รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 449 โทรศัพท์ของฉินเทียน

บทที่ 449 โทรศัพท์ของฉินเทียน
จูจี้เหวินสติแตก ทุกคนนึกถึงลุงของเขาที่เป็นรองนายกเทศมนตรี อาจารย์หลายคนจึงคิดว่า ถึงแม้คนนี้จะเป็นคนโรคจิต แต่ถ้าลุงของเขาออกหน้าล่ะก็ เกรงว่าเรื่องราวอาจจะมีการพลิกผัน
จูโป๋จูน รองนายกเทศมนตรีแห่งเฟิงโจว มีรากฐานที่มั่นคงในเฟิงโจวมาก อาจารย์ของโรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ยต่างก็รู้จักจูโป๋จูนคนนี้ ว่าเป็นข้าราชการที่มีประสบการณ์สูง เกรงว่าแม้แต่นายกเทศมนตรีก็ยังต้องไว้หน้าเขา
จูจี้เหวินเห็นทุกคนทำสีหน้าครุ่นคิด บรรยากาศอึมครึมไปทั่ว ทำให้เกิดความรู้สึกที่เหนือกว่าทันที แล้วจึงหัวเราะฮิๆ พลางพูดว่า
“ผู้อำนวยการครับ เกรงว่าหน้าตาของรองนายกเทศมนตรีจูคุณคงไม่กล้าไม่ไว้หน้าใช่ไหมครับ! หากรองนายกเทศมนตรีจูยังอยู่ ผมสามารถทำอะไรก็ได้ในโรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ยแห่งนี้ แล้วนายกเทศมนตรีอย่างคุณจะทำอะไรผมได้? ไม่อย่างนั้นคุณจะต้องเสียใจกับเรื่องที่ทำในวันนี้!”
เขาด่าผู้อำนวยการต่อหน้าทุกคน ถือเป็นการล่วงเกินผู้อำนวยการสุดขีด แต่ผู้อำนวยการเป็นนักวิชาการที่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธตัวเองได้ดีมาก พลางคิดในใจว่าแค่ถูกสุนัขกลางถนนกัดทีสองทีเท่านั้น แล้วจึงพูดฮึดฮัดว่า
“ในเมื่อคุณมีท่าทางแบบนี้ อย่างนั้นผมจะบอกคุณอีกครั้งว่า ตอนนี้ทางสถานศึกษามีการเปลี่ยนแปลงในการจัดการกับคุณ ไม่เพียงแต่คุณจะไม่ได้เป็นอาจารย์ในเขตเฟิงโจวแล้ว ผมจะเอาเรื่องอื้อฉาวของคุณรายงานแก่กระทรวงศึกษาธิการ และเสนอแนะให้กระทรวงศึกษาธิการเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพครูของคุณ นับจากนี้ต่อไป ทั้งประเทศจีนก็จะไม่มีใครจ้างคุณเป็นอาจารย์อีก”
“คุณไปฟ้องได้เลย อยากจะฟ้องก็ตามใจ” ผู้อำนวยการทำสีหน้าเรียบเฉย เขาเกลียดและชิงชังจูจี้เหวินสุดขีด
“คุณไม่กลัวว่าลุงของผมจะมาแก้แค้นคุณ?” จูจี้เหวินพูดอย่างโหดเหี้ยม
“ผมในฐานะผู้อำนวยการสถานศึกษา จะไม่ก้มหัวให้ความอำนาจชั่วเด็ดขาด คุณหยุดคิดไปได้เลย!” ผู้ อำนวยการพูดจาฉะฉานมีพลัง ไม่มีแววจะกลับคำ
เวลานี้เฉินหมิงเลี่ยงที่มองด้วยสายตาเย็นชาอยู่ข้างๆ จึงเอ่ยพูดอย่างกะทันหัน “คุณจู เกรงว่ามีบางเรื่องที่คุณยังไม่รู้?”
“อะไร?” จูจี้เหวินตกตะลึง
“เมื่อครู่คุณพูดตัดบทของผม ตอนนี้ผมจะบอกคุณว่า ที่คุณพูดถึงจูโป๋จูน เมื่อครู่คณะกรรมการกลางฝ่ายการตรวจสอบวินัยได้ตรวจพบว่าจูโป๋จูนมีส่วนเกี่ยวข้องในการละเมิดกฎหมายและวินัยอย่างร้ายแรง และกำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่”
“เขากำลังให้คำอธิบายอยู่ในสถานที่และเวลาที่กำหนดไว้แล้ว!” นายกเทศมนตรีเฉินพูดเสียงสูงขึ้น เป็นการกระทำที่คนอื่นก็คาดไม่ถึง!
จูจี้เหวินรับการโจมตีทั้งหมดนี้ไม่ไหว คำพูดของนายกเทศมนตรีจะเป็นข่าวลือได้อย่างไร? ต้นไม้ใหญ่ที่เขาพึ่งพิง จู่ๆ ก็ล้มลงแล้ว? จูจี้เหวินขาอ่อน ล้มไปกองกับพื้น และสุนัขบ้าที่ทุกคนได้ทอดทิ้งนั้น ก็กลับร้องไห้น้ำตาไหลออกมา
แต่ไม่มีใครสงสารเขา กระทั่งใช้สายตาที่เย็นชามองไปที่เขา แม้แต่หลิวซูเซิงที่เป็นสุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของจูจี้เหวิน ตอนนี้ก็ยังมองเขาด้วยสายตาที่เหยียดหยาม
เดิมทีที่ไปประจบเอาใจก็เพราะเขามีลุงที่ดี มียศตำแหน่งเป็นคณบดี ตอนนี้แกก็ถูกไล่ออกเหมือนกับฉัน ตอนนี้แกยังสู้ฉันไม่ได้เลย ฉันไปหาที่สมัครงานใหม่บางทีก็อาจจะได้รับเข้าทำงาน แค่แกล่ะ? ถือสิทธิ์อะไรให้ฉันเป็นสุนัขของแก? หลิวซูเซิงเอียงมองจูจี้เหวินด้วยสายตาที่เย้ยหยัน ไม่มีความสงสารแม้แต่นิดเดียวเหมือนกัน ตรงกันข้ามกลับซ้ำเติมอย่างสะใจ
“ดังนั้น แผนการทั้งหมดของคุณล้มเหลวแล้ว” เวลานี้อาจารย์ใหญ่จึงพูดสรุปให้จูจี้เหวินเป็นครั้งสุดท้าย
“ไสหัวไป! โรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ยรู้สึกอับอายแทนคุณ”
“ไสหัวไป!” นักเรียนห้อง 6 ทุกคนพูดด้วยความโกรธสุดขีด
“ไสหัวไป!” นักเรียนทั้งโรงเรียนก็เข้ามาร่วมด้วย และพูดเสียงดังลั่น
“ไสหัวไป!” สุดท้ายอาจารย์จำนวนมากก็เข้ามาร่วมเช่นกัน
จูจี้เหวินลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบาก จากนั้นก็กุมศีรษะวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนราวกับหนู
ส่วนหลิวซูเซิงก็หลบหนีไปท่ามกลางเสียงโห่ร้องเช่นกัน
จนกระทั่งหลังจากวิ่งออกไปจากโรงเรียนแล้ว จูจี้เหวินจึงเผยสีหน้าที่โหดเหี้ยมออกมา
“ฉินหลั่ง! ชาตินี้ฉันจะไม่ลืมบุญคุณของแก!” จูจี้เหวินกัดฟันกรอด
ฉินหลั่งมาอยู่ที่โรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ยเพียงหนึ่งสัปดาห์กว่าๆ จูจี้เหวินก็ถูกอาจารย์ทั้งโรงเรียนไล่ออกมาจากโรงเรียนที่ตัวเองเคยวางอำนาจบาตรใหญ่…
ในใจของจูจี้เหวินเคียดแค้นชิงชังสุดขีด ตอนนี้เขาไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่มีอะไรเหลืออยู่ในโรงเรียนแล้ว แต่ในสถานที่อื่น พ่อของเขายังเปิดบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่ง นี่คือที่พึ่งสุดท้ายของเขาแล้ว
ถึงอย่างไรเขาก็มียังมีเงิน เพราะว่าเขามีเงิน ถึงสามารถจัดการเรื่องที่คนทั่วไปจัดการไม่ได้
จูจี้เหวินควักโทรศัพท์ออกมา แล้วกดเบอร์โทรออก
“แกจะมาเฟิงโจวเมื่อไร?”
“ทำไม? อีกสองวันฉันจะไปมณฑลเจียงเป่ยแล้วก็จะไปหาพวกแกที่เฟิงโจว ไปทำธุระนิดหน่อย” เสียงของอีกฝ่ายแหบมาก ดูเหมือนเสียงพูดจะออกมาจากถ้ำที่หนาวมาก
“งั้นแกก็มาเร็วๆ หน่อย หลังจากมาถึงแล้ว ช่วยฆ่าคนให้ฉันที” จูจี้เหวินพูดด้วยความเคียดแค้นสุดขีด
“ง่ายมาก แกรอก่อนนะ” อีกฝ่ายพูด
พอวางสาย จูจี้เหวินเหม่อมองไปที่โรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ยอยู่นานครึ่งค่อนวันด้วยความอาลัยอาวรณ์ แล้วจึงกำหมัดแน่นรุนแรง เดินออกไปจากประตูใหญ่โรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ยอย่างไม่เต็มใจ
“ฉินหลั่ง ครั้งนี้จะดูว่าแกจะตายหรือไม่ตาย ต่อให้แกมีความสามารถมากแค่ไหน ก็ยังจะมาเทียบกับคนของตระกูลสินได้?”
ส่วนทางด้านนี้ หลังจากนายกเทศมนตรีกับผู้อำนวยการสถานศึกษาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ยด้วยตัวเองแล้ว จึงขอตัวกลับก่อน
ฉินหลั่งได้รับชัยชนะทุกอย่าง และยังชนะใจคนอีกด้วย
ตอนนี้เขาคือซุปเปอร์สตาร์ดังคนหนึ่ง แค่เพียงเขาปรากฏตัว ก็จะมีเสียงกรี๊ดกร๊าดของผู้หญิง
เพียงแต่ เขาไม่สนใจความรู้สึกชนะเลยแม้แต่น้อย ชัยชนะแบบนี้ไม่ได้มีผลกระทบที่ลึกซึ้งอะไรต่อเขา
เพราะเส้เหวินจี้ง และคนอย่างจูจี้เหวินในสายตาของเขาแล้วไม่สำคัญอะไร แค่เขากระดิกนิ้วก็สามารถทำให้อีกฝ่ายล้มลงได้ง่ายดาย
ดังนั้นอย่ารู้สึกเศร้าใจ สิ้นหวัง ดูถูกตัวเองในยามที่พลังของตัวเองอ่อนแอ ขอเพียงมองโลกในแง่ดีในการใช้ชีวิต ทุกสิ่งที่ติดหนี้คุณ สวรรค์จะใช้วิธีการอื่นตอบแทนคุณ
ทันใดนั้นฉินหลั่งก็รับโทรศัพท์สายหนึ่งด้วยความประหลาดใจ
คือฉินเทียนน้องชายที่ดีที่สุดของเขาในบรรดาพี่น้องตระกูลฉินทั้งหมด
หลังจากที่ตัวเองถูกไล่ออกจากบ้านแล้ว ตระกูลฉินก็เกือบไม่มีใครติดต่อเขา นี่เป็นเพราะกฎระเบียบที่เข้มงวดของตระกูลฉิน ในเมื่อไม่ใช่คนของตระกูลฉินแล้ว อย่างนั้นสายความสัมพันธ์ทุกอย่างก็ไม่สามารถติดต่อกันได้เหมือนก่อน
แม้แต่พ่อฉินเว๋ยเฉิงกับแม่จ้าวหมิงหมิง ตอนนี้ก็ไม่เคยโทรศัพท์หาเขาเลย
ดังนั้น โทรศัพท์ของฉินเทียนจึงผิดปกติเป็นอย่างมาก ฉินหลั่งสูดลมหายใจลึกๆ จากนั้นจึงรับสาย
“พี่ ผมคือฉินเทียน ผมหาเบอร์โทรศัพท์ของพี่เจอแล้ว” ฝ่ายฉินเทียนนั้นดูตื่นเต้นอยู่บ้าง ด้วยอิทธิพลที่แข็งแกร่งของตระกูลฉินที่ปกปิดไว้ การหาเบอร์โทรศัพท์ของใครคนหนึ่งเป็นเรื่องที่ง่ายราวกับพลิกฝ่ามือ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าคุณจะหาหรือไม่หา
“ฉินเทียน นายสบายดีไหม?” ฉินหลั่งหายใจหนักหน่วงอยู่บ้าง ฉินเทียนโทรมาอยากจะคุยอะไรกันแน่
“ไม่เป็นไรครับ ผมสบายดี สบายดี ผมก็แค่อยากถาม ไม่มีอะไรครับ…” ฉินเทียนพูดตะกุกตะกัก ดูเหมือนมีอะไรปิดบังฉินหลั่ง และมีท่าทีลังเล
“เสี่ยวเทียน นายอยากจะพูดอะไรก็พูด ไม่อย่างนั้นฉันจะวางสายแล้ว” ฉินหลั่งพูดด้วยความหงุดหงิด ฉินเทียนมีนิสัยอย่างไร นี่ไม่ใช่ฉินเทียนคนที่ชอบคุยทุกเรื่องหรือ?!
“พี่ ตระกูลฉินเกิดเรื่องใหญ่แล้ว มีคนต้องการล้มตระกูลฉิน ผมจึงโทรมาขอความช่วยเหลือจากพี่ มีคนเพิ่มมาอีกคนก็มีพลังขึ้นอีกหนึ่งเท่า ในบรรดาพี่น้องของพวกเราผมเชื่อใจพี่มากที่สุด นับถือพี่มากที่สุด ผมรู้สึกว่าพี่สามารถช่วยวิกฤตครั้งนี้ของตระกูลฉินได้อย่างแน่นอน” ฉินเทียนพูดตรงๆ และชัดเจน

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset