NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง – ตอนที่ 194 ศัตรูของรีสอร์ตวันนั้น

บทที่194 ศัตรูของรีสอร์ตวันนั้น
คนที่ทำร้ายมู่เหวินตง ยังคงเป็นปริศนาอยู่จนถึงทุกวันนี้
ตระกูลมู่ไม่หยุดตามหา แต่ยังเพิ่มรางวัลตามตัวคนนี้ด้วย
มู่เจิ้งถังพูดว่า ใครจับฆาตกรได้ ก็จะให้ยี่สิบล้าน
แต่ผ่านมาตั้งนานแล้ว ฆาตกรก็ยังลอยนวล
……
“คาดเข็มขัดนิรภัยดีๆ”หันหน้าไป ฉินจื่อยี่พูดกำชับกับหลี่ฝาง
หลี่ฝางแค่นั้นก็ค่อยๆคาดเข็มขัดนิรภัย ไปที่ร่างกาย
เวลานี้เอง จู่ๆรถก็ออก
เวลาไม่กี่วินาที ความเร็วของเฟอร์รารี่ ทะยานขึ้นเป็นร้อย
เสียงดังปังขึ้นมา ตอนนั้นหลี่ฝางไม่ได้นั่งดีๆ จนขนหัวลุกในรถ
“ห่า คุณช้าลงหน่อยได้ไหม”หน้าหน้าไป หลี่ฝางก็จ้องฉินจื่อยี่เขม็ง
เห็นแค่ในแววตาของฉินจื่อยี่ มองไปข้างหน้าตรงๆ ใบหน้าของเขา ไม่มีความรู้สึกใดๆ
เหมือนว่าเขาจะไม่ได้ยินคำพูดของหลี่ฝาง ไม่มีการตอบสนองเลยสักนิด
ขาของเขา มีชีวิตชีวามาก ไม่หยุดเพิ่มความเร็วและเหยียบเบรกไปมา
เวลานี้หลี่ฝางเกร็งสุดๆ เขารู้สึกว่าหัวใจของตัวเอง ตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว
เหมือนกับนั่งเล่นรถไฟเหาะ แม้แต่หายใจก็ยังลำบาก ไม่ใช่เพราะขาดอากาศหายใจ แต่เพราะกังวลมากๆ
ดีที่วันนั้นตัวเองไม่ได้ดื่มน้ำ ไม่งั้นล่ะก็ ตัวเองต้องกลัวจนฉี่ราดแน่
พอถึงจุดทางโค้ง หลี่ฝางก็ยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น
ฉินจื่อยี่คนนี้ เหมือนจะไม่ชะลอความเร็วเลยสักนิด ก็เลี้ยวขวับทันที
ตอนที่รอบนี้แล่นไป หลี่ฝางรู้สึกว่าตัวเองตายไปหลายครั้งแล้วจริงๆ
นี่มันวอร์มเครื่องที่ไหน นี่มันเล่นกับชีวิตเลย
“ห่า แม่เอ๊ยคุณจะเอาผมตายใช่ไหมเนี่ย?!”ตอนรถหยุดลง หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะด่าไป
“ผมแค่ให้คุ้นเคยกับเส้นทางเท่านั้น”
“นี่คุณเรียกว่าให้คุ้นเคยเส้นทางเหรอ?นี่มันซิ่งตายชัดๆ”เมื่อกี๊หลี่ฝางเห็นชัดเจน ความเร็วรถสูงสุดเมื่อกี๊ ไปถึงสองร้อยแปดสิบแล้ว
ความเร็วของเครื่องบินที่แล่น ดูเหมือนเพิ่งจะสามร้อยเอง?
นี่เรียกว่าวอร์มเครื่อง?แค่ให้คุ้นเคยเส้นทาง?
งั้นถ้าแข่งรถจริงๆ ไม่ใช่บินขึ้นเลยจริงๆเหรอ?
ที่สำคัญที่สุดคือ ทางของเขาหมาป่าสูงชันจริงๆ มีทางโค้งไปทุกที่
ถ้าเป็นทางด่วนที่ตรงดิ่ง หลี่ฝางก็ไม่กลัวเท่าไหร่ แต่ถ้าหักเลี้ยวไม่ทัน ตกลงไปหน้าผาจะทำไง?
เวลานี้ หลี่ฝางอยากซื้อประกันให้ตัวเองจำนวนมากจริงๆ
“พวกเขายังไม่ถึง มาอีกรอบไหมล่ะ?”ฉินจื่อยี่หันหน้าไป มองหลี่ฝางแล้วถาม
ในใจของหลี่ฝางสบถคำหยาบออกไปนับไม่ถ้วนแล้ว
“ยังจะมาอีก ถ้ามีอีกรอบผมตายแน่ๆ”หลี่ฝางจ้องฉินจื่อยี่เขม็ง พูดว่า:“ผมจะลงรถ”
“อยากตายคุณก็ไปตายเอง อย่าลากผมไปด้วย”หลี่ฝางพูด
“ทำไมคุณพูดไม่เป็นมงคลเลย ถ้าผมเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ก็เพราะคุณแช่ง”ฉินจื่อยี่กลอกตาใส่หลี่ฝาง
เปิดประตูรถออก หลี่ฝางกลับพบว่า ขาตัวเองอ่อนลง
ขาของตัวเอง ทั้งอ่อนทั้งชา ขยับไม่ได้
“ลงไม่ลงเนี่ย ไม่ลงผมจะออกรถแล้วนะ”ฉินจื่อยี่พูด
เวลานี้ หลี่ฝางตกใจจนคลานออกไป
มองเห็นฉากนี้ ก็ทำให้ฉินจื่อยี่สุขใจสุดๆ
ฉินจื่อยี่นั่งหัวเราะก๊ากอยู่ในรถ พูด:“ผมว่านะหลี่ฝาง คุณมันสรุปใช่ผู้ชายหรือเปล่า แค่นั่งรถเอง ตกใจแบบนี้เลยเหรอ?”
“ทำไมแม้แต่ผู้หญิงก็สู้ไม่ได้”ฉินจื่อยี่บ่น
หลี่ฝางก็ไม่พูด ได้แต่คลานไปที่รั้วข้างถนน แล้วนั่งลงไป
ตัวเองตกใจกลัวจนขาชาไปหมดแล้ว ยังจะมีหน้าพูดอะไรอีก
เฟอร์รารี่ออกรถไปอีกครั้ง เหมือนลูกธนูที่ออกไปจากคันธนู ความเร็วหายไปจากสายตาของหลี่ฝาง ……
ความเร็วของรถนี้ ทำให้หลี่ฝางอดไม่ได้ที่จะบ่นพร่ำ
“เก้านาทีสามสิบห้าวินาที ถือว่าเป็นนักแข่งรถที่สุดยอดแล้ว”
เวลานี้ส้าวส้วยเดินออกมาจากเบนซ์G-Class เขามองเฟอร์รารี่ที่หายไป มุมปากแสดงความชื่นชม
“เจ้าของสถิติที่เร็วที่สุดของเขาหมาป่าคือแปดนาทีสิบห้าวินาที”
ส้าวส้วยพูด
“แปดนาทีสิบห้าวินาที ขับเร็วขนาดนั้น ไม่กลัวตายหรือไง?”หลี่ฝางขมวดคิ้ว พูดอย่างไม่อยากจะเชื่อนัก
ความเร็วของรถฉินจื่อยี่เมื่อกี๊ถือว่าเร็วพอแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีคนเร็วกว่าเขาหนึ่งนาทียี่สิบวินาที
หนึ่งนาทียี่สิบวินาทีนี้ดูเหมือนไม่มาก แต่แข่งรถเกินกว่าหนึ่งนาทียี่สิบวินาที ก็เป็นระยะห่างที่ปล่อยไม่ได้
“เจ้านี่แค่วอร์มเครื่อง ผมเดาว่าเขาทำได้จริงๆ น่าจะอยู่ในเก้านาที”ส้าวส้วยพูดอีก
หลี่ฝางมองส้าวส้วย แล้วหัวเราะ :“คุณรู้เยอะดีจริงๆ”
“ไม่ได้บอกแล้วเหรอ?เมื่อก่อนผมช่วยปรับแต่งรถน่ะ ดังนั้นกับเรื่องสายแข่งรถแล้ว เลยมีผ่านๆตามาบ้าง”
“เขาหมาป่าที่แห่งนี้ เป็นดินแดนแข่งรถอันศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเอก ทุกวันที่หนึ่งของเดือน นักแข่งรถทุกคน ก็จะมารวมตัวที่นี่”ส้าวส้วยพูด
หลี่ฝางเลิกคิ้วขึ้น พูด:“คุณเคยแข่งรถไหม?”
เวลานี้ จู่ๆหลี่ฝางก็คิดขึ้นได้ วันนั้นพ่อของลู่หลุ่ยต้องการเงินไปผ่าตัด แล้วหลี่ฝางก็ให้ส้าวส้วยเอาเงินมาให้
เดิมทีระยะทางรถที่ครึ่งชั่วโมงส้าวส้วยกลับใช้ไปแค่สิบห้านาทีก็มาถึงตรงหน้าหลี่ฝางแล้ว
ระหว่างนั้นนอกจากไปเอาเงิน หาหลี่ฝางเจอ และอื่นๆมั่วๆก็ไม่ต้องนับ
หมายความว่า อย่างมากส้าวส้วยก็ใช้สิบนาที กับระยะทางขับรถครึ่งชั่วโมงของคนอื่น
หลี่ฝางคิดว่า เป็นไปได้มากที่ส้าวส้วยก็เป็นนักแข่งรถ
“ผมแค่เป็นคนปรับแต่งรถ จะมีคุณสมบัติไปแข่งรถได้ไงกัน”ส้าวส้วยส่ายหน้า ปฏิเสธ
“เหรอ?”หลี่ฝางไม่เชื่อคำพูดส้าวส้วยนี้
“ใช่ ปรับแต่งรถของลูกค้า ผมไม่กล้าขับมั่วๆ ยังไงนั่นก็เป็นรถหรูที่ราคาแพง ถ้าทำชน ต้องขายตัวผมไปก็คืนไม่ไหว”ส้าวส้วยพูด
ตอนนี้เอง รถหลายคันก็ขับเข้ามา
รถสปอร์ตสีฉูดฉาด
“มีคนถึงก่อนพวกเราอีก?”
เห็นหลี่ฝางกับส้าวส้วยที่นี่ พวกเขาก็ลงจากรถ ดูประหลาดใจหน่อยๆ
หลายคนนี้ หลี่ฝางเคยเจอที่รีสอร์ต
หนึ่งในนั้น มีคนชื่อจ้าวเสี่ยวตาว วันนั้นลวนลามลู่หลุ่ยที่รีสอร์ต ถูกลุงเฉียนเอาเข้าบัญชีดำของรีสอร์ตแล้ว
จ้าวเสี่ยวตาวเห็นหลี่ฝาง สีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย
“โลกกลมจริงๆ ที่มาเจอคุณ”สายตาเย็นชาของจ้าวเสี่ยวตาวมองไปที่หลี่ฝาง
จ้าวเสี่ยวตาวสอบถามเกี่ยวกับหลี่ฝางมาชัดเจนหมดแล้ว
หลานชายของคุณท่านหลี่ ไม่ใช่หลี่ฝาง แต่เป็นผู้ชายชื่อถังหยู่ซวน
ส่วนหลี่ฝาง แค่เป็นเพื่อนของถังหยู่ซวนเท่านั้น
ในสายตาของจ้าวเสี่ยวตาว หลี่ฝางถูกกำหนดให้เป็นผู้ชายที่อาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่ง
หลี่ฝางกลอกตาใส่จ้าวเสี่ยวตาว และก็ไม่สนเขา
แต่จ้าวเสี่ยวตาวไม่คิดจะปล่อยหลี่ฝาง เขาโบกมือ ลากเพื่อนของตัวเอง เดินมาที่หลี่ฝาง
“บัญชีนั้นที่รีสอร์ต ผมยังไม่คิดกับคุณเลย”
จ้าวเสี่ยวตาวเดินขี้นไป แล้วจับคอเสื้อของหลี่ฝาง
หลี่ฝางขมวดคิ้ว มองจ้าวเสี่ยวตาว:“ปล่อยมือ ได้ยินไหม?”
ตอนนี้ขาทั้งคู่ของหลี่ฝางฟื้นคืนมาแล้ว เขาไม่กลัวจ้าวเสี่ยวตาว
ยังไงลูกเศรษฐีกลุ่มนี้ ก็ไม่เอาไหนทั้งนั้น
ตู้เฟยสุดที่จะทน มู่เสี่ยวไป๋ก็สุดที่จะทนแล้ว หลี่ฝางคิดในใจ ลูกเศรษฐีกุล่มนี้ก็ทนไม่ไหวแล้ว จะต้องเจ๋งกันแน่ๆ
ในจิตใต้สำนึก หลี่ฝางก็ดูถูกจ้าวเสี่ยวตาวคนนี้
“ไม่ปล่อยใช่ไหม?”
หลี่ฝางหัวเราะอย่างเยือกเย็น ยกขาถีบออกไป
ใครจะไปรู้ว่าทักษะของจ้าวเสี่ยวตาวนั้นคล่องแคล่วมาก เอามือมาบังไว้
“ห่า ฝึกกำลังภายในมาเหรอ”ใบหน้าของหลี่ฝางเคร่งขรึม
“ก็แค่เคยเรียนเทควันโดมาไม่กี่วันเท่านั้น”จ้าวเสี่ยวตาวแสยะยิ้ม
“ไม่มีถังหยู่ซวนคุ้มกันคุณ ผมดูสิคุณจะสู้กับผมยังไง”จ้าวเสี่ยวตาวพูดดูถูกจบ ก็ถอดเสื้อนอกตัวเองออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่เป็นมัดๆ
หลี่ฝางขี้ขลาดเล็กน้อยแล้ว แค่มองก็รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้
“ความอัปยศอดสูวันนั้นที่ได้มาจากรีสอร์ต วันนี้ผมจะเอาคืน!”จ้าวเสี่ยวตาวพูดอย่างเย็นชา
หลี่ฝางคิดว่าตัวเองสู้จ้าวเสี่ยวตาวไม่ได้ จึงให้ส้าวส้วยลุย
หลี่ฝางตบไหล่ส้าวส้วย พูดล้อเล่น:“ห้าสิบหยวน ช่วยผมจัดการเขา”
ส้าวส้วยไม่พอใจเล็กน้อย พูดอย่างเซ็งๆ:“ห้าสิบหยวน?น้อยมากเลย”
ส้าวส้วยหดหู่หน่อยๆ ค่าจ้างที่ตัวเองต้องลงมือ ทำไมต่ำขนาดนี้?
หลี่ฝางชะงักไป จึงพูดใหม่:“งั้นผมจะเลี้ยงเบอร์เกอร์คุณห้าชิ้น ได้หรือยัง?”
“มากไปแล้ว สู้กับคนไม่เอาไหนแบบนี้ เบอร์เกอร์สองอันก็พอแล้ว”มองจ้าวเสี่ยวตาวส้าวส้วยพูดอย่างดูถูกในสายตาเขา
จ้าวเสี่ยวตาวได้ยินคำนี้ ก็ระเบิดทันที
“คุณดูถูกผม?”
จ้าวเสี่ยวตาวใกล้จะได้สายดำของเทควันโดแล้ว ยังจะมีคนกล้าพูดว่าตัวเองเป็นคนไม่เอาไหนอีก?
“อยากตายสินะ!”จ้าวเสี่ยวตาวพูดอย่างเยือกเย็น แล้วลงมือทันที

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

NO.1 คุณชายอันดับหนึ่ง

พ่อแม่ที่หายตัวไปหลายปีจู่ๆ ก็โทรมา บอกว่าตัวเองเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของดูไบ………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset