รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 343 ไปจีนเพื่อพาธิดาเทพแห่งพรรคกลับมา

บทที่ 343 ไปจีนเพื่อพาธิดาเทพแห่งพรรคกลับมา
“ว่ามา! ” ซ่งอวี่รู้สึกว่า เขาอาจจะมีอะไรใหม่ๆ จริงๆ ก็ได้
“ขอบคุณครับคุณชายซ่ง”
ลูกน้องคนนั้นก็ลุกขึ้น “พอผมรู้จากคุณว่าที่ทะเลสาบจีนไห่จะมีการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในวงการต่อสู้ของจีน ผมรู้สึกอยากรู้อยากเห็นมาก ก็เลยอยากจะไปดูให้เห็นกับตา ว่ามันจะยอดเยี่ยมขนาดไหน ผมก็เลยรีบไปที่เขตชมวิวทะเลสาบจีนไห่ทันที”
“แต่ว่าหลังจากที่ผมไปถึงแล้ว ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าประตูก็ไม่ยอมให้ผมเข้าไป ดังนั้นผมก็เลยอ้อมไปตรงจุดที่การควบคุมค่อนข้างจะหละหลวม แอบปีนกำแพงเข้าไป แล้วพอผมปีนขึ้นภูเขาไปนั้น ก็เห็นว่าฉินหลั่งยังมีชีวิตอยู่ ผมตกใจมาก ตอนนั้นผมอยู่ค่อนข้างไกล ก็เลยมองเห็นไม่ชัดเท่าไหร่นัก โชคดีที่ผมเอากล้องไปด้วย ผมก็เลยเห็นทุกอย่างอย่างชัดเจนจากเลนส์กล้อง”
“ผมอัดวิดีโอเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไว้ทั้งหมด ก็ทำให้ผมพบข้อสงสัยบางอย่าง ผมไม่เข้าใจมัน แต่ผมคิดว่าคุณชายซ่งน่าจะคิดออก” ลูกน้องยื่นกล้องที่อยู่ในมือให้กับซ่งอวี่
ซงอวี่ดูวิดีโอที่อยู่ในห้องนั้นไปด้วย แล้วลูกน้องคนนั้นก็พูดต่อ
“ผมพบว่าจงจิ่วเจินแห่งบ้านตระกูลจงก็ยืนอยู่ริมทะเลสาบเหมือนกัน พอทุกคนกลับไปหมดแล้วนั้น จงจิ่วเจินก็เดินเข้าไปหาพวกฉินหลั่ง ตอนนั้นผมคิดว่ามันก็ไม่ได้มีอะไร เพราะว่ายังไงเมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ฉินหลั่งก็เป็นคนช่วยให้พวกเขาบ้านตระกูลจงชนะการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ จงจิ่วเจินมาแสดงความยินดีกับฉินหลั่ง มันก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว”
“แต่ว่า เรื่องราวมันกลับไม่ได้ง่ายดายเหมือนที่ผมคิด เพราะผมพบว่า คนที่จงจิ่วเจินเป็นห่วงมากกว่านั้นก็คือผู้หญิงที่ชื่อว่าจงยู่! ” ลูกน้องพูดจุดที่เขาสงสัยมากที่สุด
จากที่ซ่งอวี่ได้ดูวิดีโอในกล้อง ก็เป็นความจริง ที่พอจงจิ่วเจินเดินไปถึงตรงหน้าของพวกฉินหลั่งนั้น สิ่งแรกที่เขาทำก็คือคุยกับจงยู่ แล้วสีหน้าของเขาก็ดูตื่นเต้นมากยังไงยังงั้น
หรือว่า….ซ่งอวี่นึกถึงสิ่งที่ตัวเองเคยสงสัยก่อนหน้านี้ จงยู่นามสกุลจง จงจิ่วเจินก็นามสกุลจงเหมือนกัน ทั้งสองคนจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกันรึเปล่า!
“คุณชายซ่ง ผมอ่านริมฝีปากของ ในวิดีโอนั้น พอจงยู่เห็นจงจิ่วเจินเธอก็เรียกเขาว่า ‘ตา! ’ ลูกน้องรายงานแก่ซ่งอวี่
“เอ้ะ! ”
ซ่งอวี่อึ้งไป ตางั้นเหรอ ถ้ายังงั้นจงยู่ก็คือหลานสาวของจงจิ่วเจิน! ระหว่างพวกเขามีความสัมพันธ์อะไรกันจริงๆ ด้วย แต่ว่าเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่า บ้านตระกูลจงนั้นยังมีหลานสาวอยู่อีกด้วย
แล้วอีกอย่าง ก่อนหน้านี้เย้นนีเคยพูดว่า จงยู่เป็นเพียงแค่หญิงสาวจากหมู่บ้านบนภูเขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือเท่านั้น เขามาเรียนที่มหาวิทยาลัยเย็นจีนในฐานะนักศึกษายากจน แล้วทำไมบ้านตระกูลจงต้องจงใจปกปิดเกี่ยวกับตัวตนของจงยู่ด้วย! ”
ในวิดีโอนั้น ตอนที่จงจิ่วเจินควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้นั้น จงเส่นซานยังเตือนเขาอีก จากที่อ่านปากแล้ว ผมก็รู้ว่า เขาพูดว่า ‘นี่เราอยู่ข้างนอก พยายามข่มตัวเองหน่อย’ นี่ก็หมายความว่า บ้านตระกูลจงจงใจปกปิดตัวตนของจงยู่จริงๆ เรื่องนี้มันต้องมีความลับที่ยิ่งใหญ่อะไรซ่อนอยู่แน่นอนครับ! ” ลูกน้องพูดสิ่งที่ตัวเองคาดเดา
ซ่งอวี่จมอยู่ในความคิดของเขา มองดูจงจิ่วเจินและจงยู่ที่อยู่ในวิดีโอ เขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าทำไมบ้านตระกูลจงถึงต้องทำแบบนี้ด้วย
“โอเค ครั้งนี้แกทำได้ดีมาก! แกกลับไปก่อนเถอะ” ซ่งอวี่พูดจบ แล้วลูกน้องก็กลับไป
ซ่งอวี่เดินกลับเข้ามาที่คฤหาสน์ เขาคิดไม่ออกว่าบ้านตระกูลจงมีจุดประสงค์อะไร ถึงได้ปกปิดตัวตนของจงยู่ แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลยก็คือ ถ้าเกิดว่าความสัมพันธ์ของจงยู่กับบ้านตระกูลจงถูกเปิดเผยล่ะก็ มันต้องสร้างผลกระทบให้กับบ้านตระกูลจงอย่างแน่นอน และผลกระทบนี้ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นลบด้วย!
ซ่งอวี่รู้สึกว่า นี่เป็นเรื่องที่เขาสามารถใช้ให้เป็นประโยชน์ได้
ในอินเดียที่ไกลโพ้น ณ นครรัฐที่ลึกลับ
กำลังมีการจัดการบวงสรวงขนาดใหญ่ ในจัตุรัสที่กว้างขวางนั้น ภายใต้ความมืดนั้นมีผู้ที่เลื่อมใสในศาสนายืนอยู่นับพัน พวกเขานั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะว่าวันนี้เป็นงานพิธีบวงสรวงที่สามปีมีครั้งเดียว
ช้างเอราวัณคือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำนักช้างจันทราเคารพเลื่อมใส
ตรงกลางของจัตุรัส ได้มีการสร้างเวทีขนาดใหญ่ขึ้นมา บนนั้นมีเหล็กดัดรูปช้างขนาดใหญ่ ตรงหน้าของลวดลายรูปช้างนั้นเต็มไปด้วยฟืน บนฟืนนั้น มีหญิงสาวทั้ง10คนถูกมัดไว้ เป็นของเซ่นไหว้แห่งช้างเอราวัณ
ตอนนี้ พวกเธอกำลังร้องไห้อย่างระทมทุกข์!
“ปล่อยพวกเราไป”
“แม่ หนูกลัว”
“ทำไมพวกคุณต้องทำแบบนี้ด้วย? ”
……
บนเวทีนั้นมีชายมีเคราคนหนึ่งยืนอยู่ เขาสวมชุดคลุมพร้อมกับหมวกสีขาว เขาก็คือซ่าหมี่เทอ หัวหน้าสำนักคนปัจจุบันของสำนักช้างจันทรา ซ่าหมี่เทอเงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์บนท้องฟ้า ถึงเวลาแล้ว เขาก็หันหน้าไปพยักหน้าให้กับลูกศิษย์ที่มีหน้าที่ประหารชีวิตของเขา
ลูกศิษย์ที่ยืนอยู่ข้างฟืนนั้น ก็รีบเอาไฟในมือ โยนลงไปใต้กองฟืนทันที เสียงดัง“ฟึบ”แล้วฟืนก็ไฟติดดัง “ฟึบๆๆๆ ”!
พระอาจารย์รอบๆ ก็ต่างพากันท่องคัมภีร์
พวกผู้หญิงที่อยู่บนกองฟืน ก็กรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง เสียงกรีดร้องของพวกเธอนั้นน่าเวทนามาก กินเวลานานกว่า10นาที เสียงพวกนั้นถึงได้หยุดลง พวกเธอบางคนขาดอากาศหายใจจากควันไฟ บางคนก็ถูกเผาตายทั้งเป็น
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ไฟก็ค่อยๆ ดับลง ผู้หญิงทั้ง10คนถูกเผาไหม้จนกลายเป็นเถ้าถ่าน จนจำไม่ได้
“หมื่นปี หมื่นปี หมื่นปี”
ผู้ชุมนุมต่างพากันตะโกนขึ้นมา
หลังจากซ่าหมี่เทอหัวหน้าสำนักกล่าวเกี่ยวกับคัมภีร์ของศาสนาให้พวกลูกศิษย์ฟังแล้วนั้น ถึงได้กล่าวแถลงแสดงความขอบคุณผู้ชมสำหรับพิธีบวงสรวงในครั้งนี้
ซ่าหมี่เทอเดินกลับมาที่ตำหนัก แล้วก็เรียกผู้พิทักษ์ทั้ง4ท่านของสำนักช้างจันทรามาด้านหน้า—- ผู้พิทักษ์เฟิงเย่ว ผู้พิทักษ์เห้าเย่ว ผู้พิทักษ์หลั่งเย่ว และผู้พิทักษ์ฉานเย่ว พวกเขาคือบุคคลสำคัญของสำนักช้างจันทรา
ทั้งสี่คนเดินมาอยู่ตรงกลางตำหนัก ซ่าหมี่เทอยืนอยู่ที่หน้าต่าง มองท้องฟ้ายามค่ำคืนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
“หัวหน้าสำนักคำกำลังคิดถึงเครื่องหยกโบราณฟีนิกซ์ของจีนแล้วใช่ไหมครับ? ” ผู้พิทักษ์เฟิงเย่วถาม
“เปล่า เครื่องหยกโบราณฟีนิกซ์เป็นเพียงแค่เครื่องมือพิสูจน์ตัวตนของธิดาเทพแห่งพรรคเท่านั้นเอง สิ่งที่ฉันคิดถึงไม่ใช่มัน แต่ว่าเป็นธิดาเทพแห่งพรรค 40ปีมาแล้ว ที่พวกเราใช้แค่ผู้หญิงธรรมดาๆ มาเป็นเครื่องบรรณาการแก่เทพเจ้าช้าง ผู้หญิงธรรมดาๆ จะมาเทียบเท่าธิดาเทพแห่งพรรคได้ยังไงกัน ฉันกลัวว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เทพเจ้าช้างจะโกรธ ถ้าเกิดว่าท่านโกรธขึ้นมา คนที่ต้องทนทุกข์ทรมานก็คือสำนักช้างจันทราของพวกเรา ไม่สิ แล้วก็ประเทศของพวกเรา แม้แต่ทั่วโลกนี้ก็จะถูกท่านทำลาย! ”
ซ่าหมี่เทอพูดอย่างโศกเศร้า
“แต่ว่า เมื่อ20ปีก่อนธิดาเทพแห่งพรรค หรือจงเสวี่ยนเย่นแห่งบ้านตระกูลจงของจีนได้ตกหน้าผาตายไปแล้ว แถมเครื่องหยกโบราณฟีนิกซ์ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย พวกเราก็ตามหาในจีนอยู่เป็น10ปี แต่ว่าก็ไม่ได้ข่าวคราวของเครื่องหยกโบราณฟีนิกซ์เลย ตอนนี้พวกเราไม่มีความเป็นไปได้อะไรแล้ว ที่จะตามหาธิดาเทพแห่งพรรคมาให้เทพเจ้าช้างได้! ”
ผู้พิทักษ์เฟิงเย่วพูด
หัวหน้าสำนักและผู้พิทักษ์ทั้งสี่คนก็เข้าสู่ความเงียบ นี่คือสิ่งที่พวกเขากลัดกลุ้มใจ
“หรือว่าสำนักช้างจันทราทำได้เพียงแค่รอคอยการสูญสิ้นเท่านั้นเหรอ? โลกของเราถูกกำหนดให้ถูกทำลายยังงั้นรึไง? ไม่ ท่านเทพเจ้าช้างที่เคารพ ประชากรอย่างพวกเราไม่เคยมีความคิดที่จะไม่เคารพท่านเลย แต่แค่ถูกจำกัดด้วยข้อเท็จจริงเท่านั้น ทำให้พวกเราไม่สามารถที่จะทำตามความต้องการของท่านได้ ถ้าเกิดว่าท่านได้ยินคำอธิษฐานของข้า ได้โปรดชี้แนะให้ข้าได้เห็นด้วย! ”
หัวหน้าสำนักอธิษฐานกับท้องฟ้า
ทันใดนั้น ก็เกิดแสงสว่างเจิดจ้าขึ้นบนท้องฟ้า หินอุกกาบาตก้อนหนึ่งก็หล่นลงมาจากขอบฟ้า เมื่อเสียดทานกับอากาศ ก็เกิดเป็นแสงไฟ
แสงสว่างนั้นส่องจากภาคตะวันตกเฉียงใต้ไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
“สำแดงฤทธิ์แล้ว! ”หัวหน้าสำนักกับผู้พิทักษ์ทั้งสี่คนต่างพากันตะลึงไป พวกเขารีบหมอบลงกับพื้น แล้วก็สักการะท้องฟ้ายามค่ำคืนทันที “ขอบคุณท่านเทพเจ้าช้างที่ให้คำแนะนำแก่พวกเรา พวกเราจะต้องทำตามคำแนะนำของท่านอย่างแน่นอน และพาธิดาเทพแห่งพรรคกลับมาแทนท่าน! ”
พวกเขาโค้งคำนับ3ครั้ง หลังจากนั้นก็ยืนขึ้น
“เมื่อกี้ แสงสว่างชี้จากภาคตะวันตกเฉียงใต้ไปภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็คือทิศทางของจีนพอดี นี่คือสิ่งที่เทพเจ้าช้างบอกพวกเรา ว่าธิดาเทพแห่งพรรคปรากฏตัวขึ้นที่จีนอีกครั้ง พวกนายสี่คน รีบไปที่จีนเดี๋ยวนี้ ไม่ว่าจะยังไง ก็ต้องพาธิดาเทพแห่งพรรคกลับมาให้ได้ เพื่อมอบให้เทพเจ้าช้างให้ท่านเพลิดเพลินใจ! ”หัวหน้าสำนักพูดกับผู้พิทักษ์ทั้งสี่คนด้วยสายตาที่เป็นประกาย

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset