ซือหยูมองเหล่ารัชทายาทด้วยความเวทนาบอกตามตรง เหล่ารัชทายาทนั้นถูกลิขิตให้ยักษ์ทะเลขมกินตั้งแต่เกิด ชะตาของพวกเขาน่าเศร้านัก
ซือหยูถอนหายใจเบาๆ
ข้าไม่ได้แน่ใจมาตั้งแต่แรกถ้าข้าบอกเจ้า เจ้าจะยังคิดก่อกบฏอยู่รึ?
ข้า…
องค์หญิงหกไม่โต้แย้งเป็นเรื่องจริง หากพวกนางได้รับรู้ความจริงอันน่าสะพรึงกลัวครั้งนี้ พวกนางจะยังกล้าก่อกบฏหรือ?
เพราะไม่เพียงแต่จะต้องเผชิญหน้ากับมเหสีหยุนเซี่ยแต่พวกนางยังต้องเผชิญหน้ากับยักษ์ทะเลขมอีกด้วย!
องค์ชายหนึ่งมองไปยังทะเลขมที่ใกล้เข้ามา
เจ้ามีความตั้งใจอื่นสินะถึงได้เรียกยักษ์ออกมา?
ซือหยูพยักหน้า
ใช่แล้วทะเลขม แท้จริงแล้วคือทางหนีสุดท้ายที่ข้าจะใช้! แท่นบูชาเป็นเพียงทางเลือกเท่านั้น มันคงดีไม่น้อยหากเราหนีผ่านแท่นบูชาได้ แต่ต่อให้หนีไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เรายังมีทะเลขมอยู่
องค์หญิงสองตกใจ
ทะเลขมคือทางหนีของเรารึ?เจ้าบ้าไปแล้วรึไง? เราบินเหนือทะเลขมไม่ได้นาน ต่อให้เทพมาก้าวพริบตาก็ไปได้ไม่ไกลอยู่ดี เราต้องกลับฝั่งทันที มิเช่นนั้นจะตายกันหมด
ทะเลขมเป็นสถานที่อันสิ้นหวังองค์หญิงสองแทบจะเป็นบ้าที่ถูกซือหยูพามาที่นี่
องค์ชายหนึ่งและองค์หญิงหกเงียบไปดูจากนิสัยของซือหยู เขามักจะเตรียมการล่วงหน้าเสมอ หากเขาพาพวกเขามายังทะเลขม มันจะต้องมีเหตุผลอยู่แน่
แต่เช่นเดียวกับองค์หญิงสองทั้งสองไม่รู้เลยว่าจะหนีผ่านทะเลขมได้ยังไง
องค์หญิงหกกระพริบตา
ไม่มีสิ่งใดข้ามทะเลขมได้ในสิบล้านปีที่ผ่านมาเจ้ามั่นใจรึว่าจะหนีออกไปได้?
หึหึ…
ซือหยูหัวเราะเบาๆ
ไม่มีสิ่งใดรึ?ไม่ใช่หรอก เจ้าลืมใครไปรึเปล่า?
ใครกัน?
รัชทายาททั้งสามผงะมีคนอื่นนอกจากยักษ์ทะเลขมที่ข้ามทะเลขมได้ด้วยหรือ?
เทพแห่งความตาย!
ซือหยูกล่าว
เทพแห่งความตายปรากฏตัวในวิบัติที่ข้าผ่านนั่นก็มากพอแล้วที่จะบอกว่าเขาเป็นจักรพรรดิอสูรในยุคสมัยหนึ่ง และควรจะอยู่ที่โลกอสูร แต่กลับไปอยู่ในธารดารา เจ้าไม่คิดว่ามันแปลกรึ? รัชทายาททั้งสามงุนงงตามวิชาแยกร่าง ร่างอวตาลในอดีตจะถูกยักษ์ทะเลขมกลืนกิน แม้กระนั้นเทพแห่งความตายกลับเป็นข้อยกเว้น เขายังมีชีวิตอยู่ที่จักรวาล
ซือหยูพยักหน้า
ในบันทึกโลกอสูรมีจักรพรรดิอสูรหนึ่งคนถูกยักษ์ลากลงสู่ทะเลและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนับตั้งแต่วันนั้น
รัชทายาททั้งตามพูดออกมาพร้อมกัน
จักรพรรดิอสูรรุ่นเก้าจักรพรรดิอสูรมรณะ!
พวกเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ามีจักรพรรดิอสูรเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ถูกยักษ์ทะเลขมลากตัวไป?
ใช่แล้วข้าคิดว่าเขาคือเทพแห่งความตายที่หนีไปจากโลกอสูร!
ในประวัติศาสตร์โลกอสูรบันทึกประวัติจักรพรรดิอสูรล้วนลงรายละเอียดชัดเจน ทุกคนเกิดในโลกอสูรและตายในโลกอสูร! แต่ไม่ใช่จักรพรรดิอสูรมรณะที่หายตัวไปและไม่เคยพบที่ไหน!ดังนั้น จักรพรรดิอสูรก็น่าจะเป็นเทพแห่งความตายในจักรวาลข้างนอกนั่น!
ตัวตนของเทพแห่งความตายเป็นความลึกลับในจักรวาลอยู่เสมอ
ไม่มีใครรู้ว่าเทพแห่งความตายมาจากไหนแล้วก็ไม่มีใครรู้ความลึกล้ำของพลังของเขา เขาราวกับปรากฏตัวในข้ามคืน เข้าร่วมโลกเสี้ยววิญญาณและก่อตั้งสำนักนรกขึ้นมา
นี่คือทั้งหมดที่ธารดารารับรู้
และบางทีซือหยูอาจจะอธิบายได้ทั้งหมดแล้ว
เทพแห่งความตายคือจักรพรรดิอสูรที่หนีออกมาจากโลกอสูร
องค์หญิงหกดวงตาเป็นประกายเมื่อมองทะเลขม
เจ้าจะบอกว่าทางออกที่สองอยู่ในทะเลขมและจะทำให้เราหนีจากโลกอสูรไปได้งั้นรึ?
ซือหยูแววตาเฉียบแหลม
ใช่แล้ว!เทพแห่งความตายถูกลากลงทะเลและหายตัวไปตั้งแต่ครั้งนั้น กว่าจะปรากฏตัวอีกครั้งก็ไปอยู่ที่จักรวาลแล้ว!
คำอธิบายนี้ยังไม่มากพอรึ?ทะเลขมจะต้องเป็นเส้นทางเชื่อมต่อกับโลกภายนอก จักรพรรดิอสูรมรณะถึงได้หนีจากการถูกยักษ์ทะเลขมกลืนกิน
เมื่อฟังจบพวกเขาทั้งไม่เชื่อและสับสน
ด้วยเบาะแสเพียงเล็กน้อยซือหยูพบเส้นทางที่เชื่อมต่อโลกอสูรกับโลกภายนอกที่ไม่มีใครเคยพบในสิบล้านปีที่ผ่านมา
ฟึ่บ!
ทั้งสี่ก้าวพริบตาไปยังริมฝั่งทะเล
กลุ่มว่าที่เทพขั้นต้นกำลังเตรียมต้นไม้สูงร้อยศอกที่มีเพลิงทองคำส่องสว่างออกมา
เมื่อรัชทายาทเห็นทุกคนตกใจ นอกเสียจากเทพอสูรเนตรม่วงที่รู้แผนทุกขั้นตอน นี่มัน…
องค์หญิงหกจ้องมองต้นไม้ใหญ่ร้อยศอกอย่างไม่เชื่อสายตา
กลิ่นอายที่คุ้นเคยเพลิงที่คุ้นตา จะเป็นอะไรไปได้นอกจากไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำ?
แต่ไม่มีทางที่ไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำจะมีชีวิตรอดในโลกอสูรได้มันสูญพันธุ์ไปนานมากแล้ว แล้วต้นไม้ยักษ์นี่มาจากที่ใดกัน?
ในตอนนั้นเององค์หญิงหกนึกขึ้นได้ว่าซือหยูเคยขอเมล็ดไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำที่กำลังจะตายไปจากนาง
หรือว่าเขาปลูกมันขึ้นมาจากเมล็ดนั้น?
แต่องค์หญิงหกก็สลัดความคิดทิ้งไปอย่างรวดเร็วเขาจะปลูกเมล็ดที่กำลังจะตายต้นเป็นต้นใหญ่โตในเวลาแค่ครึ่งปีได้ยังไง?
ต่อให้จักรพรรดิอสูรรุ่นแรกปลูกมันจักรพรรดิอสูรก็ทำไม่ได้อยู่ดี
องค์ชายหนึ่งเบิกตากว้าง
ไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำรึ? องค์หญิงสองรีบบินไปดูด้วยความตกใจนางบินรอบต้นไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำด้วยความสันสน
อะไรกัน!มันเป็นไปได้ยังไง?
มีไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำโตเต็มวัยเติบโตในโลกอสูรของเรา!อายุมันเกินห้าร้อยปีมาแล้ว!
เจ้าหามันมาจากที่ไหน?
องค์หญิงสองตกตะลึง
ปี้หวังชิงตัวแข็งทื่อนางรู้ว่าไม่มีใครอีกแล้วที่จะทำได้ในโลกอสูรแห่งนี้
ความเป็นไปได้เดียวของไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำ…นั้นมาจากซือหยู!
เขาปิดบังนางอยู่มากเพียงใดกัน?
จนถึงวันนี้ปี้หวังชิงนึกย้อนกลับไปถึงความอวดดีของนางเมื่อได้พบซือหยูครั้งแรกและหน้าแดงด้วยความอับอาย
ต่อหน้าคนระดับนี้วิถีเทพของนางมีค่าอันใดหรือ? ไม่แปลกเลยที่อาจารย์นับถือซือหยูมากมายถึงเพียงนี้
ปี้หวังชิงวางความโอหังของตนและก้มหัวที่เคยเชิดสูง
กลุ่มว่าที่เทพขั้นต้นเตรียมไม้เต็มกำลังพวกเขาตัดกิ่งก้านและผ่าไม้ออกมาเพื่อสร้างเรือลำเล็ก
ไปช่วยต่อเรือกันเถอะ
ซือหยูกล่าว
ว่าที่เทพขั้นต้นเหล่านี้คือกลุ่มที่ซือหยูออกคำสั่งก่อนการก่อกบฏพวกเขามาล่วงหน้าเพื่อต่อเรือด้วยไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำ
ใช่แล้ว!ไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำคือวัตถุดิบเพียงอย่างเดียวที่ทนน้ำทะเลขมได้ เรือที่ต่อจากไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำจะต้องแล่นผ่านทะเลขมได้
และเมื่อแล่นสู่ทะเลขมได้แล้วไม่ว่าศาลอสูรจะแข็งแกร่งเพียงใด พวกมันก็ไล่ตามมาในทะเลขมไม่ได้! กว่าศาลอสูรจะมาถึงพวกมันก็ได้แต่ยืนอยู่บนฝั่งมองดูคนบนเรือแล่นบนทะเลขมโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย
ความโศกเศร้าในจิตใจเหล่ารัชทายาทแทนที่ด้วยความหวังพวกเขากลับมามีกำลังใจอีกครั้ง
เทพสิบคนและรัชทายาททั้งสามเข้าช่วยต่อเรือ
แม้ไม้ต้องห้ามเพลิงทองคำจะแข็งแกร่งและใช้ได้ยากแต่เมื่อมีพลังของเทพสิบคน เรือก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
เร็วเข้าต่อให้เทพตำรามีอุบายระดับไหน มันก็ไม่มีทางรู้ว่ามีเส้นทางที่สองในการออกจากมิติอสูร
ตอนนี้พวกมันจะต้องคุ้มกันแท่นบูชาอยู่
เขามองแผนการของมเหสีหยุนเซี่ยออก
ฮ่าๆๆๆๆ!นังมเหสีนั่นคิดว่ากำลังได้เปรียบ แต่มันไม่รู้เลยว่าเจ้าหลอกพวกมันอย่างร้ายกาจ!
องค์หญิงหกกำลังคิดถึงมเหสีหยุนเซี่ยที่กำลังภูมิใจในแผนการ
องค์หญิงหกจ้องมองซือหยูด้วยความพอใจมากกว่าเดิม
นอกจากเรื่องที่เขาปิดบังว่าพ่อของพวกนางคือยักษ์ทะเลขมและให้นางคิดจะฆ่าเขาเรื่องอื่นล้วนเป็นประสบการณ์อันดีที่ได้อยู่กับเขา
จนถึงตอนนี้หลังจากกำลังจะผ่านทุกอุปสรรคอย่างง่ายดาย นางก็รู้แล้วว่าซือหยูยิ่งใหญ่เพียงใด
ตลอดมาซือหยูไม่เคยหวังการหนีจากโลกอสูรโดยใช้แท่นบูชา แต่เป็นทะเลขม
เขาช่วยพวกนางก่อกบฏเพื่อล่อให้ยักษ์ทะเลออกมาโดยใช้แผนการมากมายทั้งหมดก็เพื่อวันนี้
แน่นอนนางไม่รู้ว่านอกจากเขาจะล่อศาลอสูรไปที่อื่นและคิดแผนกบฏแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดที่เขาทำก็คือการบ่อนทำลายโลกอสูรเพื่อซื้อเวลาให้คนในธารดารา
ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นซือหยูก็มีโอกาสมากมายในการหนีจากโลกอสูร
แต่…
องค์หญิงหกกลอกตา
พวกข้าต้องต่อเรือแต่เข้ากลับไม่ทำอะไรเนี่ยนะ?
ซือหยูตอบอย่างไม่แยแส
ข้ามีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ
สำคัญกว่างั้นรึ?
องค์หญิงหกพูดเบาๆ นางมองซือหยูด้วยความเคลือบแคลงก่อนจะไปต่อเรือไม้ต้องห้าม
ที่เมืองหลวง…
สงครามระหว่างศาลอสูรและทัพกบฏจบลงแล้ว
ฝั่งหนึ่งมีเทพอสูรมากกว่าร้อยคนส่วนอีกฝั่งเป็นเทพอสูรทั่ว ๆ ไปเท่านั้นที่ต่อสู้สุดชีวิต
ความแตกต่างด้านกำลังมากอย่างเห็นได้ชัดจำนวนเองก็เช่นกัน ผลแพ้ชนะย่อมชัดเจน
เหล่ารัชทายาทและเทพทั้งหมดกลายเป็นอาหารในปากเทพอสูรจากศาลอสูร
แม่ทัพหกวิถีคารวะท่านมเหสี
แม่ทัพศาลอสูรหรือเทพอสูรหกวิถีนำเหล่าเทพอสูรมาด้านหน้าและคารวะต่อนางราวกับผู้นำที่แท้จริงของศาลอสูร
มเหสีหยุนเซี่ยพยักหน้า
เจ้าพิสูจน์ความเป็นศาลอสูรที่ข้าสร้างมากับมือได้เป็นอย่างดี!
ในระหว่างการต่อสู้ศาลอสูรไม่เสียเทพแม้สักคน มีไม่กี่คนที่บาดเจ็บเท่านั้น
สำหรับทัพที่แข็งแกร่งเช่นนี้พันธมิตรบูรพาจะต่อกรได้หรือ?
ไม่ต้องพูดถึงเทพทั่วๆ ไปอีกห้าสิบคนในโลกอสูร กำลังมหาศาลเช่นนี้มากพอที่จะปกครองทั้งจักรวาล
มเหสีหยุนเซี่ยรับขวดที่มีของเหลววิญญาณสีเขียวอยู่ข้างใน
วันนี้เจ้าทำได้ดีมากรับไปซะ
เทพอสูรหกวิถีรับขวดด้วยความยินดีบนใบหน้าเย็นชาเทพอสูรอื่นในศาลอสูรดูริษยา
เมฆาอสูรที่เพิ่งจะเข้าร่วมศาลอสูรทั้งหวาดกลัวและรู้สึกซับซ้อน
ความเปลี่ยนแปลงของเขามากพอแล้วที่จะบอกได้ถึงที่มาของศาลอสูร
เทพทุกคนในศาลอสูรแต่เดิมเคยเป็นเทพทั่วๆ ไปที่แปลงกลายเป็นเทพอสูรแดงในภายหลัง
หลังจากกินของเหลวประหลาดสีเขียวเข้าไปร่างกายจะเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ไม่เพียงแต่พลังจะเพิ่มขึ้น ความรู้สึกยังรุนแรงขึ้นอีกด้วยจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้
พวกเขาต้องดื่มมันเดือนละครั้ง มิเช่นนั้นพวกเขาจะเจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปเทพหลายคนในศาลอสูรมิอาจอดทนความเจ็บปวดราวกับอยู่ในนรกนี้ได้และเลือกที่จะฆ่าตัวตาย
มีเพียงการดื่มมันเท่านั้นที่จะทำให้ความเจ็บปวดทุเลาลง
แต่ยิ่งดื่มไปมากเท่าใดพวกเขาก็จะยิ่งชั่วร้ายขึ้นเท่านั้น สุดท้ายก็จะเสียตัวของตัวเองไป กลายเป็นเพียงสัตว์ป่าที่รู้จักแต่การเข่นฆ่า
ที่น่ากลัวกว่านั้นของเหลวสีเขียวนี้ทำให้พวกเขากลายเป็นทาสของมเหสีหยุนเซี่ย ถ้าหากไม่มีมัน จะไม่มีใครอยู่รอดได้เกินหนึ่งเดือน
ซือหยูเป็นเจ้าที่ทำให้ข้าต้องลงเอยเช่นนี้!
เมฆาอสูรแค้นใจเป็นเพราะซือหยูที่ทำให้เขากลายเป็นเทพของศาลอสูร!
ทัพกบฏแตกพ่ายไปแล้วมเหสีหยุนเซี่ยมองยักษ์ทะเลขมที่ค่อย ๆ เดินกลับไปยังทะเลและเหลือบมองเทพศาลอสูร นางพูดอย่างไร้อารมณ์
พวกที่กินรัชทายาทไปก้าวมาข้างหน้า
ฟึ่บ!
เทพห้าคนก้าวออกมาพวกเขาคือเทพที่กินองค์ชายสามและรัชทายาทที่เหลือเข้าไป
มอบร่างกายพวกเจ้าให้กับยักษ์ทะเลขมซะ