รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 193 ฉันลอดแทนคุณเอง

บทที่ 193 ฉันลอดแทนคุณเอง
“งั้นฉันขอขอบคุณที่ให้โอกาสฉันกลับมาพลิกเกมละกัน เกมยังไม่จบ เมื่อผลออกมานายค่อยโม้ละกัน” ฉินหลั่งพูดจบแล้วเดินไปที่กระดานปาเป้า ตอนนี้เขากำลังจะยิง 140 คะแนนด้วยลูกดอก 3 ลูก ตาของฉินหลั่งโฟกัสไปที่20แต้ม “โซน2เท่า” ก่อน เขาเอียงตัวและพยายามลองท่าโดยมีลูกดอกอยู่ในมือ คราวนี้ฉินหลั่งตี 20แต้ม “โซน2เท่า” ได้ 40 คะแนน คงเหลืออีก 100 คะแนน
“ ไอ้เด็กนี่เหลือเชื่ออีกแล้ว”
“ขอให้โชคดีนะ”
“ยังเหลืออีก 100 แต้ม ไม่เชื่อว่าเขาจะยิง 100 แต้มได้ด้วย 2 ลูกดอก”

ในขณะที่คนอื่นกำลังสงสัย ลูกดอกครั้งที่สองของฉินหลั่งเข้าสู่หัวใจสีแดงและได้คะแนน 50 คะแนน!
คนอื่น ๆ ยังคงพูดว่าฉินหลั่งยิงได้แบบฟลุ๊กๆ แต่เมื่อเขาเห็นว่าฉินหลั่งตีหัวใจสีแดงอีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดก็ปิดปากทันที พวกเขารู้สึกว่าเทคนิคการปาเป้าของฉินหลั่งก้าวหน้าไปอย่างก้าวกระโดด 10 นาทีที่แล้วยิง3ดอกอยู่ที่ระดับ 41 คะแนน ตอนนี้กลับรู้สึกว่าเขายิงได้ตามที่เขาต้องการ
ความสนใจทั้งหมดของฉินหลั่งอยู่ที่ลูกดอก เขาแอบร้องไห้ในใจ ตอนนี้เหลือเพียง 50 คะแนน ทางเดียวคือเขาสามารถตีหัวใจสีแดงได้ แต่ลูกดอกที่เขาเพิ่งยิงนั้นตรงเกินไปและหางของมันบดบังส่วนใหญ่ของหัวใจสีแดง มีเพียง 1/3 ของพื้นที่หรือขนาดเท่ากับเล็บบนนิ้วก้อยเท่านั้นที่เผยออกมา มันยากมากๆที่จะยิงได้
หม่าหยางหัวเราะเยาะในใจ เขาเล่นปาเป้าตลอด โดยธรรมชาติจะรู้ว่าในสถานการณ์เช่นนี้แม้ผู้เล่นมืออาชีพก็ยิงไม่ได้ นับประสาอะไรกับไอ้ขี้แพ้อย่างฉินหลั่ง
ฉินหลั่งแสดงท่าทางอย่างระมัดระวัง หันไปหาคนที่อยู่ด้านหลังแล้วพูดว่า “ช่วยหลบหน่อย”
คนอื่นไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงหลีกทางให้ฉินหลั่ง ฉินหลั่งก้าวถอยหลัง 3-4 ก้าวและหยุดที่ตำแหน่งที่ห่างออกไปสองเท่า
นี่ฉินหลั่งจะขยายระยะในการยิงลูกดอกหรือ ทุกคนแปลกใจและสงสัย
“ฉินหลั่งคิดจะทำอะไร ตอนนี้การจะชนะหม่าหยางได้คือยิงโดนหัวใจสีแดง อย่าบอกนะว่าคุณยืนอยู่ไกลขนาดนั้น และคิดจะตีหัวใจสีแดง ฉันคิดว่าคุณแค่ยอมแพ้ อย่าทำเป็นตัวตลกอีกเลย เถียนซิงชี้ไปที่ฉินหลั่งและสาปแช่ง
“เถียนซิง วิธีที่ฉินหลั่งยิงลูกดอกเป็นเรื่องของเขา เธอไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอคิดว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะปฏิบัติต่อเพื่อนร่วมชั้นเรียนเก่าเช่นนี้” ฝู้โยวเหลือบไปพูดกับเถียนซิง
“ เธอยังปกป้องไอ้ขี้แพ้นี่อีก ฉันไม่รู้ว่าเธอรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องอับอายเพราะตัวเอง หรือเธอชอบมันกันแน่… ” เถียนซิงยิ้มเยาะ
“เธอ … ” ฝู้โยวไม่คาดคิดมาก่อนว่าเถียนซิงจะพูดแบบนั้น เมื่อทุกคนรอบตัวมองเธอด้วยรอยยิ้ม ฝู้โยวรู้สึกอับอายและกังวล จึงพูดว่า “ฉันและเขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเก่า ฉันควรเป็นห่วงเขาก็ถูกแล้ว อย่าพูดเพ้อเจ้อน่ะ”
“หืม ฉันเพ้อเจ้อเหรอ ไปส่องกระจกดูหน้าตัวเองดีกว่า แก้มแดงกว่าก้นลิงซะอีก” เถียนซิงหัวเราะเยาะ ทำให้คนอื่นๆก็หัวเราะลั่น
หม่าหยางวางมือบนไหล่ของเถียนซิงเบา ๆ และมันทำให้เธอมีความสุขจริงๆเมื่อเห็นดวงตาของเขาแสดงออกถึงความเสน่หา หม่าหยางยิ้มและพูดว่า “ไอ้เด็กคนนี้มีความพยายามขนาดนี้ เราไม่รู้ว่าเขามีกลอุบายอะไร ฉันคิดว่าบางทีเขาอาจจะสามารถเอาชนะได้ด้วยท่าทีที่มั่นใจ! พวกคุณเห็นด้วยไหม ”
คนอื่น ๆ ได้ยินคำประชดประชันของหม่าหยางและตอบว่า “ใช่ มันต้องโดนหัวใจสีแดง” “ 50 คะแนน เพื่อจบเกม” “ฉันเอาใจช่วย”
ฉินหลั่งถือลูกดอกไว้ในมือเพื่อทดลองน้ำหนัก ที่เขาถอยห่างออกไป เพราะปกติตอนเขาฝึกฝนการปามีดในระยะดังกล่าว เขายิงลูกดอกสองสามลูกก่อนหน้านี้ได้แบบไม่ง่าย และการปาลูกดอกสุดท้ายก็ยากขึ้น ดังนั้นฉินหลั่งจึงเลือกระยะที่เขาคุ้นเคยที่สุดในการยิงลูกดอกครั้งสุดท้าย
ฉินหลั่งยื่นมันและยิงลูกดอกออกไป ทุกคนดูส่วนโค้งในการยิง โดยไม่คาดคิดว่าลูกดอกที่ฉินหลั่งยิงออกไปเป็นเส้นตรง พวกเขาไม่ทันตั้งตัว ได้ยินเสียง “ติ๊ง” ลูกดอกถูกตอกเข้ากับกระดานปาเป้า และมันอยู่ตรงกลางของหัวใจสีแดง ชิ้นพลาสติกของหางลูกดอกลูกก่อนถูกขูดออกและตกลงสู่พื้นทีละชิ้น
40 คะแนน1ลูก 50 คะแนน2ลูก ในรอบนี้ฉินหลั่งได้คะแนน 140 คะแนน คะแนนรวม 301 คะแนนของเขาลดลงเป็นศูนย์ ฉินหลั่งเป็นผู้ชนะ!
คนอื่น ๆ ตกตะลึงมองไปที่ลูกดอกบนกระดานปาเป้าเหมือนรูปปั้น บางคนก็ขยิบตาก่อนจะเชื่อว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นเป็นความจริง
“คุณชายหม่า ฉันขอโทษนะ ฉันชนะเพราะโชคช่วย!” ฉินหลั่งเดินไปหาหม่าหยางและพูดด้วยรอยยิ้ม
“แก … ” หม่าหยางยังคงอยู่ในพวังเวทย์มนตร์ของฉินหลั่ง เขาไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ที่แม้แต่ผู้เล่นมืออาชีพก็มั่นใจได้เพียง 2 หรือ 30% เท่านั้น แต่ไอ้ขี้แพ้อย่างฉินหลั่งเขาทำได้อย่างไร เมื่อเห็นฉินหลั่งยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าเขา เขาอยากจะด่าฉินหลั่งมาก คำสบถหยาบคายเข้ามาที่ริมฝีปาก แต่เขากลับพูดไม่ออก ในใจของเขาก็คิดถึงแต่เรื่องที่เดิมพันไว้
“คุณชายหม่า เพื่อนของฉันสมัครเป็นอาสาสมัครได้หรือยัง” ฉินหลั่งถาม
“ได้” หม่าหยางพูดอย่างขมขื่นและเมื่อพูดจบ เขาก็เดินไปที่ประตูพร้อมกับพนักงานสองสามคน
ฉินหลั่งตะคอกไปทางหม่าหยางและพูดว่า “คุณจะไปแบบนี้เลยเหรอ”
“แกยังต้องการอะไร ให้ฉันลอดเป้าแกเหรอ แกคิดว่าตัวเองคู่ควรไหม หลบไป!” หม่าหยางพูดด้วยความโกรธ
เดิมทีฉินหลั่งแค่ต้องการให้เขาขอโทษตัวเองและฝู้โยว ก็ไม่ติดใจอะไร เขาไม่คิดว่าเขาแพ้แล้วยังคงหยิ่งผยองแบบนี้ เขาจึงอดโมโหไม่ได้ ยิ้มเบาๆและพูดว่า “โอเค คุณเล่นแบบนี้เหรอ งั้นคุณไปเถอะ เรื่องวันนี้ถ้าผมไม่จวกคุณลงในข่าว ปล่อยให้คุณทำลายชื่อตัวเอง ผมจะยอมใช้นามสกุลเดียวกับคุณ! ผมได้บันทึกเสียงทั้งหมดไว้แล้ว! ”
ฉินหลั่งหยิบมือถือของเขาออกมาเขย่าแล้วพูด ที่จริงเขาไม่ได้บันทึกเสียงไว้เลย เพียงแค่ต้องการขู่ให้หม่าหยางกลัวเท่านั้น
ฉินหลั่งรู้ดีว่าการจัดการกับคนอย่างหม่าหยางต้องเล่นจุดที่เขาเจ็บเท่านั้น เขาเรียนรู้บทเรียนจากหลินจู ถ้าเขาไม่ทำอะไรอย่างเด็ดขาด หม่าหยางจะไม่กลัวเขาแน่นอน
เมื่อเห็นว่าฉินหลั่งโกรธแค่ไหน หม่าหยางก็ตามด้วยจริงๆ เขากลัวว่าฉินหลั่งสร้างปัญหาที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของครอบครัวของพวกเขา แต่จะให้คนหนุ่มรวยรุ่นที่สองอย่างเขาลอดใต้เป้าของฉินหลั่ง ต่อไปเขาจะอยู่ในหลินอานอย่างไร
เมื่อมองไปที่ใบหน้าของหม่าหยาง ฉินหลั่งก็รู้ว่าเขากำลังตื่นตระหนก ฉินหลั่งเดินไปที่โต๊ะทำงานก้าวขึ้นไปบนโต๊ะขานึง ชี้ไปที่ช่องที่เขาเหยียบอยู่และตะโกนว่า “หม่าหยางมาลอดสิ”
“แก … ” หม่าหยางทั้งโกรธและกังวล ฉินหลั่งกล้าปฏิบัติต่อตัวเองเช่นนี้ แต่เขาทำการเดิมพันเอง เขาถูกฉินหลั่งจับได้อีกครั้งและเขาไม่กล้าที่จะโกรธฉินหลั่ง หม่าหยางลังเลอยู่ในใจเป็นเวลานาน จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าธุรกิจของเขาสำคัญ จึงเดินไปทีละก้าว และเตรียมจะโค้งตัวลงต่อหน้าฉินหลั่ง
เมื่อคนอื่น ๆ เห็นหม่าหยางกำลังเตรียมที่จะลอดเป้าของฉินหลั่ง พวกเขาก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“ให้ตายเถอะ คุณชายหม่าจะลอดเป้าไอ้หนุ่มคนนี้จริงๆ”
“ครั้งก่อนที่คุณชายหม่าถูกคุณหลงปฏิเสธ เขาถูกหัวเราะเยาะในแถบโพสต์เป็นเวลาหลายวัน หากวันนี้ลอดใต้เป้ากางเกงของไอ้นี่อีก เอาสิ ชาตินี้ก็คงเงยหน้าขึ้นมาไม่ได้อีกแล้ว”
“คุณชายหม่าโดนด่ายับแน่ๆ”

“เดี๋ยวก่อนคุณชายหม่า!” หม่าหยางถูกจับด้วยมือเล็ก ๆ ที่อ่อนนุ่ม เขาเงยหน้าขึ้นและเห็นว่านั่นคือเถียนซิง เขาเห็นเธอมองไปที่ฉินหลั่งและพูดว่า “คุณชายหม่ามีสถานะที่สูงส่ง จะให้มาลอดเป้านายได้อย่างไร? ฉันจะลอดแทนเขาเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ทุกคนรวมถึงฉินหลั่งก็ตกใจ
“เธอมา … ” หม่าหยางไม่เข้าใจสถานการณ์ชั่วขณะ
“ฉินหลั่ง ตอนที่คุณชายหม่าพนันกับนาย เขาไม่ได้บอกว่าหาคนมาลอดแทนเขาไม่ได้ ในฐานะเพื่อนของคุณชายหม่า ฉันยินดีที่จะทำเพื่อเขา มันสมเหตุสมผลและนายไม่มีสิทธิคัดค้าน” เถียนซิงกล่าว “ฉันลอดเป้านายแล้ว ต่อไปนายไม่สามารถเอาเรื่องนี้มาคุกคามคุณชายหม่าได้อีก ไม่เช่นนั้นคุณชายหม่าและฉันจะไม่ปล่อยนายไปแน่!”
ฉินหลั่งตกตะลึง เขาไม่คาดคิดเลยว่าหัวหน้าห้องคนที่เคารพและรักตัวเอง คนที่พูดอย่างมั่นใจใต้ธงประจำชาติ จะเต็มใจลอดเป้าของเขาให้คนอื่นได้!
“คุณชายหม่า คุณยืนอยู่ข้าง ๆ ฉันจะลอดแทนคุณ” เถียนซิงกล่าว
“ได้ ลำบากคุณแล้ว” หม่าหยางยืนข้างๆอย่างดีใจ
เถียนซิงคุกเข่าลงบนพื้นด้วยมือทั้งสองข้าง ฉินหลั่งมองไปที่เถียนซิงที่ดูเหมือนสุนัขที่คลานอยู่บนพื้น เขารู้สึกเจ็บปวดในใจ เขาวางเท้าลงและพูดเบา ๆ ว่า “ช่างมันเถอะ ฉันไม่ต้องการให้เธอลอด พวกคุณไปได้”
“ไม่! ฉันไม่ต้องการให้นายสงสาร และฉันไม่ต้องการเป็นหนี้อะไรนาย ยกขาขึ้นมา ฉันจะลอด” เถียนซิงกล่าว
ฉินหลั่งรู้สึกเศร้า แต่หากเธอต้องการลอดมาก ก็จะให้เธอลอด ฉินหลั่งยกขาขึ้นบนโต๊ะอีกครั้ง
เถียนซิงคลานขึ้นไปทีละด้วยมือและขา จนลอดผ่านใต้ขาไป
“โอเค เมื่อคุณเรียนจบแล้วคุณจะได้เข้ามาทำงานในบริษัทของผม ผมจะให้สวัสดิการที่ดีที่สุดแก่คุณอย่างแน่นอน” หม่าหยางช่วยพยุงเถียนซิงขึ้น เถียนซิงยิ้มและกล่าวว่า “ขอบคุณคุณชายหม่า เป็นเกียรติของฉันที่ได้แบ่งเบาความกังวลของคุณ”
เถียนซิงมองไปที่ฉินหลั่งอีกครั้งและพูดอย่างโหดเหี้ยม “ฉินหลั่ง ฉันจะเก็บคำสบประมาทของการลอดวันนี้ไว้ในใจ วันหนึ่งฉันจะตอบแทนนายหลายเท่า”
“ใช่แล้ว เถียนซิง วันนี้ผมมีดีใจมาก ไปกันเถอะ ผมขอเชิญคุณขึ้นไปทานอาหารค่ำบนโล๋ว่ายโล๋ พูดจบหม่าหยางก็พาผู้ใต้บังคับบัญชาและเถียนซิงจากไป
ฉินหลั่งพร้อมกับฝู้โยวเพื่อลงทะเบียนเสร็จอย่างรวดเร็ว ทั้งสองนั่งรถแท็กซี่กลับมหาวิทยาลัยเจียงหนาน พวกเขามาที่โรงอาหารเพื่อกินข้าวด้วยกัน ค่าแท็กซี่และอาหารฝู้โยวเป็นคนจ่ายเงินทั้งหมด ฉินหลั่งรู้สึกอาย แต่ฝู้โยวก็แย่งจ่ายก่อนทุกครั้ง จนฉินหลั่งจนปัญญา
“ที่จริงผมก็มีเงิน คุณไม่จำเป็นต้องดูแลผมแบบนี้!” ฉินหลั่งพูดกับฝู้โยวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยรอยยิ้ม
ฝู้โยวถอนหายใจเบา ๆ และพูดด้วยรอยยิ้ม “ ทำงานให้หลินจูค่าแรงก็ไม่ได้มาก อย่างไรก็ตามสิ่งที่ฉันเลี้ยงคืออาหารที่ถูกที่สุดในโรงอาหาร ถ้าแพงกว่านี้ ฉันก็ไม่สามารถจ่ายได้ อย่ารังเกียจมันนะ”
ฉินหลั่งรีบพูดว่า “ไม่ๆ ผมชอบกินมันฝรั่งและผักอยู่แล้ว คุณเลือกได้ถูกปากผมพอดี”
ฉินหลั่งรู้สึกตื่นตระหนกหลังจากพูดจบ เขารู้สึกว่า “เหตุผล” นี้ดูปลอมมาก เมื่อกี้ที่พูดเขาก็ร้อนรนมาก ราวกับว่าเขาใส่ใจคำพูดของฝู้โยวมาก ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว เมื่อมองฝู้โยว ก็เห็นใบหน้าที่แดงก่ำ ที่คอยหลบหลีกเวลาเขามองไป
ฉินหลั่งรู้สึกอ่อนไหวในใจ ไม่คิดว่าไม่ใช่ว่าที่ตอนช่วยเธอในศูนย์โอลิมปิคจะทำให้เธอเกิดความรู้สึกดีกับเขา? การแสดงออกเมื่อกี้ของตนคืออะไร? หรือตนก็ชอบเธอเหมือนกัน? ไม่นะ ในใจมีเพียงจงยู่เท่านั้นและจะไม่มีวันชอบใครอีก

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset