รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 342 พวกเราแพ้อย่างสิ้นเชิงแล้ว

บทที่ 342 พวกเราแพ้อย่างสิ้นเชิงแล้ว
“เอ๋…” เส้เหวินจี้งแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ยังทำตามคำสั่งของอาจารย์ เดินไปตรงหน้าฉินหลั่ง
แต่ก็ไม่มองหน้าเขา ยกมือคำนับแล้วพูดว่า “สวัสดีค่ะเจ้าสำนักฉิน”
เฟิงเฉินซือไท่จับตามองดูทุกการเคลื่อนไหวของเส้เหวินจี้ง ในตอนนี้ เธอมีข้อสรุปอยู่ในใจแล้ว
“ถอยกลับกันเถอะ” เฟิงเฉินซือไท่พูด
“เจ้าสำนักฉิน ถ้ายังงั้นพวกเราไปก่อนนะคะ อนาคตยังอีกยาวไกล เดี๋ยวเราก็ได้พบกันใหม่”เฟิงเฉินซือไท่นำลูกศิษย์กลับออกจากทะเลสาบจีนไห่ไป
“ฉินหลั่ง เธอ…”จงยู่ยังคงอยากจะถามฉินหลั่ง หรือว่าที่เขาเจอเส้เหวินจี้งนั้นไม่รู้อะไรเลยยังงั้นเหรอ?
ฉินหลั่งตัดบทจงยู่ ยิ้มแล้วพูดว่า “เอาเถอะ ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว! ตอนนี้เธอมีชีวิตของตัวเองแล้ว พวกเราก็อย่าไปรบกวนเธออีกเลยนะ โอเคไหม? ”
“อืม” จงยู่พยักหน้า ในใจก็รู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษ สิ่งที่เธอรู้สึกกลัวมากที่สุดก็คือ การที่พอฉินหลั่งได้เจอเส้เหวินจี้ง แล้วใจของเขาเริ่มรู้สึกไม่มั่นคงอีกครั้ง
พอเห็นว่าคนกลับไปก็เยอะแล้ว จงจิ่วเจินก็ยากที่จะซ่อนความตื่นเต้นในใจ เดินเข้าไปหาฉินหลั่งและจงยู่พร้อมกับจงเส่นซาน
เมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ตอนที่เขารู้ว่าจงยู่โดนพิษของน้ำน้ำเสียนจิวนั้น เขาก็รู้สึกหมดหวังแล้ว ไม่คิดเลยว่าจงยู่จะรอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์ นี่มันทำให้เขารู้สึกดีใจและประหลาดใจอย่างมาก
“จงยู่…” พอเห็นว่าจงยู่มีผิวหน้าสีชมพูฝาด ดูสุขภาพแข็งแรง จงจิ่วเจินก็รู้สึกดีอกดีใจมาก
“ตา ตา…”พอจงยู่เห็นจงจิ่วเจิน เธอก็รู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก เธอเกือบจะไม่ได้เจอญาติพวกนี้อีกแล้ว
“เด็กน้อยอย่าร้องไห้…”จงจิ่วเจินอยากจะกอดจงยู่ แต่ว่าจงเส่นซานก็ดึงเขาไว้ก่อน จงเส่นซานกระซิบเตือนเขาว่า “พ่อ นี่เราอยู่ข้างนอกกันนะครับ ข่มใจตัวเองก่อน”
ตอนนี้จงจิ่วเจินถึงได้นึกขึ้นได้ ว่าถ้าเกิดเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของจงยู่ ถ้ายังงั้นมันคงจะเป็นภัยพิบัติสำหรับจงยู่แล้วก็บ้านตระกูลจงด้วย
ต่อให้เขาจะซาบซึ้งใจแค่ไหน ก็ต้องข่มใจไว้ก่อน
“ได้ ได้…”จงจิ่วเจินกล่าวอย่างเอ้อระเหย
“พ่อ พวกเรากลับกันเถอะ” พอจงเส่นซานพูดจบ ก็พาจงจิ่วเจินออกจากเขตของทะเลสาบจีนไห่ไป
“พวกเราเองก็กลับกันเถอะ! ”ฉินหลั่งมองจงยู่แล้วพูด พวกเขาควรจะกลับไปที่มหาวิทยาลัยเย็นจีนได้แล้ว
“ได้! ”จงยู่กอดแขนของฉินหลั่ง ตอนนี้เธอรู้สึกสบายใจมาก
“จงยู่ เธอจำเป็นต้องกอดฉันแน่นขนาดนี้เลยเหรอ? ” ฉินหลั่งเสแสร้งทำท่าทางเหนื่อย แล้วพูดจาหยอกล้อเธอ
“จำเป็น! ” จงยู่ตอบอย่างไม่ยอมอ่อนข้อเลย ตอนนี้หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจและความสุข
ตอนที่เดินออกมาจากประตูจุดชมวิวนั้น ตำรวจก็เริ่มเรียกกองกำลังกลับแล้ว เมื่อเห็นจงยู่กับฉินหลั่งเดินเข้ามาด้วยกันอย่างใกล้ชิด ในใจเธอก็เกิดความรู้สึกอิจฉา
“คุณตำรวจหวัง คุณก็อยู่นี่เหมือนกันเหรอ! ”ฉินหลั่งเอ่ยปากทักทายเธอก่อน
“อืม! ” พอได้ยินว่าฉินหลั่งพูดกับเธอ หวังเฉินก็รู้สึกดีใจ หลังจากนั้นก็มองหน้าฉินหลั่งแล้วพูดว่า “วันนี้นายเป็นคนช่วยวงการต่อสู้ของจีนไว้ เปิดโลกฉันมากเลยนะ! ”
“ชมเกินไปแล้ว คุณตำรวจหวัง ผมไปก่อนนะ! ” หลังจากพูดจบ ฉินหลั่งก็พาจงยู่ หิมะเดินไปข้างถนน เรียกแท็กซี่คันหนึ่ง แล้วก็มุ่งหน้าไปที่มหาวิทยาลัยเย็นจีน
พอเห็นว่าฉินหลั่งจากไป ในใจของหวังเฉินก็มีความรู้สึกผิดหวัง อยู่ดีๆ เธอก็นึกถึงภาพเหตุการณ์ในห้องสืบสวนวันนั้น ตอนที่ฉินหลั่งขโมยจูบแรกของเธอไป
หวังเฉินรู้สึกคับข้องใจ ฉินหลั่งคนนี้เนี่ย ขโมยจูบแรกของเธอไป แต่พอเจอเธอกลับทำเหมือนไม่ได้มีอะไรยังงั้นแหละ เหมือนกับว่าลืมเรื่องนั้นไปหมดสิ้นแล้ว!
เขาลืมไปแล้ว แล้วทำไมตัวเองถึงยังจำได้อย่างชัดเจนแบบนี้กันล่ะ?
หวังเฉินบังคับตัวเองให้ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องของฉินหลั่งอีก แล้วก็กลับไปทำงาน
แล้วในตอนนี้เอง คนที่อยู่บนเขาในจุดชมวิวทะเลสาบจีนไห่มาโดยตลอด ก็ปิดกล้องที่อยู่ในมือของตัวเอง แล้วออกจากเขตชมวิวของทะเลสาบจีนไห่อย่างรวดเร็ว
พอกลับมาถึงมหาวิทยาลัยเย็นจีน ทุกอย่างก็กลับมาอยู่ในลู่ทางที่ถูกต้อง
พอมีบ้านตระกูลจงคอยปกคลุม เหยาจวี้นเจี๋ยก็ไม่กล้าพูดอะไรกับฉินหลั่ง
จงยู่กับหิมะเข้ามาที่ลานบ้านของครอบครัวอีกครั้ง ส่วนฉินหลั่งก็พึ่งกลับไปถึงหอพักของตัวเอง!
ซ่งอวี่กลับไปถึงคฤหาสน์ในภูเขาอู้หลิง พอเข้าประตูไป เขาก็ต้องรู้สึกสะเทือนใจ ห้องนั่งเล่นเลอะเทอะยุ่งเหยิงไปหมด ราวกับว่าพึ่งเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวไปยังไงยังงั้น
ชายหัวล้านอย่างซ่งจงผิงในตอนนี้นั่ง นั่งอยู่บนโซฟาอย่างเหนื่อยล้า แล้วก็สูบบุหรี่
“พ่อ”
ซ่งอวี่เดินไปหยุดอยู่ข้างๆ พ่อของตัวเอง เห็นท่าทางของพ่อดูไร้จิตวิญญาณ เขาก็รู้สึกเป็นห่วง แล้วก็ปลอบโยนพ่อของเขาว่า “พ่ออย่าทุกข์ใจไปเลยครับ พวกเรายังมีโอกาสอยู่! พ่อ พวกเรายังมีโอกาสอยู่! ครั้งนี้คนที่มาก็เป็นแค่ผู้พิทักษ์เท่านั้นเอง รอให้จ้านอู๋หยาหัวหน้าแก๊งหัวชิงมาที่จีนเมื่อไหร่ ผมไม่เชื่อหรอกว่า ฉินหลั่งยังจะทำอะไรได้อีก! ”
“เหอะ……”
ซ่งจงผิงหัวเราะ เขามองหน้าซ่งอวี่แล้วถามว่า “ยังมีโอกาสงั้นเหรอ? ลูกชาย ฉันจะบอกอะไรให้นะ ไม่มีแล้ว พวกเราแพ้แล้ว พวกเราแพ้อย่างราบคาบ ตอนนี้แกยังจะฝากความหวังไว้ที่จ้านอู๋หยาอีกงั้นเหรอ เหอะ ฉันว่าแก๊งหัวชิงนั่นน่ะมันเป็นไม่เป็นโล้เป็นพาย เป็นขยะทั้งหมดนั่นแหละ! ”
ความล้มเหลวของลี่ไห่ซาในครั้งนี้ ก็เหมือนกับให้ความหวังแก่ซ่งจงผิง แล้วก็ทำลายความหวังนั้นด้วยมือของตัวเอง ตอนนี้เขาถูกทรมานจนจะบ้าอยู่แล้ว!
ตอนนี้เขารู้สึกหมดหวังกับแก๊งหัวชิงอย่างมาก สองครั้งแล้วที่เขาถูกแก๊งหัวชิงขาย! ตอนนี้เขามีความรู้สึกผลีผลามที่อยากจะบีบคอจ้านอู๋หยาซะ
“พ่อ อย่าพูดแบบนี้เลยนะครับ พวกเรายังต้องร่วมมือกับจ้านอู๋หยา แล้วก็ให้เขามาช่วยตระกูลซ่งเอาของที่เสียไปกลับคืนมา พ่อพูดแบบนี้จะไปยั่วโมโหหัวหน้าแก๊งเข้านะครับ! ” ซ่งอวี่รู้สึกว่าความคิดของซ่งจงผิงนั้นอันตรายมาก
ตอนนี้เอง ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องนั่งเล่น แก๊งหัวชิงโทรมา
หลายวันมานี้ ลี่ไห่ซาติดต่อกับแก๊งหัวชิงตลอด แก๊งหัวชิงก็รู้ว่าวันนี้ลี่ไห่ซาจะจัดการต่อสู้
ซ่งจงผิงเป็นคนรับสายนี้ ตอนนี้ซ่งจงผิงแทบจะอดไม่ไหวที่จะด่าจ้านอู๋หยา
“พ่อ รีบไปเร็ว พวกเราอย่าทำให้แก๊งหัวชิงขุ่นเคืองเลยนะ” ซ่งอวี่เกลี้ยกล่อม
ซ่งจงผิงเดินไปที่โทรศัพท์บ้านช้าๆ แล้วก็รับสาย
“คุณซ่ง งานต่อสู้เป็นยังไงบ้าง? ลี่ไห่ซาผู้พิทักษ์ของพวกเราฆ่าคนในวงการต่อสู้ของจีนไปกี่คนกัน? พวกนั้นจะมาโค้งคำนับทำความเคารพแก๊งหัวชิงรึเปล่าครับ? ”
จ้านอู๋หยาเก็บตัวถือศีลอยู่ คนที่โทรมานั้นคือคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการติดต่อสื่อสารของแก๊งหัวชิง พวกเขาค่อนข้างจะมั่นใจในตัวของหัวหน้าผู้พิทักษ์ของพวกเขา
พอได้ยินคนจากแก๊งหัวชิงพูดอะไรแบบนี้ ซ่งจงผิงก็กำหมัดแน่น เขาล่ะอยากจะด่าออกไปจริงๆ
หัวใจของซ่งอวี่แทบจะหลุดออกมาจากลำคออยู่แล้ว พ่อห้ามด่าเด็ดขาดเลยนะ ถ้าเกิดว่าด่าออกไปแล้ว ไม่ใช่แค่การร่วมมือระหว่างครอบครัวตัวเองกับแก๊งหัวชิงจะพังทลายลงเท่านั้น ยังมีความเป็นไปได้ว่าแก๊งหัวชิงจะส่งคนมาจัดการพวกเขาตระกูลซ่งอีก
“เปล่าเลย…”สุดท้าย ซ่งจงผิงก็อดทนไว้ “คุณลี่เขาถูก… ฉินหลั่งฆ่าไปแล้ว ข้อมูลก่อนหน้านี้นั้นผิดพลาด ฉินหลั่งยังไม่ตาย วันนี้ ตอนที่คุณลี่จะฆ่าวงการต่อสู้ของจีนนั้น ฉินหลั่งก็โผล่ออกมาจากฟากฟ้า แล้วก็ฆ่าคุณลี่”
“อะไรนะ! มันจะเป็นไปได้ยังไง! ” คนของแก๊งหัวชิงตกใจอย่างเห็นได้ชัด หัวหน้าผู้พิทักษ์ของแก๊งหัวชิง จะถูกฆ่าได้ยังไง “ได้ เข้าใจแล้ว รอให้ท่านหัวหน้าแก๊งลาศีลก่อนแล้วผมจะรายงานข่าวนี้ให้ท่านทราบ…”
พอพูดจบ อีกฝ่ายก็ตัดสายไป
ซ่งจงผิงอึมครึมจนอยากจะร้องไห้ แก๊งหัวชิงพ่ายแพ้ไปสองครั้งแล้ว ทำให้เขาสูญเสียอำนาจที่สั่งสมมา30ปี จนถึงตอนนี้ เขายังไม่สามารถแม้แต่แสดงความโกรธต่อหน้าแก๊งหัวชิงได้เลย!
ชีวิตนี้มันช่างอึมครึมเสียจริง!
“เพียะๆ ” ซ่งจงผิงตบปากของตัวเองสองครั้ง แล้วก็มีเลือดสดไหลออกมาจากมุมปาก
“พ่อ ทำอะไรน่ะครับ? ” ซ่งอวี่รีบเข้ามาห้ามพ่อของตัวเองไว้
“ฉันเปล่า ฉันมันขี้ขลาด ฉินหลั่งกีดขวางแผนของฉันครั้งแล้วครั้งเล่า แก๊งหัวชิงก็ทำให้ฉันสูญเสียอำนาจที่สั่งสมมาหลายปี แต่ว่าเมื่อต้องเผชิญหน้าพวกมัน แม้แต่ตดฉันยังไม่กล้าเลย เมื่ออยู่ต่อหน้าพวกมัน ฉันก็เป็นแค่มดตัวหนึ่ง! มันช่างน่าขำ น่าเศร้า น่าทอดถอนใจซะจริง! ” ซ่งจงผิงเงยหน้าขึ้นแล้วทอดถอนใจ
“พ่อ เชื่อผม มันจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน! ในอนาคตเราจะพลิกตัวกลับมาได้ แม่น้ำหวงยังมีวันที่ใสสะอาด แล้วจะนับประสาอะไรกับตระกูลซ่งอย่างพวกเราล่ะ! ” ซ่งอวี่ปลอบเขา
“ปังๆๆ” ตอนนี้เอง ก็มีเสียงดังขึ้นที่หน้าประตูคฤหาสน์ ซ่งอวี่เปิดประตูออกไปดู คนคนนั้นก็คือลูกน้องที่ติดตามฉินหลั่งไปที่เขาเทียนซาน
“แกบอกว่าฉินหลั่งตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ! ”พอเห็นเขา ซ่งอวี่ก็โมโหอย่างมาก เตะขาเขาจนล้มลงที่พื้น
“คุณชายซ่ง กระผมรู้แล้วว่าผิด! ” ลูกน้องคนนั้นคุกเข่าลงที่พื้น แล้วก็ก้มหัวให้ซ่งอวี่ พร้อมกับพูดว่า “แต่ว่าผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้ค้นพบอะไรใหม่ น่าจะมีประโยชน์ต่อคุณชายซ่ง ขอให้คุณชายซ่งให้โอกาสคนตัวเล็กๆ อย่างผมอีกครั้งเถอะครับ”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset