ตอนที่ 785 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (5)
กู้เนี่ยนกุมขมับ “ผมพิจารณาเรื่องเรียนเอาไว้แล้ว หลังจากกลับจีนผมวางแผนหมดแล้วครับ”
อวี๋กานกานรีบถามทันที “ไหนนายลองบอกมาสิ ถ้าให้นายอยู่ที่จีนต่อ นายจะวางแผนชีวิตและการเรียนของตัวเองยังไง”
กู้เนี่ยนที่ตอบอย่างไม่ทันคิด ลังเลไปครู่หนึ่ง ชักแม่น้ำทั้งห้าอยู่นานแต่ก็ไม่ได้คิดแผนให้รอบคอบ
เขาพูดจาไร้สาระไปเรื่อยเปื่อย อวี๋กานกานรู้ดีว่าเขาไม่ได้วางแผนชีวิตอะไรตั้งแต่แรก ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้ออ้าง เธอจึงสบประมาท “พี่ว่านายคิดว่าอยู่จีนคงสนุกมากกว่า”
กู้เนี่ยนหน้านิ่งทันที แล้วพูดอย่างจริงจัง “ถ้าผมได้กลับมาเรียนที่จีนผมจะตั้งใจเรียนแน่ๆ จะไม่เกเร ผมสาบาน ผมก็แค่ไม่อยากห่างจากพี่กับพ่อจริงๆ นะครับ”
เด็กหนุ่มดื้อรั้นแบบนี้ ทำให้อวี๋กานกานลังเล เธอครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยขึ้น “ถ้าอย่างนั้นเรามาทำข้อตกลงกันดีไหม”
“ข้อตกลงอะไรครับ”
“พี่จะช่วยพุกับพ่อให้นายกลับมาเรียนต่อที่จีน แต่นายห้ามบอกแม่กับพี่สาว นายจะตกลงไหม”
หลังจากได้ยินข้อเสนอดังกล่าว กู้เนี่ยนก็พยักหน้าโดยไม่ต่อรองให้มากความ “ผมตกลงครับ ผมตกลงแน่นอน”
รอยยิ้มบนใบหน้าของอวี๋กานกานหายไปอย่างสมบูรณ์และใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความจริงจังและเคร่งขรึม “พี่ไม่ได้พูดพล่อยๆ กับนายนะ หากนายไม่ยอมตกลงก็ถือเสียว่าช่างมันไป ถ้านายตกลงแล้วต่อไปก็ต้องรักษาสัญญาทำให้ได้ หากพวกเธอจับได้กลางคันล่ะก็ นานก็รีบกลับไปเรียนที่เดิมได้เลย”
กู้เนี่ยนขมวดคิ้วมองอวี๋กานกานอยู่หลายนาที
ผ่านไปสักพัก เขาก็ก้มหน้าก้มตา จู่ๆ ก็พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทำไมพี่ถึงไม่อนุญาตให้ผมเจอแม่”
การที่เขาต้องเรียนต่อที่นี่แต่กลับไม่ให้เจอแม่ เพราะอะไร คนอื่นได้ใช้ชีวิตอยู่กับแม่กันทั้งนั้น แต่ทำไมเขาถึงทำไม่ได้บ้าง ต่อให้แม่จะร้ายกว่านี้ แต่ยังไงก็คือแม่ของเขา
เมื่ออวี๋กานกานได้ยินคำพูดที่ไม่พอใจของเขา อวี๋กานกานก็ตอบเขาด้วยความใจเย็นและมีพลัง “เพราะพ่อของนายหวังว่านายจะเติบโตเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์เพียบพร้อม หวังว่านายจะสามารถประคับประคองกู้กรุ๊ปและเป็นความภาคภูมิใจของพ่อ”
กู้เนี่ยนตอบกลับ “กู้กรุ๊ปเป็นของพี่ไม่ใช่เหรอ ผมไม่เคยคิดจะแย่งกู้กรุ๊ปไปจากพี่เลยนะครับ”
อวี๋กานกานหัวเราะเบาๆ “นายเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลกู้ กู้กรุ๊ปจะไม่มีหุ้นส่วนของนายได้ยังไง พี่บริหารบริษัทไม่เป็นหรอกนะ นายปันผลกำไรให้พี่ทุกปีเอาไว้ให้พี่เลี้ยงดูอาจารย์จนแก่เฒ่าก็พอแล้ว ดังนั้นบริษัทยังต้องพึ่งนายนะ คนที่คุณพ่อจะฝากฝังได้ก็คือนาย”
คำพูดนี้ทำให้กู้เนี่ยนชะงักค้างไปชั่วขณะ
ความจริงแล้วเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับกู้กรุ๊ปเลยสักนิด แม่บอกเขาว่าพ่อจะยกบริษัทนี้ให้พี่สาวต่างมารดา ตอนที่แม่บอกให้เขาแย่งกลับคืนมาให้ได้เขาก็ไม่เห็นด้วย เขาคิดว่าถ้าพ่ออยากยกให้ก็ให้ไป เขาไม่อยากทำให้มันยุ่งยากเลย
“แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับการที่ไม่ให้ผมเจอแม่เหรอครับ”
“เรื่องนี้พี่ก็พูดอะไรกับนายมากไม่ได้ เพราะนั่นก็คือแม่แท้ๆ ของนาย รอนายโตขึ้นก็จะรู้เอง หรืออาจจะไม่เข้าใจตลอดไปเลยก็ได้ พี่เองก็ไม่ใช่แม่พระมาโปรดอะไร แน่นอนว่าที่ช่วยนายก็ต้องมีเงื่อนไข แล้วเงื่อนไขนี้ก็แค่มาจากมุมมองของพี่เป็นธรรมดาเท่านั้น”
ในขณะที่อวี๋กานกานกำลังพูด มือถือของเธอก็มีเสียงเรียกเข้ามาพอดี เป็นฟังจือหันที่โทรหาเธอ
เธอลุกขึ้นเดินไปรับสายที่ระเบียงด้านนั้นของห้องครัว
กู้เนี่ยนมีสีหน้าหนักอึ้ง สับสนวุ่นวายในใจ
เสียงออดประตูดังขึ้นมา
ใครมาอีกล่ะ
เวลานี้คุณพ่อน่าจะยังอยู่ที่บริษัท หรือจะเป็นแม่…กู้เนี่ยนขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้ เขารีบเดินไปด้านหลังประตูแล้วมองออกไปด้านนอกลอดผ่านตาแมว ผู้หญิงที่ยืนอยู่นอกประตูเป็นคนที่เขากำลังคิดถึงอยู่พอดี
ตอนที่ 786 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (6)
กู้เนี่ยนไม่อยากเปิดประตูออกไปเลย เมื่อนึกขึ้นได้จึงหันไปมองทางห้องครัวที่มีพี่สาวต่างมารดาอยู่ข้างใน หากพวกเธอเจอกันต้องมีปากเสียงกันอีกแน่ๆ แล้วทางด้านของแม่เขาอาจจะคิดมากกว่านั้น
แต่ออดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจึงต้องเปิดประตู
จูอวี้ลู่ไม่ได้มาคนเดียว แต่ยังมีกู้ซูหลิงที่มาพร้อมกันอีกด้วย
เมื่อเปิดประตูออก กู้ซูหลิงก็โวยวายถามเขาทันที “เสี่ยวเนี่ยน แกเป็นอะไร ตั้งนานทำไมไม่เปิดประตูฮะ”
กู้เนี่ยนไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เขายืนจังก้าอยู่หน้าประตูเพราะไม่อยากให้พวกเธอเข้ามา จากนั้นเขาจึงตอบกลับไปว่า “ผมหลับอยู่เลยไม่ได้ยินเสียงออด พวกแม่มาได้ยังไงครับ”
“แกก็เห็นว่าแกไม่ได้กลับบ้านหลายวันแล้ว แม่เป็นห่วงก็ต้องมาดุแกเป็นธรรมดา” กู้ซูหลิงยืนพูดอยู่หน้าประตูขมวดคิ้วเล็กน้อย น้ำเสียงยิ่งไม่พอใจมากขึ้น “นี่แกหมายความว่ายังไง ให้แกมาอยู่กับพ่อตั้งหลายวันเพื่อให้แกเกลี้ยกล่อมพ่อไม่ให้หย่ากับแม่ แต่ตอนนี้แม้กระทั่งบ้านก็ยังไม่ให้พวกฉันเข้าไป แกคิดว่าต่อไปนี้จะไม่สนใจใยดีพวกฉันแล้วใช่ไหม”
พูดพลางออกแรงผลักกู้เนี่ยนแล้วเข้ามาในห้องด้วยตัวเองจากนั้นมองสำรวจไปรอบๆ
ด้วยความที่เป็นคนละเอียดอ่อนแบบจูอวี้ลู่จึงดึงมือกู้เนี่ยนอย่างน่าสงสารแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เสี่ยวเนี่ยน ลูกไม่กลับบ้านหลายวันแม่เป็นห่วงและคิดถึงแกมาก ทำไมลูกไม่หาเวลากลับมาเยี่ยมแม่บ้าง”
เมื่อมองไปที่ใบหน้าซีดขาวของผู้เป็นมารดา กู้เนี่ยนก็ทุกข์ใจเช่นกัน “ผมคิดเอาไว้ว่าพรุ่งนี้จะกลับไปหาแม่ครับ”
สีหน้าของจูอวี้ลู่เต็มไปด้วยความดีใจ “พ่อของลูกจะไม่หย่ากับแม่แล้วใช่ไหม”
ที่บอกว่าจะกลับไปหาเธอ ที่จริงก็คือกู้เนี่ยนมีคำตอบที่แน่นอนให้เธอแล้วซึ่งหมายความว่ากู้เชินจะไม่หย่ากับเธอแล้ว
แต่ไม่ใช่เพราะอยากกลับหาเธอ
กู้เนี่ยนรู้สึกเจ็บปวด เขามองไปที่เธออย่างว่างเปล่าและพูดเบาๆ ว่า “แม่ ผมจะไม่ยุ่งเรื่องหย่าของแม่อีกต่อไปแล้ว”
จูอวี้ลู่ส่ายหน้าพัลวัน แล้วตะโกนออกมาอย่างตื่นตระหนก “ไม่!”
กู้ซูหลิงพุ่งเข้าไปด้วยความโมโห เธอเดินเข้าไปผลักกู้เนี่ยน “แกพูดอะไรของแก แกจะไม่ยุ่งเหรอ พ่อแม่ไม่ใช่พ่อแม่แกรึไง แกรู้หรือเปล่าว่าแม่รักพ่อมากขนาดไหน แม่ขาดพ่อไม่ได้ ทำไมแกถึงใจจืดใจดำแบบนี้ ไม่สนว่าแม่จะเป็นตายร้ายดียังไง”
จูอวี้ลู่ดึงมือของกู้เนี่ยน ใบหน้าของเธอตื่นตระหนก เสียงของเธอสั่นและพูดตะล่อม “เสี่ยวเนี่ยน ลูกยังคงโกรธแม่อยู่ใช่ไหม ที่แม่ดุด่าในวันนั้น แต่ลูกก็ใจร้อนเหมือนกัน…”
กู้เนี่ยนตอบกลับ “ไม่ใช่เพราะผมโกรธ แม่คือแม่ของผม ผมจะโกรธแม่ได้ยังไง แต่เรื่องระหว่างพ่อแม่ผมเข้าไปยุ่งไม่ได้จริงๆ พ่อไม่หย่าเพราะฟังผมหรอกนะครับ”
เกี่ยวกับเรื่องหย่าหรือไม่หย่ามันทำให้เขาสับสนวุ่นวายใจเหลือเกิน เขาไม่อยากให้พ่อแม่หย่ากันหรอก แต่เรื่องมันบานปลายถึงขั้นนี้แล้วไม่หย่าได้ไง
แทนที่ไม่หย่ากันแต่กลายเป็นศัตรูกัน ไม่สู้แยกทางกันแล้วกลายเป็นเพื่อน มีบ้านสองหลังก็ดีไปอย่าง
กู้ซูหลิงตวาดลั่น “ไม่ยุ่งไม่ได้ นายต้องพยายามสิ เราคือครอบครัวเดียวกัน ถ้าพ่อแม่หย่ากันแล้วเราก็จะกลายเป็นเด็กบ้านแตก”
หย่ากันก็ไม่ได้หมายความว่าบ้านแตก แต่กลับสามารถมีบ้านเพิ่มขึ้นเป็นสองหลัง แต่คำพูดนี้กู้เนี่ยนไม่กล้าเอ่ยออกไป เพียงแค่ถอยหลังกลับไป
เขาก้มหน้าเล็กน้อยเพื่อหลบสายตากู้ซูหลิง
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากยุ่งเรื่องหย่า แต่ว่าเขาเข้าไปยุ่งไม่ได้ตั้งแต่แรกแล้วต่างหาก
เขาค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตหลายครั้งจนนับไม่ถ้วนว่าถ้าหากพ่อแม่หย่ากันแล้วลูกควรทำยังไง พ่อแม่หย่ากัน ลูกเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แล้วควรจะทำยังไงที่จะสามารถผ่านวิกฤตไปได้