างการจับอาวุธแล้วทำหลุดมือ ฉันยินดีกับชีวิตวัยเรียนอันสุดแสนสงบนี้มากเลยล่ะ
เพราะเป็นนักเรียนที่ย้ายมา จึงต้องเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวเล็กน้อย ในชั้นเรียนมีการฝึกใช้เวทย์มนต์ซึ่งฉันสามารถทำได้อย่างไม่มีปัญหา ขณะที่ข่าวลือต่างๆของฉันในโซลออสก็ค่อยๆจางหายไป จนกลับเข้าสู่สภาวะปกติในที่สุด
(ยอดเยี่ยม นี่ล่ะสิ่งที่ฉันต้องการ!)
วันนี้ เป็นอีกครั้งที่ฉันนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นของอาเรย์ออส จิบชาที่ทุตเต้เป็นคนเตรียมให้ พักผ่อนด้วยความเพลิดเพลิน
ห้องนั่งเล่นของอาเรย์ออสเองก็ไม่ได้ต่างจากคลาสอื่น เป็นพื้นที่กว้างขวางซึ่งจัดแบ่งเป็นกลุ่มย่อยไว้หลายจุด มีทั้งโต๊ะเก้าอี้ไม้แบบปกติ และโซฟาเรียงกันอยู่ ฉันนั่งอยู่ในมุมหนึ่งที่ดีมีแสงแดดส่องลอดผ่านหน้าต่าง มีมากิลูก้าคอยสอนเรื่องต่างๆให้ถ้ามีเวลา ซึ่งโต๊ะกลมที่มีเก้าอี้สี่ตัวล้อมรอบในตอนนี้ มีเพียงฉันกับมากิลูก้านั่งอยู่
「สงสัยจังว่าพรุ่งนี้จะเป็นการฝึกซ้อมเวทย์มนต์สายไหนกันน้า?」
「สายเพลิงล่ะมั้งคะ」
หลังจากดื่มชาไปถ้วยนึง แล้วดื่มด่ำกับบรรยากาศ ฉันก็ถามมากิลูก้าไป เธอจิบชาด้วยท่วงท่าที่คล้ายกัน ก่อนตอบกลับมา
「ไฟเหรอ ตั้งตาคอยเลยล่ะ」
เพราะไม่ระวังตัวจนเกือบเผลอแสยะยิ้มแปลกๆออกไป ฉันจึงปั้นยิ้มใสๆกลบเกลื่อน
(ช่วยไม่ได้นี่นา ก็เวทย์มนต์เลยนะ ในที่สุดก็ได้ใช้เวทย์มนต์ล่ะ ความสุขอันแตกต่างจากการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระที่ก่อตัวขึ้นมา จะให้ไม่ยิ้มได้ไง)
ฉันไม่ได้กล่าวขอโทษอะไรกับใคร แค่คิดอยู่ภายในใจ ขณะที่นึกถึงช่วงการฝึกเวทย์โจมตีที่เพิ่งผ่านมา บอกได้คำเดียวเลยว่าเป็นคาบที่สนุกมากเลยล่ะ ใช้มือกุมมือของตัวเองสร้างไฟสร้างน้ำแข็ง เพราะในชาติก่อนมันคือสิ่งมีแค่ในโลกแฟนตาซีเท่านั้น จึงช่วยไม่ได้ที่ฉันจะรู้สึกตื่นเต้นไปกับมัน แถมยังมีเพิ่มเข้ามาทุกวันทุกวัน จนอดหัวเราะไม่ได้เลยล่ะ
「ถึงอย่างนั้นก็เถอะ สมกับที่เป็นท่านแมรี่เลยนะคะ เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆก็เรียนไปได้ถึงครึ่งหนึ่งของที่นักเรียนคนอื่นเรียนกันไปแล้ว ความเร็วในการซึมซับความรู้นี่ทำเอาเหล่าอาจารย์ รุ่นพี่ นักเรียนใหม่ เพื่อนร่วมชั้น ทุกคนรู้สึกทึ่งมากเลยค่ะ」
「เอ๋? เอาจริง นี่มันซวยแล้วสิ」
「มาซุย?」(マズイ )
「เปล่า ไม่มีอะไร แค่พูดกับตัวเองน่ะ」
มากิลูก้าได้ยินคำพูดพึมพำในความคิดของฉันเผลอหลุดพูดออกไป เกิดเครื่องหมาย ? บนศีรษะ ฉันจึงหัวเราะกลบเกลื่อน
เมื่อปีที่แล้ว เพราะคึกเกินไปจนทำให้เกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น นี่จะทำผิดพลาดซ้ำเดิมอีกแล้วเหรอ สำนึกซะบ้างสิตัวฉัน ตัดสินใจแล้วจากนี้จะต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจ ถึงจริงๆแล้วจะอยากจดจำและใช้มันให้มากกว่านี้…
「ท่านแมรี่ค้าาา!」
ฉันสลักคำว่ายับยั้งชั่งใจลงในใจซ้ำไปซ้ำมา ขณะที่คำนั้นกำลังจะติดถาวรอยู่ในใจ ก็ได้ยินเสียงดังมาจากทางเข้าห้องนั่งเล่นเป็นเสียงของซาฟีน่าที่กำลังวิ่งมา ทำให้คำที่กำลังสลักลงในใจนั้นกระเจิงออกไปทันที พอมองไปที่เธอก็พบว่าห่างออกไปทางด้านหลัง ซาฮะเองก็เดินยิ้มมาด้วยกัน และ พวกเราก็กลายเป็นจุดสนใจของเหล่านักเรียนในอาเรย์ออส
(ม่า ก็แน่อยู่แล้วล่ะ ที่ห้องนั้งเล่นของอาเรย์ออสแล้วมีนักเรียนของโซลออสเข้ามา แถมยังเป็นคนดังอย่างซาฟีน่ากับซาฮะด้วยนี่นะ)
เพราะทั้งคู่เป็นนักเรียนใหม่ที่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้ตั้งแต่ช่วงต้นปีหนึ่ง ทำให้ค่อนข้างมีชื่อเสียงในอาเรย์ออสทีเดียว มากิลูก้าเองก็ทั้งมีสถานะครอบครัวสูง แล้วปีก่อนก็ได้รางวัลนักเรียนดีเด่นจากการทำคะแนนสูงสุดในอาเรย์ออส การที่คนแบบนั้นมาอยู่รวมกันในที่เดียวก็ต้องเป็นจุดสนใจอยู่แล้ว ในทุกๆครั้ง สายตาของคนโดยรอบที่มองมาด้วยความสนใจทำให้ฉันไม่อาจสงบใจได้เลย เป็นปัญหาของฉันในตอนนี้เลยล่ะ
「ไม่มีที่ดีๆบ้างเลยรึไง」
「อะไรหรือคะ?」
พอได้ยินเสียงพูดพึมพำของฉัน ซาฟีน่าที่นั่งอยู่ติดกันจึงเอียงคอถามด้วยความสงสัย
「ก็นี่ไง พวกเราเป็นที่รู้จักกันใช่ไหมล่ะ? ก็เลยมีแต่คนมองมาตลอดแบบนี้เนี่ย เลยคิดว่ามีที่ไหนที่จะให้ทุกคนมาเจอหน้ากันแบบสงบๆได้บ้างน่ะ」
「นั่นสิคะ ฉันเองก็รู้สึกถึงสายตาของคนในคลาสอื่นที่มองมา รู้สึกไม่สงบยังไงไม่รู้ค่ะ」
พอฉันพูดสิ่งที่กำลังคิดออกไป ซาฟีน่าก็พยักหน้าขึ้นลงเห็นด้วย
「ถ้าอย่างนั้น ก็แจ้งกับอาจารย์แล้วทำการขอยืมห้องว่างก็ได้แล้วนี่คะ」
「เอ๋! ทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ!」
พอฟังสนทนาระหว่างฉันกับซาฟีน่าแล้ว มากิลูก้าก็เสนอความเห็นอันน่าแปลกใจออกมาอย่างเรียบง่ายราวกับเป็นเรื่องธรรมดา ฉันที่ตกใจเผลอทำเสียงดัง จนกลายเป็นจุดสนใจไปอีกรอบ ก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด เพื่อหลบเลี่ยงจากสายตาผู้คนโดยรอบ
「จากที่เห็น โรงเรียนนี่มีพื้นที่กว้างขวางอย่างเปล่าประโยชน์ จึงน่าจะมีห้องว่างที่ไม่ได้ใช้งานอยู่ค่ะ แต่ว่า เหล่าอาจารย์ก็คงไม่ให้ยืมห้องหากไม่มีเหตุผลที่ดีพอ แล้วจำนวนคนก็ต้องไม่ต่ำกว่า 5 คนด้วยค่ะ」
(อย่างนี้นี่เอง อย่างเรื่องเรียนหรือกิจกรรม รวมตัวกันเป็นกลุ่มแล้วไปขอยืมห้องก็คงจะได้ล่ะมั้ง)
「ฉัน ซาฟีน่า มากิลูก้า ซาฮะ… อ้อ รวมทุตเต้เข้าไปก็ได้ 5 คนแล้วล่ะ」
「ขอโทษด้วยค่ะ แต่คนที่ไม่ใช่นักเรียนไม่สามารถนับรวมได้หรอกนะคะ」
ขณะที่มากิลูก้าอธิบาย ฉันก็พยายามนับจำนวนคนให้ครบตามขั้นต่ำที่กำหนด แต่ถูกเธอปฏิเสธ ทำเอาฉันไหล่ตก
「ถ้าลองถามฝ่าบาทดูล่ะ 5 คนพอดีเลยไม่ใช่เหรอ」
ผู้ที่นั่งฟังเหมือนไม่ได้คิดอะไรอย่างซะฮะ จู่ๆก็ทำท่า*ไงล่ะ*เสนอขึ้นความเห็นบางอย่างที่สุดกู่ออกมา ทำเอาทั้งฉัน มากิลูก้า และซาฟีน่ากระบวนความคิดหยุดชะงักไปในทันใด
「แล้ว เหตุผลในการใช้ล่ะ? อย่าบอกนะ จะขอยืมห้องเพื่อนั่งจิบชาคุยกันน่ะ?」
โดยไม่รับรู้บรรยากาศจากพวกเราสามคน เจ้าหนุ่มKYยังคงพูดอะไรทึ่มทึ่มออกมาต่อ
「ก็ไม่น่าจะตอบรับอยู่แล้วนี่คะ ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมาคุยกันด้วย」
「งั้น เอาแบบนี้ พอท่านเรย์ฟอร์ซเข้าร่วมด้วย ก็ให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นสถานที่แลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่าง 3 คลาสล่ะเป็นไง?」
ตอนที่มิกิลูก้ากำลังแย้งความเห็นของซาฮะ ระบบความคิดที่หยุดไปของฉันก็เริ่มกลับมาทำงาน จนได้ความคิดดีๆที่ค่อนข้างแปลกซักหน่อย
「อย่างนี้นี่เอง โซลออส อาเรย์ออส ลาไลออส การที่คนจากทั้งสามคลาสจะมารวมตัวกันเพื่อทำบางสิ่งนั้นไม่เคยมีมาก่อนอย่างแน่นอนค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นเหล่าคณาจารย์เองก็น่าจะยอมรับ」
มากิลูก้า*ปั๊บ*ตบมือสองข้างเข้าด้วยกันเบาๆ เป็นการยอมรับข้อเสนอของฉัน
「โยชชี่ เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็ลงมือกันเลย」
ฉันลุกขึ้นยืนในทันที เตรียมที่จะเดินไปยังทางออกจากห้องนั่งเล่น แม้จะยังไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหนต่อ
「ว่าแต่ว่า ใครจะเป็นคนอธิบายเรื่องนี้ให้ฝ่าบาททราบหรือคะ?」
ซาฟีน่าที่รู้ถึงปัญหาใหญ่ลุกตามหลังฉันที่ลุกพรวดขึ้น หน้าซีดพูดพึมพำออกมา ตัวฉัน*กึก*ก้าวขาไม่ออก
「เรื่องนั้นก็แน่นอน มากิ」
「แน่นอนว่า คนที่เสนอขึ้นมาอย่างท่านแมรี่จะต้องไปอธิบายให้ฝ่าบาททรงเข้าใจค่ะ เนอะ ท่านแมรี่」
ก่อนที่จะทันได้พูดกำหนดความรับผิดชอบ มากิลูก้าก็พูดแทรกด้วยความเร็ว เธอ*ค่ะค่ะ*ที่เตรียมการพร้อมสรรพ ลุกขึ้นยืน
「ถ้าเช่นนั้น ดิฉันจะไปคุยกับอาจารย์เพื่อขอนุญาติตามขั้นตอนพร้อมรับฟังความเห็นให้เรียบร้อย รบกวนด้วยนะคะ」
พูดเช่นนั้นแล้ว มากิลูก้าก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นในทันที รู้สึกอึ้งกับการกระทำที่ลื่นไหล จากนั้นไม่นาน ก็รู้สึกอยากจะลงไปนั่งเอามือกุมหัวอยู่กับโต๊ะ
「เป็นอะไรไป? จะไปหาองค์ชายไม่ใช่เหรอ?」
แล้ว ซาฮะ ผู้ซึ่งไม่เคยรู้จักคำว่ากดดัน ก็ส่งเสียงเรียกมาจากทางประตูห้องนั่งเล่น เพราะเห็นว่าฉันกับซาฟีน่าไม่เดินตามมา พอหันกลับมาไม่เจอก็เลยเดินกลับมาเรียก ฉันถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะเรียกกำลังใจเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง
(ทั้งหมดก็เพื่อคว้าเอาสถานที่พักผ่อนดีๆมาไว้ในมือยังไงล่ะ! แมรี่)
เป็นการแบกความกดดันอย่างยิ่งที่จะต้องเข้าไปข้องแวะกับองค์ชายด้วยเหตุผลอันไม่บริสุทธิ์ ด้วยความหวังอันริบหรี่ที่องค์ชายจะหัวเราะและตอบรับ ฉันส่ายหน้าเอียงคอซ้ายขวาเล็กๆจับแขนของซาฟีน่าบังคับให้เดินไปด้วยกัน
――――――――――
「อื้อ ตกลงครับ」
แล้วไม่กี่นาทีต่อมาหลังจากนั้น องค์ชายก็ตอบรับพวกเราอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้มสดชื่นเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นไร้ความลังเลใจ
「ผมเองก็คิดอยู่เสมอว่าอยากได้สถานที่สำหรับแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนักเรียนคลาสอื่น ในสิ่งที่ลาไลออสไม่อาจเข้าใจ อย่างเรื่องของเวทย์มนต์และการต่อสู้ครับ อันที่จริงผมกำลังคิดว่า น่าจะลองปรึกษากับผู้เชียวชาญในแต่ละฝ่ายน่ะ เริ่มจากพวกเธอที่ได้คะแนนดีเยี่ยม รวบรวมคนเหล่านั้นมาอยู่ในจุดเดียวกัน เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากเลยครับ สมแล้วที่เป็นคุณหนูแมรี่ ช่างมีสายตากว้างไกล แถมลงมือปฏิบัติอย่างรวดเร็ว น่าประทับใจมากเลยครับ」
「ระ เรื่องนั้น… ไม่หรอกค่ะ ท่านเรย์ฟอร์ซ」
ด้วยใบหน้าแสดงความชื่นชมออกมาอย่างจริงใจ พร้อมทั้งพูดชมในสิ่งที่ฉันไม่ได้คิดเลยจากองค์ชาย ทำให้ฉันที่มาขอร้องด้วยเหตุผลที่ไม่บริสุทธิ์ได้แต่เกาแก้มยิ้มแห้งๆโดยมีเหงื่อเย็นๆไหลออกมา นอกจากนั้นยังมี*โอ้~*เสียงแสดงความประทับใจจากรอบข้าง รวมทั้งคำพูดสรรเสริญเยินยอ แต่การที่ฉันจะไปปฏิเสธในตอนนี้ไม่สามารถทำได้
(อ้าาา ช่วยหยุดการประเมินฉันไปในทิศทางแปลกๆทีเถอะค่ะ)
ฉันร้องขอต่อพระเจ้าอยู่ในใจ ขณะที่ยิ้มแห้งๆออกมา
「ถ้าเช่นนั้น เพื่อที่จะรวบรวมคนคงต้องใช้พื้นที่กว้างๆอย่างหอประชุมสินะครับ」
「มะ ไม่ค่ะ เกรงใจค่ะ เพราะเพิ่งจะเริ่ม ดังนั้น… แค่เล็กๆก็พอค่ะ คิดว่าอย่างนั้น」
ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องใหญ่จนหลุดกรอบไปจากจุดหมายเดิมที่ฉันตั้งไว้ไปไกล ขออภัยที่พยายามปรับเปลี่ยนความคิดขององค์ชายค่ะ
「อย่างนี้นี่เอง ถ้าเช่นนั้นก็ลงมือกันเลย ให้มากิลูก้าเตรียมยื่นคำขอไว้แล้วสินะครับ?」
โดยที่ไม่รู้ถึงความรู้สึกในใจของฉัน จู่ๆองค์ชายก็เริ่มออกเดิน โดยมีซาฮะตามไป ฉันได้แต่ถอนหายใจในขณะที่เดินตามหลังทั้งคู่ และคอยลูบศีรษะปลอบโยนซาฟีน่าที่คล้องแขนฉันไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ อดทนไม่ให้ตัวเองสลบไป