รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 341 ต้องขอบคุณเจ้าสำนักฉินมาก

บทที่ 341 ต้องขอบคุณเจ้าสำนักฉินมาก
ฉินหลั่งไม่รอให้ศพของลี่ไห่ซาตกลงไปในน้ำ เขายื่นมือไปดึงเสื้อของเขาไว้ แล้วก็ลากเขาขึ้นฝั่ง
พอมามองร่างไร้วิญญาณของลี่ไห่ซาอีกครั้ง ดวงตาเบิกกว้าง ร่างกายอ่อนปวกเปียก แถมยังมีเลือดไหลออกมาจากปาก เหมือนกับปลาตายยังไงยังงั้นเลย
ผู้คนในวงการต่อสู้ต่างล้อมรอบร่างไร้วิญญาณของลี่ไห่ซา มองดูการตายอย่าอนาถาของเขา แล้วความโกรธในใจก็พรั่งพรูออกมา
“ในที่สุดไอ้เวรนี่ก็ตายแล้ว”
“ทำไมมันถึงได้ตายง่ายขนาดนี้”
“อาจารย์ครับ ฆาตกรที่ฆ่าคุณตายแล้ว” พระหนุ่มหลายองค์น้ำตานองหน้า พวกเขากำลังบรรเทาทุกข์ให้วิญญาณของพระเมี่ยวเฟิง
มีบางคนตื่นเต้น ยังอยากจะเอามีดแทงศพของลี่ไห่ซา แต่ว่าก็โดนคนอื่นๆ ห้ามไว้ ลี่ไห่ซาตายไปแล้ว ไปทำร้ายศพอีกก็ไม่ดีหรอก
เฟิงเฉินซือไท่รู้สึกโล่งใจ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเคารพนับถือฉินหลั่ง ชายหนุ่มคนนี้อายุยังน้อย แต่ทักษะด้านศิลปะการต่อสู้สูงขนาดนี้ ช่างสวยงาม และน่าอิจฉาเสียจริง
จงจิ่วเจินเห็นฉินหลั่งสังหารลี่ไห่ซาจากไกลๆ ก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมา
คนในวงการต่อสู้ต่างเดินเข้ามาแสดงความยินดีกับฉินหลั่ง
“ฝีมือที่น่าอัศจรรย์ของเจ้าสำนักฉินนั้นช่างไร้เทียมทานจริงๆ วันนี้วงการต่อสู้ของจีนต้องขอบคุณการกระทำของคุณมากจริงๆ ”
“เจ้าสำนักฉินได้ช่วยเหลือวงการต่อสู้ของจีนไว้ ต้องขอบคุณมากจริงๆ นะครับ”
“ถ้าเกิดว่าไม่ได้การช่วยเหลือของเจ้าสำนักฉิน วันนี้วงการต่อสู้ของจีนจะจบลงอย่างไร แค่คิดยังไม่กล้าคิดเลย”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำขอบคุณและคำชมเหล่านี้ ฉินหลั่งก็กล่าวอย่างถ่อมตัวว่า
“ศิษย์พี่ศิลปะการต่อสู้ชมเกินไปแล้วครับ ในฐานะที่ผมเป็นคนคนหนึ่งในวงการต่อสู้ของจีน แน่นอนว่าผมควรจะมีส่วนร่วมอยู่แล้ว! ”
“ฉินหลั่ง! ” มีเสียงเป็นกังวลของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น ทุกคนต่างก็มองไปยังต้นตอของเสียงนั่น ผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาน่ารักที่กำลังวิ่งเข้ามาหาฉินหลั่งอย่าบ้าคลั่ง นั่นก็คือจงยู่
เมื่อกี้จงยู่อยู่ริมทะเลสาบ เห็นฉินหลั่งกับลี่ไห่ซาต่อสู้กัน หัวใจเธอก็แทบจะหลุดออกมาจากเบ้าตา! ถ้าเกิดว่าหิมะไม่ได้ดึงเธอไว้ เธอคงจะวิ่งเข้าไปในทะเลสาบน้ำโดยที่ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว
จงยู่วิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉินหลั่ง ลูบใบหน้าของเขา เห็นแล้วตรวจดูเขาได้รับบาดเจ็บตรงไปรึเปล่า ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา
“จงยู่ ฉันไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องเป็นห่วง……”ฉินหลั่งยิ้มให้จงยู่แล้วพูด
ตอนนี้เองจงยู่ถึงได้สบายใจขึ้น เธอพุ่งเข้าไปในอ้อมอกของฉินหลั่ง ร้องไห้ไปด้วยแล้วพูดไปด้วยว่า “นายรู้ไหม ว่าเมื่อกี้ฉันตกใจแทบตายอยู่แล้ว ถ้าเกิดว่ารู้แต่แรกว่ามันจะอันตรายขนาดนี้ ฉันก็จะไม่ให้นายมาหรอก……”
“ยัยบื้อ ฉันแข็งแกร่งขนาดนี้ไม่มีทางเป็นอะไรหรอก เธอควรจะมั่นใจในตัวฉันนะ…” ฉินหลั่งลูบหลังของจงยู่เบาๆ เป็นการปลอบโยน
พอเห็นฉินหลั่งกับจงยู่กอดกัน เส้เหวินจี้งที่อยู่ในทีมเอ๋อร์เหมยนั้น ในใจของเธอรู้สึกเศร้าโศกเป็นอย่างมาก สายตาของเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและความเฝ้าปรารถนา
“ฮุ่ยจิ้ง นี่เธอชอบเจ้าสำนักฉินเข้าแล้วใช่ไหม? ” ฮุ่ยหย่าเห็นสีหน้าที่คับแค้นใจของเส้เหวินจี้ง ก็กล่าวโดยเจตนา ที่สำนักเอ๋อร์เหมย ถ้าเกิดว่าแต่งงานเมื่อไหร่ก็จะอยู่ที่เอ๋อร์เหมยไม่ได้อีกต่อไป
พอเธอพูดแบบนี้ รวมถึงเฟิงเฉินซือไท่ ศิษย์ในเอ๋อร์เหมยทุกคนก็ต่างมองมาที่เส้เหวินจี้ง
“ฉันเปล่า ศิษย์พี่อย่าพูดอะไรไร้สาระสิ! ”เส้เหวินจี้งปฏิเสธไปด้วย พลางหันหน้าไปทางอื่นไม่ให้คนอื่นมองหน้าเธอ
ดวงตาของเฟิงเฉินซือไท่สั่นเล็กน้อย แล้วก็หันไปมองฉินหลั่งต่อ
และเย้นนีที่อยู่ท่ามกลางกลุ่มคน ก็ตื่นเต้นจนร้องไห้ออกมา เธอเอามือมาปิดปากของตัวเองไว้ เพื่อไม่ให้เสียงของตัวเองเล็ดลอดออกมา
พวกเขาไม่ได้ตาย พวกเขายังมีชีวิตอยู่ เธอรู้สึกว่าบาปทั้งหมดของเธอได้หายไปทันที ความกดดันต่างๆ ในหลายวันมานี้ของเธอได้หายไปแล้ว!
เย้นนีอาจจะเดินก้าวไปด้านหน้า กล่าวขอโทษต่อหน้าฉินหลั่งและจงยู่ แต่ว่าเธอนั้นขี้ขลาด เธอกลัวว่าฉินหลั่งนั้นจะฆ่าเธอ
แล้วเธอก็มองไปที่ฉินหลั่งอย่างอาลัยอาวรณ์อีกครั้ง หลังจากนั้นก็แอบหันหลังแล้วเดินออกไป
พอเห็นฉินหลั่งระเบิดลี่ไห่ซากลางอากาศแบบนี้ แล้วสุดท้ายลี่ไห่ซาก็ตายอย่างน่าอนาถ ซ่งอวี่ก็กลายเป็นรูปปั้นไปทันที!
เป็นอีกครั้งที่เขาพ่ายแพ้ให้ฉินหลั่ง!
แล้วตอนนี้เขาจะรายการผลการต่อสู้ให้พ่อยังไงดี?
ฟางเจิ้งที่อยู่ข้างๆ ตอนแรกก็มาที่นี่อย่างตื่นเต้น อยากจะมาดูลี่ไห่ซาที่มีฝีมือเก่งกาจ ตระกูลซ่งอาจจะมีความหวังในการกลับมา ถ้ายังงั้นตระกูลฟางของพวกเขา ก็จะได้ผลพลอยได้ไปด้วย
แต่นึกไม่ถึงเลยว่า ฉินหลั่งจะโผล่มา ตอนนั้นฟางเจิ้งยังคิดว่า ฉินหลั่งนี่ช่างรนหาที่ตาย! แล้วขาที่พิการของเขา ก็จะได้รับการแก้แค้นแล้ว
แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น มันกลับเกินกว่าที่เขาคาดคิดไว้
พอเห็นสถานการณ์ที่น่าเวทนาของลี่ไห่ซา ฟางเจิ้งก็ตกใจจนร่างแข็งทื่อไปเลย จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่า ตอนแรกที่ฉินหลั่งแค่ทำให้ขาเขาพิการแค่ข้างเดียว ก็ถือว่าเบามากแล้ว
“ซ่งอวี่! ซ่งอวี่……”ในโทรศัพท์ของซ่งอวี่ เป็นเสียงของซ่งจงผิงที่กำลังตะโกนโหวกเหวกโวยวายอยู่ เขาเรียกซ่งอวี่ออยู่หลายครั้ง แต่ว่าซ่งอวี่กลับไม่ได้ยินอะไรเลย
“หะ…”ซ่งอวี่ถึงได้ตอบ
“ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง? คุณลี่ฆ่าฉินหลั่งรึยัง! ”ซ่งจงผิงถาม
“เปล่า……”ซ่งอวี่พูดแบบสั่นๆ “คุณลี่…ถูกฆ่าแล้ว……”
พอได้ยินประโยคนี้ ซ่งจงผิงรู้สึกได้ในทันทีว่า ความหวังทั้งหมดนั้นหายไปแล้ว เพียงประโยคเดียวของซ่งอวี่ ก็ทำให้เขาปิดกั้นตัวเองไปเลย
“ตุ้บ” ซ่งอวี่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของพ่อตกลงพื้น เขาเรียกอย่างเป็นกังวล “พ่อ พ่อ เป็นอะไรรึเปล่าครับ พ่อ……”
“พี่ อย่าตะโกน พวกเราอาศัยตอนที่ฉินหลั่งยังไม่ทันสังเกตเห็นเรา รีบหนีกันเถอะ! ”ฟางเจิ้งกระซิบพูดกับซ่งอวี่
ที่นี่ในตอนนี้ พวกซ่งอวี่นั้นมีอันตรายมาก ฟางเจิ้งกับซ่งอวี่รีบแอบหนีออกไปจากเขตทะเลสาปจีนไห่ทันที
หวังเฉินเห็นฉากฝีมือที่เหมือนเทพเจ้าของฉินหลั่งแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เธอกลับรู้สึกสบายใจและภูมิใจในตัวของเขามาก
สาวกจากแก๊งทั้งหลาย ลงไปที่ทะเลสาบทีละคน แล้วก็งมศีรษะของเจ้าอาวาสเมี่ยวเฟิงขึ้นมาจากน้ำ และพระแห่งสำนักเส้าหลิน ก็จัดงานศพให้กับศิษย์พี่วงการต่อสู้ที่ได้ตายไปในวันนี้
ลูกน้องของลี่ไห่ซาทั้ง6 คน เพื่อนร่วมวงการต่อสู้ก็ได้ตัดสินใจแล้วว่า สำนักเส้าหลิน สำนักคงทอง สำนักชิงเฉิงต่างๆ ทั้ง6สำนัก จะพากลับไปสำนักละคน เลี้ยงดูแล้วก็ฝึกฝน
ศิษย์พี่นักต่อสู้บางคนก็ถามฉินหลั่งเกี่ยวกับสถานการณ์บางอย่างของเขา ในบรรดาพวกเขานั้นมีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่รู้ว่า ที่เขาเทียนซานยังมีสำนักที่เรียกว่า”ยาวเย่วกง”อยู่ด้วย
ตอนนี้เอง ต่อให้อยากจะซ่อนตัวตนของตัวเอง ฉินหลั่งก็รู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้แล้ว เขารู้สึกว่าต่อให้เขาไม่พูด พวกเขาก็ต้องขุดออกมาอยู่ดีว่าเขาเป็นใคร ถ้าจะเป็นแบบนั้นสู้ให้ตัวเองพูดซะยังจะดีกว่า ก็เลยเล่าให้เพื่อนร่วมแวดวงฟังเกี่ยวกับอาจารย์ของตัวเองยายปี้หวู้ อาจารย์ลุงจูชุยส่วย อาจารย์ลุงหลี่เซี่ยวหยาวต่างๆ
แน่นอน ตัวตนของลูกชายที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลฉินที่ลึกลับนั้น ฉินหลั่งไม่ได้เอ่ยถึงเลยแม้แต่คำเดียว
สำนักต่างๆ ต่างก็สูญเสียย่อยยับในวันนี้ สำนักอื่นที่ไม่มีคนตาย ดั่งคำพังเพยที่ว่า “ห้ามร้องเพลงสนุกสนานในงานศพของคนอื่น” เดิมทีพวกเขาอยากจะเชิญฉินหลั่งไปกินข้าว แต่ก็ต้องยอมแพ้ไป
คนในวงการต่อสู้กว่า500คน ก็เริ่มแยกย้ายกันกลับบ้าน ก่อนจะกลับพวกเขาก็มากล่าวอำลาฉินหลั่ง เชิญฉินหลั่งว่าถ้าหากว่ามีเวลาก็ให้ไปเยี่ยมสำนักของพวกเขา
“เจ้าสำนักฉิน ฉัผมเชื่อมั่นในฝีมือการต่อสู้ของคุณอย่างสุดซึ้ง ถ้าเกิดว่าวันไหนคุณมีเวลา ก็ลองไปที่ภูเขาคงทองดูก็ได้ ผมจะขอบคุณความดีของคุณในวันนี้อีกครั้งที่ได้ช่วยเหลือวงการต่อสู้วงการต่อสู้ของจีนไว้”เย่นจื่อกุย เจ้าสำนักสำนักคงทองกล่าว
“เย่นเจิ้นหรินก็พูดเกินไปครับ มีเวลาผมต้องไปเยี่ยมเยียนอย่างแน่นอน! ” ฉินหลั่งยกมือทำความเคารพแล้วพูด
“ได้! ” เย่นจื่อกุยพูดคำหนึ่ง แล้วก็นำภรรยาและเหล่าลูกศิษย์ออกจากทะเลสาบจีนไห่ไป
สำนักสุดท้ายที่มาบอกลาฉินหลั่งก็คือสำนักเอ๋อร์เหมย
เฟิงเฉินซือไท่พาพวกลูกศิษย์หลายคนมาหาฉินหลั่ง ตอนที่กำลังจะพูดนั้น ก็ได้ยินเสียงจงยู่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ฉินหลั่งพูดอย่างเซอร์ไพรส์ว่า “เธอนั่นเอง……”
เธอเห็นแล้ว ผู้หญิงสไตล์โบราณที่สวมใส่ชุดสีชมพูและถือกระบี่อยู่ในมือ ก็คือแฟนเก่าของฉินหลั่ง เส้เหวินจี้ง
เฟิงเฉินซือไท่และลูกศิษย์ของเอ๋อร์เหมยคนอื่นๆ ก็ต่างมองไปที่เส้เหวินจี้ง รู้สึกได้ว่ามันต้องมีเรื่องอะไรอย่างแน่นอน
เส้เหวินจี้งก้มหน้าลง และก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
ฉินหลั่งดึงจงยู่ พร้อมกับส่ายหน้าให้เธอ หมายความว่าไม่ให้เธอพูดอะไรอีก
“เจ้าสำนักฉินรู้จักลูกศิษย์ของผมงั้นเหรอ? ” เฟิงเฉินซือไท่ถาม
“ไม่หรอกครับ อาจารย์เข้าใจผิดแล้ว! ”ฉินหลั่งเห็นเส้เหวินจี้งก้มหน้าลงอย่างอับอาย ก็รู้ว่าเธอไม่อยากยอมรับ งั้นเขาจะไม่พูดก็ได้
“อ้อ แบบนี้นี่เอง” เฟิงเฉินซือไท่เปลี่ยนใจ แล้วเอ่ยปากเรียก “ฮุ่ยจิ้ง ออกมาเจอเจ้าสำนักฉินหน่อย”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset