ตอนที่ 189 ไม่อาจพูดได้
หลานเยี่ยถามด้วยความร้อนใจ ผู้เฒ่ากลับไม่ยอมพูดออกมา
“ท่านประมุขหลานถือว่าบังเอิญมาพบที่นี่เข้า ฉะนั้นข้าถึงได้บอกเรื่องราวเหล่านี้กับท่าน แต่เดิมเวลายังไม่ถือว่าสมบูรณ์โดยที่สุด รอจนถึงแก่เวลาอันสมบูรณ์ที่สุดแล้ว ข้าจะไปปรากฏตัวต่อหน้าท่านประมุขหลานเอง ตอนนี้ ไม่อาจพูดได้” ผู้เฒ่าตอบปฏิเสธคำถามของหลานเยี่ย
“เพราะเหตุใด”
“เวลาไม่ได้ถึงแก่กาลเหมาะสม”
“ท่านประมุขหลานไม่จำเป็นต้องถามอีก ตอนแรกคนที่ชื่อชิวอวี้ก็เคยมาที่นี่ แต่เพราะยังไม่ถึงแก่เวลา จึงไม่อาจพูดได้ ท่านประมุขหลานกลับไปเถิด ยังคงมีเคราะห์กรรมด่านสุดท้าย ถึงเวลานั้น คนแก่เช่นข้าจะออกหน้าเอง”
ได้ยินผู้เฒ่าพูดถึงชิวอวี้ หลานเฟิงเกิดสงสัย ตนเองยังเข้ามาไม่ได้ เหตุใดชิวอวี้ถึงเข้ามาได้ มองตราหยกบนกายหลานเยี่ยอีกทีหนึ่ง หลานเฟิงก็เข้าใจขึ้นมาในทันใด
ตอนแรกตนเองพกตราหยกของหลานเยี่ยอยู่ตลอด ในช่วงเวลาหมดสภาพนั้นชิวอวี้อาจจะเอาไป เช่นนี้ก็สามารถอธิบายผ่านไปได้
หลานเยี่ยยังคิดจะถามต่อ หลานเฟิงห้ามเขาเอาไว้
“เสี่ยวเยี่ย ไปเถิด ในเมื่อท่านผู้อาวุโสพูดเช่นนี้แล้ว จะช้าจะเร็วพวกเราก็รู้อยู่ดี ข้าจะมอบตอนจบที่ดีที่สุดให้แก่เจ้า เชื่อข้า” หลานเฟิงเอ่ยกล่อมหลานเยี่ย
หลานเยี่ยมองหลานเฟิงทีหนึ่ง พลางมองผู้เฒ่าอีกทีหนึ่ง สุดท้ายหลังจากทำความเคารพแล้วก็ตามหลานเฟิงออกไป
“ท่านประมุขหลาน โปรดจำเอาไว้ ในเมื่อเตรียมพร้อมจะรับมือโลกใบนี้ ก็จะต้องใจสู้ต่อไปให้ได้ ยืดได้หดได้ ทั้งเคร่งทั้งผ่อน เช่นนี้ถึงจะเพียบพร้อมเป็นผู้นำ มิเช่นนั้นไม่ต้องครองใต้หล้าก็ย่อมได้” ตอนที่หลานเยี่ยหมุนตัวออกไป ผู้เฒ่าพูดคำพูดเหล่านี้กับเขา
หลานเยี่ยหันมา ทำความเคารพอีกครั้ง
“ข้าน้อยรับรู้แล้ว”
สำหรับคำพูดของผู้เฒ่า หลานเยี่ยกลับไม่ได้ฟังเข้าไปเท่าไรนัก สิ่งที่เขาอยากได้แต่เดิมก็ไม่ใช่ใต้กล้า การโจมตีตระกูลเยี่ยอาจเป็นเพราะทำให้เรื่องความหวังบางอย่างในโลกใบนี้สำเร็จลุล่วง ยืนอยู่ในจุดที่สูงสุด จากนั้นได้ครอบครองสิ่งที่ตนเองต้องการจริงๆ เท่านั้นก็พอแล้ว
หลานเยี่ยดึงหลานเฟิงออกไป ตอนที่ออกมานั้นจู่ๆ หลานเยี่ยก็หมุนตัวกอดหลานเฟิงไว้ ไม่ได้พูดอะไรเพียงต้องการการปลอบโยนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
หลานเฟิงก็กอดเขาเอาไว้ ทำให้เขาสบายใจ พวกเขายังมีด่านเคราะห์กรรมอีกหนึ่งด่าน ด่านเคราะห์สุดท้าย และเป็นด่านเคราะห์ที่ทรมานที่สุด จะเป็นหรือตายก็ไม่เป็นไร เกิดไม่พร้อมกันตายพร้อมกัน จะเป็นหรือตายล้วนอยู่ข้างกายเจ้า
รอจนพวกเขากลับไป เจียงหลิงก็กลับมาแล้ว
“เหวินเย่ว์ทำการสืบเสาะหมดแล้ว ไม่มีทหารพลังอื่นขอรับ หลังจากนี้พวกเราควรทำเช่นไรขอรับ”
“ด้านราชสำนักและจิ่วหลิวล้วนหยุดชั่วคราวแล้ว พวกเราก็พักจัดระเบียบกันเสียหน่อย ตระกูลเยี่ยตอนนี้แตกซ่านกระจัดกระจาย ระวังพวกเขาจะโจมตีกลับ”
“ขอรับ”
เจียงหลิงรับคำสั่ง จากนั้นก็ออกไป หลานเยี่ยกลับขยี้ตาอยู่ตลอด หลานเฟิงลากเขาให้เข้ามา
“เสี่ยวเยี่ย เจ้าเป็นอะไรหรือ”
“หนังตาข้ากระตุกอยู่ตลอด มักรู้สึกว่าจะมีเรื่องไม่ดีบางอย่างเกิดขึ้น”
หลานเยี่ยพูดไปพลาง เขียนจดหมายไปพลาง หลังจากเขียนเสร็จแล้วก็ให้คนนำจดหมายไปที่ตระกูลหลานมอบให้หลานเม่ย จากนั้นให้หลานเม่ยมอบจดหมายให้แก่ชังหลาน บอกเขาเรื่องที่เกิดในวันนี้ เรื่องคนสนิทของหลานเจ๋อ ชังหลานน่าจะไม่รู้เรื่อง หลังจากที่ส่งจดหมายออกไปแล้ว หลานเยี่ยนั่งลงครุ่นคิดเรื่องราวต่อไป หลานเฟิงคอยนวดศีรษะให้เขาอยู่ข้างๆ ให้เขาพักผ่อนเสียหน่อย
จู่ๆ หลานเยี่ยก็เหมือนคิดเรื่องอะไรขึ้นมาได้
“หลานเฟิง ครั้งนี้ส่งทหารออกศึกสามทางพร้อมกัน ตระกูลเยี่ยกลับใช้กลุ่มจิ้งจอกราตรีในกลุ่มทหารพลังจิ่วหลิวเท่านั้น อีกทั้งยังไม่มาก เช่นนั้นจิ้งจอกราตรีคนอื่นไปที่ใด” หลานเยี่ยพูดออกมาด้วยความลนลาน
“ที่ตระกูลหลานพวกเขาเข้าไปไม่ได้ เช่นนั้นถ้าไม่ใช่เขาเทียนปี้ ก็เป็นราชสำนักอย่างนั้นหรือ”
“ท่านประมุข” เจียงหลิววิ่งเข้ามาจากด้านนอกด้วยความเร่งรีบ
“ราชสำนักเกิดเรื่องแล้ว”
ตอนที่ 190 รอดตายหวุดหวิด
“เกิดอะไรขึ้น”หลานเยี่ยตกใจ
“ตระกูลเยี่ยส่งจิ้งจอกราตรีจำนวนมากโจมตีเขาเทียนปี้และราชสำนัก ทางด้านเขาเทียนปีมีจู่จื๋อซืออยู่พอดี ฉะนั้นจึงไม่ได้ปล่อยให้พวกเขาสมหวังขอรับ
แต่ทางด้านราชสำนัก ตอนแรกนั้นโจมตีวังหลวง แต่พวกเขาใช้แผนการล่อเสือออกจากถ้ำ โจมตีบุกวังหลวง อีกทางก็ลอบโจมตีตระกูลเทียน ตระกูลเทียน…สิ้นหมดแล้วขอรับ”
“ตระกูลเทียนสิ้นหมดแล้ว! เทียนซีเล่า?”
“ทางวังหลวงยังไม่มีข่าว อาจถูกปิดข่าวเอาไว้ขอรับ” เจียงหลิงวิเคราะห์สถานการณ์ตอนนี้
“เจียงหลิง เจ้าพาคนไปป้องกันซีเชวียและเหวินเย่ว์ รอจนทางจิ่วหลิวโจมตีสำเร็จแล้ว ค่อยร่วมมือกับจิ่วหลิวและราชสำนักโจมตีกลับตระกูลเยี่ยครั้งสุดท้าย หลานเฟิง พวกเราไปราชสำนักกันครั้งหนึ่ง”
หลานเยี่ยลากหลานเฟิงพุ่งไปยังเขาเทียนปี้
เมื่อมาถึงราชสำนัก ราชสำนักไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากตอนที่พวกเขาออกมามากนัก ข้ารับใช้หญิงจำนวนหนึ่งเดินอยู่ตามทางเดินก็แลดูสบายใจอย่างมาก
รอบวังซีมั่วกลับมีทหารพลังล้อมรอบอยู่กลุ่มหนึ่ง คนด้านนอกมองไม่เห็นข้างใน และไม่ได้ยินเสียงใดๆ ทั้งสิ้น หลานเยี่ยคิดจะเข้าไป แต่ทหารพลังหน้าประตูกลับห้ามเขาเอาไว้
“ฮ่องเต้มีคำสั่ง ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าไป” หลานเยี่ยนำตราหยกประมุขตระกูลออกมา คนผู้นั้นเหลือบมองทีหนึ่ง แล้วจึงปล่อยให้พวกเขาเข้าไป อวี่มั่วเคยบอกกับทุกคนไว้ว่า ขอเพียงเห็นตราหยกนี้ไม่ว่าใครก็ห้ามขัดขวาง
หลังจากหลานเยี่ยเข้าไปแล้วก็ยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวใด แต่หน้าประตูห้องกลับมีเขตม่านพลังถูกตั้งไว้ หลานเยี่ยเจาะทำลายเขตม่านพลัง หลังจากเข้าไปหลานเฟิงก็เพิ่มเขตม่านพลังให้อีกชั้นหนึ่ง ทำให้เสียงข้างในไม่อาจทะลุไปได้
เพราะเขตม่านพลังเมื่อครู่นี้ตอนที่ถูกหลานเยี่ยทำลายลงเสียงข้างในที่ดังมากลอยดังออกมา
เมื่อเปิดประตูห้องก็เห็นเทียนซีที่กำลังบ้าคลั่งและอวี่มั่วที่สำรอกออกมาเป็นเลือด
“เพราะเหตุใด เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ตระกูลเทียนสิ้นหมดแล้ว ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ แท้จริงแล้วข้าทำอะไรผิดกันแน่” รอบข้างเทียนซีคือพลังวิญญาณสีฟ้าอ่อน หลานเยี่ยตื่นตกใจ พลังวิญญาณของเทียนซีถือเป็นของตระกูลหลาน
“เสี่ยวซี ขอโทษ เป็นความผิดของข้า” อวี่มั่วจับโต๊ะประคองตัวเอาไว้แล้วพูดออกมา ดูท่าทางแล้วน่าจะเป็นเทียนซีที่ทำให้อวี่มั่วกลายเป็นเช่นนี้
“เพราะเหตุใด เหตุใดตอนแรกข้าจึงร่วมเดินไปกับเจ้า เพราะเหตุใดข้าต้องออกจากตระกูลเทียนเพื่อเจ้า หากข้าไม่ออกมา หากข้าไม่เข้ามายุ่งเรื่องใต้หล้านี้ ตระกูลเทียนจะไม่สูญเสียจนไม่เหลือใครเช่นนี้ใช่หรือไม่” ได้ยินคำพูดของเทียนซี หลานเยี่ยตะลึงไป
เทียนซีคลุ้มคลั่งไปแล้ว สิ่งของทั้งหมดภายในห้องล้มลง พลังวิญญาณในมือเทียนซีพุ่งตรงไปที่อวี่มั่วไม่หยุด อวี่มั่วไม่ต่อต้านใดๆ ทั้งสิ้น หลานเยี่ยคิดจะลงมือหยุดยั้งเขา กลับถูกหลานเฟิงห้ามไว้
หลานเยี่ยมองหลานเฟิง หลานเฟิงส่ายหน้า แสดงออกเป็นนัยว่าเรื่องนี้ต้องให้พวกเขาจัดการเอง
เทียนซีในตอนนี้ร้องไห้ไม่หยุด ร้องไห้แทบจะขาดใจ อวี่มั่วน่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้พลังวิญญาณของเทียนซีจะไม่สูง แต่ก็ไม่อาจทนรับการที่เขาโจมตีอวี่มั่วอยู่ตลอดอย่างไม่ยั้งมือ
เทียนซีใช้พลังวิญญาณไปพอสมควรแล้ว ล้มลงนั่งกองกับพื้น พลังวิญญาณไม่เหลือ อวี่มั่วคิดจะไปประคองเขา แต่ก็จนปัญญาด้วยเลือดที่สำรอกออกมาตลอด ร่างกายรับไม่ไหว
“เสี่ยวซีๆ ข้าผิดเอง ข้าไม่ปกป้องตระกูลเทียนให้ดี ข้าขอโทษ เจ้าจะโทษอะไร เจ้ามีความแค้นอะไรก็มาลงที่ข้าเถิด ข้าขอเพียงเจ้าอย่าจากข้าไป เสี่ยวซี” อวี่มั่วยิ่งพูดยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลานเยี่ยรับไม่ได้
เขาผลักหลานเฟิงออก หลานเยี่ยวิ่งไปรักษาบาดแผลให้อวี่มั่ว อวี่มั่วเงยหน้าขึ้นมองเขาทีหนึ่ง พยายามส่งยิ้มให้
“ขอบคุณ ช่วยข้า ดู เสี่ยวซี”