ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 92 สงสารหรือ?

เหอเจิงรอคอยคอนเสิร์ตนั้นมานาน แต่ก็ถูกทำลายลงด้วยฝีมือของจี้ผิงโจว

หน้าผากของเขาวางพาดอยู่บนไหล่ของเธอ

หนักอึ้งราวกับโดนอุกกาบาตตกลงมาทับ

ตอนนี้เขายังไม่ตื่น

เหอเจิงจึงไม่สามารถขยับไปไหนได้

ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนร่างท่อนบนของเธอชาไปหมด จนทำให้เธอฟังเพลงที่กำลังบรรเลงอยู่บนเวทีไม่รู้เรื่อง

และแล้วความทรมานก็สิ้นสุด

ไฟทุกดวงสว่างขึ้น ทำเอาจี้ผิงโจวที่กำลังหลับอยู่ได้ตื่นขึ้น ขณะที่เขากำลังสะลึมสะลืออยู่ เขาก็โดนเหอเจิงผลักหัวออก

เมื่อเห็นสีหน้าของเธอ ก็ทำให้เขารู้ว่าเธอโกรธมากแน่ๆ

เหอเจิงเตรียมจะวิ่งลงจากด้านบน จี้ผิงโจวจึงดึงมือเธอไว้ แต่เหอเจิงสะบัดมือเขาออกทันที จี้ผิงโจวจึงรีบคว้าข้อมือเธอไว้อีกครั้ง และถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

ผู้คนที่เดินตามมาด้านหลัง ต่างก็มองมาด้วยสายตาว่างเปล่า

เหอเจิงสะบัดมือเขาออกอีกครั้ง และพูดขึ้นว่า “คุณมาทำไม? ไหนบอกว่าไม่มีตั๋วของฉันไง?”

“ฉันหาได้พอดี เลยจะเอามาให้”

เหอเจิงชายตามองไปที่เขาอย่างเฉยเมย “ฉันอยากมาดูคนเดียว คุณมาทำแบบนี้ทำให้ฉันไม่สามารถตั้งใจฟังได้ พวกเรากำลังจะหย่ากันอยู่แล้ว คุณอย่าทำแบบนี้อีกเลย”

จี้ผิงโจวดูเหมือนยังไม่ได้สติสักเท่าไหร่

และเขาก็เหมือนกำลังงงว่าไปทำอะไรให้เธอโกรธ แต่ยังไม่ทันจะพูดอะไร เหอเจิงก็วิ่งหนีไปก่อน

ด้านนอกเต็มไปด้วยผู้คนที่เดินออกไปเมื่อครู่

เมื่อเหอเจิงวิ่งเข้าไปให้กลุ่มคนนั้น ก็ทำให้เธอหายไปชั่วพริบตา เธอทั้งโกรธและเบื่อหน่าย จนไม่รู้จะระบายออกมาอย่างไร เธอเดินไปได้สักพัก ก็รู้สึกว่าโทรศัพท์กำลังสั่น หน้าจอขึ้นแจ้งเตือนว่าเป๋ยเจี่ยนเป็นคนโทรเข้ามา

เธอกดรับและเตรียมจะด่าชุดใหญ่

แต่เพราะเป๋ยเจี่ยนรู้ดี เขาจึงรีบพูดแทรกขึ้นก่อน “คุณหนูฟางครับ พี่โจวเข้าไปหรือยังครับ?”

เหอเจิงตอบกลับว่า “นายว่าไงล่ะ?”

“เขายังโอเคไหมครับ?” เป๋ยเจี่ยนถามเสียงกล้าๆกลัวๆ “วันนี้เขาเพิ่งผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายหัวใจเสร็จ ยืนอยู่นานหลายชั่วโมง พอผ่าตัดเสร็จ ยังไม่ทันได้ทานอะไรก็รีบเข้าไปเลยครับ”

มิน่าล่ะเขาถึงเหนื่อยจนหลับไป

เหอเจิงบอกเป๋ยเจี่ยนว่าเมื่อครู่พวกเขาได้ทะเลาะกันนิดหน่อย จากนั้นเป๋ยเจี่ยนก็บอกว่า “คุณหนูฟางเข้าไปพาเขาออกมาได้ไหมครับ ผมไม่มีบัตร เข้าไปไม่ได้”

เหอเจิงหันไปมองด้านหลัง

ไม่เห็นแม้เงาของจี้ผิงโจว

จากนั้นเธอก็หันหลังเดินสวนทางกับผู้คนเข้าไปด้านใน ก็เห็นจี้ผิงโจว

เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาว

เขาดูเหนื่อยล้าและหมดแรง และเมื่อสังเกตดูดีๆแล้ว เหมือนว่าปากของเขาจะซีดมากจนไม่เห็นสี ผมของเขาก็ยุ่งเหยิงเพราะเพิ่งตื่นนอนเมื่อครู่ เขานั่งอยู่แบบนั้นเพื่อฟื้นสติของตัวเองกลับมา

“ไปเถอะ” เหอเจิงเดินเข้าไปและกล่าวอย่างเย็นชา

จี้ผิงโจวเงยหน้าขึ้น และยิ้มเบาๆ “สงสารฉันเหรอ?”

เธอก็ไม่อยากจะสงสารคนแบบเขาเหมือนกัน

จากนั้นเธอก็หมุนตัวเตรียมจะเดิน แต่จี้ผิงโจวก็สั่งว่า “กลับมา”

ถึงแม้ความสัมพันธ์ตอนนี้จะเป็นแบบนี้ แต่เขาก็ยังกล้าสั่งเธอ เขาไม่สนใจว่าเหอเจิงจะฟังหรือไม่

เขายืนมือออกไปจับข้อมือเธอแน่น จนทำให้เหอเจิงรู้สึกอึดอัด

เธออยากจะด่าเขา

แต่พอหันไปเห็นใบหน้าที่ซีดเผือดของเขา ก็ทำให้รู้สึกสงสาร แต่อีกใจหนึ่งก็คิดว่า ที่เขาถ่อมาที่นี่ คงจะแค่มาแกล้งทำตัวให้เธอสงสารเท่านั้น

ไม่นานทั้งสองก็เดินออกมาด้านนอก

เหอเจิงพาจี้ผิงโจวเดินไปนั่งที่บริเวณขายบัตรชัั้นหนึ่ง ท่าทางเขาตอนนนี้ดูไม่ค่อยมีสติสตางค์เท่าไหร่

เธอจึงเดินไปซื้อน้ำและของกินให้เขา เมื่อกลับมาก็เห็นเขานอนซบแอบอยู่ที่มุมมุมหนึ่ง

เหอเจิงตบไหล่เรียกเขาเบาๆ จากนั้นก็ยื่นหลอดเข้าไปติดปากของเขา “ดื่มซิ จะได้ดีขึ้น เดี๋ยวฉันโทรให้เป๋ยเจี่ยนเข้ามา”

จี้ผิงโจวมอง แต่ไม่ได้อ้าปากดื่ม

“อันนี้อะไร ฉันไม่ดื่มของแบบนี้”

“งั้นทานอันนี้” เหอเจิงรู้ดีว่าเขาเป็นอย่างไร ถ้าไม่ใช่ของอะไรดีๆเขาไม่ยอมทานแน่

เขาถูกทะนุถนอมเลี้ยงดูมาอย่างดี คงยากที่เหอเจิงจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้

เธอแกะช็อกโกแลตออก

และยื่นไปที่ปากของจี้ผิงโจว เขารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ถ้าจะไม่ทานก็กลัวว่าจะไม่มีแรงเดินออกไป

เขากลั้นใจทานและกลืนมันลงคอไปอย่างรวดเร็ว

“หวานมาก ไม่อร่อยเสียเลย”

เหอเจิงจึงตอบกลับด้วยเสียงรำคาญว่า “รีบทาน จะได้รีบกลับ”

“ฉันยังไม่ได้ฟังการแสดงข้างในเลย”

“การแสดงจบแล้ว”

“ฉันยังไม่ได้ฟังเลย เรียกพวกเขากลับมาแสดงอีกรอบ”

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้ยินที่จี้ผิงโจวพูดขึ้น ก็หันกลับมามองเขาและยิ้มขำๆ ราวกับกำลังมองคนเสียบสติ เหอเจิงรู้สึกขายขี้หน้ามาก จึงพูดเสียงต่ำว่า

“ตั้งใจทานโอเคไหม? อย่าเอาแต่พูดอะไรมั่วซั่ว คุณฟังแล้วก็หลับ จะฟังอะไรอีก?”

จี้ผิงโจวพูดราวกับว่าบ้านเขาเป็นคนจ้างให้นักดนตรีทั้งหมดมาบรรเลงให้ และไม่ว่าเขาจะทำอย่างไร แต่ถ้าเขาอยากจะฟัง ทุกคนก็ต้องมาบรรเลงให้เขาฟัง

แม้ตอนเด็กๆเขาจะเคยไปงานแสดงดนตรีกับคุณตาบ้าง แต่เสียงเพลงเหล่านั้น ก็ไม่ได้ทำให้เขาหลงใหลได้เลยแม้แต่น้อย

เมื่อจี้ผิงโจวกลืนช็อกโกแลตที่หวานเลี่ยนลงไปแล้ว เขาก็มองไปที่เหอเจิง “แต่ก่อนฉันก็เคยฟัง เธออย่ามาดูถูก”

เหอเจิงขำเล็กน้อย ก่อนจะตอบว่า “ใครดูถูกคุณไม่ทราบ”

เมื่อเขาได้เติมน้ำตาลแล้ว จึงทำให้เขามีสติมากขึ้น “แต่ก่อนตอนมีแฟน เธอคนนั้นก็ชอบฟังเพลงแบบนี้ และฉันก็พาเธอมาบ่อยๆ”

เหอเจิงไม่ได้ตอบอะไร จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนและพูดเสียงเรียบว่า “ดีขึ้นแล้วใช่ไหม? เดินเองได้แล้ว งั้นฉันกลับก่อน”

พูดจบ เธอก็เดินออกมา และก็มีเขาเดินตามมาด้านหลัง

เมื่อทั้งสองออกมาด้านนอก ก็เห็นว่าหิมะกำลังตก และพวกเขาก็ไม่ได้พกร่ม

เหอเจิงจึงตัดสินใจโทรหาเป๋ยเจี่ยน เพื่อบอกให้เขามารับจี้ผิงโจว

แต่ดูเหมือนว่าจะโทรเท่าไหร่ เขาก็ไม่รับ

เธอจึงหันไปพูดกับจี้ผิงโจวว่า “คุณโทรให้เป๋ยเจี่ยนมารับแล้วกัน ฉันไปแล้ว”

“ไปไหน?” จี้ผิงโจวถามขึ้น “ยังไม่ได้ใบหย่าเลย แต่เธอก็จะทิ้งสามีไว้ที่นี่เหรอ?”

ไม่รู้ว่าเขาจะเล่นไม้ไหนอีก

เหอเจิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้สนใจเขา

เธอตัดสินใจเดินออกไปในท่ามกลางหิมะ จากที่ได้ยินเสียงฝีเท้า ทำให้รู้ว่าจี้ผิงโจวก็กำลังเดินตามเธออยู่ เขาไม่ได้ใส่ถึงมือและผ้าพันคอ จึงทำให้หนาวจนตัวสั่น

จี้ผิงโจวถามเธอว่า “คริสมาสต์เธอกลับไหม?”

เหอเจิงพยักหน้า “ฉันมีสิทธิเลือกเหรอ?”

ทั้งสองยังเดินต่อไปท่ามกลางหิมะ

จี้ผิงโจวรีบเดินตามไปให้ทันเธอ จากนั้นก็ยื่นไปจับมือเธอ แถมยังยัดมือใส่ในถุงมือของเธออีก จึงทำให้หเขารู้สึกอุ่นขึ้นมา

เมื่อเหอเจิงโดนมือเย็นๆของเขา ก็ทำให้เธอตกใจ และเตรียมจะสบัดและผลักเขาออก แต่จี้ผิงโจวก็รีบพูดขึ้นว่า “หนาว”

เธอได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

จากนั้นเธอก็ถามว่า “จี้ผิงโจว จี้ซูบอกว่าเธอทำจี้ของฉันแตก คุณทิ้งหรือยัง?”

จี้ผิงโจวตอบกลับว่า “แตกแล้ว ก็ทิ้งแล้วซิ”

ถึงแม้จะพอคาดเดาคำตอบได้ แต่พอมาได้ยินแบบนี้ ก็ทำให้เธออดเสียใจไม่ไ่ด้

“ทิ้งหมดเลลยเหรอ?”

“ก็ใช่นะซิ?” จี้ผิงโจวตอบเสียงเรียบ “จะเก็บไว้เป็นมรดกของตระกูลหรือไง?”

เหอเจิงไม่ได้ตอบอะไรอีก และปล่อยมือเขาออกมา

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset