รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 173 แพนเค้กจีนของพวกคุณไม่สะอาด

บทที่ 173 แพนเค้กจีนของพวกคุณไม่สะอาด
ผ่านไปสามวัน ฉินหลั่งและหลินจูก็ขับรถขายอาหาร แล้วมาถึงจุดชมวิวเขาเทียนมู่ หลายวันนี้ที่นี่มีการจุดกิจกรรมชนเผ่า ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายไปท่องเที่ยว หลินจูรู้สึกว่าไปที่นั่นต้องทำการค้าขายได้ไม่เลวแน่นอน
หลินจูจึงไปทำใบอนุญาตชั่วคราวเพื่อจัดตั้งพื้นที่ธุรกิจในพื้นที่จุดชมวิว ทั้งสองคนขับรถขายอาหารเข้าไปในพื้นที่จุดชมวิว หลังจากนั้น จอดลงตรงจัตุรัสตรงประตู
ตั้งแต่แปดโมงตอนที่ชุดชมวิวเริ่มเปิด การค้าขายของหลินจูพวกเขาไม่เลว จนถึงเวลาสิบโมง หลินจูทอดแพนเค้กจีนรวมมิตรไม่หยุด
ตอนที่ฉินหลั่งและหลินจูยุ่งอยู่ในรถขายอาหารจนมีความสุขเกินความสมควร มีรถเบนซ์cleหนึ่งคันจอดอยู่ตรงประตูทางเข้าจุดชมวิวเขาเทียนมู่ แล้วมีผู้ชายที่ใส่ทีเชิ้ตสบายๆ สองคนเดินลงจากรถก่อน หนึ่งคนก็คือโสงฮุยที่ถูกฉินหลั่งทำให้ตกใจปานตายที่จัตุรัสชิ่งชุนเมื่อหลายวันก่อน
โสงฮุยเปิดประตูรถ บนรถมีสาวสองคนลงมา หนึ่งคนก็คือหญิงสาวที่ถูกติงจุนข่มเหงตอนอยู่จีนหลิง……นั่นก็คือหลงเย้น
วันนี้หลงเย้นอยู่ในชุดกระโปรงรัดรูปสีกากี แล้วสวมใส่รองเท้าแตะสีชมพูอ่อนที่ดูสบายๆ ตอนอยู่จีนหลิงเธอมัดจุก ตอนนี้เธอถูกมวยผมสองข้างเหมือนนาจา ถ้าคนอื่นทำผมทรงนี้ เกรงว่าคงจะยากที่จะควบคุม แต่หลงเย้นในตอนนี้ กลับดูน่ารักไร้เดียงสาอย่างอธิบายไม่ออก
ผู้หญิงอีกคนดูเหมือนจะโตกว่าหลิงเย้นสองสามปี เธอสวมใส่ชุดกระโปรงสีเขียว รองเท้าคือรองเท้าตาข่ายที่ระบายอากาศสีขาวหนึ่งคู่ พอมารวมกับผมอันงดงามที่ยาวถึงไหล่ของเธอ ทำให้สไตล์ดูไม่เหมือนหลวงเย้นเลยสักนิด แต่ความสวยก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าอีกเธอเลย
“พี่สาว นี่คือเขาเทียนมู่ ทิวทัศน์บนเขาไม่เลวจริงๆ ตอนเด็กๆ ฉันชอบให้พ่อพาฉันมาที่นี่มาก ได้ยินว่าวันนี้ยังมีการแสดงของชนเผ่า ก็ยิ่งพิเศษกว่าเดิม พวกเราไปดูด้วยกันเถอะ” หลงเย้นดึงมือของหญิงสาวที่สวมใส่ชุดสีเขียวแล้วคลายยิ้มพลางพูด
“อืม…” หญิงสาวชุดเขียวพยักหน้า ขณะที่พูด โสงฮุยก็ซื้อตั๋วเข้างานเรียบร้อยแล้ว หลงเย้นดึงมือของหญิงสาวชุดเขียวไว้แล้วเดินผ่านตรงจุดตรวจตั๋ว จากนั้นก็เดินเข้าไปตรงประตูใหญ่ของจุดชมวิว และโสงฮุยพวกเขาที่เป็นบอร์ดี้การ์ด ก็ต้องติดตามอยู่ข้างหลังอยู่แล้ว
“คุณเห็นแล้วใช่ไหม เขาเทียนมู่สูงขนาดไหน บนเขายังมีคลองเล็กๆ น้ำตก และยังเต็มไปดอกไม้สดหลากหลายชนิด ทำให้ดูสวยงามเป็นพิเศษ……” หลงเย้นชี้ไปยังเขาเทียนมู่ที่อยู่ไกลๆ จากนั้นก็แนะนำให้กับหญิงสาวชุดสีเขียว
“โห หอมมาก! เหมือนเป็นกลิ่นแพนเค้กรวมมิตร” หลงเย้นพูดไป ก็ดมกลิ่นหอมของแพนเค้กจีนที่ลอยมากลางอากาศ เธอกวาดมองไปรอบๆ ก็เห็นรถขายอาหารหนึ่งคันที่ตรงหน้ามีนักท่องเที่ยวมุมอยู่ไม่น้อย ในรถขายอาหารเหมือนมีพนักงานสองคน หนึ่งคนกำลังทอดแพนเค้กจีน อีกคนก็กำลังเอาเครื่องดื่มให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เธออยู่ห่างไกลเกินไป รวมไปถึงตรงหน้ารถขายอาหารมีคนมุมดูเยอะเกินไป กลับมองไม่ออกถึงหน้าตาพนักงานสองคนของร้าน
“โธ่ คนเยอะเกินไป ไม่งั้นฉันก็ลองไปซื้อดูหนึ่งแผ่น” หลงเย้นถอนหายใจ แล้วกอดแขนของหญิงสาวชุดเขียวไว้ “พี่สาว เราเดินไปข้างหน้าต่อเถอะ” ขณะที่พูด ทั้งสองก็เดินไปข้างหน้าด้วยกัน
ฉินหลั่งยื่นโค้กหนึ่งขวดให้นักท่องเที่ยว เขาเงยหน้ามองคนรอบข้าง ภายในใจมักจะรู้สึกมีความผิดปกติ
“นี่ ทำอะไรอยู่ ไม่เห็นหรือยังว่าคนอื่นจะเอาขนมปัง? ” หลินจูที่ยุ่งมาโดยตลอดกำลังบอกเตือนฉินหลั่ง ฉินหลั่งเพิ่งจะสังเกตเห็นว่ามีคนจะเอาขนมปัง จึงรีบดึงความใจจิตใจจ่อกลับมา
พอท่องเที่ยวบนเขาสองชั่วโมง หลงเย้นกับหญิงสาวชุดเขียวก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว ทั้งสองนั่งอยู่ตรงก้อนหินที่อยู่ข้างถนนเล็กกลางหุบเขาเพื่อพักผ่อน โสงฮุยเอาอาหารมื้อเที่ยงที่เตรียมไว้ให้กับคุณหนูสองคนออกมา เป็นชุดอาหารที่เป็นข้าวที่ตกแต่งอย่างสวยงามสองกล่อง
“ฉันไม่ค่อยอยากกินอันนี้” หลงเย้นรับข้าวมา กลับไม่ได้รู้สึกอยากอาหารเกินไป เธอเลยเอาอาหารชุดวางไว้บนก้อนหิน แล้วเอ่ยถามโสงฮุย “นายไปซื้อแพนเค้กจีนรวมมิตรให้ฉันหน่อยได้ไหม? ฉันกินแพนเค้กจีนหนึ่งแผ่นก็พอ”
“ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ พวกคุณรออยู่ที่นี่นะครับ” โสงฮุยตอบตกลงไม่หยุด เขาคือตระกูลหลงส่งมาให้ปกป้องหลงเย้นและสองพี่น้อง และต้องแบกรับภาระหน้าที่ของ “เลขา” คำอื่นเอ่ยออกมาแบบนี้แล้ว เขาจะปฏิเสธได้ยังไง เขาจึงพูดกับเซอเว๋ยบอร์ดี้การ์ดอีกคน “นายดูแลคุณหนูสองท่านไว้ดีๆ ตอนนี้ฉันจะไปซื้อแพนเค้กรวมมิตรให้กับคุณหนูสอง ใช่แล้ว แล้วคุณหนูใหญ่ คุณจะกินไหมครับ? ”
“ฉันกินข้าวก็พอ” หญิงสาวชุดเขียวก็ส่ายหน้าแล้วคลายยิ้มอ่อนๆ ออกมา
พูดจบ โสงฮุยก็เดินไปตรงประตูทางเข้าจุดชมวิวตามลำพัง มันห่างจากที่พวกเขาอยู่ประมาณสองสามกิโลเมตร
พอถึงชุดชมวิว “๕ ชั่วคนอยู่ร่วมเรือนกัน” ที่นี่มีลานกว้างที่ใหญ่มาก กิจกรรมชนเผ่าก็ถูกจัดขึ้นที่นี่ แขกก็เยอะมาก ชุดชมวิวที่นี่เลยมีพนักงานที่เป็นรปภ.คอยควบคุมความเป็นระเบียบเรียบร้อยเยอะกว่าหลายนาย
โสงฮุยมองไปข้างๆ “ห้องเข้าเวรรักษาการณ์” มีคนหนึ่งๆ สวมใส่ชุดพนักงานออกมา เขาเลยพอหน้าตาของคนๆ นั้นอย่างละเอียด จึงรู้สึกดีใจมาก จากนั้นก็เดินไป
“ฟ่านเจิน! ” โสงฮุยเดินขึ้นหน้าไป แล้วเรียกอย่างเสียงดัง
“โสงฮุย นายอยู่ที่นี่ได้ยังไง! ” ฟ่านเจินมองโสงฮุย แล้วรีบมองออกทันที
ทีแท้ฟ่านเจินกับโสงฮุยรู้จักกันมานานแล้ว ตอนนี้พวกเขาต้องเป็นคนที่มีอายุ 32 33 แล้ว ตอนที่ยังหนุ่มก็รู้จักกันเพราะการพนัน แล้วเคยฉ้อโกงโทรคมนาคม การค้าประเวณี การต่อสู้ และการโจรกรรมด้วยกัน อาจกล่าวได้ว่าพวกเขามีความคิด มุมมองและนิสัยที่เหมือนกัน หลังจากนั้นก็รู้ว่าการทำเรื่องที่ผิดกฎหมายนั้นไม่ใช่การค้าขายที่ยืนยาว ดังนั้นจึงสมัครที่สโมสรมวยด้วยกัน หลังจากที่ฝึกจนครบกำหนดแล้ว นึกไม่ถึงว่าตอนนี้จะได้เจอกันที่ชุดชมวิวเขาเทียนมู่อีกครั้ง หนึ่งคนกลายเป็นบอร์ดี้การ์ดของตระกูลหลง อีกคนก็กลายเป็นหัวหน้าแผนกรักษาการณ์ของจุดชมวิวเขาเทียนมู่
“ตอนนี้นายเจริญรุ่งเรืองแล้ว ได้กลายเป็นหัวหน้าแผนกรักษาการณ์แล้ว มันเก่งกว่าฉันเป็นเพียงบอร์ดี้การ์ดตัวเล็กๆ เท่านั้น! ” โสงฮุยตบไหล่ของฟ่านเจิน
“ให้ตายเถอะ โสงฮุย อย่าเย้ยหยันคนอื่นแบบนี้สิ ใครไม่รู้ว่าอยู่หลินอาน ตระกูลหลงเป็นตระกูลที่ถูกจัดอยู่ในห้าอันดับที่ใหญ่ที่สุด คุณสามารถเป็นบอร์ดี้การ์ดให้กับคุณหนู ตำแหน่งก็ย่อมสูงกว่าฉันไม่ใช่หรือไง? ไม่งั้นเรามาลองเปลี่ยนตำแหน่งกัน ฉันถอยตำแหน่งหัวหน้ากระจอกๆ นี้ให้คุณ นายให้ตำแหน่งบอร์ดี้การ์ดของตระกูลหลงให้ฉัน” ฟ่านเจินพูดขึ้น
เขายังไม่รู้ได้ยังไง การที่ได้เป็นบอร์ดี้การ์ดให้กับตระกูลหลง เงินเดือนอย่างน้อยก็ห้าแสนขึ้นอยู่แล้ว เขาที่เป็นหัวหน้าเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น ถ้าเอารายได้จากธุรกิจขาวกับธุรกิจมืดมารวมๆ กันในหนึ่งปี ก็แย่ไปกว่าโสงฮุยราวแสนสี่ถึงแสนห้าอยู่แล้ว เขายังเรียกว่าจนตอนอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ
พอฟ่านเจินพูดแบบนี้ โสงฮุยทำได้เพียงยิ้มอย่างร้ายกาจ
“นายจะซื้อแพนเค้กจีนรวมมิตรให้กับคุณหนูแห่งตระกูลหลงใช่ไหม ไป ฉันจะไปกับนาย เราจะได้พูดถึงเรื่องราวเก่าๆ กัน” ฟ่านเจินเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน จริงๆ แล้วเขาอยากจะแอบสืบเรื่องกับโสงฮุย มีอะไรให้เขาทำในตระกูลหลงหรือไม่ “เรานั่งรถลาดตระเวนไป นายจะได้ไม่ต้องเดิน”
ฟ่านเจินเรียกรถลาดตระเวนของรปภ.เล็กๆ หนึ่งคนมา เขากับโสงฮุยจึงนั่งขึ้นไป แล้วรถลาดตระเวนก็ขับไปทิศทางทางไปประตู
บนรถ ฟ่านเจินก็แอบถามถึงข่าวคราวของตระกูลหลง ถึงแม้โสงฮุยจะฟังออกว่าฟ่านเจินต้องการเข้าไปในตระกูลหลง เขาแค่เข้าใจแต่ทำเป็นไม่รู้เรื่อง จึงได้แกล้งโง่ใส่ฟ่านเจิน
“พอแล้ว ฉันไปซื้อแพนเค้กจีนให้กับคุณหนูของฉันก่อน เดี๋ยวค่อยโม้กัน” รถลาดตระเวนใกล้จะขับถึงตรงประตูของจัตุรัส โสงฮุยลงจากรถ แล้วเดินไปตรงรถขายอาหาร
เวลานี้ ฉินหลั่งและหลินจูกำลังยุ่งอยู่ในรถขายอาหาร
เวลานี้ตรงหน้ารถขายอาหารมีแค่สามสี่คนที่มุมอยู่ โสงฮุยมองเห็นว่าคนบนรถอย่างชัดเจน ทันใดนั้นก็รู้สึกสะดุ้งตกใจภายในใจ ตอนที่เข้าในถึงแม้เขาจะเห็นรถขายอาหาร ทว่ารถขายอาหารแบบนี้ ทั้งหลินอานก็มีไปทั่ว กลับนึกไม่ถึงว่าคนในรถกลับเป็นฉินหลั่งพวกเขา
เวลานี้หัวสมองจึงมีภาพเมื่อหลายวันก่อนผุดขึ้น บนจัตุรัสชิ่งชุน มือของฉินหลั่งมีมีดบินออกมาได้ ภาพที่ผมของเขาโดนตัด โสงฮุยจึงรีบหันหลังไป แล้วทำเรือนร่างเกร็งพลางเดินกลับไปที่รถลาดตระเวน นี่ถึงจะทำให้เขารู้สึกโล่งอก
“นายเป็นอะไรไป ทำไมเดินไปถึงครึ่งทางแล้วเดินกลับมาล่ะ? ” ฟ่านเจินรู้สึกสงสัยในใจ
“เออ…..นี่นายไม่ต้องยุ่ง ใช่แล้ว นายเป็นหัวหน้าแผนกรักษาการณ์ที่จุดชมวิวนั้นได้การได้งานไหม? ” โสงฮุยเอ่ยถามขึ้นทันที
“ทางฝ่ายวิชาการฉันไม่ยุ่ง นอกจากเรื่องเหล่านี้ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชุดชมวิว ฉันก็ยุ่งหมดทุกอย่าง ไม่ได้โม้กับนายนะ ฉันใช้ชีวิตอยู่ในจุดชมวิวอย่างเป็นอิสระ ครั้งที่แล้วทีมของฉันเก็บมือถือของนักท่องเที่ยวผู้หญิงที่มาจากประเทศอังกฤษ ฉันเลยส่งมือถือกลับให้เธอในออฟฟิศ ฉันพูดภาษาอังกฤษไม่ได้สักคำ แค่พูดกับเธอว่า “hello” “you are beauful” สุดท้ายฉันก็หลอกเธอพูดคุยเชิงลึกบนโต๊ะทำงานในออฟฟิศ รสชาติของสาวฝรั่งดีมันดีจริงๆ …….” ฟ่านเจินก็ไม่อยากจะถูกโสงฮุยดูถูก เลยพยายามโม้เรื่องตนเองสุดความสามารถ
“นายเก่ง! ” โสงฮุยยกนิ้วโป้งให้กับนิ้วโป้งให้กับฟ่านเจิน โสงฮุยชี้ไปยังรถขายอาหาร “นายไม่ใช่ว่าอยากเข้าตระกูลหลงหรือไง? ตอนนี้ฉันให้โอกาสนาย ฉันรู้สึกไม่พอใจสองคนนั้น นายสั่งสอนพวกเขาแทนฉันหน่อย ถ้าให้ฉันพอใจ กลับไปฉันจะลองพูดกับตระกูลหลง ถ้ามีโอกาสที่เหมาะสม จะได้บอกนาย! ”
“ได้ นี่นายเป็นคนพูดเอง” ฟ่านเจินได้ยินจึงรู้สึกดีใจมาก เขามองฉินหลั่งและหลินจูที่อยู่ในรถขายอาหารไม่ไกล นัยน์ตาเปล่งประกายความโหดเหี้ยมออกมา “ในเขตจุดชมวิวฉันคือเจ้าพ่อหลักเมือง จัดการสองคนที่ดูกระจอกๆ นี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก รอไว้ ถ้านายไม่ถูกชะตาฉันจะจัดการให้เอง”
พูดจบ ฟ่านเจินจึงลงจากรถ
“นี่ ทำแพนเค้กจีนให้ฉันหนึ่งแผ่น…..” หลินจูที่กำลังจะพักผ่อน พอมีแขกมาอีกหนึ่งคน แล้วยังสวมใส่ชุดรปภ.ในจุดชมวิวนี้ เธอเลยลุกขึ้นอีกครั้ง แล้วเริ่มเกลี่ยแป้งแล้วทำเป็นแผ่นแพนเค้ก
ไม่นาน หลินจูก็ทำแพนเค้กจีนรวมมิตรเสร็จไปหนึ่งแผ่น แล้วรอให้รปภ.จ่ายเงินเสร็จ หลินจูยื่นแป้งให้เขา รปภ.ก็เดินจากไป
“ฉินหลั่ง ฉันเหนื่อยแล้ว นวดไหล่ให้ฉันที” หลินจูนั่งอยู่บนเก้าอี้ แล้วเรียกฉินหลั่งพลางพูดขึ้น
“ได้ครับ คุณผู้หญิง! ” ฉินหลั่งถอนหายใจ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งสนิทกับหลินจูแล้ว ยัยผู้หญิงคนนี้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งไม่เกรงใจตนเอง แล้วมักจะให้ตัวเองนวดให้เธอ ทว่าฉินหลั่งเห็นว่าเธอทำแพนเค้กจีนทุกวันก็ดูยากลำบาก อีกอย่างเสื้อผ้าของตนเองก็ให้เธอเป็นคนซัก ก็ต้องยอมนวดให้เธอ
และกำลังจะนวด รปภ.คนเมื่อกี้ก็เดินกลับมาอีกครั้ง เขายกมือขึ้นต่อหน้าพวกหลินจู แล้วพูดด้วยความเกรี้ยวโกรธ “แม่งเอ้ย ดูสิ กินโดนอะไรในแพนเค้กจีน แมลงวัน! พวกแกทำแพนเค้กจีนยังไง หา! ”
ฉินหลั่งกับหลินจูก็รู้สึกสะดุ้งตกใจ ในมือของรปภ.จับแมลงวันหัวสีเขียวไว้ แล้วยังดิ้นอย่างดิ้นมาอยู่
“นี่ คุณกำลังพูดจาเหลวไหลหรือเปล่า? แพนเค้กจีนฉันเป็นคนทำ ตอนที่ส่งให้คุณไม่ได้มีแมลงวันอะไรเลย คุณกำลังใส่ร้ายคนอื่นอยู่” หลินจูตะโกนพูดอย่างเสียงดัง
“ให้ตายเถอะ ในแพนเค้กจีนมีแมลงวัน แกยังทำท่าทางที่ทระนงตัวแบบนี้! ทุกคนรีบมาดูเร็วเข้า ดูว่าร้านนี้ทำท่าทีอะไรกัน ในแพนเค้กจีนที่ผมกินของร้านเขามีแมลงวัน เธอกลับพูดว่าผมพูดจาเหลวไหล…….” รปภ.รีบตะโกนเสียงดัง ไม่นานก็มีนักท่องเที่ยวมามุมดูมากมาย
เหล่านักท่องเที่ยวก็ต้องเข้าข้างรปภ.อยู่แล้ว จึงว่ากล่าวตำหนิพวกฉินหลั่ง:
“สกปรกเกินไปแล้ว”
“ทำแพนเค้กจีนยังไง? ถ้าทำแบบนี้ก็อย่าทำเลยดีกว่าไหม? ”
“นี่กินแล้วจะท้องเสีย ช่างไม่มีจิตใต้สำนึกจริงๆ ”
……..
การที่ต้องเผชิญกับการวิจารณ์ของเหล่านักท่องเที่ยวมากมายแบบนี้ ฉินหลั่งและหลินจูพูดอะไรออกมาก็ไม่มีประโยชน์
“เกิดอะไรขึ้น! ” เวลานี้ ก็มีผู้ชายร่างสูงใหญ่พารปภ.มาห้าคน แล้วมองสีหน้าที่เคร่งขรึมมองพวกฉินหลั่ง นั่นก็คือฟ่านเจิน
พอได้ยินคำพูดของรปภ.ตัวน้อยๆ ฟ่านเจินมองไปยังฉินหลั่ง แล้วพูดขึ้น “พวกคุณทำแพนเค้กจีนไม่ได้มาตรฐาน ตอนนี้เราจะยึดรถขายอาหารของคุณไว้ชั่วคราว รอให้เราตรวจดูว่าบนรถยังมีสินค้าอย่างอื่นที่ไม่ได้มาตรฐานอีกหรือไม่ พวกคุณออกไปเถอะ ทางเราจะขับรถไป”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset