Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 46 กลับมาที่ศาลาหลินหลาง

ตอนที่ 46 กลับมาที่ศาลาหลินหลาง

 

หลังจากจัดการอาหารการกินของเสี่ยวไป๋เรียบร้อย เซียวเฉินก็หยิบหม้อปรุงยามังกรฟ้าออกมาเตรียมพร้อมที่จะกลั่นเม็ดยา อ๋าวเจียวยังคงอยู่ข้างๆกำลังหยอกเล่นกับเสี่ยวไป๋ไม่มีทีท่าว่าจะกลับไป

 

เซียวเฉินถอยหายใจ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่อาจะซ่อนความลับอะไรก็ตามของเขาจากอ๋าวเจียวได้แล้วนับจากนี้ เป็นสิ่งที่เขามิอาจจะทำอะไรได้ อ๋าวเจียวนั้นแข็งแกร่งกว่าผู้เป็นนายเสียอีก

 

เขาอาจจะต่อต้านนางได้แต่เขาก็คงจบลงด้วยความพ่ายแพ้ อย่างไรก็ตามนอกจากปากของนางเซียวเฉินรู้สึกว่านางไม่ได้มีเจตนาอื่นที่จะทำร้ายเขาหรือมีแผนชั่วอะไรในใจ

 

ในบางสถานะการณ์นางยังช่วยเขาแก้ปัญหาด้วย อย่างเรื่องอาหารของเสี่ยวไป๋นางใช้พลังไปมากมายเพื่อสร้างน้ำนมสีขาวไม่กี่หยด

 

ส่ายหัวไปมาเพื่อสลัดความคิดไร้สาระออกจากหัว เขาเริ่มไปให้ความสำคัญกับการสกัดเม็ดยาก่อน เขาตั้งใจจะสกัดเม็ดยาใหม่สองชนิด เม็ดยารักษาและเม็ดยาเสริมกำลัง

 

จากประสบการณ์ของเขาบนภูเขาชีเจี่ยวเขาตระหนักได้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บจากการต่อสู้ หากในตอนนั้นเขามีเม็ดยารักษาเขาคงไม่มีสภาพย่ำแย่เช่นนั้น

 

สำหรับเม็ดยาเสริมกำลังมันจะเพิ่มพลังให้กับผู้ใช้เป็นระยะเวลาสั้นๆ ในช่วงจังหวะสำคัญเขาอาจจะใช้มันเพื่อพลิกสถานการณ์ได้

 

เม็ดยาที่เขาตั้งใจจะสกัดทั้งสองชนิดคือเม็ดยาหวนคืนโลหิตและเม็ดยากลืนเมฆา อันหลังนั้นเมื่อกลืนเข้าไปจะสร้างภาระให้ร่างกายเป็นอย่างมากหลังจากที่มันหมดพลังมันจะสร้างความเสียหายให้ร่างกายเป็นอย่างมาก

 

เซียวเฉินสกัดเม็ดยาสองชนิดนี้มาเพื่อเอาไว้ใช้ในกรณีอันตรายถึงชีวิต ตราบเท่าที่ไม่ใช้มันพร่ำเพรื่อมันก็ไม่สร้างความเสียหายสะสมในร่างกายของเขา

 

เมื่อเทียบกับเม็ดยาที่มีอยู่ในโลกนี้ พวกมันให้ผลดีกว่ามาก

 

ก่อนอื่นเขาได้เตรียมส่วนผสมที่เขาต้องการ แก่นสีเขียวในคลื่นจิตสำนึกของเขาเข้าไปในสมุนไพรทันทีด้วยสัมผัสวิญญาณ จากนั้นเขาก็สามารถเห็นโครงสร้างภายในสมุนไพรได้อย่างชัดเจน

 

ด้วยเสียง “ฟู่!” เปลวไฟสีม่วงกลับมามีชีวิตอีกครั้งบนฝ่ามือของเขา ตอนนี้เซียวเฉินตั้งสมาธิอย่างที่สุดไม่กล้าคิดเรื่องฟุ้งซ่าน

 

ในตำราบ่มเพาะพลังเม็ดยาสองชนิดนี้นั้นไม่ใช่เม็ดยาระดับสูงอะไรดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะสกัดออกมา ด้วยความช่วยเหลือจากการตื่นรู้ทางวิญญาณและสัมผัสวิญญาณ การดำเนินการเป็นไปอย่างราบลื่น

 

ไม่ช้ากลิ่นหอมของยาก็กระจายไปทั่ว ยาเม็ดแรกประสบความสำเร็จหล่นออกมาจากหม้อปรุงยา เซียวเฉินปรากฎสีหน้าพอใจพร้อมกับหยิบเม็ดยาหวนคืนโลหิตมาใส่ไว้ในขวด

 

“เจ้านายหน้าโง่ ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจ้าจะสกัดเม็ดยาได้ แถมวิธีสกัดยาของเจ้ายังแตกต่างออกไปจากนักปรุงยาทั่วไป” อ๋าวเจียวมองไปที่เซียวเฉินอย่างประหลาดใจ เมื่อก่อนหน้านี้นางเกรงว่าจะทำเซียวเฉินเสียสมาธิจึงยังไม่ได้พูดอะไรออกไป

 

ได้ยินคำของอ๋าวเจียวเซียวเฉินรู้สึกภูมิใจเล็กๆในใจของเขา เขายิ้มขึ้น “เจ้าจะดูถูกข้าเกินไปแล้ว นี่ไม่ใช้สิ่งเดียวที่ข้าทำได้หรอกนะ”

 

อ๋าวเจียวตะโกนสวน “ด้วยทักษะเพียงเล็กน้อยเจ้าก็กล้าอวดดีแล้ว ช่างไม่รู้ฟ้ากว้างทะเลลึก”

 

เจ้าหมายความว่าไงทักษะเพียงเล็กน้อย? เขาใช้วิธีการปรุงยาจากตำราบ่มเพาะพลังและมีโอกาสสำเร็จถึง 90 ส่วนในการสกัดเม็ดยาระดับ 3 หรือต่ำกว่า มันสูงกว่านักปรุงยาทั่วไปในโลกนี้ไปมากแล้ว

 

เซียวเฉินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่เชื่อ “หากเจ้าสามารถก็ลองสกัดเม็ดยาแบบเดียวกันให้ข้าดู”

 

อ๋าวเจียวยืนแข็งไปครู่หนึ่ง ใบหน้าอันน่ารักของนางประดับด้วยความประทับใจเหมือนเห็นเรื่องตลกสุดขีดแกมไปด้วยความประหลาดใจ หลังจากนั้นนางก็ยิ้มขึ้นอย่างเย็นช้า “หากข้าทำได้ข้าจะได้อะไร? ต้องมีวางเดิมพันกันบ้างแล้ว”

 

“ได้! หากเจ้าทำได้เจ้าจะขออะไรข้าก็ได้ ได้ทุกอย่าง และหากเจ้าทำไม่ได้เจ้าห้ามเรียกข้าว่าเจ้าโง่อีก” เซียวเฉินไม่คิดเยอะก่อนที่จะกล่าวออกไป

 

เซียวเฉินนั้นมั่นใจในทักษะการปรุงยาของเขามาก แม้ว่าอ๋าวเจียวอาจจะเคยสกัดเม็ดยามาก่อน นางก็เห็นเขาสกัดเม็ดยาเพียงแค่ครั้งเดียวและนางก็ไม่ได้เห็นสูตรปรุงยา ดังนั้นไม่มีทางที่นางจะทำสำเร็จ

 

อ๋าวเจียวพูดขึ้น “ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย! ข้าจะสอนบทเรียนให้เจ้าก่อนที่จะไปถูกคนอื่นทุบตายเพราะความอวดดี”

 

หลังจากอ๋าวเจียวพูดจบนางก็ดีดนิ้วสามครั้ง เปลวไฟสีขาวปรากฎขึ้นลอยไปมาในอากาศ มือของนางยังคงกวัดแกว่งไปเรื่อย ภายใต้การควบคุมของนางสมุนไพรที่กองอยู่บนโต๊ะก็ลอยขึ้นไปในอากาศ

 

มันช่างดูแพร้วพร้าว เซียวเฉินนึกถึงแฟลร์บาร์เทนเดอร์จากในชีวิตก่อนของเขา มันช่างดูคล้ายกันทั้งสวยงามและแพร้วพร้าว

 

**แฟลร์บาร์เทนเดอร์คือบาร์เทนเดอร์ที่ใช้ท่วงท่าหรือลูกเล่นในการชงเครื่องดื่มในการเอนเทอร์เทนลูกค้าครับ

 

เซียวเฉินพยายามปลอบใจตัวเอง ไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล นางทำให้มันดูอลังการเพื่อใช้ลูกเล่นบางอย่าง การปรุงยานั้นเป็นงานที่จริงจังมาก

 

“ซู่ม!ซู่ม!ซู่ม!”

 

มือของอ๋าวเจียวกวัดแกว่งอย่างรวดเร็วชี้ไปที่สมุนไพรสามชนิดที่ต้องใช้อย่างแม่นยำส่งมันลอยขึ้นไปในอากาศ นางส่งพวกมันเข้าไปในไฟสีขาวสามกอง หนึ่งกองต่อสมุนไพรหนึ่งชนิดส่งเสียงออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

ก่อนจะจบอ๋าวเจียวเปลี่ยนท่าของมืออีกครั้ง สมุนไพรที่ร่วงลงมาลอยกลับขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง “ดง!ดง!ดง!” อ๋าวเจียวแบกหลายงานไปทีเดียวพร้อมกัน ไม่รู้ว่าเช่นไรนางสร้างขวดสามขวดออกมาเทยาเหลวลงไปในขวดอย่างแม่นยำ

 

นางขยับอีกครั้งเปลวไฟทั้งสามได้กลั่นสมุนไพรกลายเป็นของเหลวอีกสามชนิด หลังจากนั้นสนุนไพรทั้งหกชนิดที่จำเป็นในการสกัดเม็ดยาหวนคืนโลหิตก็เสร็จสมบูรณ์

 

เซียวเฉินประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น ในตอนนี้เขาตระหนักถึงสิ่งที่อ๋าวเจียวจะสื่อ นี้เป็นสุดยอดการปรุงยาที่เร่งความเร็วถึงขีดสุด

 

ด้วยการใช้เพียงแค่เปลวไฟในการกลั่นของเหลวเซียวเฉินก็พบว่ามันกินความพยายามมากแล้ว ถึงอย่างนั้นอ๋าวเจียวยังใช้เปลวไฟถึงสามครั้งเดียว นี่เป็นสิ่งที่เซียวเฉินไม่กล้าแม้แต่คิดจะลอง ความสามารถในการควบคุมไฟของนางอยู่ในระดับที่น่ากลัว

 

เซียวเฉินรู้ว่าต้องแพ้เดิมพันแล้วในวันนี้ อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ติดใจอะไร ได้เห็นทักษะที่ยอดเยี่ยมของอ๋าวเจียวเป็นโอกาสในการเรียนรู้ที่ดีของเขา

 

อย่างที่เซียวเฉินคาดไว้ อ๋าวเจียวดำเนินการมาถึงขั้นสุดท้ายอย่างราบลื่นไม่มีติดขัด

 

อย่างไรก็ตามในขั้นตอนสุดท้ายที่นางกำลังปรุงยาอยู่สีหน้าของนางอ่อนแรงเป็นอย่างมาก เสียงระเบิดดังขึ้นมาจากหม้อปรุงยามังกรฟ้า

 

มันล้มเหลว มันล้มเหลวจริงๆซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เซียวเฉินคิดว่าโชคเข้าข้างเขาแล้ว แต่เขาก็พบสาเหตุที่อ๋าวเจียวล้มเหลวอย่างรวดเร็ว

 

ในตอนที่อ๋าวเจียวสร้างน้ำนมให้กับเสี่ยวไป๋นางเสียพลังไปเป็นอย่างมาก โดยไม่ได้หยุดพักนางก็ใช้ทักษะขั้นสูงในการสกัดยา ในขั้นสุดท้ายนี้เองนางไม่เหลือพลังปราณเพียงพอ

 

“เป็นไปได้..อย่างไร” อ๋าวเจียวมองกองขยะที่ไหลออกมาจากปากมังกรฟ้าอย่างไม่อยากเชื่อ นางล้มเหลวจริงๆ

 

เซียวเฉินกระแอ่ม “เอ่อ..ท่านพี่อ๋าวเจียว ที่พูดเมื่อครู่ยังนับอยู่ใช่ไหม?”

 

อ๋าวเจียวเขินอาย “เจ้าบื้อ ข้าจะไม่เรียกเจ้าว่าเจ้าโง่อีกต่อไปแล้ว” ก่อนจะหนีกลับเข้าไปในแหวนห้วงจักรวาล

 

เสี่ยวไป๋เห็นอ๋าวเจียวที่จู่ๆก็หายตัวไป ดูเหมือนมันจะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นและยังคงมองหาอ๋าวเจียวต่อไป อย่างไรก็ตามมันก็หาไม่พบก่อนที่จะมาหยุดสายตาลงที่เซียวเฉินอย่างเป็นกังวล

 

เซียวเฉินมองดูท่าทางเสี่ยวไป๋พร้อมกับยิ้มขึ้น “หยุดหาได้แล้ว..แม่เจ้าหนีไปแล้ว”

 

….

 

สองวันต่อมานี้เซียวเฉินไม่ได้ลุกออกจากห้องเลย เขายังคงอยู่ในห้องของเขาสกัดยาต่อไป นอกจากเม็ดยาสองชนิดก่อนหน้านี้เขาก็ได้สกัดเม็ดยาขึ้นมาอีกหนึ่งชนิด แม้ว่าเขาจะสกัดยาออกมาเป็นจำนวนมากเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนสมุนไพรแต่อย่างใด

 

นอกจากการสกัดเม็ดยาเซียวเฉินก็เอาเวลาที่เหลือไปศึกษาแนวทางการใช้เปลวเพลิงสีม่วงที่แท้จริง เขาทดลองเพิ่มความสามารถในการเจาะทะลวงของเปลวเพลิงสีม่วงที่แท้จริงและได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง

 

เปลวเพลิงสีม่วงที่แท้จริงของเขาสามารถเจาะทะลุเหล็กหนากว่าสองนิ้วได้โดยไม่เกิดระเบิดก่อน

 

ในเช้าของอีกสองวันต่อมาเซียวเฉินหยิบเสื้อคลุมสีดำตัวนั้นขึ้นมาใส่อีกครั้งและเก็บชิ้นส่วนศิลาแสงจันทร์ที่เขาทิ้งไว้ในบ้านเข้าแหวน จากนั้นเขาก็ออกจากตระกูลเซียวมุ่งหน้าไปยังเมืองม่อเหอ

 

เมืองนี้ก็ยังคงคึกคักเหมือนที่เคยเป็น แม้เซียวเฉินจะแต่งตัวแปลกก็ไม่ได้รับความสนใจเท่าไหรนัก

 

เซียวเฉินเดินไปที่ศาลาหลินหลางอย่างไม่รีบร้อน จุดประสงค์ที่เขามาในวันนี้นอกจากมารับเงินจากการประมูลจากศาลาหลินหลางแล้วคือการหลอมอาวุธวิญญาณ

 

เมื่อร่างของเซียวเฉินปรากฎตัวที่ประตูทางเข้าของศาลาหลินหลางทหารยามตรงประตูก็ตรงเข้าไปจะหยุดเขาไว้ เมื่อถึงจุดนี้ก็มีคนตะโกนออกมาหยุดเพื่อนร่วมงานของเขาอย่างรวดเร็ว

 

“ผู้อาวุโสในที่สุดท่านก็มา เถ้าแก่รอท่านอยู่นานแล้ว”

 

เซียวเฉินประหลาดใจ มีคนที่จำเขาได้แต่ตั้งเดินเข้าประตู เขาสังเกตบุคคลผู้นี้อย่างระเอียดก่อนที่จะจำได้ว่าคือทหารยามคนที่เขาจับโยนไปในตอนนั้น – เกาหลง

 

“เป็นเจ้านั้นเอง ไหนๆเจ้าก็จำข้าได้งั้นก็ช่วยส่งข้อความให้ข้าหน่อย” เซียวเฉินพูดอย่างไม่แยแส

 

“เร็วเข้า! พาแขกผู้มีเกียรติท่านนี้เข้าไปห้องรับรองด้านใน” เกาหลงรีบพยักหน้า เนื่องจากเหตุการณ์ในครั้งก่อนเขาถูกลดตำแหน่งลงมาเป็นยามประตูหน้า

 

ตอนนี้เซียวเฉินปรากฎตัวอีกครั้งเขาไม่กล้าที่จะเพิกเฉย ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปเขายังหันกลับมาแนะนำกับเพื่อนร่วมงานของเขาก่อนที่จะพาเซียวเฉินเข้าไปข้างใน

 

แม้ว่าบุคคลที่อยู่ข้างเกาหลงนั้นจะไม่ได้รู้จักเซียวเฉินแต่เมื่อเขาเห็นท่าทีจริงจังของเกาหลงเขาก็ไม่กล้าเลินเล่อในตอนที่นำทางเซียวเฉินเข้ามา

 

เมื่อเดินเข้ามาในโถงใหญ่เซียวเฉินสังเกตเห็นว่าผู้คนในตอนนี้เพิ่มเป็นสองเท่าจากที่เขาเข้ามาในครั้งก่อน ผู้คนแออัดกันอยู่ในพื้นที่เล็กๆ

 

หมุนเวียนพลังปราณของเขาอย่างลับๆ เซียวเฉินเดินหลบฝูงคนเข้าไปแต่ก็มีบางคนที่เดินเข้ามาใกล้ตั้งใจเดินเข้ามาชนเขา

 

เมื่อเซียวเฉินเห็นดังนั้นเขาก็รู้เจตนาของคนพวกนี้ได้ทันที พวกมันคงเป็นโจรขโมยที่พอมีฝีมือ เพราะพวกมันมั่นใจในฝีมือพอจึงเข้ามาลองเสี่ยงหากินในศาลาหลินหลาง

 

เมื่อพวกโจรพยายามเข้าใกล้เซียวเฉินแต่ก็ไม่สำเร็จ พวกมันรู้ว่ามันเตะตอไม้เข้าแล้วและยังคงฉลาดพอที่จะอยู่ให้ห่าง

 

ในไม่ช้าเซียวเฉินก็นั่งจิบชาอยู่ในห้องรับรองด้านในรอหนานกงหยาน เขารู้สึกงงงวย มีคนมากมายด้านนอกนนั้นแต่วันนี้กลับไม่ได้มีการประมูลแต่อย่างใด

 

เซียวเฉินว่างถ้วยชาลงและถามผู้ดูแลด้านข้างเขา “วันนี้มีอะไร? ทำไมมีคนมากมายในศาลาหลินหลาง”

 

รู้ว่าเซียวเฉินนั้นเป็นแขกพิเศษของศาลาหลินหลางเขาไม่กล้าที่จะเพิกเฉยและตอบกลับไป “วันนี้…”

 

ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบกลับก็มีเสียงหัวเราะดังมาจากด้านนอกห้องรับรอง ผู้ช่วยรีบหยุดปากลงและเดินออกจาห้องรับรองไป

 

นี้เป็นเพราะว่าหนานกงหยานได้มาถึงแล้ว คำพูดที่จะเอยมาก่อนหน้านี้คงจะเป็นเรื่องที่เขาไม่มีสิทธิ์พูดออกมา

 

“สหายตัวน้อยในที่สุดเจ้าก็มา ข้ารอจะเจอเจ้าอยู่แล้ววันนี้”

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset