รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 448 มดแดงคิดเขย่าต้นไม้ใหญ่

บทที่ 448 มดแดงคิดเขย่าต้นไม้ใหญ่
“จูจี้เหวิน คุณรู้สึกว่าฐานะ ตำแหน่ง เงินทอง และอนาคตของตัวเองดีกว่าผมฉินหลั่งใช่ไหม ดังนั้นคุณจึงไม่พอใจมาตลอดใช่หรือเปล่า?” ฉินหลั่งพูด
“คุณรู้สึกว่าคุณควรจะเหยียบผมฉินหลั่งไว้ใต้เท้าของคุณมาตลอดใช่ไหม?”
“จูจี้เหวิน คุณเป็นตัวตลกที่หนึ่ง โง่เหมือนหมู คุณไม่เคยรู้เลยว่าคุณกำลังเผชิญหน้าคนคนแบบไหนอยู่ คุณจะไม่มีทางชนะตลอดไป คุณก็แค่ทำให้คนมากมายยิ่งทอดทิ้งคุณ”
ฉินหลั่งพูด ทันใดนั้นเขาก็วางมาดอันทรงพลังออกมา ทำให้ทั่วทั้งสนามกีฬาเหมือนกับเกิดพายุหมุนพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ทำให้ทุกคนกรีดร้องด้วยความตกใจ
เวลานี้ฉินหลั่งจึงหัวเราะเย็นชา “คุณคือคนต่ำช้าคนแรกที่ผมพบเจอในช่วงชีวิตที่ตกต่ำ หรือว่าคุณไม่เคยได้ยินคำพูดที่ว่ามังกรซ่อนลายใช่ไหม? โชคไม่ดีจริงๆ ตอนนี้ศัตรูที่คุณกำลังท้าทายอยู่เป็นมังกรที่บินอยู่บนท้องฟ้าแล้ว ถ้าหากผมอยากจะทำร้ายคุณ คุณไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้มาพูดกับผมสักประโยคด้วยซ้ำ”
“คุณเป็นแค่ตัวตลกเท่านั้น ความหมายของการมีอยู่ของตัวตลกก็คือทำให้คนที่เหตุรู้ผลดูแล้วหัวเราะออกมา หัวเราะเยาะให้กับความโง่และความไม่รู้ของคุณ ก็เท่านั้นเอง”
“ถ้าผมอยากจะไป ใครก็ห้ามไม่อยู่ ถ้าผมอยากจะอยู่ ใครก็ห้ามไม่ได้เหมือนกัน” ฉินหลั่งหัวเราะเยาะหนึ่งที
เขาคือคนที่ใช้ชีวิตอย่างถ่อมตัว ไม่อย่างนั้นทายาทลับผู้สืบทอดโดยตรงของตระกูลฉินที่ถูกปกปิดซ่อนไว้จะสามารถทำให้จูจี้เหวินตกใจแทบตายได้อย่างไร
ถึงแม้เขาจะถูกคุณปู่ไล่ออกจากตระกูล แต่ฐานะที่เกิดมาตัดอย่างไรก็ไม่ขาด นี่จึงเป็นเหตุผลว่าตราบใดที่ตระกูลฉินมีความลำบาก เขาจึงต้องเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ประเด็นสำคัญคือในยามที่ไม่มีตระกูลฉินสนับสนุนนั้น ฉินหลั่งก็ยังมีอำนาจทำให้เหตุการณ์สำคัญเปลี่ยนแปลงได้เหมือนเดิม ตอนนี้เขาก็คือประมุขวังชวนจันทร์เพ็ญ เป็นจอมยุทธน้อยที่มีชื่อเสียงไปทั่วหล้า ไม่ว่าจะเป็นด้านไหน จูจี้เหวินก็ต้องตกใจจนคางแทบหลุด
ส่วนเส้เหวินจี้ง เกรงว่าแค่ฉินหลั่งกระดิกนิ้ว อีกฝ่ายก็จะติดตามฉินหลั่งอย่างไม่ลังเลแล้ว น่าเสียดายที่สายน้ำไม่หวนคืน ฉินหลั่งในวันนี้ ได้ตามหาผู้หญิงที่ตัวเองรักที่สุดเจอแล้ว
“จูจี้เหวิน คุณเป็นแค่กบในกะลาตัวหนึ่งจริงๆ มองตัวเองสูงส่งเกินไปแล้ว” ฉินหลั่งพูดอย่างราบเรียบ
“อ้อ? ฮ่าๆ ต่อให้อาจารย์ใหญ่เรียกคุณกลับมา ก็ไม่มีประโยชน์ ผมเป็นคณบดี ผมมีอำนาจทำให้คุณ…”
“เดี๋ยวก่อน! จูจี้เหวิน คุณพอได้แล้ว! คุณไม่เห็นผมอยู่ในสายตาเลยสักนิด คุณเคยถามถึงทัศนคติของผมที่มีต่ออาจารย์ฉินบ้างไหม?” จู่ๆ อาจารย์ใหญ่ก็เดินออกมาพูดตัดบทจูจี้เหวิน
“ต้องขอโทษจริงๆ นะครับ ความจริงก่อนหน้านี้ทางสถานศึกษาได้แจ้งผมให้ทราบต่อความคิดเห็นที่ผมจัดการกับคุณ คุณ แล้วก็หลิวซูเซิงคนนั้น ถูกโรงเรียนไล่ออกแล้วครับ”
“อะไรนะ?” ในหัวของจูจี้เหวินเกิดเสียงดังครืน และดูเหมือนจะยืนไม่มั่นคงอยู่บ้าง
ส่วนหลิวซูเซิงก็ร้องไห้ทำหน้าเศร้าเสียใจ
“คุณไม่ได้ฟังผิดครับ ใช่แล้ว ไล่ออก และจะไม่รับเข้าทำงานอีกตลอดไป ระบบสถานศึกษาทั่วทั้งเฟิงโจวจะไม่จ้างคุณตลอดไป” อาจารย์ใหญ่พูดด้วยความเกลียดชัง
เบื้องหน้าของจูจี้เหวินมืดมน จนเกือบจะเป็นลม
“ดังนั้นตอนนี้ คุณไม่ใช่คณบดีของโรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ยอีกแล้ว และคุณก็ไม่มีอำนาจใดๆ ที่จะต่อว่าอาจารย์ของโรงเรียนพวกเราแล้ว” อาจารย์ใหญ่ชี้นิ้วไปที่จูจี้เหวินพลางพูด
จูจี้เหวินร้อนใจเป็นอย่างมาก ครั้งนี้เขาแพ้อย่างราบคาบอีกแล้ว เขาออกหัวคิดแทบล้มประดาตาย กลับได้ผลลัพธ์ที่ยากจะเปลี่ยนแปลงแบบนี้ และเมื่อครู่เขาก็ยังใช้ตำแหน่งของคณบดีไปกดทับฉินหลั่ง ไม่คิดว่าแค่พริบตาเดียวก็ถูกไล่ออกเสียแล้ว
“ทำไม จูจี้เหวิน คุณยังอยากให้ผมพูดพูดซ้ำอีกครั้งใช่ไหม?” อาจารย์ใหญ่มองจูจี้เหวินอย่างหมดความอดทน ตอนนี้เขายิ่งไม่ชอบจูจี้เหวินมากขึ้นเรื่อยๆ
“คุณ? พวกคุณ? กล้าไล่ผมออก?” ทันใดนั้นจูจี้เหวินก็แผดเสียงพูดทันที เหมือนกับคนบ้าก็ไม่ปาน
“คุณไม่รู้ว่าลุงของผมเป็นใคร? ผมจะเข้าไปในเมืองเพื่อฟ้องคุณ ผมจะไปฟ้องคุณที่สถานศึกษา ผมจะทำให้พวกคุณแต่ละคนหมอบศิโรราบ ให้พวกคุณเห็นถึงความสามารถของผม!”
“คุณไม่ต้องเข้าไปในเมืองหรอก ตอนนี้ผมมาที่นี่ กับผู้อำนวยการสถานศึกษาแล้ว” เวลานี้เสียงที่สงบนิ่งมากดังมาจากข้างหลัง
ทุกคนเงยหน้าขึ้นไปมอง ต่างก็ประหลาดใจมาก กระทั่งจูจี้เหวินก็ยังต้องขยี้ตา เพราะสงสัยว่าตัวเองจะเกิดภาพหลอน
“ทำไม ไหนคุณบอกว่าจะไปฟ้องใครในเมืองไม่ใช่เหรอ? คุณก็อยากไปก่อกวนที่สถานศึกษาด้วยเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้พวกเราอยู่ที่นี่แล้ว คุณจู คุณพูดได้เลยครับ” นายกเทศมนตรีเฉินหมิงเลี่ยงทำสีหน้าเคร่งขรึม พลางเอ่ยพูด
เป็นความจริง ที่ลุงของจุจี้เหวินจะมีอิทธิพลอยู่บ้างในเฟิงโจว แต่ในสายตาของเฉินหมิงเลี่ยงนั้น เกรงว่าจะคงจะไม่มีออร่ามากขนาดนั้น
ผู้อำนวยการสถานศึกษาเห็นว่านายกเทศมนตรีพูดแล้ว จึงไม่พูดเสริมอะไรอีก แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชอบใจจูจี้เหวินเป็นอย่างมาก เบิกตาโตจ้องมองเขม็ง ราวกับว่าอยากจะกินอีกฝ่ายเสียให้ได้
ผู้อำนวยการสถานศึกษาเป็นข้าราชการที่มีด้วยความรู้และความสามารถอยู่เต็มเปี่ยม จึงใช้คำพูดและการกระทำกับจูจี้เหวินด้วยความโกรธสุดขีด นี่ก็คือลูกศิษย์ที่ไร้คุณธรรมและจรรยา ทำลายม้าทั้งฝูง ต่อให้เฉินหมิงเลี่ยงช่วยพูด เขาก็จะกำจัดจูจี้เหวิน ไล่ออกไปจากองค์กรการศึกษาให้จงได้
“นายกเทศมนตรีครับ ผมถูกไล่ออกจริงๆ เหรอ? ผมเป็นหลานชายของจูโป๋จูน…” จูจี้เหวินรีบเดินมาข้างหน้าเข้ามาตีสนิทเฉินหมิงเลี่ยง
“ผมขอตอบคำรามแรกของคุณก่อน เรื่องการไล่ออก ผมได้สอบถามความคิดเห็นของผู้อำนวยการแล้ว และก็ได้เสนอความคิดเห็นของตัวเองเช่นกัน และยืนยันว่าไล่ออก ไม่จ้างทำงานอีกต่อไป” เฉินหมิงเลี่ยงพูดด้วยความเคร่งขรึม น้ำเสียงไม่ดังมาก แต่ก็ได้ยินทั่วทั้งสนามกีฬา
มีอาจารย์บางคนแอบด่าจูจี้เหวินว่าโง่มาก เขาหาเรื่องใส่ตัวเองไม่ใช่เหรอ ตอนนี้นายกเทศมนตรีบอกว่าต้องไล่ออก แม่แต่เทพเซียนก็อย่าคิดว่าจะได้พลิกคดี
“ถือสิทธิ์อะไร? ทำไม” จูจี้เหวินควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้ว พูดเสียงคำราม “ผมเป็นอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดของโรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ย แต่เขา ฉินหลั่งไม่มีแม้แต่ใบรับรองวิชาชีพครู ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งกว่าผม?!”
เฉินหมิงเลี่ยงปรากฏสีหน้าเยาะเย้ยออกมาแวบหนึ่ง ทำตัวแบบนี้กับนายกเทศมนตรี คนแบบนี้ถ้าหากให้อำนาจเขานิดเดียว ไม่รู้ว่าลับหลังจะแอบใช้อำนาจอย่างบ้าคลั่งขนาดไหน
“คุณไม่มีแม้แต่คุณสมบัติของความเป็นคน และคุณยังอยากจะสอนคนเรอะ?” ตอนนี้ผู้อำนวยการจึงเอ่ยพูดและตำหนิด้วยความเย็นชา
“ขอถามคุณจูว่า คุณสามารถอบรมสั่งสอนนักเรียนพวกนี้ได้ไหม?”
“ตอนที่เกิดเหตุไฟไหม้คุณกลับด่าทอนักเรียน มองเห็นนักเรียนกำลังเผาไฟแต่คุณกลับทำตัวสบายใจอยู่ได้?”
“ใช้วิธีที่เลวทรามต่ำช้าทำร้ายเพื่อนร่วมงานที่มียอดเยี่ยมกว่าตัวเองหนึ่งร้อยเท่า?”
“อาศัยว่าตัวเองมีลุงเป็นรองนายกเทศมนตรี จึงสามารถรังแกอาจารย์ที่ไม่อยากทำความชั่วเหมือนตัวเอง”
“ลงไม้ลงมือกับอาจารย์ผู้หญิงและนักเรียนผู้หญิง เพื่อตอบสนองจิตใจที่เต็มไปด้วยราคะของตัวเอง?”
“แล้วก็ยังทำทุกวิถีทางหลอกใช้นักเรียนเพื่อไต่เต้า กระทั่งเอาเงินมาล่ออย่างไม่เสียดาย?”

“คุณยังมีหน้ามาเทียบกับอาจารย์ฉิน?” ไม่เสียแรงที่ผู้อำนวยการเป็นนักวิชาการที่มีประสบการณ์ ทุกประโยคล้วนฟังเข้าใจง่าย พูดแทงใจดำเป็นอย่างมาก
เหงื่อเย็นไหลลงมาอาบหน้าจูจี้เหวิน สายตาดูถูกเหยียดหยามมองมาที่เขา ทำให้เขาเหมือนคนตัวเปล่า ท่ามกลางแสงแดดไร้ซึ่งที่หลบซ่อน
เกิดการวิจารณ์อย่างฮือฮา
“คุณเป็นคนเลวทรามต่ำช้า ยังอยากจะไต่เต้ามาเทียบกับอาจารย์ฉิน เป็นเหมือนมดแดงที่อยากเขย่าต้นไม้ใหญ่ ไม่ประมาณตัวเองเลย” ผู้อำนวยการพูดเยาะเย้ย
“หยุดพูดได้แล้ว หยุดพูดได้แล้ว! แม่งเอ้ยบอกให้หยุดพูด ผมจะเอาเรื่องทั้งหมดไปบอกลุงของผม ลุงของผมจะต้องแก้แค้นให้ผมแน่นอน พวกคุณ ฝากไว้ก่อน!” จูจี้เหวินตะโกนโหวกเหวก ตกอยู่ในความบ้าคลั่งอีกครั้ง

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset