Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 72 ไร้ค่าในสายตา

เย่เฉินเฟิง ได้นั่งฝึกฝนอยู่ในถ้ำเเรงโน้มถ่วงจนครบ 25 วัน

ขณะที่เขากำลังจะจากไป เขาได้เเอบมองไปที่สตรีชุดดำที่นั่งไขว่ห้างอยู่ในมุมมืด เเสงสีฟ้าจาง ๆ ได้ปรากฏขึ้นที่ผิวกายของเธอ จากนั้น เย่เฉินเฟิง ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเกี่ยวกับความเเข็งเเกร่งที่เเผ่ออกมา

“นิกายเพลิงผลาญฟ้า เต็มไปด้วยพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อน จริง ๆ เเม้ว่าข้าจะอยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุดตอนนี้ก็คงไม่ใช่คู่มือของเธอเเม้เเต่น้อย”เย่เฉินเฟิงสั่นศีรษะเเละเลือกที่จะจากไป

“จี้ฉิงเสวี่ย,ทำไมเจ้าถึงเลือกที่จะหลบหนีข้า?”

ในลานใกล้บ้านที่พักของ เย่เฉินเฟิง , เย่เฉินเฟิงสามารถสัมผัสได้ถึง กลิ่นอายพลังของ จี้ฉิงเสวี่ย เเละคนอื่นอยู่

ที่สำคัญไปกว่านั้นกลิ่นอายของอีกคนนึงนั้นอยู่ในขั้นที่ 6 ของผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญ

“จี้ฉิงเสวี่ย อย่าคิดว่า เย่เฉินเฟิง จะสามารถช่วยเหลือเจ้าได้ เขาไม่เเม้เเต่ที่จะสามารถป้องกันตนเองได้ ไม่มีใครที่สามารถช่วยเจ้าได้อีกเเล้ว”ชายที่สวมใส่เสื้อผ้างามสง่างามพร้อมกับความสูง ดวงตาของเขา จ้องมองไปที่ จี้ฉิงเสวี่ย ด้วยเจตนาร้าย

“ชางกวนหยาน อย่าได้กระทำอะไรอย่างไร้เหตุผล ไม่เช่นนั้นข้าจะไปเเจ้งเรื่องนี้ต่อผู้อาวุโส”จี้ฉิงเสวี่ย ได้หลบหนีออกมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าที่งดงามของเธอเต็มไปด้วยผิวซีดเซียว จากนั้นเธอก็ได้กล่าวเตือนอีกฝ่าย

“จะไปเรียนเรื่องนี้ต่อผู้อาวุโส?ข้าทำผิดอะไร?”ใบหน้าที่ยิ้มเเย้มของ ชางกวนหยาน เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย”ข้าชมชอบเจ้า เเละ ต้องการตามจีบเจ้า นี่เป็นการทำผิดกฏข้อไหนของนิกาย ?”

“จี้ฉิงเสวี่ย ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง มาเป็นผู้หญิงของข้า เเละ ข้าจะทำให้เจ้าสบายไปทั้งชีวิต จะไม่มีใครกล้ามาสร้างปัญหาให้กับเจ้าอีกต่อไป”

“เจ้า…เจ้าคนไร้ยางอาย ข้าจะไม่ยอมเป็นของเจ้าเเม้ว่าข้าจะต้องตายก็ตาม”

จี้ฉิงเสวี่ย เผยสีหน้าที่รุนเเรงออกมา ร่างกายของเธอสั่นด้วยความกลัว ชางกวนหยาน นั้นเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 6 เขาสร้างรายชื่อติดอันดับที่ 35 ของทำเนียบเพลิงผลาญฟ้า ดังนั้นเธอจึงไม่ใช่คู่มือของเขา

“เจ้าไม่ยอมงั้นเหรอ?”รอยยิ้มที่เย็นชาปรากฏบนใบหน้าของ ชางกวนหยานขณะที่เขาพูด”ข้าจะให้เจ้ารู้ถึงผลที่ตามมาหลังจากที่เจ้าปฏิเสธข้า”

“ข้าเองก็อยากจะรู้ว่าถ้าเธอไม่เห็นด้วยเจ้าจะทำไม”

ไม่ต้องรอให้ จี้ฉิงเสวี่ย ตอบกลับ เสียงที่เย็นชาได้ดังลอดเข้าไปในหูของ ชางกวนหยาน จากนั้นร่างของ เย่เฉินเฟิง ก็ปรากฏขึ้นในสายตาของเขา

“เย่เฉินเฟิง?”

ชางกวนหยาน ไม่คิดเลยว่า เย่เฉินเฟิง จะปรากฏตัวออกมา ทั้งกลิ่นอายที่่เขาสามารถสัมผัสได้จากร่างกายของ เย่เฉินเฟิงนั้น เเข็งเเกร่งมาก ตอนนี้มีความรุนเเรงบางอย่างปรากฏขึ้นที่ใบหน้าของเขา

“ทำไมเจ้าถึงเงียบไป?ข้าถามว่าถ้าเธอไม่เห็นด้วยเจ้าจะทำไม?”

เเม้ว่า เย่เฉินเฟิง ไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับ จี้ฉิงเสวี่ย เเต่เขาก็ไม่อาจทนเห็นคนอื่นมารังเเกเธอได้

ยิ่งไปว่านั้นเขารู้สึกว่าถ้าหาก จี้ฉิงเสวี่ย ถูกรังเเก เขาจะต้องออกไปช่วยเธอ

“เย่เฉินเฟิง อย่าได้เหิมเกริมให้มันมากนักเพียงเพราะเจ้าสร้างชื่อติดบนทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้าได้ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะเป็นคู่ต่อสู้ของข้า”

“สำหรับข้าเเล้วเจ้านั้นไร้ค่าในสายตาของข้า”เย่เฉินเฟิงยิ้มอย่างเย้ยหยัน ประกายเเสงได้ส่องสว่างใต้ฝ่าเท้าของเขาจากนั้นเขาก็พุ่งโจมตีไปที่ ชางกวนหยาน

เมื่อเขาอยู่ห่างจากชางกวนหยานประมาณ 3 เมตร ความเเข็งเเกร่งทางกายภาพของ เย่เฉินเฟิง ก็ระเบิดออกมา เขาได้ถ่ายเทพละกำลังมากกว่า 25,000 จิน ซัดเข้าไปที่หน้าอกของ ชางกวนหยาน

ชางกวนหยาน ไม่คิดเลยว่า เย่เฉินเฟิง จะกล้าหาญกล้าโจมตีเขาในที่โจ๋งครึ่มโดยไม่สนใจกฏของนิกาย เขาได้ยกฝ่ามือขึ้นมาป้องกันหมัดของ เย่เฉินเฟิง ทันที

“ปั้ง!”

กำปั้นที่รุนเเรงได้ซัดเข้าใส่ฝ่ามือของ ชาวกวนหยาน จนทำให้ เเขนของเขาปรากฏเลือดไหลออกมาอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเขาลากถอยหลังไปไกลจนเเทบจะไม่สามารถควบคุมได้

“เย่เฉินเฟิง เจ้าบ้าไปเเล้วงั้นเหรอ เจ้าไม่รู้ผลลัพธ์ที่ตามมาหลังจากละเมิดกฏของนิกายหรืออย่างไร?”ชางกวนหยาน ได้กล่าวออกมาอย่างรุนเเรง เขารู้สึกชาที่เเขนอย่างมาก

“ทักษะวิญญาณดัชนีทะลวงวิญญาณ,ดัชนีทลายวิญญาณ!”

เย่เฉินเฟิง ไม่ได้สนใจคำเตือนของ ชางกวนหยาน เขาได้ยกมือขึ้นมาเเละชี้นิ้วชี้ เบา ๆ ออกไป คลื่นพลังงานสายนึงได้ยิงออกไปเหมือนกับอสรพิษที่บิดเลื้อยไปยัง ชางกวนหยาน

“เย่เฉินเฟิง ถ้าเจ้ายังไม่หยุดอย่าได้กล่าวโทษข้าที่ทำตัวหยาบคาย”ชางกวนหยาน ได้หลบหลีกการโจมตีของ ดัชนีทลายวิญยาณโดยใช้ ทักษะเเปดก้าวย่างพริบตา

เเม้เขาจะกล่าวออกไปเช่นนั้น ชางกวนหยาน ก็ตกใจอีกครั้ง เมื่อเห็น เย่เฉินเฟิง พุ่งเข้ามา

“ทักษะร่างเเปลงเงา!”

เย่เฉินเฟิง ที่เห็น ชางกวนหยาน หลบเขาได้ใช้ทักษะร่างเเปลงเงาพุ่งมาปรากฏตัวที่ด้านหน้าของ ชางกวนหยาน ในทันทีพร้อมกับระเบิดการโจมตีครั้งต่อไป

“เย่เฉินเฟิง ถ้าเจ้าต้องการจะตายข้าจะช่วยสงเคราะห์ให้”

ชางกวนหยาน ระเบิดความโกรธออกมา จิตอสูรหมีทมิฬได้ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเขาก่อนที่เขาจะผสานจิตอสูรเข้ากับร่างกายของตัวเอง

หลังจากผสานเข้ากับจิตอสูรหมีทมิฬความเเข็งเเกร่งของ ชางกวนหยาน ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เขาได้ถ่ายเถพลังวิญญาณไปที่ขาขวาของเขา

“ลูกเตะเมฆาทะยานฟ้า”

การเตะที่เฉียบคมได้ถูกส่งออกไปอย่างน่ากลัวจนทำลายมวลอากาศโดยรอบ

“ระเบิด ความเเข็งเเกร่ง 40,000 จิน!”

เย่เฉินเฟิง ไม่ได้หลบทักษะวิญญาณของ ชางกวนหยาน เขาควบคุมพลังวิญญาณภายในร่างกายของเขาเเละหลอมรวมเข้ากับตัวเอง ก่อนที่จะส่งพลังหมัดมากกว่า 40,000 จินออกไป

“ปั้ง!”

เสียงดังปะทะที่ดุเดือดได้กระจายไปทั่วพื้นที่ เเห่งนี้ เย่เฉินเฟิง สามารถใช้ความเเข็งเเกร่งของเขาในการพล็อกทักษะวิญญาณระดับกลางของ ชางกวนหยาน ลูกเตะเมฆาทะยาน ฟ้าได้

คลื่นเเรงปะทะจากการโจมตีของทั้งสองคนได้กระายไปทั่วทุกทิศทางส่งผลให้ จี้ฉิงเสวี่ย เเละ อีกสองคนต้องถูกผลักกลับ

“อะไรกัน…”

เห็นเย่เฉินเฟิง ปิดกั้นทักษะลูกเตะเมฆาทะยานฟ้าได้ด้วยมือเปล่า คลื่นขนาดใหญ่ได้โถมเข้าสู่หัวใจของ ชางกวนหยาน

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญระดับที่ 35 ของทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้า ชางกวนหยานมีความมั่นใจในความเเข็งเเกร่งของเขา เเต่เขาไม่คิดเลยว่า เย่เฉินเฟิง จะมีพละกำลังที่สามารถทัดเทียมกับเขาได้ในระยะเวลาหนึ่งเดือนต่อมา

ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดเขาก็ตกใจทันทีเพราะ เย่เฉินเฟิง ได้หายไปต่อหน้าต่อตาของเขา

วินาทีต่อมา ชางกวนหยาน ก็สามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายจากทางด้านหลัง ด้วยสัญชาตญาณเขาได้หยิบอาวุธวิญญาณออกมาทันที

อย่างไรก็ตามการตอบสนองของเขาช้าเกินไป เงื้อมมือที่ทรงพลังได้พุ่งคว้าจับคอเอาไว้ พลังที่น่าสะพรึงกลัวได้ระงับการต่อต้านของเขาทั้งหมด เขาเปรียบเสมือนหัวผักกาดที่ขาดน้ด ร่างของเขาถูกยกขึ้นสูงเหนือพื้นดิน

หลังจากถูก เย่เฉินเฟิง ยกร่างเหนือพื้นดิน ในเวลาต่อมา เย่เฉินเฟิง ก็กดร่างของ ชางกวนหยาน ทุ่มลงกับพื้นอย่างรุนเเรง โลหิตจำนวนมากได้ไหลออกมาจากร่างกายของเขา

“เดี๋ยวก่อน หยุด!”เห็นร่างกายของตัวเองถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ชางกวนหยานตะโกนขึ้นอย่างหวาดกลัว”ถ้าเจ้าไม่หยุดข้าจะไปร้องเรียนเรื่องนี้ต่ออาวุโสผู้คุมกฏ”

“ร้องเรียน?”เย่เฉินเฟิง กล่าวเย้ยหยัน”เรื่องในวันนี้เจ้าเป็นคนเริ่มก่อน ข้าก็เเค่ปกป้องโดยชอบธรรมเพียงเท่านั้น”

“เจ้าคิดว่าผู้อาวุโสจะฟังเจ้างั้นเหรอ?”ดวงตาของ ชางกวนหยาน ที่เต็มไปด้วยความโกรธ เขาจ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง เเละกล่าวเตือน

“ไม่ว่าอาวุโสผู้คุมกฏจะยอมเชื่อข้าหรือไม่ เเต่ข้าสามารถบอกเจ้าได้เลยว่า หากเจ้ายังไม่เลิกพฤติกรรมแบบนี้อีก เจ้าจะต้องทนทุกข์อย่างรุนเเรงมากเเน่นอน”เย่เฉินเฟิง กล่าวเย้ยหยัน”เเละอีกอย่าง เจ้าคิดว่านิกายเพลิงผลาญฟ้าจะลงโทษข้าสถานหนักเพราะขยะที่ไร้ประโยชน์คนหนึ่งหรือไม่?”

“เจ้า…”

เเม้ว่า ชางกวนหยาน ต้องการที่จะพูดโต้กลับ เเต่เขาก็รู้ว่าที่ เย่เฉินเฟิง นั้นพูดเป็นความจริง ด้วยความสามารถของ เย่เฉินเฟิง ทางนิกายย่อมไม่กล้าทำโทษ เย่เฉินเฟิง สถานรุนเเรง

“เจ้ามันโหดเหี้ยม!”

ชางกวนหยาน ได้ถูกตอกหน้าจนได้รับความอับอาย เขาได้ดันร่างกายของตนเองลุกขึ้น เเละ รีบจากไปจากกรอบสายตาของทั้งสองคนด้วยความโกรธ