Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 1 ทวีปเทียนหวู่แผ่นดินใหญ่กับเซียวเฉินผู้ไม่เอาไหน

ทวีปเทียนหวู่ อาณาจักรต้าฉิน มณฑลฉี่จื๊อ เมืองม่อเหอ ตระกูลเซียว

เซียวเฉินกำลังนั่งอยู่บนหลังคาหลังลานบ้านตระกูลเซียว มันเป็นวันที่แดดจ้าทำให้เห็นท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน แต่เซียวเฉินกลับรู้สึกย่ำแย่และเขากำลังรู้สึกท้อแท้เป็นอย่างยิ่ง

เขาสาบานว่าถ้าเขาได้กลับไปยังโลก เขาจะไม่ซื้ออะไรจากเถาเป่าอีกเด็ดขาด

เมื่อเขาได้ชื้อตำราฝึกบ่มเพาะพลังในราคา 250 หยวนรวมถึงเม็ดยาเซียนที่ผู้ขายบอกว่าจะทำให้ใครบางคนได้เข้าสู่โลกแห่งเซียนได้

เซียวเฉินเป็นคนที่สนใจเรื่องตำนานและวิถีบ่มเพาะพลังเป็นอย่างยิ่ง เขาจึงซื้อมันทันที

เป็นเวลาสามปีแล้วที่เซียนเฉินได้ฝึกฝนบ่มเพาะพลังตามที่ตำราบ่มเพาะพลังได้เขียนไว้ แต่ทว่าเขากลับไม่มีความคืบหน้าเลยแม้แต่น้อย นอกจากการจดจำกระบวนการกลั่นเม็ดยา สร้างยันต์อาคม รูปแบบและอาวุธแล้วเขาไม่อาจทำความเข้าใจกับส่วนที่เหลือได้

อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินนั้นไม่ได้ยอมแพ้และฝากความหวังไว้กับเม็ดยาเซียนที่เป็นเม็ดยาสีเขียวเข้มแปลกเกินกว่าที่จะเปรียบ

เขาเคยพยายามที่จะใช้ค้อนเหล็กทุบมัน แต่แล้วมันได้เกิดม่านพลังอยู่รอบมันขณะที่ค้อนเข้าใกล้ ไม่ว่าเขาจะออกแรงทุบไปเท่าไหร่เขาก็ไม่อาจทำลายม่านพลังนั้นได้

เหตุการณ์ลึกลับที่เกิดขึ้นเป็นเหตุที่ทำให้เซียวเฉินตัดสินกินเม็ดยาเซียนเข้าไป

ใครจะคิดว่าหลังจากที่เขากินเม็ดยาเซียนเข้าไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะเดินทางข้ามสู่โลกอื่นได้ แต่ทว่ามันกลับไม่ใช่โลกแห่งเซียนในตำนานแต่เป็นสถานที่ที่รู้จักกันว่าทวีปเทียนหวู่

เขารู้สึกมึนงงเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะตระหนักว่าเขาได้เดินทางข้ามมายังโลกนี้และอยู่ในร่างของคนที่มีชื่อว่า เซียวเฉิน คนชื่อเดียวกับเขา

ทวีปเทียนหวู่เป็นดินแดนที่ความแข็งแกร่งเป็นใหญ่ และคนที่แข็งแกร่งจะได้รับความเคารพนับถือ อย่างไรก็ตาม คนที่เขาครอบครองร่างนี้อยู่นั้นเป็นขยะในเรื่องการบ่มเพาะพลังอย่างสมบูรณ์ เขาอายุ 16 ปี แต่เขายังไม่อาจหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณยุทธของเขาได้

ตระกูลเซียวเป็นตระกูลอันดับ 1 ของเมืองม่อเหอและเซียวเฉินเป็นบุตรชายของหัวหน้าตระกูล มันอาจฟังดูน่าเกรงขาม แต่เพราะเขาขาดความสามารถในการบ่มเพาะพลัง แม้แต่ข้ารับใช้ในตระกูลยังมองเขาอย่างดูหมิ่น ชื่อเสียงของเซียวเฉินนั้นเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะขยะจากทุกคนในเมืองม่อเหอ ทำให้เขาถูกทุกคนรังเกียจ แม้กระทั่งตอนที่เขาออกไปข้างนอกก็ตาม

“นายน้อยเซียว ผู้อาวุโสหนึ่งขอให้ท่านไปที่หอฝึกยุทธ ถ้าท่านไม่ติดธุระอันใด ท่านก็ควรไปที่นั้นโดยเร็ว ข้าได้ส่งข้อความให้ท่านแล้ว ดังนั้นไม่ว่าท่านจะไปหรือไม่ไปมันก็จะเป็นปัญหาของท่านเอง”

เมื่อได้ยินเสียงนั้น มันได้ทำลายความคิดของเซียวเฉินอย่างฉับพลัน คนที่พูดเป็นสาวใช้ของตระกูลเซียว อย่างไรก็ตาม นางไม่แม้แต่จะชายตามองเซียวเฉินที่กำลังนั่งอยู่บนหลังคาบ้าน เมื่อนางพูดจบ นางได้จากไปทันทีโดยที่ไม่สนใจเซียวเฉินแม้แต่น้อย

ข้ารับใช้ของตระกูลเซียวคือผู้คนที่สามารถฝึกบ่มเพาะพลังได้ ความสามารถของสาวใช้ที่พูดเมื่อครู่นั้นไม่ได้สูงส่งมากนัก แต่นางสามารถหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณยุทธได้สำเร็จเมื่อนางอายุได้ 12 ปี นางแข็งแกร่งกว่าเซียวเฉินผู้ที่เป็นขยะที่ไม่อาจหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณยุทธได้แม้จะอายุ 16 ปีแล้วก็ตาม ยิ่งไปกว่านั้น เซียวเฉินมักจะพึ่งพาสถานะของเขาและเล่นสนุกกับพวกสาวใช้ ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของเขามัวหมองมากยิ่งขึ้น แล้วทุกคนจะเคารพเขาได้อย่างไร?

“แม้กระทั่งสาวใช้ยังกล้าดูถูกเขา…เซียวเฉินได้ทำอะไรลงไปในโลกใบนี้กัน?” หลังจากที่สาวใช้ส่งข้อความของนางแล้ว มันทำให้อารมณ์ของเขาย่ำแย่ลงขึ้นไปอีก จากนั้นเขาปัดฝุ่นที่ก้นและกระโดดลงจากหลังคา

สิ่งที่ทำให้เซียวเฉินรู้สึกอารมณ์ไม่ดีมันไม่ได้เป็นเพราะท่าทีของสาวใช้ แต่มันเป็นเพราะข้อความที่สาวใช้ส่งมาให้เขา การทดสอบความสามารถของตระกูลเซียวนั้นจะจัดขึ้นทุกสามเดือน!

จากความทรงจำของร่างกายนี้ เซียวเฉินรู้ว่าทุกคนในตระกูลเซียวนั้นไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่จะต้องได้รับการทดสอบความสามารถทุกสามเดือน

มันจะเป็นการประเมินระดับบ่มเพาะพลังในปัจจุบันของพวกเขา คนที่มีความก้าวหน้าจะได้รับสิ่งตอบแทน ส่วนคนที่ขี้เกียจและหยุดนิ่งจะถูกลงโทษ การลงโทษอาจเป็นได้ทั้งหนักหรือเบาขึ้นอยู่กับกรณี ในวันนี้ ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ของตระกูลต่างมีอารมณ์ที่ดี บรรดาผู้ที่มีพรสวรรค์โดดเด่นต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถสร้างความประทับใจให้กับทุกคนได้และยังแสดงพลังของพวกเขาให้ทุกคนได้เห็น

อย่างไรก็ตาม วันนี้มันเป็นวันแห่งความทุกข์ทรมานของเซียวเฉิน นับตั้งแต่ที่การบ่มเพาะพลังของเขาหยุดนิ่งตั้งแต่อายุ 8 ปี เขาก็ติดอยู่ที่ขอบเขตปรับแต่งจิตวิญญาณขั้น 9 เขาไม่อาจก้าวหน้าต่อไปได้รวมถึงหลอมรวมเข้ากับจิตวิญญาณยุทธ ซึ่งมันจะทำให้เขากลายเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่แท้จริง

เป็นเวลา 8 ปี เหตุการณ์นี้จึงกลายเป็นฝันร้ายของเขาทุกครั้ง ทุกครั้งที่เขาได้รับการทดสอบ เขาก็ยังคงอยู่ที่ขอบเขตปรับแต่งจิตวิญญาณขั้น 9 โดยที่ไม่มีความก้าวหน้าเลยแม้แต่น้อย ในขณะที่ศิษย์คนอื่นๆที่มีอายุใกล้เคียงกับเขา พวกเขาต่างบรรลุจุดสูงสุดของขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดแล้วและคนที่แข็งแกร่งบางคนอาจก้าวเข้าสู่ขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธ

เมื่อเซียวเฉินมาถึงหอฝึกยุทธ พื้นที่ฝึกฝนขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ไม่กี่ร้อยตารางเมตรเต็มไปด้วยผู้คน ถ้านับจำนวนแล้วล่ะก็ มีผู้คนอยู่ที่นี่ไม่น้อยกว่า 800 คน ซึ่งพวกเขาต่างเป็นศิษย์รุ่นเยาว์ของตระกูลเซียว และมีอายุไม่ถึง 20 ปี แต่คนที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขาก็อยู่ขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดแล้ว ด้วยเหตุนี้ตระกูลเซียวจึงเป็นตระกูลอันดับ 1 ของเมืองม่อเหออย่างเห็นได้ชัด

เมื่อเซียวเฉินไปถึงเขาเพียงแค่ไปหลบอยู่ตรงมุม และหวังว่าจะไม่มีใครสนใจ เขาแค่ต้องการมาเงียบๆและจากไปอย่างเงียบๆ

ในขณะนั้นมีชายชราคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ข้างศิลาวัดพลังที่สามารถใช้วัดความแข็งแกร่งของคนได้ คนผู้นั้นคือผู้อาวุโสหนึ่งของตระกูลเซียว เซียวเฉียง เขาอยู่จุดสูงสุดของขอบเขตผู้เชี่ยวชาญยุทธ ภายในตระกูลเซียวพลังของเขาเป็นรองแค่ผู้นำตระกูลเซียวเท่านั้น นั่นคือ เซียวฉง และภายในเมืองม่อเหอเขาได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้เชี่ยวชาญ

รุ่นเยาว์ที่มีอายุ 18 หรือ 19 ปีกำลังยืนอยู่ด้านหน้าศิลาผนึกพลัง เขากำลังเตรียมตัวที่จะได้รับการทดสอบ แต่เมื่อเขาหันหลังกลับไป เขาก็บังเอิญสังเกตเห็นเซียวเฉินที่แอบอยู่ตรงมุม

มุมปากของรุ่นเยาว์คนนั้นฉีกกว้างเล็กน้อยเผยให้เห็นถึงการเยาะเย้ย และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่พิลึกว่า “หากน้องเฉินมาถึงแล้ว ทำไมเจ้าถึงต้องยืนอยู่ไกลขนาดนั้นด้วยเล่า? จะเป็นไรไหมถ้าข้าจะให้น้องเฉินรับการทดสอบเป็นคนแรก?”

เซียวเฉินยิ้มออกมาอย่างขมขื่น ราวกับว่าเมื่อเขาพยายามหลีกเลี่ยงปัญหามากเท่าไหร่ปัญหามันก็มักจะถาโถมมาหาเขามากขึ้น เขายืนอยู่ที่ไกลตา แต่เขาก็ยังคงถูกใครบางคนเห็น คนที่พูดเมื่อครู่คือเซียวเจี้ยน เขาเป็นพี่ชายของเซียวเฉินที่มีพ่อคนเดียวกันแต่คนละแม่ ในระหว่างการทดสอบทุกครั้ง ผลลัพธ์ของการทดสอบของเขานั้นแตกต่างจากเซียวเฉินราวกับฟ้ากับเหว

เซียวเฉินเริ่มบ่มเพาะพลังตอนอายุ 4 ปี ภายใน 1 ปี เขาสามารถรู้สึกได้ถึงแก่นแท้ของสวรรค์และโลก และอีก 1 ปีต่อมา เขาก็บรรลุขอบเขตปรับแต่งจิตวิญญาณขั้นแรก อีก 3 ปีต่อมาก่อนที่เขาจะมีอายุ 8 ปี เขาก็บรรลุขอบเขตปรับแต่งจิตวิญญาณขั้น 9 แล้ว  หากย้อนกลับไปอีก พรสวรรค์ของเขานั้นถือว่าหาได้ยากยิ่ง ซึ่งจะปรากฏเพียงหนึ่งครั้งในรอบหนึ่งร้อยปีในตระกูลเซียว

ในตอนนั้น เซียวเจี้ยนยังคงอยู่ขอบเขตปรับแต่งจิตวิญญาณขั้นที่ 5 เท่านั้น ทุกคนในตระกูลเซียวจึงให้ความสนใจกับเซียวเฉินเป็นอย่างมาก แม้แต่ผู้อาวุโสในตระกูลยังสนับสนุนเขาและพร้อมที่จะมอบทุกอย่างให้กับเซียวเฉิน เซียวเจี้ยนจึงกลายเป็นเหมือนหุ่นเชิดที่ถูกทุกคนลืม

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขาจึงเกลียดเซียวเฉินมาก พวกเขาทั้งสองคนเป็นบุตรชายของเซียวฉงเหมือนกัน แต่แล้วทำไมเซียวเฉินถึงเป็นที่รักของทุกคน แต่เขากลับเป็นผู้ที่ถูกลืม?

สีหน้าบรรดาลูกศิษย์ของตระกูลเซียวต่างเผยให้เห็นถึงความตื่นเต้น ทุกครั้งในระหว่างการทดสอบ เซียวเจี้ยนมักจะใช้วิธีการที่แตกต่างกันไปหลายวิธีเพื่อที่จะทำให้เซียนเฉินได้รับความอับอาย พวกเขาทุกคนจึงคุ้นชินกับเหตุการณ์นี้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาได้เห็นอัจฉริยะในอดีตตกต่ำอยู่ในสภาพราวกับขยะอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มันทำให้พวกเขารู้สึกมีความสุขที่ไม่อาจพูดอธิบายได้เกิดขึ้นภายในใจของพวกเขา

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset