Gate of God – ตอนที่ 893 ความดุร้ายของโม่ฉานฉือ

   อสูรที่ยืนข้างหยุนชิงวูมีพลังแบบไหนกัน? ฟางเจิ้งจือไม่กล้ายืนยัน เพราะเขาอาจจะเป็นปีศาจก็ได้ หยุนชิงวูมีตำแหน่งเป็นนายน้อยของพวกปีศาจ

  อย่างไรก็ตามนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องกังวลตอนนี้ ที่เขาต้องทำคือพุ่งเข้าไป จากนั้นก็เอาชนะหยุนชิงวูเหมือนที่เคยทำมาก่อน

  ความจริงแล้วนั่นเป็นวิธีเดียวที่เขาคิดออกและเป็นวิธีการที่ได้ผลมากที่สุด

   ย้าก! ฟางเจิ้งจือร้องคำราม เขาปล่อยหมัดที่รุนแรงออกไปด้านหน้าโดยตรง

  แครก!เสียงกระดูกของอสูรตรงหน้าแตกหัก

  อย่างไรก็ตาม

  พวกเขาเป็นอสูร!

  แม้กระดูกจะแตกสลายถ้าไม่ได้ทำลายไข่มุกอสูรก็ยังมีชีวิตอยู่ดังนั้นอสูรที่ล้มลงจึงลุกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าใบหน้าจะซีดขาวก็ตาม

   มันยากที่จะจัดการกับอสูรพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของร่างกายที่แข็งแกร่งหรือพลังที่มากกว่าพวกมนุษย์ พลังต่อสู้ของอสูรนับร้อยมีมากกว่าพลังของศิษย์จากสำนักทั้งห้าในดินแดนศักดิ์เสียอีก  ฟางเจิ้งจือมีโอกาสที่จะหลบหนี แต่ถูกขวางโดยราชาอสูรสองตน

  เป็นการต่อสู้ที่แลกด้วยชีวิตฟางเจิ้งจือต้องถอยเพราะเขาไม่ต้องการสละชีวิตของตัวเอง

  เมื่อเทียบกันแล้วทางด้านของเหยียนซิวมีอสูรจำนวนน้อยกว่ามาก

  ความแค้นที่มีต่อเหยียนซิวนั้นไม่ถึงกับที่พวกอสูรต้องเอาชีวิตไปแลก

  อย่างไรก็ตามเหยียนซิวก็ไม่สามารถหนีออกไปได้

  ไม่ใช่เพราะความสามารถของเหยียนซิวแต่เพราะพวกอสูรมีจำนวนมากเกินไป การต่อสู้แบบหนึ่งต่อหลายร้อยนั้นมีความเสียเปรียบมากเกินไป แม้แต่มู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือเองก็เช่นกัน

  …

  เวลาค่อยๆผ่านไป

  ฟางเจิ้งจือและเหยียนซิวถูดปิดล้อมด้วยเหล่าอสูรนับร้อย

  ฉือกูเหยียนและปิงหยางยังคงอยู่ตำแหน่งเดิม ในขณะทีเฉียนยู่กำลังต่อสู้กับเต๋าฮุน อย่างดุเดือด

  แม้สำนักทั้งห้าจะเข้าใกล้หนานกงเฮาได้ก็ยังมีเซียนของตระกูลหนานกงนับสิบคน มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

  โม่ฉานฉือและมู่ฉิงเฟิงกำลังเผชิญหน้ากับอสูรสองตน

  พวกเขาทั้งสองคือราชาอสูร!

  แน่นอนว่าพวกเขาแข็งแกร่ง!

  อย่างไรก็ตามเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะรับมือมู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือได้  ค้อนยักษ์สีดำของโม่ฉานฉือทุบลงที่กลางหัวของราชาอสูรตรงหน้าอย่างแรง

  จากนั้นแสงสีเขียวก็พุ่งออกจากร่างของราชาอสูรเห็นได้ชัดว่าเขากำลังกลับสู่ร่างที่แท้จริง

  อย่างไรก็ตาม…

  นั่นมีเวลาทำให้โม่ฉานฉือพักหายใจเล็กน้อย

  โม่ฉานฉือมีประสบการณ์แค่ไหนกัน?

  เขารู้ดีว่าวิธีการไหนดีที่สุดเขาจึงคว้าโอกาสนี้รีบพุ่งเข้าหาหนานกงเฮา เขาเหวี่ยงค้อนยักษ์สีดำในมือแล้วพุ่งเข้าไป

   โม่ฉานฉือหยุดเดี๋ยวนี้! เสียงของหนานกงเทียนเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

  อย่างไรก็ตามทำไมโม่ฉานฉือต้องฟังด้วย?

  ในตอนนี้โม่ฉานฉือกำลังโจมตีไปที่ร่างของหนานกงเฮาร่างของหนานกงเฮาก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า  มันทำให้โม่ฉานฉือโมโหมากในฐานะผู้นำของหุบเขาฟู่ซี่ เขาปล่อยให้เหยื่อหนีไปได้

  เขาจะทนได้ยังไง?

   ผู้นำโม่ถ้าข้าเป็นท่านคงจะทนกับเรื่องนี้ไม่ได้แน่!  ฟางเจิ้งจือที่สูงสามฟุตเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและแสดงความเห็นออกมา

  หน้าของโม่ฉานฉือเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำเขากัดฟันด้วยความโกรธ

  จากนั้นก็บินขึ้นไป

  ด้านหลังเขามีกระแสลมที่รุนแรงเกิดขึ้นสองฝั่งราวกับว่าโม่ฉานฉือมีปีกอยู่ด้านหลัง

  ร่างของเขาพุ่งขึ้นไปราวกับนกที่บินได้

   หืมเป็นไปได้ด้วยหรือ?  ตาของฟางเจิ้งจือเบิกกว้างในทันที เขารู้สึกว่าได้เรียนรู้บางอย่างจากโม่ฉานฉืออีกครั้ง

  ความสามารถของฟางเจิ้งจือในการอยู่บนท้องฟ้านั้นมาจากการควบคุมสายลมและร่างกายมันทำร่างคงอยู่บนท้องฟ้าได้ชั่วคราว อย่างไรก็ตามนั่นไม่ได้ใกล้เคียงกับปีกที่สยายอยู่บนหลังของโม่ฉานฉือแม้แต่น้อย

  การโจมตีที่แข็งแกร่งของโม่ฉานฉือนั้นเหลือเชื่อไม่ว่าจะเป็นพลังที่น่าเหลือเชื่อจากฝ่ามือหรือแม้กระทั่งปีกบนหลังของเขาในตอนนี้

  อย่างไรก็ตามโม่ฉานฉือจะไม่อธิบายอะไรให้ฟางเจิ้งจือฟังในตอนนี้ในสายตาของเขามีแค่ร่างของหนานกงเฮาที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น

   หนีงั้นหรือ?เจ้าถามค้อนของข้าหรือยัง?  โม่ฉานฉือส่งเสียงคำรามออกมาและพุ่งเข้าไปทันที ในชั่วพริบตาดูเมือนโม่ฉานฉือจะอยู่เหนือหนานกงเฮาแล้ว

  พร้อมทั้งค้อนยักษ์ที่กำลังทุบลงมาจากท้องฟ้า

  ตูม!คราวนี้หนานกงเฮาไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ค้อนทุบลงที่แขนขวาของเขา ทำให้ร่างของเขาพุ่งกระแทกต้นไม้เทพเจ้าราวกับดาวตก  ตูม!ต้นไม้เทพเจ้าสั่นสะเทือน ใบไม้รูปทรงเกล็ดหิมะร่วงโปรยปราย แม้แต่สะพานสายรุ้งบนท้องฟ้าก็สั่นไหวเช่นกัน

  สีหน้าของโม่ฉานฉือเต็มไปด้วยความตื่นเต้นแววตาของเขาเบิกกว้างอย่างสดใส

   ฮ่าฮ่าหนานกงเฮาไม่ว่าแผนของตระกูลหนานกงคืออะไร ถ้าข้าอยู่ที่นี่ มันจะไม่สำเร็จอย่างแน่นอน!  โม่ฉานฉือพุ่งเข้าไปอีกครั้งหลังจากพูดจบ ในสายตาของเหล่าศิษย์ร่างของเขายังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมอยู่เลย

   เขาเร็วมาก! 

   แน่นอนอยู่แล้วในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เขาช่างน่าอัศจรรย์! 

   คราวนี้หนานกงเฮาต้องตายอย่างแน่นอน! 

  เหล่าศิษย์จากสำนักต่างๆต่างเฝ้ารอให้โม่ฉานฉือเอาชนะหนานกงเฮา

  หนานกงเฮากัดริมฝีปากแน่นเลือดไหลออกจากมุมปากเขาเล็กน้อย จากท่าทีของเขา เห็นได้ชัดวากำลังเจ็บปวด ดวงตาข้างหนึ่งสีแดงอีกข้างสีขาว แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา

   ข้าต้องการเวลาเพิ่มอีกหน่อย! หนานกงเฮากำมือของเขาแน่นแล้วหันมองร่างที่กำลังทรุดอยู่ที่พื้น

  เขาคือหนานกงมู่!

  น้องชายแท้ๆของเขา

  หนานกงมู่ที่กำลังหลับไหลร่างกายที่ไร้ชีวิตและใกล้ตายเข้าไปทุกวินาที

   ไม่ข้าจะไม่ยอมแพ้ ..มู่ เลือดของเจ้าไหลเวียนอยู่ในตัวของข้า! หนานกงเฮาตะโกนเสียงกัง ในขณะที่ร่างปกคลุมไปด้วยเกราะสีดำ

  แครก!มือข้างหนึ่งจับไปที่ค้อนยักษ์สีดำ ในขณะเดียวกันแสงสีแดงเฉือนไปที่ลำคอของโม่ฉานฉือ

   …เจ้ากล้าดียังไง! ดวงตาของโม่ฉานฉือหรี่เล็กลงเมื่อเห็นแสงสีแดง เขาตีลังกากลางอากาศทำให้แสงสีแดงพุ่งเฉียดหน้าผากของเขาไป

  เหงื่อไหลอาบแก้มของโม่ฉานฉือเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถเลี่ยงการโจมตีของหนานกงเฮาได้

   เฒ่าโม่อย่าประมาทความแข็งแกร่งของหนานกงเฮามากนัก! เมื่อเห็นสิ่งนี้มู่ฉิงเฟิงจึงพูดเตือน

   แน่นอน… โม่ฉานฉือรู้สึกว่าที่เขาตอบโต้ได้นสถานการณ์เช่นนี้ ต้องมีแรงใจดีไม่น้อย

  อย่างไรก็ตาม…

  เขารู้สึกตกใจมากไม่ใช่เพราะพลังใจของหนานกงเฮา

  เขารู้สึกตกใจที่กำลังตื่นเต้นเมื่อได้เผชิญหน้ากับหนานกงเฮา!

  ความจริงแล้วมันเป็นเพราะเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นโม่ฉานฉือประมาทจนเกือบมีปัญหา  ในขณะที่เขากำลังคิดเรื่องนี้หนานกงเฮาก็เคลื่อนที่ไปอยู่ด้านหน้าโม่ฉานฉือ เขาตวัดดาบสรรพสิ่งออกไปสามครั้งอย่างต่อเนื่อง

  ลำแสงสีแดงเลือดทั้งสามพุ่งเข้าหาโม่ฉานฉือ

   เขาคือหนานกงเฮาจริงหรือ?! โม่ฉานฉือประหลาดใจจริงๆ เขาไม่คิดว่าหนานกงเฮาจะพุ่งเข้าหาแทนที่จะหนี!

  หนานกงเฮาเป็นเพียงคนเดียวที่มีพลังกายและพลังใจที่แข็งแกร่งในหุบเขาฟู่ซี่ที่สำคัญไปกว่านั้น เขาพึ่งแพ้ให้กับฟางเจิ้งจือไปก่อนหน้านี้

   ผู้นำโม่ถ้าข้าเป็นท่านข้าจะไม่เปิดโอกาสให้หนานกงเฮาโจมตีได้อีกอย่างแน่นอน! เสียงของฟางเจิ้งจือดังขึ้นอีกครั้ง

   … ปากของโม่ฉานฉือสั่นเล็กน้อย

  เขาอยากจะตอบกลับไปว่า หุปปาก หยุดพูดไร้สาระ! ข้ามีชีวิตอยู่มานาน แน่นอนว่าข้ามีประสกบการณ์มากกว่าเจ้า เจ้าคิดจะสอนข้ารึ? 

  อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่ตอบกลับไป

  คำพูดเยาะเย้ยของฟางเจิ้งจือดูเหมือนจะให้คำแนะนำกับโม่ฉานฉือ : เมื่อต้องสู้กับหนานกงเฮา เราไม่ควรให้โอกาสเขาได้โจมตี

  เจ้าเด็กเหลือขอนี่!

  ข้าโม่ฉานฉือ เป็นหนี้บุญคุณเจ้า!

  โม่ฉานฉือไม่คิดมากอีกต่อไปแววตาของเขาจับจ้องไปที่ลำแสงสีเลือด เขาเปลี่ยนขนาดร่างกายอีกครั้ง คราวนี้ร่างของเขาเล็กลงกว่าขนาดปกติครึ่งนึง

  ฟุ่บ!ด้วยความได้เปรียบของร่างกายที่เล็ก โม่ฉานฉือลอดผ่านการโจมตีทั้งหมด ค้อนยักษ์ในมือก่อเกิดเสียงคำรามของสายฟ้า และทุบไปที่หนานกงเฮาอีกครั้ง

  ตรงกับคำพูดของฟางเจิ้งจือก่อนหน้านี้

  อย่ามัวแต่ป้องกันแค่โจมตีออกไป!

  หรือใช้การโจมตีเพื่อป้องกัน!   ตูม!ร่างของหนานกงเฮาถูกโจมตีอีกครั้ง วิธีการของโม่ฉานฉือเปลี่ยนไป มันทำให้เป็นเรื่องยากที่หนานกงเฮาจะตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

  ต่อมาเขาเห็นโม่ฉานฉือพุ่งเข้าหาอีกครั้ง

   ตายตาย ตาย ตาย… โม่ฉานฉือพึมพำเล็กน้อย ค้อนของเขาเปลี่ยนจากความหนักหน่วงกลายเป็นความรวดเร็ว

  ครืน!

  เสียงก้องกังวลาดังต่อเนื่องในอากาศการโจมตีของโม่ฉานฉือเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว มันกลายเป็นค้อนที่รวดเร็วและมีน้ำหนักเบา

   เฮาเอ๋อร์หนี! หยุดใช้พลังของเจ้า! หนานกงเทียนตะโกนบอก ในตอนนี้เสียงของเขาดูหมดหวังยิ่งกว่าเดิม

   หนี?! หนานกงเฮาถอยห่างออกไปแสงสีแดงเลือดส่องสว่างออกจากร่างกายของเขา

  เขาเข้าใจว่าหนานกงเทียนหมายถึงอะไรเพราะพลังของเขาเกือบหมดไปตอนที่สู้กับฟางเจิ้งจือ

  ถ้าเขาไม่ได้กินผลไม้เทพเจ้าตอนนี้เขาคงขยับไม่ได้แน่

  อย่างไรก็ตามแม้ว่าผลไม้เทพเจ้าจะให้พลังได้มากพอ แต่ต้นไม้เทพเจ้าต้องได้รับพลังจำนวนมาก ต้องขอบคุณที่มีพลังสายเลือดในร่างกาย

  เพราะนั่นทำให้เขาพร้อมเสี่ยง

  อย่างไรก็ตามการที่ต้นไม้เทพเจ้าจะเติบโตอย่างสมบูรณ์ได้ต้องใช้เวลานาน

  ก่ออนหน้านี้เขาใกล้จะทำสำเร็จแล้วแต่ถูกโม่ฉานฉือโจมตีเสียก่อน แหล่งพลังของเขาจึงถูกใช้อีกครั้ง

   ข้าจะทำแบบนี้ต่อไปอีกไม่ได้การใช้พลังมากเกินทำให้ต้นไม้เทพเจ้าเหี่ยวเฉา ข้าจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น! หนานกงเฮากัดฟันแน่น และแววตาของเขาเริ่มเปลี่ยนไป

 

Gate of God

Gate of God

GoG, 神门
Score 7.2
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2015 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Gate of Godเรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset