ซ่อน | รัก | ลับ – ตอนที่ 93 แต่งงานกันนะ

ตอนนี้ยังติดต่อเป๋ยเจี่ยนไม่ได้ หิมะก็ตกหนักขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ถนนหนทางเต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน และเวลาทีหิมะละลายกลายเป็นน้ำ ทำให้รู้สึกหนาวยิ่งกว่าตากฝนหลายต่อหลายเท่า

ทั้งสองจึงทำได้แค่ยืนหลบมุมอยู่ตรงใต้ชายคา

อากาศที่หนาวเหน็บ ยังสู้น้ำเสียงที่เย็นชาของเหอเจิงไม่ได้

หลังจากที่เธอรู้เรื่องจี้สร้อยเส้นนั้นแล้ว ก็ยิ่งทำให้น้ำเสียงเธอเย็นชากว่าเดิม “ฉันเรียกรถกลับก่อน คุณก็รออยู่ที่นี่แล้วกัน”

“ถ้าติดต่อเป๋ยเจี่ยนไม่ได้เลย จะทำอย่างไร?”

“โบกรถ”

จี้ผิงโจวรู้ดีว่าเธอกำลังไม่พอใจอะไรอยู่ แต่เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้

ตอนนี้ชีวิตสมรสของพวกเขาทั้งสอง ดำเนินมาจนถึงทางตันแล้ว แต่ถ้ามันจะสามารถไปต่อได้ละก็ วันคริสมาสต์น่าจะเป็นโอกาสที่ดีของเขา

เขาขำเบาๆ ก้มหน้ามองดูหิมะที่กำลังละลายอยู่บนรองเท้า และพูดขึ้นว่า “เธอจะไปแบบนี้เลยเหรอ?”

คำพูดเขาฟังดูแล้วแปลกๆ

เพราะดูเหมือนว่าเขากำลังถามเรื่องคืนนี้ แต่อีกนัยหนึ่งก็เหมือนถามถึงเรื่องอนาคตที่จะเกิด

แต่เหอเจิงก็ทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเขา เธอตัดสินใจยื่นมือออกไปโบกรถ และจี้ผิงโจวก็ยื่นมือออกไปคว้าเธอไว้

จากนั้นก็มีรถมาจอดข้างๆพวกเขา

คนขับรถเลื่อนกระจกลง และถามว่า “ไปไหม?”

เหอเจิงเตรียมจะตอบ แต่จี้ผิงโจวก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนว่า “ไม่ไป”

ตอนนี้หิมะตกหนักมาก

กว่าจะเรียกรถได้แต่ละคันก็ยากมากเช่นกัน

คนขับรถได้ยินเช่นนั้น ก็สบถด่า จากนั้นก็เร่งเครื่องออกไป

จากนั้นเหอเจิงก็ถูกดันชิดกับเสาโทรศัพท์ด้านหลัง จนทำให้เธอรู้สึกเจ็บ “ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะกลับไปงานวันคริสมาสต์ด้วย”

วันนี้เธอไม่ได้แต่งหน้า และเพราะความหนาวทำให้เห็นได้ชัดว่าแก้มเธอตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว

เสียงเธอตอนนี้ทั้งแหบและแห้ง

จี้ผิงโจวอาศัยช่วงจังหวะที่เธอเผลอ บรรจงจูบลงไป รอยจูบช่างหอมหวาน และยิ่งหวานไปกว่าเดิมเมื่อบวกกับรสชาตของช็อกโกแลตเมื่อครู่

จี้ผิงโจวค่อยๆแนบชิดกับเธอเรื่อยๆ และเหอเจิงก็คิดอยากจะผลักเขาออก แต่จี้ผิงโจวก็รีบโอบรัดเธอไว้ให้แน่นขึ้น จนทำให้เธอขยับไม่ได้

ดวงตาของเหอเจิงเริ่มเอ่อด้วยน้ำตา

เหตุการณ์ครั้งนี้ เหมือนครั้งที่เธอแสดงคอนเสิร์ตอำลาครั้งสุดท้าย ตอนนั้นจี้ผิงโจวมารับเธอ และทั้งสองก็จับมือเดินออกมาท่ามกลางหิมะที่หนาวเหน็บ เมื่อพวกเขาเดินออกมาจนถึงบริเวณที่ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก จี้ผิงโจวก็ดึงเธอเข้ามาจูบ

ตอนนั้นจี้ผิงโจวอายุแค่ยี่สิบต้นๆเท่านั้น แต่ทั้งชื่อเสียงและความสำเร็จต่างๆเขาก็มีแทบทุกอย่าง ดูเหมือนว่าชีวิตของเขา ไม่มีอะไรที่เขาจะไม่สามารถมีได้

เมื่อบรรจงจูบครั้งนั้นเสร็จ เหอเจิงก็ยืนอยู่ในอ้อมมกอดเขา

รอยจูบครั้งนั้นเหมือนเป็นความจริงใจ เพื่อบอกกับเหอเจิงว่าเขาอยากจะแต่งงานกับเธอ

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เพราะเขาถูกเหอเจิงผลักออก และไม่มีทางเป็นเหมือนเหตุการณ์ในวันนั้นได้อีก

เขาจึบทำได้เพียงพูดว่า “จำไว้ว่าวันคริสมาสต์เธอต้องมา อย่ามาสาย”

พูดจบ เขาก็ทิ้งเหอเจิงและจากไป

รถที่ถูกจอดแอบหลบมุมอยู่

และเป็นสิ่งที่จี้ผิงโจวคิดและเตรียมการไว้

เป๋ยเจี่ยนที่กำลังรอจนง่วงไปหลายตลบ ในที่สุดจี้ผิงโจวก็เดินขึ้นรถมา ทั้งตัวเขาเต็มไปด้วยหิมะ สีหน้าท่าทางเขาดูไม่แย่เท่าไหร่

“ไปเถอะ” จี้ผิงโจกล่าว

เป๋ยเจี่ยนไม่ได้ถามอะไรต่อมากมาย แต่จากที่สังเกตท่าทางของจี้ผิงโจวแล้ว น่าจะสำเร็จไปครึ่งหนึ่ง

ขณะที่รถกำลังจะเดินทางมาถึงสวนซาง

จี้ผิงโจวก็เปิดที่เก็บของในรถ ราวกับว่ากำลังหาของบางอย่าง

“หาอะไรเหรอครับ?”

จี้ผิงโจวก้มหน้าก้มตาหาต่อ และนึกว่าตัวเองวางไว้ผิดที่ “ไม่มีอะไร นายกลับไปเถอะ”

เขาขึ้นๆลงๆรถ และหาอยู่หลายรอบ แต่ก็หาไม่เจอสร้อยเส้นนั้น

หลังจากที่กลับมาจากเหลียงหมิงเชินครั้งนั้น เขาจำได้ว่าเขาเอาเก็บไว้บนรถนี่นา

วันต่อมา พี่สาวเฉินก็มาแต่เช้า และก่อนที่จี้ผิงโจวจะไปโรงพยาบาล เขาได้กำชับกับเธอว่าให้ไปที่ตึกเหนือเพื่อหาสิ่งๆนั้น และสร้อยเส้นนั้นยังวางไว้กับสร้อยข้อมืออีกด้วย

อีกสามวันก็เป็นวันคริสมาสต์แล้ว

ที่บ้านจี้ช่วงนี้ จึงต้องจัดและตกแต่งสถานที่ เมื่อก่อนเหอเจิงจะเป็นคนจัดการเตรียมของซื้อของเอง แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่ ทำให้ทุกอย่างดูค่อนข้างวุ่นวายและยุ่งเหยิง

ทางเข้าสวนจะต้องประดับตกแต่งด้วยไฟสีสันสวยงาม

และตึกที่จี้ซูอยู่ เธอจะวางต้นคริสมาสต์ต้นใหญ่ไว้ ในทุกๆปี เธอและเหอเจิงจะเอาแต่เล่นเกมหาของขวัญกัน ถึงแม้สวนซางจะมีคนมากมาย แต่ก็มีเพียงเหอเจิงเท่านั้นที่ยอมเล่นเกมน่าเบื่อๆแบบนี้กับเธอ

จี้เหยียนเซียงเองก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ เธอก็ปลีกตัวออกมา

และแล้วก็มาถึงวันคริสมาสต์

วันนี้หิมะตกตั้งแต่เช้า

เหอเจิงทานอาหารเช้าที่บ้านฟางเสร็จ ฟางลู่เป่ยก็ขับรถพาเธอมาส่งที่บ้านจี้ เมื่อเหอเจิงขึ้นรถก็เอาแต่หลับ มีเพียงแค่จี้ซูเท่านั้นที่เอาแต่บ่นถึงจี้ผิงโจวตลอดทาง

เมื่อฟางลู่เป่ยได้ยินคนด่าถึงจี้ผิงโจว เขาก็ค่อนข้างมีความสุข

“ฉันน่าจะติดตั้งเครื่องอัดเสียงไว้บนรถนะ จะได้อัดเสียงที่เธอด่าให้โจวโจวฟัง”

จี้ซูเบะปากเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “ก็มันสมควรให้ว่านี่คะ น้องสาวแท้ๆกับภรรยาของตัวเองจะกลับบ้านแท้ๆ เขายังไม่มารับด้วยตัวเองอีก แบบนี้ผิดแบบไม่น่าให้อภัยเลย!”

“เขาจะมารับ?” ฟางลู่เป่ยขำ “ถ้าเขามารับ พวกเธอก็กลับไปไม่ได้แล้วล่ะ”

ฝีมือการขับรถของจี้ผิงโจวอยู่ในขั้นย่ำแย่

มีการแข่งรถที่ไหน เขาไม่เคยเรียกจี้ผิงโจวเลย ตอนนี้เขามีใบขับขี่อยู่ ก็เหมือนเป็นหายนะสำหรับคนอื่นแล้ว

ที่บ้านเขาจึงไม่ไว้ใจให้จี้ผิงโจวขับรถเอง และส่งเป๋ยเจี่ยนมาขับรถให้เขาแทน

จี้ซูกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “งั้นก็น่าจะให้เป๋ยเจี่ยนมา”

ฟางลู่เป่ยได้ยินดังนั้นก็หันไปยิ้มและถามว่า “ไม่ได้เจอกันครึ่งเดือนแล้ว คิดถึงเขาสินะ?”

เหอเจิงได้ยินก็จ้องฟางลู่เป่ยตาเขม็ง

ฟางลู่เป่ยจึงรีบหุบปาก ยังดีที่จี้ซูไม่ได้เก็บเอาคำพูดพวกนี้มาใส่ใจ แต่ยังคงฟึดฟัดไม่พอใจต่อไป

เมื่อรถเดินทางมาถึงทางโล่ง ทางด้านหน้าเต็มไปด้วยหมอกสีขาว รถทุกคันก็ค่อยๆชะลอความเร็วลง ฟางลู่เป่ยเองก็เช่นกัน

จากนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาเลือกที่จะกดวางสายไป

และปลายสายก็โทรกลับมาอีก ฟางลู่เป่ยจึงกดรับ

ตอนแรกที่รับน้ำเสียงดูเบื่อหน่าย แต่พอคุยไปก็เริ่มเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่ไว้ใช้คุยกับผู้หญิง

“ขับรถอยู่น่ะ มีเรื่องอะไรอีกสักพักค่อยคุยนะ”

แต่ผู้หญิงปลายสายเหมือนจะไม่ยอมเลิกตื้อง่ายๆ

จี้ซูที่นั่งข้างๆคนขับ ได้ยินเสียงลอดออกมาว่า “สรุปจะมาไหม?”

ฟางลู่เป่ยตอบว่า “ฉันเปิดห้องให้เธอแล้วไม่ใช่เหรอ? เธอเข้าไปแช่น้ำร้อน ไปดื่มชาก่อน ตอนนี้ขับรถอยู่ วางล่ะ”

จากนั้นปลายสายก็หัวเราะ และบอกว่า “ถ้านายไม่มา คอยดูเลยว่าฉันจะจัดการกับยัยเด็กนั่นยังไง”

“เอาล่ะๆ ยังไงฉันก็ไปแน่นอน”

จากนั้นเขาก็วางสาย

สีหน้าเขาค่อนข้างเบื่อหน่าย

จะคบซ้อนผู้หญิงสองคนนี้ยุ่งยากจริงๆ แถมยิ่งอีกคนเป็นคนที่ขี้อิจฉาด้วย ยิ่งทำให้ยุ่งยากและน่าปวดหัวเข้าไปอีก

เหอเจิงได้ยินดังนั้น ก็จ้องเขาและถามว่า “พี่ไม่กลับไปทานข้าวกับคุณแม่เหรอ?”

“ท่านมีอะไรทำเยอะแยะ ฉันรู้ดี”

แน่นอนว่า คุณนายฟางไม่เคยมาฉลองเทศกาลใดๆกับพวกรุ่นลูกๆ

เธอเป็นคนชอบความครึกครื้น และเธอมักจะชอบเฉลิมฉลองกับพวกคุณหญิงคุณนายเสียมากกว่า

เหอเจิงได้ยินดังนั้นก็ตอบว่า “ระวังตัวดีๆนะ”

ฟางลู่เป่ยหยุดรถ และหันไปเห็นท่าทางของจี้ซูที่ดูไม่สดใสร่าเริงเหมือนเมื่อครู่

ก็พูดขึ้นว่า “อย่าพูดไปเรื่อย มีเด็กอยู่ด้วย”

ซ่อน | รัก | ลับ

ซ่อน | รัก | ลับ

ฟางเหอเจิงแต่งงานกับจี้ผิงโจวในฐานะลูกสาวนอกกฎหมายของตระกูลฟาง เธอถ่อมตัวต่อหน้าเขา เธอเก็บความรู้สึกทุกอย่างได้จนสามารถกินข้าวร่วมโต๊ะเดียวกันกับคนรักของเขาได้ ระยะเวลาสามปีเต็ม ไม่มีใครเคยเห็นฟางเหอเจิงอิจฉาและเสียอารมณ์ จนกระทั้งมีการเปิดเผยข้อตกลงการหย่าร้างต่อสาธารณะ ไม่มีใครรู้เลยว่าฟางเหอเจิงรักใครอีกคน ในคืนแรกของการแต่งงานเธอจูบดวงตาของเขา เรื่องที่ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเขา มีคนถามว่าเธอรัก ฟางเหอเจิงแต่งงานกับเพราะอะไร? เธอตอบว่าเพราะดวงตาเขา เธอรักดวงตาของเขาเท่านั้น ..

Comment

Options

not work with dark mode
Reset