จัดขบวน!
องค์ชายหนึ่งพูดราวกับกระซิบ
เหล่ารัชทายาทเรียกไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำของตัวเองออกมาและล้อมเป็นวงกลม
เจ้าเมืองที่ภักดีต่อพวกเขาเองก็เรียกของวิเศษที่ใช้ป้องกันตัวออกมาเพื่อปกป้องรัชทายาทด้วยความมุ่งมั่น
โง่เง่า
องค์ชายเจ็ดกล่าวเบาๆ เขากำลังจะสั่งโจมตีด้วยเหล่าตะขาบแดง
แต่ในตอนนั้นเองว่าที่เทพคนหนึ่งที่ถือตะขาบแดงก็หันหน้าขว้างตะขาบใส่องค์ชายเจ็ด!
องค์ชายเจ็ดตกใจและตอบสนองด้วยความเร็วสูงเขาก้าวพริบตาหลบทันที
ในขณะเดียวกับที่เขาพยายามหลบคลื่นพลังเทพก็ได้แล่นเข้ามา เจ้าเมืองสามคนที่แข็งแกร่งและซ่อนตัวอยู่ตลอดเวลาก็ปรากฏตัวขึ้น
ทั้งสามแอบซ่อนอยู่หลังทัพกบฏและไม่แสดงตัวในการต่อสู้แต่ปรากฏตัวในเวลาสำคัญ!
เทพทั้งสามปล่อยพลังเทพออกมาขวางก้าวพริบตาขององค์ชายเจ็ดได้อย่างแม่นยำ
องค์ชายเจ็ดตกตะลึงแต่มิอาจหลบได้เขากรีดร้องด้วยความโกรธเกรี้ยว
พวกเจ้ากล้าดียังไงอ๊าาาาากกกกก!
เขาระเบิดพลังเทพระเบิดร่างว่าที่เทพขั้นต้นที่หักหลังในทันทีแต่เขาก็เลี่ยงไม่ได้ ตะขาบแดงฝังเข้าสู่ร่างของเขาไปแล้ว
เลือดยักษ์ทะเลขมเข้าปะปนกับร่างกายขององค์ชายเจ็ดโดยสมบูรณ์
เสียงกรีดร้องขององค์ชายเจ็ดไม่ต่างจากคนใจสลายองค์ชายเจ็ดกระอักเลือด ร่างกำลังเน่าเปื่อย องค์ชายหล่อเหลาได้กลายเป็นก้อนเนื้อที่กำลังจะตายในไม่นาน องค์ชายหนึ่งจ้องด้วยความเย็นชา
ข้าไม่รู้ว่าเจ้าโง่หรือแกล้งโง่เจ้าคิดรึว่ามเหสีหยุนเซี่ยจะให้เจ้าครองบัลลังก์? น้องเจ็ดของข้าไม่น่าจะมาเชื่อเรื่องโกหกพรรค์นี้!
ในบรรดารัชทายาทคนที่เป็นรององค์ชายหนึ่งก็คือองค์ชายเจ็ดนั่นเอง
ในด้านสติปัญญาและความเฉลียวฉลาดพวกเขาไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย
…แต่องค์ชายเจ็ดกลับเชื่อเรื่องหลอกแบบนี้เสียได้
องค์ชายเจ็ดที่กำลังจะตายมองมเหสีหยุนเซี่ยด้วยหางตาในแววตาเขามีความเสน่หาประหลาดอยู่ด้วย เขาพูด
หยุนเซี่ยช่วยข้าด้วย!
ทุกคนตัวสั่นเมื่อได้ยินองค์ชายเจ็ดเรียกมเหสีหยุนเซี่ยเช่นนั้น
ตามปกติมเหสีหยุนเซี่ยคือภรรยาของจักรพรรดิ ดังนั้นนางจึงไม่ต่างจากมารดาของเขา แต่ถ้าหากเขาเรียกนางด้วยชื่อทุกคนก็ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรแล้ว
องค์หญิงหกมองซือหยูอย่างลึกซึ้ง
ข้าสงสัยเจ้ารู้ได้อย่างไรว่าองค์ชายเจ็ดมีความสัมพันธ์เช่นนี้กับมเหสี
ซือหยูตอบ
ในวันนั้นเจ้ากับองค์ชายเจ็ดปรากฏตัวพร้อมกันในโลกเสี้ยววิญญาณ องค์ชายเจ็ดชิงปิ่นปักผมจากเทพเจิ้ง และพูดว่าจะให้กับมเหสีหยุนเซี่ย
ยังไม่ชัดเจนอีกหรือที่บุรุษให้ปิ่นปักผมกับสตรีน่ะ?
องค์หญิงหกตัวแข็งทื่อ
ไม่แปลกเลยที่เจ้าจะรู้ว่าองค์ชายเจ็ดจะหักหลังล่วงหน้าและบอกพี่ใหญ่ให้ระวังองค์ชายเจ็ดตั้งแต่แรก!แต่โชคร้ายที่พี่ใหญ่เสียพลังส่วนมากไปกับเลือดยักษ์ทะเลขมแล้ว
ปี้หวังชิงที่รีบมาจนถึงได้ยินบทสนทนาและตกตะลึงองค์ชายเจ็ดหักหลัง! ไม่มีเนตรดวงใดของนางมองเห็นเรื่องนี้แต่ซือหยูคาดเดาได้ล่วงหน้ารึ?
ปี้หวังชิงนิ่งเงียบต่อไปด้วยความเคลือบแคลงใจ
องค์ชายเจ็ดมิอาจทำให้มเหสีหยุนเซี่ยมาช่วยได้โลหิตยักษ์ทะเลขมคร่าชีวิตเขาไปโดยที่นางไม่ยื่นมือแม้แต่น้อย นางปล่อยให้เขาตาย
มเหสีหยุนเซี่ยไม่มองอีกแล้วเมื่อเขากลายเป็นแอ่งน้ำเน่า
แม้องค์ชายเจ็ดจะหักหลังพี่น้องร่วมท้องเดียวกันเพื่อนางแม้จะรู้ว่าสุดท้ายนางจะกำจัดเขา เขาก็ยังเต็มใจ แต่สุดท้ายนางก็ไม่แสดงความเมตตากลับมาเลย
เมื่อองค์ชายเจ็ดตายกลุ่มคนที่ติดตามเขาที่มีโลหิตยักษ์ทะเลขมจึงสูญเสียผู้นำไปชั่วขณะ
เจ้าเมืองทั้งสามชิงตะขาบแดงออกจากมือทุกคนอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้า ซือหยูมองปราดเดียวเพื่อจดจำเจ้าเมืองทั้งสาม
มเหสีหยุนเซี่ย!เจ้ามันน่าขยะแขยง เจ้าสมควรตาย!
องค์หญิงสองเห็นความตายขององค์ชายเจ็ดกับตานางชิงชังเป็นอย่างยิ่ง
มเหสีหยุนเซี่ยไม่แยแส
มันเต็มใจที่จะทำข้าไม่เคยบังคับมัน และมันก็ตายด้วยฝีมือพวกเจ้า ไม่ใช่พวกเจ้ารึที่ต้องตายเพราะฆ่ามัน?
ข้าจะฆ่าเจ้า!
องค์หญิงสองกรีดร้องด้วยความโกรธแค้นความโกรธแค้นพุ่งถึงขีดสุด นางต้องการสังหารอย่างเต็มพิกัด
รัชทายาทคนอื่นรู้สึกไม่ต่างกันเพราะความตายขององค์ชายเจ็ด
เมื่อองค์ชายเจ็ดตายพวกเขาย่อมไม่ถูกปิดล้อมอีกต่อไป
สถานการณ์กลับมาเป็นใจอีกครั้ง ซือหยูขมวดคิ้วแน่นจะสำเร็จหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเวลานี้
โอ้เจ้าดูไม่สบายใจนะ
ปี้หวังชิงแกล้งทำเป็นแปลกใจเนตรของนางเห็นความลับบางอย่างของมเหสีหยุนเซี่ยแล้ว
มเหสีหยุนเซี่ยแอบวางกำลังซุ่มโจมตีเอาไว้มีกลุ่มเทพที่แข็งแกร่งที่สุดจากศาลอสูรกำลังจะมา! อีกไม่นานพวกมันจะมาฆ่าล้างรัชทายาททั้งหมด!
ความลับนี้มีเพียงเนตรของนางที่พบได้นางแสยะยิ้มด้วยความโอหังเล็ก ๆ นางรู้สึกเหนือกว่าคนทั่วไป
ซือหยูไม่สนใจนางและมององค์หญิงหก
ถ้าไม่สำเร็จในเวลาถ้วยชาเดียวบอกให้พวกเขายอมแพ้ซะ ดูจากเวลาที่มี พวกศาลอสูรจะมาถึงในอีกไม่นานแล้ว
องค์หญิงหกตอบ
ถูกของเจ้าพี่น้องข้าจะทำตามแผนของเจ้า
อะไรนะ?ปี้หวังชิงใจสั่นอย่างรุนแรง ซือหยูรู้อยู่แล้วรึว่าศาลอสูรจะเป็นกำลังเสริมในการต่อสู้กับทัพกบฏ? เขามีแผนที่จะรับมือกับเรื่องนี้อีกด้วยรึ?
นางไม่อยากจะเชื่อว่าคนคนเดียวจะคาดการณ์อนาคตและวางแผนล่วงหน้าได้!
ในสนามรบ…
ถึงจะมีเทพหลายคนปิดล้อมเอาไว้แต่อีกฝั่งก็แข็งแกร่งเช่นกัน มิอาจถูกโค่นได้ในเวลาอันสั้น
องค์ชายหนึ่งแอบร้อนใจตามที่ซือหยูบอก ศาลอสูรจะมาถึงในอีกไม่นาน
ยิ่งช้าก็ยิ่งเลวร้าย
มีเพียงการทำให้จักรพรรดิอสูรรู้ตัวเท่านั้นและจักรพรรดิอสูรสามารถหยุดศาลอสูรได้
เวลาคือทุกสิ่ง
ทำลายพื้นที่ต้องห้ามก่อนศาลอสูรมาถึงและพวกเขาจะชนะ
มิเช่นนั้นพวกเขาต้องหนี
แต่เวลาถ้วยชาเดียวนั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วแม้พื้นที่ต้องห้ามจะสั่นอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่มีร่องรอยแตกออกมาเลย
ถอย!
องค์ชายหนึ่งจัดสินใจเด็ดขาดมิเช่นนั้นถ้าถูกล้อมจากศาลอสูร พวกเขาจะไม่เหลือโอกาสหนีอีกต่อไป
เหล่ารัชทายาทไม่เต็มใจที่จะหนีแต่การยึดอำนาจล้มเหลวไปแล้ว ก่อนที่ทั้งกองทัพจะถาโถมเข้ามา พวกเขาต้องหนีไป
แกร๊ก…
แต่ในตอนที่พวกเขาจะหนีเสียงแตกก็ดังขึ้น! มันคือสัญญาณว่าที่ต้องห้ามกำลังจะถูกเปิดออก!
ฟึ่บ!
พวกเขาหันกลับมาด้วยความดีใจ แต่ในตอนนั้นเองซือหยูที่อยู่ห่างออกไปก็จ้องตาเขม็งและตะโกน
นั่นมันกับดักอย่าโดนหลอก ไปเดี๋ยวนี้! ศาลอสูรมาถึงแล้ว!
ซือหยูตื่นตัวเต็มที่คำเตือนของเขาทำให้ใจเหล่ารัชทายาทสงบลง นี่คือกับดักของมเหสีหยุนเซี่ยหรอกหรือ?
พวกเขารู้ว่าซือหยูพูดถูกแต่พวกเขาก็เห็นรอยแตกที่กว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขามิอาจฝืนความรู้สึกข้างใน
หากพวกเขาฝืนไปมากกว่านี้และทำลายพื้นที่ต้องห้ามได้และทำให้ผู้เป็นบิดาตื่นจากการบ่มเพาะพลัง โดนศาลอสูรล้อมแล้วจะเป็นอะไรไปเล่า?
เหล่ารัชทายาทมององค์ชายหนึ่งพร้อมกัน
ท่านพี่เราจะทำยังไงดี?
ในสายตาองค์ชายหนึ่งแสดงการดิ้นรน
ทิ้งโอกาสนี้พวกเขาจะพลาดโอกาสเดียวเท่านั้นในการสังหารมเหสีหยุนเซี่ย และจะต้องร่อนเร่ไปยังธารดารา ไม่ได้กลับมายังโลกอสูรอีกต่อไป
แต่เหตุผลที่คงอยู่น้อยนิดก็เหนือกว่าอารมณ์จนได้
หนีออกมา!อย่าหลงกลกับดักของมัน!
องค์ชายหนึ่งกัดฟันหนีไปกับเทพทั้งสามที่ภักดีกับเขาไปหาซือหยู
แต่คนที่ตามองค์ชายหนึ่งมามีเพียงองค์หญิงสองและเจ้าเมืองสามคนที่ภักดีต่อองค์หญิงสองเท่านั้น
เหล่ารัชทายาทฝืนใจมองพื้นทีต้องห้ามไม่ละสายตา