Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 45 สาวเจ้าอารมณ์

ตอนที่ 45 สาวเจ้าอารมณ์

 

แม้ว่าเซียวอวี่หลันจะไม่ค่อยพอใจนักแต่นางก็ไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล เมื่อเห็นเซียวเฉียงตัดสินใจไปแล้วนางก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

 

หลังจากที่ทั้งสามจัดการอาหารกลางวันเรียบร้อย เซียวเฉินก็ปฏเสธที่จะกลับลงไปจากภูเขาพร้อมกับสองคนนั้นโดยใช้ข้ออ้างที่ว่าเขาเพิ่งจะทะลวงขึ้นระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นกลางและพลังในร่างของเขายังไม่เสถียรพอ เขาต้องใช้เวลาพักผ่อนเพื่อให้พลังนิ่งขึ้น

 

นักบ่มเพาะพลังส่วนใหญ่หากเขาเลื่อนระดับพลังพวกเขาจะต้องใช้เวลาสักพักในการควบคุมพลังให้เสถียร นี้เป็นเรื่องปกติ ดังนั้นเซียวเฉียงจึงไม่ได้ดึงดันให้เขากลับลงไปพร้อมกัน เขาบอกเซียวเฉินให้รีบตามลงไปก่อนที่พระอาทิตย์จะตกดิน

 

ความจริงเซียวเฉินไม่ได้จำเป็นต้องปรับระดับพลัง เมื่อเขาเลื่อยนขึ้นสู่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดมันก็นิ่งเสถียรอยู่แล้วการปรับพลังสมบุรณ์แบบ เขาไม่ได้เร่งพลังบังคับเพื่อทะลวงระดับขึ้นมา ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องปรับความเสถียรของการบ่มเพาะพลังของเขาแต่อย่างใด

 

เหตุผลที่เขาไม่ลงไปพร้อมกับเซียวอวี่หลันก็คือเขาอยากฟาร์มสมุนไพรให้มากกว่านี้ในระหว่างทางกลับ ไหนไหนเขาก็ขึ้นมาบนเขาชีเจี่ยวแล้วเขาก็อยากจะเก็บเกี่ยวให้มากที่สุดก่อนจะกลับลงไป

 

เขารอจนเซียวอวี่หลันและเซียวเฉียงเดินไปไกลก่อนที่เขาจะออกเดินท่องไปทั่วหุบเขา ด้วยสัมผัสวิญญาณของเขาที่ถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ไม่มีสมุนไพรต้นไหนที่จะหลบพ้นสายตาเขาไปได้

 

เนื่องจากการป่วนจากตระกูลถังทำให้ภูเขาชีเจี่ยวถูกปิดลงในวันนี้ ขณะนี้เหลือคนอยู่น้อยมากที่ยังอยู่บนเขา แม้แต่พื้นที่ที่มักจะคึกคักอยู่เสมอแต่ตอนนี้ถูกทิ้งร้าง

 

ดังนั้นเซียวเฉินจึงใช้อัสนีหลบเลี่ยงได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาพบเข้ากับสมุนไพรชั้นดีเขาก็พุ่งตรงไปในทันที ต่อให้มันงอกบนหน้าผาเขาก็ใช้คาถาแรงโน้มถ่วงบินขึ้นไปเก็บ

 

ด้วยความสามารถของเขา เขาสามารถเลือกหยิบสมุนไพรบนภูเขานี้ได้ตามใจ อย่างไรก็ตามเขายังคงปฏบัติตามมารยาทในการเก็บสมุนไพร

 

เขาไม่ได้เก็บสมุนไพรที่ต่ำกว่าระดับ 2 สมุนไพรที่ยังเป็นต้นอ่อน สมุนไพรที่ยังไม่ถึงอายุเก็บเกี่ยวหรือกำลังจะงอกต้นกล้า นั้นเป็นคติพื้นฐานของนักเก็บสมุนไพรที่ต้องปฏิบัติตาม

 

หากเขาหยิบจับตามใจอาจจะทำให้สมุนไพรบางชนิดถึงขั้นสูญพันธ์ุได้ ภายในสามปีภูเขาชีเจี่ยวก็อาจจะปราศจากสมุนไพรกลายเป็นหุบเขาที่ตายไปแล้ว

 

ในช่วงก่อนที่พระอาทิตย์จะตกแหวนห้วงจักรวาลของเซียวเฉินก็เต็มไปด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิด ระดับ 4 โสมหิมะอายุ 10 ปี ระดับ 3 หญ้าวิญญาณวายุอายุ 20 ปี บัวแปดยอดอายุกว่า 20ปี…

 

เซียวเฉินยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจ ด้วยสัมผัสวิญญาณ อัสนีหลบเลี่ยงและคาถาแรงโน้มถ่วงของเขา การเก็บเกี่ยวของเขาในวันนี้เทียบได้กับการเก็บเกี่ยวของคนอื่นเป็นครึ่งปี

 

นอกจากนี้เขายังพบสมุนไพรหายากและสมุนไพรล้ำค่าอีกเล็กน้อย หากไม่มีสัมผัสวิญญาณคนทั่วไปไม่มีทางมาพบเข้าได้ นี้เป็นข้อได้เปรียบสำคัญของเวียวเฉิน

 

“ได้เวลาที่จะกลับลงไปแล้วหรือคงจะต้องค้างบนเขาอีกคืน” เซียวเฉินพึมพำกับตัวเอง

 

…..

 

ระหว่างทางกลับไปที่พักของตระกูลเซียว เซียวเฉินไม่ได้พบเหตุการณ์ไม่คาดฝันแต่อย่างใด เมื่อเขากลับมาถึงทางเข้าลานบ้านของเขาเซียวเฉินเขารู้สึกถึงการมีบ้านให้กลับ

 

เขายิ้มขมๆอย่างช่วยไม่ได้ นีjเขามีบ้านให้กลับในโลกนี้จริงๆ?

 

“นายน้อยสองท่านกลับมาแล้ว?”

 

เมื่อเซียวเฉินเดินมาเหยียบทางเข้าเขาก็ได้ยินเสียงอันร่าเริงของเป่าเอ๋อ ตอนนี้มันเกือบจะค่ำแล้วเป่าเอ๋อกำลังกวาดใบไม้ในลานบ้านอยู่

 

เมื่อเห็นเซียวเฉินกลับมาบ้านนางก็วางงานที่ทำอยู่และวิ่งตรงมาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความสุข

 

เซียวเฉินรู้สึกอบอุ่นใจ เขายิ้มอย่างอ่อนโยน “อืม ข้ากลับมาแล้ว เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?”

 

เป่าเอ๋อรู้สึกดีใจนางเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตลอดหลายวันที่ผ่านมาให้เซียวเฉินฟัง นางเล่าทุกอย่างแม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวันของนาง

 

แม้ว่าเซียวเฉินจะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้นนักแต่เวลาที่อยู่บนเขาช่างโดดเดียวและเงียบสงบเกินไปในตอนนี้มีคนมาพูดคุยกับเขาเขาก็รู้สึกยินดี

 

“จริงสิ นายน้อยคงหิวแย่แล้วข้าจะไปทำข้าวต้มปลามาให้” เป่าเอ๋อคิดดังนั้นก่อนที่จะวิ่งหายเข้าไปในครัวอย่างรวดเร็ว

 

แม้ว่าผลของเม็ดยาอดอาหารจะยังไม่หมดลงเซียวเฉินยังไม่รู้สึกหิว เขาก็ยังคงเฝ้ารออาหารของเป่าเอ๋อ เขาไม่ได้ลิ้มลองรสชาติอาหารมาพักนึงแล้ว

 

กลับมาที่ห้องของเขา เซียวเฉินเทสมุนไพรทั้งหมดออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลของเขาและเตรียมที่จะคัดแยกประเภทไว้

 

“ฮุอา”

 

สมุนไพรกองโตปรากฎขึ้นออกมาจากอากาศห้องของเขาถูกถ่มไปด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิด ด้วยสมุนไพรมากชนิดกองนี้มันไม่ง่ายเลยที่จะคัดแยกประเภท อีกหนึ่งเรื่องปวดหัวประจำวันนี้

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่ามันจะลำบากแต่เขาก็ต้องทำ มิเช่นนั้นมันจะเป็นปัญหาในตอนที่เขาจะหยิบจับสมุนไพรเหล่านี้มาใช้ในอนาคต เซียวเฉินเริ่มจัดเรียงตามคุณลักษณะของพวกมัน สมุนไพรทั้งหมดถูกจัดเป็น 5 กอง

 

5 กองนี้มีคุณลักษณะ บำรุงพลังฉีและโลหิต สมานแผล บำรุงร่างกาย ช่วยการบ่มเพาะพลังและประเภทอื่นๆ

 

หลังจากนั้นเขาก็แบ่งพวกมันเป็นหมวดย่อยอีก จากนั้นก็เอาสมุนไพรที่เขาต้องการ แบ่งช่องในแหวนห้วงจักรวาลและจัดเรียงสมุนไพรลงไป

 

หลังจากจัดการทั้งหมดเสร็จเซียวเฉินก็เหงื่อท่วมตัว ในตอนนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอกประตู เพียงนึกคิดเซียวเฉินก็ส่งสัมผัสวิญญาณออกไปอย่างรวดเร็ว

 

หากมีใครพบว่าเขามีสมุนไพรมากมายขนาดนี้เขาก็ไม่รู้จะหาคำอธิบายเช่นไรดี หลังจากตรวจสอบด้วยสัมผัสวิญญาณเขาก็ผ่อนคลายลงเมื่อพบว่านั้นคือเป่าเอ๋อที่กำลังถือชามข้าวต้มปลามาให้เขา

 

เมื่อเป่าเอ๋อเข้ามาและเห็นกองสมุนไพรนางก็เข้าใจได้ว่าเซียวเฉินกำลังติดธุระอยู่และนางไม่ควรไปรบกวน นางยิ้มอย่างอ่อนโยนและวางชามข้าวต้มปลาลงบนโต๊ะก่อนที่จะจากไป

 

หลังจากที่ส่งเป่าเอ๋อออกห้องไปเซียวเฉินก็โดนกลิ่นหอมของข้าวต้มปลาดึงเข้าไปหาทันที เขาหยิบชามข้าวต้มขึ้นมาจัดการด้วยความเอร็ดอร่อย

 

“ป๋อม!”

 

จู่ๆจิ้งจอกวิญญาณหกหางตัวน้อยก็กระโดดออกมาจากหยกวิญญาณสีเลือด มันมองดูเซียวเฉินที่ลงมือกินอาหารด้วยท่าทางเวทนาพร้อมกับกระดิกหางไปมา ดวงตาของมันดูมัวหมองยิ่งทำให้ดูน่าเวทนาขึ้นไปอีก

 

นับตั้งแต่ตอนที่เขาได้ทำสัญญาเลือดกับจิ้งจอกน้อยมันก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย เขาจัดการตัวเองด้วยเม็ดยาอดอาหารและได้ลืมเกี่ยวกับจิ้งจอกน้อยตนนี้ไปเสียสนิท

 

เจ้าตัวน้อยจะต้องหิวโหยเป็นอย่างมาก เซียวเฉินยิ้มอย่างเขินอายพร้อมกับดันชามข้าวต้มไปด้านหน้าของจิ้งจอกน้อย “เจ้าหิวไหม? กินได้เลย”

 

เจ้าตัวเล็กแล่บลิ้นออกมาเลียในชามสองสามทีก่อนที่จะหยุดลง มันมองเซียวเฉินด้วยแววตาน่าเวทนาอีกครั้ง ชัดเจนว่าอาหารนี้ไม่เหมาะกับมันอย่างแรง

 

เซียวเฉินรู้สึกกังวลอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่รู้ว่าจะเลี้ยงสัตว์อสูรวิญญาณด้วยอะไร ณ จุดจุดนี้เขาไม่รู้จะทำเช่นไร

 

หากเจ้าตัวเล็กนี่จะอดข้าวตาย? เขาควรจะทำเช่นไรดี? เขาคงจะผิดอย่างแรงหากปล่อยให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เซียวเฉินนึกถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดขึ้นมาทันที

 

“เจ้าโง่!”

 

เซียวเฉินเห็นอ๋าวเจียวปรากฎตัวออกมาเขาก็เริ่มเห็นแสงสว่าง พร้อมกับเรียกเขาว่าเจ้าโง่ เซียวเฉินก็ทำเป็นว่าเขาไม่ได้ยิน

 

“ท่านพี่อ๋าวเจียว จิ้งจอกวิญญาณนั้นกินอะไรเป็นอาหาร? ท่านรู้หรือไม่?”

 

“เจ้า!โง่! เจ้าตัวน้อยนี่อายุยังไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำมันก็ต้องกินนมอยู่แล้ว เจ้าคิดว่ามันจะกินอะไร? โดยปกติต้องรอให้สัตว์อสูรวิญญาณอายุได้สักสามเดือนก่อนที่จะทำสัญญาเลือด เจ้าทำมันก่อนที่มันจะอายุครบเดือนอีก”

 

เป็นเช่นนี้นี่เองเซียวเฉินคิดในใจ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ก่อนหน้านั้นมันบีบบังคับให้เขาไม่มีทางเลือกอื่น หากเขาไม่ทำสัญญาเลือด หยกวิญญาณสีเลือดจะต้องโดนหลิวเฟิงหยินไถไปอย่างแน่นอน

 

สายตาของเซียวเฉินขยับไปที่หน้าอกของอ๋าวเจียวอย่างไม่ได้ตั้งใจ แม้ว่านางจะเป็นวิญญาณดาบหน้าอกของนางก็ดูอุดมสมบูรณ์ไม่น้อย เป็นไปได้ไหมที่นางจะ…

 

ให้ตายเถอะ! คิดอะไรของข้าอยู่?

 

เมื่อนางสัมผัสได้ถึงสายตาของเซียวเฉิน อ๋าวเจียวสวนกลับไปด้วยโทสะ “เจ้าโง่! ช่างเลวทราม! มองอะไรอยู่หึ?”

 

เซียวเฉินสะดุ้งพร้อมพูดขึ้นอย่างอายๆ “นิสัยน่ะ มันติดนิสัย เดียว! ข้าไม่ได้ตั้งใจจะมอง! เจ้าเข้าใจไหม ”

 

อ๋าวเจียวไม่อยากวอแวกับเขาต่อพร้อมกับลอยตัวขึ้นไป นางอุ่มจิ้งจอกวิญญาณที่น่าเวทนาไว้บนอกและจุ่มนิ้วชี้ของนางใส่ปากของจิ้งจอกวิญญาณ

 

“ชี!ชี!”

 

สายพลังบริสุทธิ์ไหลมารวมที่นิ้วชี้ของอ๋าวเจียวส่องเป็นแสงสีขาว ในที่สุดพลังนั้นก็ควบแน่นกลายเป็นน้ำนมสีขาว

 

จิ้งจอกน้อยรู้สึกเหมือนนี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่มันเคยกินตั้งแต่มันเกิดมาบนโลกใบนี้พร้อมกับหลับตาลงและดูดนิ้วด้วยความเอร็ดอร่อย มันแสดงออกถึงความพึงพอใจ

 

เป็นไปได้เยี่ยงไร…

 

เซียวเฉินมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตา เขาไม่โง่พอที่จะไม่รู้ว่านั้นคือน้ำนม เห็นได้ชัดว่ามันสร้างขึ้นมาจากพลังแห่งสวรรค์และปฐพี

 

หากอ๋าวเจียวต้องการ พลังงานบริสุทธุ์นี้สามารถเปลี่ยนเป็นพลังฉีอันมหาศาลที่สามารถลบล้างทุกสิ่งที่เห็นได้ในทันที

 

สำหรับนักบ่มเพาะพลังแบบเซียวเฉินหากเขาถูกซัดด้วยพลังฉีเช่นนี้ ก่อนที่พลังฉีมหาศาลนั้นจะได้เข้ามาใกล้เขา เขาคงจะแหลกสลายไปแล้ว เขาไม่มีทางป้องกันมันได้เลย

 

ความแข็งแกร่งดังกล่าวเป็นของผู้ที่อย่างน้อยอยู่ระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ ไม่น่าแปลกใจที่อ๋าวเจียวจะกล้าวางตัวเช่นนี้กับเซียวเฉิน ผู้บ่มเพาะพลังระดับขอบเขตยอดกษัตริย์นั้นคือผู้ที่สามารถสั่นสะเทือนคนทั้งอาณาจักรได้

 

ปราบหนึ่งอาณาจักรด้วยความแข็งแกร่งของคนคนเดียว นี่คือระดับของผู้เชี่ยวชาญคนดังกล่าว

 

ในอาณาจักรต้าฉินที่ประกอบไปด้วย 3 หัวเมือง 9 เขตและ 72 มณฑล หุบเขาและป่าไม้นับหมื่นกิโลเมตร มีระดับยอดกษัตริย์เพียงสิบเท่านั้น เด็กสาวตรงหน้าเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น?

 

นางเป็นเพียงวิญญาณดาบเช่นนั้นหรือ?

 

หลังจากนั้นไม่นานน้ำนมสีขาวก็จางหายไป อ๋าวเจียวดึงนิ้วนางกลับมาแล้วลอยไปมาในอากาศ นางดูอ่อนแรงแต่ใบหน้าของนางก็ปรากฎความพอใจ

 

“ท่านพี่อ๋าวเจียว ท่านเป็นเช่นไร?” เซียวเฉินสังเกตเห็นความอ่อนแรงจึงถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

 

จิ้งจอกน้อยอาจจะดูเหมือนไม่ได้กินน้ำนมสีขาวนั้นไปมากเท่าไหร แต่ความจริงมันอัดแน่นไปด้วยพลังวิญญาณอันไร้ขอบเขต หากนักบ่มเพาะพลังทั่วไปดื่มมันเข้าไปมันสามารถยกระดับพลังของพวกเขาได้เป็นขั้น ด้วยการจ่ายพลังออกไปเช่นนี้เซียวเฉินกลัวว่านางจะฝืนตัวเองเกินไป

 

อ๋าวเจียวส่ายหัว “ข้าสบายดี พลังที่ข้าป้อนให้มันเพียงพอสำหรับสามเดือน หลังจากนั้นเจ้าจะเอาข้าวต้มให้มันก็ได้”

 

“เจ้ายังไม่ได้ตั้งชื่อให้เจ้าตัวเล็กนี่ใช่ไหม? เจ้าจะตั้งชื่อว่าอะไร?” อ๋าวเจียวยกเรื่องนี้ขึ้นมา

 

เซียวเฉินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้น “มันเป็นเด็กผู้ชายหรือผู้หญิง? ไม่สิข้าหมายถึงเพศหญิงหรือเพศชาย?”

 

“เจ้าโง่! ช่างแม่ง! เรียกมันว่าเสี่ยวไป๋” อ๋าวเจียวพูดอย่างเกรี้ยวกราด

 

เสี่ยวไป๋ เสี่ยวไป๋ เซียวเฉินพึมพำกับตัวเอง ชื่อนี้น่าจะเป็นชื่อผู้หญิง หรือว่าจะมีสาวเจ้าอารมณ์เพิ่มมาอีกคน?

 

ให้ตายเถอะ ข้าหวังว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น…

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset