ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 820 การแสดงมายากล

หลี่ว์ซู่เฝ้าระวังอยู่ตลอด

 

 

ผู้คุมอยากให้หลี่ว์ซู่มาที่ภูเขาจั่งไป๋ และเขาก็ปล่อยข่าวเรื่องความลับของหลี่ว์เสี่ยวอวี๋อย่างกับว่าเขากำลังรอให้หลี่ว์ซู่ไปที่นั่น

 

 

ตอนนี้หลี่ว์ซู่ก็มาอยู่ที่นี่แล้ว เขาอยากรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะทำอะไร

 

 

หลี่ว์ซู่พยายามมองหาอะไรแปลกๆ หรือผู้คนที่พิเศษไปกว่าคนอื่นๆ อยู่ตลอดเวลา เขาหาเบาะแสของอีกฝ่ายจากทุกอย่างในภูเขาจั่งไป๋

 

 

แต่ตอนนี้กลับมีผู้หญิงสวยกำลังดึงเสื้อหลี่ว์ซู่และขอให้เขาเอาตัวเธอไปด้วย เขามองเธออย่างระมัดระวัง แต่เห็นว่าเธอคนนี้ปล่อยคลื่นพลังจิตวิญญาณออกมาในระดับ D เท่านั้น

 

 

ถ้าเธอไม่ได้มีอะไรมาปิดบังพลังของเธอไว้ หลี่ว์ซู่ก็คงจะฆ่าเธอไปแล้วในไม่กี่วินาที…

 

 

แต่ผู้หญิงตรงหน้าเขาที่กำลังดึงเสื้อเขานั้นดูแปลกมาก หรือเขาจะถูกผู้ควบคุมจับได้บนภูเขาจั่งไป๋แล้วนะ หลี่ว์ซู่คิดว่าอีกฝ่ายไม่ได้เฉลียวฉลาดมากนัก เพราะขนาดเครือข่ายฟ้าดินยังจำราชันฟ้าคนที่เก้าไม่ได้เลย คนทั่วไปจะจำเขาได้ได้อย่างไร หลี่ว์ซู่ไม่เชื่อว่าจะมีคนที่รอบรู้และมีอำนาจทุกอย่างในโลกนี้โดยแท้จริงหรอก

 

 

แล้วอยู่ๆ เขาก็นึกถึงเฉินจู่อานขึ้นมาและรู้สึกโกรธอีกครั้ง…

 

 

หลี่ว์ซู่เริ่มจะคิดแล้วว่าผู้ควบคุมจะรอเขาได้นานเท่าไหร่เพราะเขาเพิ่งมาถึงในช่วงสองวันที่ผ่านเท่านั้น เขามักจะดูถูกคนที่วางแผนอยู่เบื้องหลัง เพราะคนเหล่านั้นมักจะไม่ทรงพลังอย่างที่คิดก็ได้

 

 

คนเหล่านั้นก็เป็นเหมือนนักมายากลที่สร้างภาพลวงตาขึ้นมาให้คนเชื่อ แต่เมื่อความลับได้ถูกเปิดเผยออกมา ทุกคนก็รู้ได้ว่ามันไม่มีอะไรนอกจากนั้น

 

 

หลายๆ คนอยากจะรู้เบื้องหลังมายากลอย่างสงสัยใจจะขาด

 

 

คนอื่นๆ ก็แค่ดูการแสดงไป พวกเขาก็แค่อยากจะสนุกกับเรื่องลี้ลับในชีวิตประจำวัน

 

 

แต่สำหรับหลี่ว์ซู่แล้วเขาอยากจะฆ่านักมายากลคนนั้น…

 

 

นักมายากลคนนั้นอยากให้หลี่ว์ซู่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงนี้โดยที่หลี่ว์ซู่ไม่รู้ตัว ซึ่งนั่นทำให้หลี่ว์ซู่อารมณ์เสีย

 

 

แล้วฉันจะได้ค่าตัวไหมเนี่ย!

 

 

เมื่อหญิงสาวสวยเห็นว่าหลี่ว์ซู่ไม่อยากจะพาเธอไปด้วย เธอก็พูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร “ฉันบริสุทธิ์จริงๆ นะคะ ถ้าคุณพาฉันไปด้วยฉันก็ยอมเป็นของคุณคนเดียว โชคหล่นทับคุณเข้าให้แล้วล่ะ”

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่พอใจที่ได้ยินอย่างนั้น “นี่คุยอยู่กับใครเนี่ย มากล่าวหากันเหรอว่าฉันไม่บริสุทธิ์น่ะ”

 

 

[ได้รับแต้มจากคลาวด์อี +199]

 

 

อะไรกันเนี่ย… หลี่ว์ซู่ขนลุกขึ้นมาเลย

 

 

คลาวด์อีงั้นเหรอ เธอเป็นปรมาจารย์หุ่นเชิดนี่ ทำไมเธอถึงมีคลื่นพลังจิตวิญญาณอยู่ระดับ D ได้ล่ะ! เล่นขี้โกงนี่พี่สาว!

 

 

หลี่ว์ซู่มองเธออย่างพิจารณา ดูจากรูปหน้าแล้วเธอก็คือคลาวด์อีจริงๆ ด้วย แต่เธอดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเมื่อแต่งหน้า มิน่าล่ะคนถึงได้พูดว่าเครื่องสำอางเป็นหนึ่งในสี่ศาสตร์สำคัญของทวีปเอเชีย! เธอดูต่างไปมากเลย

 

 

แต่หลี่ว์ซู่รู้ว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ก็แต่งหน้าได้เหมือนกัน แต่งหน้าอ่อนๆ หน้าสด แต่งหน้าจัดเต็ม ผู้หญิงคนเดียวสามารถดูเป็นแตกต่างเป็นคนละคนได้ถึงสามแบบทีเดียว…

 

 

งั้นแปลว่าเธอรู้ว่าหลี่ว์ซู่เป็นใครงั้นสิ เป็นอย่างนั้นแน่ๆ! เขามั่นใจเลยว่าเธอจำเขาได้ ทำไมคลาวด์อีถึงมาหาเขาท่ามกลางผู้บำเพ็ญพันๆ คนอย่างนี้กันนะ เธอจะต้องมีแผนซ่อนอยู่เป็นแน่

 

 

คลาวด์อียังคงเนียนเป็นคนอื่นต่อไป “แล้วฉันไปบอกตอนไหนกันล่ะคะว่าคุณไม่บริสุทธิ์…”

 

 

ก่อนที่เธอจะได้พูดจบ หลี่ว์ซู่ก็โค้งให้เธอ “ผมไม่บริสุทธิ์หรอกครับ”

 

 

คลาวด์อีอึ้งไปเลย

 

 

หลี่ว์ซู่ก็เลยหันหลังวิ่งหนีไป

 

 

แต่หลี่ว์ซู่สงสัยอยู่อย่างหนึ่ง เขาคิดมาตลอดว่าปรมาจารย์หุ่นเชิดอยู่เบื้องหลังของเรื่องนี้ เพราะต้นดำเนิดของพวกปรมาจารย์หุ่นเชิดทุกคนยังเป็นปริศนาอยู่ในโลกแห่งการบำเพ็ญนี้ ดังนั้นจะทำให้พวกเขาเหมาะที่จะซ่อนตัวอยู่หลังการวางแผนทั้งหมดนี่สิ

 

 

การที่พวกปรมาจารย์หุ่นเชิดพยายามจะปกป้องภูเขาคุนหลุนก็ยิ่งทำให้หลี่ว์ซู่สงสัยเข้าไปอีก พวกเขาเป็นผู้ร้ายในตำนานหรือเปล่านะ แต่หลี่ว์ซู่ไม่เคยเห็นผู้ร้ายคนไหนพิทักษ์โลกมาก่อนเลย ทำแบบนั้นจะไม่ฝ่าฝืนมากไปหน่อยเหรอ

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่รู้ว่าจะรู้สึกกับพวกปรมาจารย์หุ่นเชิดอย่างไร แล้วเขาก็ยิ่งสับสนมากกว่าเดิม พวกเขาจะมาฆ่าหลี่ว์ซู่ที่นี่หรือเปล่านะ ถ้าพวกเขาอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จริงๆ ตอนนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว

 

 

หลี่ว์ซู่แค่อยากจะวิ่งตามคนกลุ่มนี้หนีออกไปจากค่ายหลังพยัคฆ์เท่านั้น เขาไม่เห็นว่าคลาวด์อีเข้ามาหาเขาด้วยซ้ำ ถ้าเธอตั้งใจมาโจมตีเขา ป่านนี้เขาก็ตายไปแล้ว!

 

 

ถ้าปรมาจารย์หุ่นเชิดไม่ได้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แล้วจะเป็นใครกันล่ะ

 

 

แล้วมีคำถามขึ้นมาอีกว่าพวกปรมาจารย์หุ่นเชิดทำไมถึงต้องทำตัวลึกลับขนาดนี้ และทำไมพวกเขาถึงต้องเข้ามาประชิดตัวเขาท่ามกลางผู้คนมากมายด้วย

 

 

แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ได้โจมตีหลี่ว์ซู่ล่ะนะ และดูเหมือนว่าจะไม่ได้มาขู่เขาด้วย

 

 

หลี่ว์ซู่ได้แต่สงสัยกับเรื่องที่เกิดและออกวิ่งต่อไป…

 

 

เมื่อผ่านไปสักพัก หลี่ว์ซู่ก็หันไปเห็นว่าคลาวด์อีไม่ได้ตามเขามาอีกแล้ว เขาพอจะสบายใจขึ้นมาได้หน่อย แต่หลี่ว์ซู่ก็ต้องรีบรายงานเรื่องนี้ให้เนี่ยถิงเสียก่อน [พวกปรมาจารย์หุ่นเชิดอยู่ที่นี่ ระวังตัวด้วยนะครับ]

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่รู้ว่าทำไมปรมาจารย์นักเชิดหุ่นถึงได้เข้ามาร่วมสงครามนี้ด้วย เขาไม่รู้ว่าคลาวด์อีวางแผนเล่นงานอะไรเขาหรือเปล่า แต่เขารู้สึกว่าเขาควรที่จะอยู่ห่างเธอไว้

 

 

ทันใดนั้นผู้บำเพ็ญผู้หญิงคนนั้นก็ดึงเสื้อหลี่ว์ซู่อีกรอบ “พาฉันไปด้วยสิคะ…”

 

 

แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไรต่อ หลี่ว์ซู่ก็หนีไปแล้ว ผู้บำเพ็ญผู้หญิงคนนั้นเกือบจะล้มหน้าคว่ำเพราะแรงมหาศาลที่พัดผ่านไป

 

 

คลาวด์อียืนอยู่กลางสนามรบขณะที่เธอกำลังมองหลี่ว์ซู่วิ่งหนีไปแล้วเธอก็ยิ้มออกมา เธอเช็ดเครื่องสำอางออกจากหน้า เธอใช้วิธีการบางอย่างลบเครื่องสำอางออกไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยเหลือไว้

 

 

ตอนที่เธอลบเครื่องสำอางออกก็มีผู้บำเพ็ญลับหลายคนที่กำลังวิ่งหนีหันมามองเธออย่างควบคุมไม่ได้ คนอื่นๆ แต่งหน้าเพื่อให้สวยขึ้น แต่คลาวด์อีแต่งหน้าเพื่อปลอมตัว

 

 

ชายผู้ที่ดูแข็งแกร่งเดินมาหาคลาวด์อีและหัวเราะ “เขาจำเธอได้หรือเปล่า”

 

 

“เขารู้ว่าฉันเป็นปรมาจารย์หุ่นเชิด ถึงฉันจะไม่รู้ว่าเขาไปทำยังไงถึงรู้ก็เถอะ” คำพูดของคลาวด์อีนั้นเต็มไปด้วยข้อมูลมากมาย

 

 

พยัคฆ์จื๋อไม่ทันได้สังเกต “เขามีความลับเต็มไปหมด จำได้ไหมว่าราชาแห่งทวยเทพองค์เก่าฉลาดและมีไหวพริบมากแค่ไหน ท่านรู้ชื่อของคนอื่นก่อนที่พวกเขาจะแนะนำตัวเองด้วยซ้ำ”

 

 

คลาวด์อีไม่ได้พูดต่อ เธอกล่าวว่า “ที่พูดมาก็ถูก เขาคนนี้ไม่เหมือนกับราชันองค์เก่านี่ แต่ฉันชอบราชาแบบนี้มากกว่านะ”

 

 

“ฉันเห็นเขาโค้งให้เธอด้วย สงสัยวันนี้จะเป็นวันที่ดีที่สุดในชีวิตเธอแล้วมั้ง…” พยัคฆ์จื๋อหัวเราะ

 

 

คลาวด์อีเองก็หัวเราะเบาๆ เหมือนกัน รอยยิ้มของเธอทำให้เธอดูมีเสน่ห์มาก “ดูเหมือนว่าราชาจะไม่ต้องให้เราปกป้องนะ ไปทำธุระของเราต่อกันเถอะ”

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset