ตอนที่ 799 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (19)
ชายแก่ได้ยินดังนั้นไม่ได้มีสีหน้าดีใจใดๆ ในทางตรงกันข้ามกลับทำหน้าหนักอกหนักใจ “สำนักแพทย์หลวงแพงมากใช่ไหม”
อวี๋กานกานยิ้มพร้อมกับเอ่ย “คุณไม่ต้องลงทะเบียนค่ะ มาหาฉันได้โดยตรงได้เลย ฉันจะให้ใบสั่งยาคุณ คุณก็ถือใบสั่งยาไปซื้อสมุนไพรข้างนอกได้” จุดสำคัญของโรคไขข้ออักเสบคือต้องฝังเข็ม ใช้กระบวนการเผาภูผาขับไล่ความเย็นในร่างกาย ควบคู่ไปกับยาต้ม สองคู่ก็เห็นผล
ชายแก่ตกใจมาก เอ่ยขอบคุณด้วยความซาบซึ้งใจซ้ำๆ “งั้นผมพักผ่อนแล้วจะไปหาคุณ ขอบคุณมากๆ เลยหมออวี๋…”
อวี๋กานกานยิ้มด้วยสีหน้าบอกว่าไม่เป็นไรแล้วถือกล่องเก็บความร้อนไปหาฟังจือหัน
เห็นอวี๋กานกานออกมาจากลิฟต์ หลินเซินก็อึ้งไปครู่เดียวแล้วรีบก้าวเข้ามาหาด้วยความแปลกใจ “คุณอวี๋ คุณมาได้ยังไงครับ”
“ฟังจือหันละคะ เขาอยู่ไหน”
“คุณชายหันอยู่ในห้องทำงานครับ” หลินเซินพูดแล้วจะรีบนำทางไปแต่โดนอวี๋กานกานห้ามเอาไว้ “คุณไปทำงานเถอะค่ะ ฉันไปหาเขาเองก็ได้”
หลินเซินพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม แล้วถือเอกสารกลับไปนั่งที่ของตนเอง
อวี๋กานกานเคาะประตู เสียงของฟังจือหันดังออกมาจากห้องทำงาน “เชิญเข้ามา”
พอเข้าไปในห้องก็เห็นฟังจือหันกำลังกุมหัวพร้อมกับอ่านเอกสาร กระดุมสามเม็ดบนเสื้อเชิ้ตถูกปลดออกหมด เห็นกล้ามเนื้อใต้เสื้อเชิ้ตได้เลือนราง ท่าทางเฉื่อยชาแต่กลับมีสีหน้าจริงจัง คิ้วขมวดน้อยๆ แต่ให้ความรู้สึกเซ็กซี่ไปอีกแบบ
เห็นคนที่เข้ามาตั้งนานไม่พูดอะไรออกมา และก็ไม่เดินเข้ามา ฟังจือหันจึงเหลือบตามอง ดวงตาเย็นชาคู่นั้นสะท้อนความเย็นชาจิกกัด ไม่ฉายความอบอุ่นเลยสักนิด
แต่หลังจากเห็นว่าคนที่มาคืออวี๋กานกานก็เม้มปากหยักขึ้นเหมือนหิมะที่โดนละลายดูอ่อนโยนไปหมด “เกิดอะไรขึ้น”
อวี๋กานกานยิ้ม ยกกล่องเก็บความร้อนในมือขึ้น “มาส่งมื้อดึกให้คุณ”
ฟังจือหันลุกขึ้น เดินไปตรงหน้าอวี๋กานกาน “คุณทำเอง?”
อวี๋กานกานพยักหน้า “แน่นอนอยู่แล้ว”
ฟังจือหันเลิกคิ้ว สีหน้าเหมือนกำลังบอกว่ากินได้ไหม
“เป็นข้าวผัดไข่ แม้จะไม่ได้ทำอาหารเก่งมาก แต่ว่าข้าวผัดไข่ของฉันเป็นข้าวผัดที่อร่อยมากเชียว” อวี๋กานกานถือกล่องข้าวไปนั่งลงข้างโต๊ะยาวอีกตัวในห้องทำงาน
ฟังจือหันกลับเดินไปเทน้ำอุ่นสองแก้ว ตอนที่เขาเดินกลับมา อวี๋กานกานก็แบ่งข้าวเป็นสองส่วนแล้ว เธอยกช้อนเล็กสำหรับกินข้าวหนึ่งคำ เคี้ยวอย่างกระตือรือร้นพร้อมกับเอ่ย “อร่อยมากจริงๆ คุณรีบมากินสิ เย็นแล้วก็จะไม่อร่อยแล้ว…”
“ดื่มน้ำก่อนค่อยกิน” ฟังจือหันยื่นแก้วหนึ่งส่งให้อวี๋กานกาน
อวี๋กานกานดื่มน้ำไปพลางมองฟังจือหันไปด้วย เห็นเขากินไปหนึ่งคำก็รีบถามด้วยความตื่นเต้น “อร่อยไหม”
ฟังจือหันกลืนลงไป เอ่ยชมอย่างจริงจังเป็นพิเศษ “เป็นข้าวผัดไข่ที่อร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคยกินมา”
ได้ยินดังนั้นอวี๋กานกานก็ยิ้มออกมาในทันที ดวงตาโค้งทั้งสวยทั้งหวาน “งั้นคุณต้องกินให้หมด นี่เป็นข้าวผัดแห่งความรักเชียว”
“ได้” ฟังจือหันรับคำแล้วกินต่อ เห็นอวี๋กานกานนิ่งไปพร้อมกับจ้องตนด้วยรอยยิ้มหวาน เขาก็ใช้ช้อนตักข้าวบางส่วนป้อนใกล้ปากอวี๋กานกาน “คุณก็กินด้วย”
“ที่ฉันก็มี…”
“อ้าปาก”
“อ้าม”
อวี๋กานกานอ้าปากงับช้อนของฟังจือหันอย่างรวดเร็ว หลังจากเข้าปากเธอก็ใช้ช้อนของตนเองตักข้าวแล้วป้อนไปตรงหน้าฟังจือหัน “คุณก็อ้าปาก”
ดวงตาของฟังจือหันลึกซึ้ง มองไปทิศทางของประตู เห็นว่าคงไม่มีคนเข้ามาจึงได้อ้าปากงับ…
ข้างนอกยังคงมีฝนตกปรอยๆ คู่กับลมเย็นแต่ว่าในห้องเต็มไปด้วยความรักหวานหยด
ตอนที่ 800 ขมเป็นยาหวานเป็นคุณ (20)
หลังจากกินมื้อดึกเสร็จ อวี๋กานกานก็ล้างกล่องเก็บความร้อนให้สะอาดและถามฟังจือหันด้วยรอยยิ้มกว้าง “ฉันเป็นแม่ศรีเรือนมากเลยใช่ไหม”
“ใช่” ฟังจือหันยิ้ม ถือโอกาสยกแขนลูบหัวเธอสักหน่อย
การกระทำที่รักใคร่และเอ็นดูทำให้อวี๋กานกานกอดเอวเขาตาม เชยตามองเขาอย่างออดอ้อน “เร็วเข้าๆๆ ชมฉันหน่อย”
“คุณอยากให้ผมชมคุณยังไง” ฟังจือหันก้มหน้า ปลายจมูกชนกับจมูกเธอ “สะ…บาย”
เป็นเวลาครู่ใหญ่เขาถึงพูดออกมาหนึ่งคำ น้ำเสียงทุ้มอ่อนโยนเนิบนาบมาก ราวกับจงใจพูดเสแสร้ง ตอนท้ายเสียงสูงเล็กน้อยเหมือนตะขอที่หยอกแล้วดึงหัวใจอวี๋กานกานขึ้น เนื้อตัวอ่อนอยู่ในอ้อมแขน “นี่เป็นคำชมเหรอ”
“นี่เป็นความประทับใจ” ชายหนุ่มพูดจบก็หัวเราะออกมาเบาๆ
อวี๋กานกานนิ่ง ต่อว่าเขาอย่างโมโห “ฟังจือหัน…”
“ดีจริงเลย คำชมไหนๆ ก็ไม่คู่ควรกับคุณ” แขนของชายหนุ่มโอบรอบเอวของอวี๋กานกานแล้วกอดเธอไว้ในอ้อมแขนแน่นจากนั้นก็ค่อยๆ ก้มหน้าลงมาเตรียมจะจูบ
ในขณะนั้นเองมีคนเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด
อวี๋กานกานเบิกตาโตในชั่วพริบตาแล้วรีบดันฟังจือหันออก
ไม่ได้จูบสาวงาม แม้ฟังจือหันจะไม่พอใจ ใบหน้าเคร่งขรึมเย็นชาแต่ยังกลับไปนั่งเก้าอี้ทำงานเรียบร้อยเพื่อรักษาภาพลักษณ์มืออาชีพของตนเอง
หลังจากได้รับอนุญาตให้เข้ามาหลินเซินก็เดินเข้ามา ในมือถือเอกสารหนึ่งฉบับวางลงไปตรงหน้าของฟังจือหันทันที “คุณชายหัน ผลแล็บออกมาแล้วครับ”
ฟังจือหันรับเอกสารมาเปิดอ่านในทันที
เมื่อสักครู่อวี๋กานกานคิดไว้ว่าหลังกินมื้อดึกเสร็จ ถามฟังจือหันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ทำไมถึงรีบกลับมาทำโอทีที่บริษัท ในตอนนี้เธอเอ่ยถามออกไปเรื่อยเปื่อย “ต้องการให้ฉันช่วยไหม”
ฟังจือหันไม่ได้ตอบเธอ แค่สั่งให้หลินเซินไปสืบต่อ
กระทั่งหลินเซินออกไปแล้วฟังจือหันจึงกวักมือเรียกอวี๋กานกาน เธอเดินไปพูดกับเขาข้างๆ “คืนนี้ให้ฉันอยู่ต่อเถอะ คุณต้องการให้ฉันช่วยอะไร ไม่ต้องเกรงใจ บอกมาได้เลย”
ฟังจือหันเลื่อนแฟ้มเอกสารตรงหน้าออกไปด้านข้าง สื่อให้อวี๋กานกานอ่าน
อวี๋กานกานเท้าแขนกับโต๊ะ ก้มหน้าลงไปอ่าน
เป็นรายงานผลแล็บปราบปรามของปลอมชุดหนึ่ง
ทุกบริษัทยาต่างก็มีสำนักงานที่ปราบปรามของปลอมซึ่งรับหน้าที่ปราบปรามของปลอมโดยเฉพาะ และมุ่งเน้นไปที่การสืบและจัดการผลิตภัณฑ์ยาปลอมโดยเฉพาะ
เพราะว่าสำหรับกิจการที่แบรนด์มีชื่อเสียง พวกเขาไม่ต้องการแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ยาปลอมอื่นในตลาดเป็นที่สุด
ขอแค่มียาปลอมก็จะต้องดำเนินการโจมตีและกวาดล้างทั้งหมดแน่
เหตุผลง่ายมาก ยาปลอมเป็นอันตรายถึงชีวิตกับชื่อเสียงของแบรนด์
บริษัทยาไป๋ฟังย่อมมีแผนกปราบปรามของปลอมของตนเองเป็นธรรมดา โจมตียาปลอม ยาเลียนแบบในตลาด
ผลแล็บฉบับนี้เหมือนจะค่อนข้างคุ้นตา ดูคุ้นกับตำรับยาข้างในนั้น
ก่อนหายตัวไป เผชิญหน้ากับเจียงไป๋อัน และเผชิญหน้ากับเจียงซื่อเซิ่ง เกี่ยวกับตำรับยาต้านมะเร็งสูตรนั้นที่เจียงป๋อซื่อวิจัยและพัฒนา แค่คำแรกก็ประทับลึกในสมองแล้ว
แต่ว่ายาต้านมะเร็งสูตรนี้ของบริษัทยาไป๋ฟังแม้จะยื่นขอสิทธิบัตรแล้ว แต่ก็ไม่ได้วางทอดตลาด และยิ่งไม่ได้เป็นที่แพร่หลาย จะมียาปลอมในตลาดได้อย่างไรกัน
อวี๋กานกานแปลกใจ!
เธอรีบหันไปมองฟังจือหัน “นี่มันเรื่องอะไรกัน”
ฟังจือหันตอบ “แผนกปราบปรามของปลอมบริษัทเราพบเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ ผ่านการทดสอบส่วนประกอบแบบเดียวกัน แต่ว่าโครงการนี้เป็นความลับทั้งหมด ไม่ควรปรากฏในท้องตลาด ตอนนี้พวกเรากำลังตรวจสอบทั้งหมดอยู่”
อวี๋กานกานขมวดคิ้ว ถามด้วยความสงสัย “จะเป็นไปได้ไหมที่มาจากฝั่งลุงรองของคุณ”